รีวิวโดนใจ >> Kinniji (คินนิจิ) หลากเมนูอร่อย เอาใจวัยรุ่น กินอิ่มสุดคุ้มที่ U-Center จุฬา
Kinniji, คินนิจิ หรือชื่อที่ออฟขอเรียกง่ายๆว่า “กินนี่จิ” เป็นร้านของพีทกินกับพีท ซึ่งครั้งนี้ไปเป็นรอบที่สองค่ะ เรียกได้ว่าหลังจากที่เปิดตัวกันไปได้ไม่นานและไปลองชิมอาหารจานหลักของร้านมาแล้ว (ตามอ่านรีวิวรอบแรก) รอบนี้ทางร้านได้เพิ่มความหลากหลายของเมนูให้เลือกเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ รวมไปถึงของหวานที่น่าทานอีกหลายอย่างด้วยค่ะ
บรรยากาศของร้านKinniji (คินนิจิ)
ช่วงเวลาทุ่มนึงเป็นช่วงเวลาที่นัดหมายเหล่าเดอะแก็งค์ แนวร่วมพันธมิตรอาหารและการกิน (United Alliance of Food and Eat) ซึ่งนานๆ จะนัดกันได้พร้อมหน้าพร้อมตากันค่ะ งานนี้พี่ดันจาก Dunbine พี่ม่อนNuMonz บอสจากชิมรางและ พีทกับแพ็คซึ่งรอบนี้สลับตำแหน่งมาเป็นเจ้าของร้านกันบ้าง รวมตัวกันได้ครบๆ ก็ประมาณทุ่มครึ่งกว่าแล้วค่ะ
เมนูของร้านKinniji (คินนิจิ)
ครั้งนี้เมนูมาเป็นรูปเล่มแล้ว มีอาหารให้เลือกเยอะขึ้นมากเลยทีเดียวค่ะ จากครั้งที่แล้วที่หลักๆ จะมีข้าวหน้าต่างๆ และสลัด แล้วก็ของทานเล่นอีกนิดหน่อย ครั้งนี้ก็มีการเสริมทัพข้าวหน้าต่างๆ ด้วยการเพิ่มหน้าให้เลือกมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ข้าวหน้าเนื้อผีดซีอิ๊วญี่ปุ่น , ข้าวหน้าแซลมนรมควันค่ะ
นอกจากเมนูข้าวแล้วก็ยังมีเมนูซูชิ ซาซิมิ ของทานเล่นที่เพิ่มมากขึ้น และยำให้เลือกอีกหลายอย่างเลยค่ะ
รายการอาหารที่ทานที่ร้านKinniji (คินนิจิ)
ข้าวหน้าคินนิจิ 599 บาท
ในวันที่กลุ่มเดอะแก็งค์มารวมตัวกันขนาดนี้ขอบอกว่าอาหารทางร้านจัดเต็มมาให้มากๆค่ะ ขอเริ่มต้นแนะนำเมนู Signature ของร้านกันก่อน ด้วยการเปิดตัวอย่างอลังการในจานใบใหญ่ ที่อัดแน่นด้วยข้าวพูนจานและมีหน้าต่างๆโปะอยู่ เสิร์ฟพร้อมกับซอสของแต่ละอย่าง งานนี้ขอบอกว่าถ้วยซอสทำเอาสับสนทีเดียวค่ะ อันนี้แนะนำให้ใช้สีเป็นตัวช่วยในความแตกต่างค่ะ เพราะว่าบางทีคนที่ไม่ได้ทานบ่อยๆ อาจจะจำไม่ได้ว่าน้ำจิ้มอันไหนต้องจิ้มกับอะไร
เมนูต่างๆ ในจานมีดังนี้ค่ะ หมูชาชู แซลมอนเทริยากิ ซาบะเทริยากิ คาราอาเกะ แซลมอนคัตสึ ทงคัตสึ เอบิคัตสึ เทมปุระ แค่เรียกชื่อของที่อยู่บนข้าวก็ยาวเป็นหางว่าวแล้ว แต่ก็ต้องบอกว่าจานใหญ่ขนาดนี้ แบ่งกันกินสำหรับท้องคนธรรมดาออฟว่าซัก 3-4 คนก็อิ่มกันได้เลยค่ะ
รสชาติของอาหารจานนี้ยังคงความอร่อยและอลังการเอาไว้ได้เป็นอย่างดีค่ะ แต่ยังไงก็ตามก็แอบคิดว่าถ้าได้น้ำซุบมิโสะร้อนๆ มาทานคู่กับข้าวคนละถ้วยนี่จะทำให้ลงตัวมากขึ้นค่ะ
ข้าวหน้าเนื้อผีดซีอิ๊วญี่ปุ่น ราคา 109 บาท
เมนูข้าวเมนูใหม่ที่เข้ามากระชากเรตติ้งในใจออฟไปตั้งแต่คำแรกที่ทานเป็นเมนูนี้ค่ะ อาจจะเป็นเพราะว่าเป็นคนชอบทานข้าวหน้าเนื้ออยู่แล้วก็ได้ จึงได้ให้จิตใจเอนเอียงไปชอบเมนูนี้มากเป็นพิเศษค่ะ เนื้อนุ่ม น้ำซอสเข้มข้น เค็มกำลังดี ทานคู่กับข้าวอร่อยแซงหน้าร้านข้าวหน้าเนื้อหลายๆ ร้านไปเลยค่ะ
ข้าวหน้าแซลมอนรมควัน ราคา 119 บาท
มาถึงอีกเมนูที่ในโต๊ะดูจะถูกใจกันไม่น้อยก็เป็นเมนูข้าวหน้าแซลมอนรมควันนี่แหละค่ะ คนไม่ทานของดิบไม่ต้องกลัวสีส้มสดๆ ของแซลมอนนะคะ เพราะว่ามันได้ถูกนำไปรมควันแบบกำลังดี ทำให้ไม่คาว แถมด้วยซอสราดก็มาช่วยตัดรสคาวให้อีกด้วยค่ะ ตัวเนื้อปลาแร่มาบางพอสมควร แต่ก็ไม่บางเกินไป ซึ่งก็ทำให้ตัดแบ่งเป็นคำง่ายดีค่ะ
เกี๊ยวซ่าทอดราดน้ำยำ ราคา 69 บาท
เกี๊ยวซ่าทอดราดน้ำยำนี่คิดว่าบางทีอาจจะต้องเสิร์ฟมาแบบแยกน้ำยำค่ะ แล้วมาราดที่โต๊ะ หรือให้คนทานราดเอง เพราะเกี๊ยวซ่าทอดนั้นแป้งจะเหี่ยวไปหน่อย เวลาที่โดนน้ำยำนานๆ ทำให้เสียรสชาติไปหน่อยค่ะ รสชาติของน้ำยำก็เป็นน้ำยำแบบไทยๆ เราค่ะ เผ็ดนิดหน่อย เปรี้ยวหวานกำลังดี
ต้มยำแซลมอน ราคา 119 บาท
เมนูที่ดูจะเป็นอาหารไทยที่สุดก็เป็นเมนูต้มยำน้ำข้นของทางร้านนี่แหละค่ะ โดยมีให้เลือกทั้งต้มยำกุ้ง และต้มยำปลาแซลมอน โดยครั้งนี้ก็ได้ลองทานต้มยำปลาแซลมอนค่ะ น้ำต้มยำยังไม่กลมกล่อมเข้าที่เท่าไหร่ เป็นรสชาติกลางๆ ที่ยังไม่เข้มข้นถึงใจเท่าไหร่ค่ะ
ไข่หวาน(พิเศษ) ราคา 95 บาท
เมนูไข่หวานเป็นเมนูอาหารทานเล่นที่ห้ามพลาดเด็ดขาดค่ะ ของร้านคินนิจิเค้าจะนุ่มและหวานกำลังดี แบบไม่ต้องจิ้มโชยุก็อร่อยได้ค่ะ ครั้งนี้รสสัมผัมนุ่มเย็นของไข่หวานนั้นแอบมีน้ำๆหน่อยด้วยค่ะ แถมด้วยมีกลิ่นหอมอะไรซักอย่างอยู่ด้วย ครั้งก่อนที่มาตกแต่งด้วยสาหร่ายแห้ง แต่ครั้งนี้เป็นปลาหมึกย่างก็สวยไปคนละแบบค่ะ แต่ออฟแอบคิดว่าสาหร่ายมันดูสีตัดกันสวยมากกว่า
ยำแซลมอนซาชิมิ ราคา 109 บาท
เมนูยำแบบไทยๆ ที่ใช้ปลาแซลมอนสไลด์เป็นชิ้นคลุกเคล้าให้เข้ากัน ก็ได้อีกเมนูของทานเล่นแบบแคลอรี่ต่ำกันได้แล้วค่ะ
ข้าวหน้ากุ้งคัตสึราดไข่ ราคา 109 บาท
เมนูนี้เป็นเมนูเอาใจคนรักข้าวแบบคัตสึค่ะ โดยครั้งนี้ได้ลองทานข้าวหน้ากุ้งคัตสึ ที่เรียกได้ว่ากุ้งนอนเรียงมาอัดเต็มถ้วยมากๆค่ะ รสชาติของข้าวถ้วยนี้ถือว่าเกือบจะได้ใจไปเต็มๆ แล้วค่ะ ขาดแต่ออฟรู้สึกว่ามันแห้งไปหน่อย หรือคงเป็นเพราะชอบกินข้าวที่แฉะกว่านี้อีกหน่อยรึเปล่าก็ไม่รู้ค่ะ ถ้ามีถ้วยน้ำราดให้ถ้วยเล็กๆ ด้วยเผื่อให้เติมได้ตามใจชอบจะเจ๋งมากเลยค่ะ
สลัดไก่คาราอาเกะเบคอน ราคา 99 บาท
กินข้าวกันไปซะแคลอรี่จะล้นอยู่แล้ว ก็มาเบรกกันด้วยเมนูสลัดกันบ้างค่ะ แต่จะไม่มีเนื้อหนังอะไรเลยเดี่ยวจะไม่อิ่มกันก็เลยเลือกเมนูที่มีไก่คาราอาเกะและเบคอนมาด้วยค่ะ เป็นน้ำสลัดแบบญี่ปุ่นที่ช่วยตัดความเลี่ยนของการกินของทอดหลายอย่างได้ดีทีเดียวค่ะ
แคลิฟอร์เนียมากิ ราคา 79 บาท
เมนูข้าวปั้นสีส้มสดใสนี่เอาใจคนที่อยากทานอาหารญี่ปุ่นที่แสนจะคุ้นเคยค่ะ ชอบตรงวาซาบิรูปใบไม้ด้วยค่ะ น่ารักดีทีเดียว ข้าวปั้นชิ้นใหญ่พอดีคำ อัดแน่นมากำลังดีเลยค่ะ จิ้มโชยุเล็กน้อย และทานขิงดองอีกหน่อยก็ได้รสชาติอาหารแบบญี่ปุ่นไปเต็มๆ คำแล้วค่ะ
สลัดยำสาหร่าย Dressing ครีมงา ราคา 75 บาท
เมนูสลัดอีกจานก็เป็นเมนูที่ทานเล่นกันได้สบายๆ เพลินๆ เหมือนกันค่ะ จานนี้สีสันลงตัว จัดจานสวยงามเป็นกองภูเขาผักที่ยำสาหร่ายเป็นเนินสูงและมีไข่กุ้งเป็นยอดเขาค่ะ ทานแล้วก็ผักกรอบสดอร่อยดีค่ะ น้ำสลัดก็เข้ากันดี ไม่เลี่ยนมาก
เกี๊ยวซ่า(พิเศษ) ราคา 109 บาท
นอกจากไข่หวานแล้ว เมนูเกี๊ยวซ่าก็คงจะเป็นเมนูอาหารทานเล่นที่เราค้นเคยกันดี ซึ่งทางร้านคินนิจิก็ไม่ลืมที่จะใส่เมนูนี้เอาไว้ให้เราเลือกทานกันค่ะ ซึ่งรอบนี้คนมาเยอะ ขนาดท้องใหญ่ๆ กันทั้งนั้นก็เลยได้ทาน เกี๊ยวซ่าจานใหญ่ที่จัดมาในรูปดอกไม้เบ่งบานมาเต็มจานเลยค่ะ เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำจิ้มเกี๊ยวซ่า ซึ่งเราก็ไม่ควรจะปล่อยดอกไม้แห้งเหี่ยวนาน ดังนั้นทุกคนก็เลยพร้อมใจ ดอมดม กันอย่างรวดเร็ว แล้วเราก็ได้จานเปล่าให้ทางร้านได้ชื่นชมในเวลาอันรวดเร็วเลยค่ะ
ข้าวหน้าหมูชาชูไซส์ S ราคา 69 บาท
ถ้วยนี้ทางร้านไม่จัดให้ เพราะนายบอสของเราสั่งเองเรียบร้อยเลยค่ะ ถ้วยไซส์เล็กสุดของร้าน แต่ก็ยังได้เติมเต็มหนึ่งอิ่มได้สบายๆ สำหรับคนไม่ทานเยอะมากนักค่ะ หมูชาชูมาเป็นแผ่น ราดซอสเค็มกำลังดี ทานคู่กับข้าว แค่นี่ก็เติมพลังและแคลอรี่ของเราให้เต็มได้แล้วค่ะ
รายการของหวานที่ทานที่ร้านKinniji (คินนิจิ)
เบอร์รี่ อัลมอนด์ โยเกิร์ต ราคา 29 บาท
เมนูของคาวก็ซัดกันไปเต็มที่แล้ว แต่ยังไงก็อย่าลืมเผื่อท้องไว้สำหรับของหวานนะคะ โดยครั้งนี้ก็ได้ลองทานหลายอย่างเลยทีเดียว เริ่มต้นด้วย เบอร์รี่ อัลมอนด์ โยเกิร์ต เป็นเมนูของหวานที่สาวๆ น่าจะโปรดปราน โดยเฉพาะคนที่ชอบทานโยเกิร์ตค่ะ ซึ่งทางร้านก็มีการนำเบอร์รี่มาเพิ่มรสชาติเปรี้ยวให้กับของหวานถ้วยนี้ด้วยค่ะ ซึ่งออฟว่าก็ช่วยให้ไม่เลี่ยนโยเกิร์ตดีค่ะ
พานนาคอตต้า สตรอเบอร์รีซอส ราคา 90 บาท
ต่อกันด้วยเมนูพานาค็อตต้า และสตอเบอร์รี่ซอส ซึ่งหลังจากทานของคาวแล้ว การได้ทานของหวานเย็นๆ เนื้อนุ่มๆ อย่างพานาค็อตต้าก็เป็นตัวเลือกที่ดีทีเดียวค่ะ แถมมีซอสสตอเบอร์รี่ตัดความหวานให้อีกด้วย นี่ลงตัวมากๆค่ะ
แมคคาเดเมีย คาราเมล ชีสเค้ก ราคา 120 บาท
เมนูที่โดนใจจนอยากจะขอสูตรกลับไปทำเองคือเมนูนี้ค่ะ แค่เห็นก็อลังการแล้วด้วยการที่มีเม็ดแมคคาเดเมียอัดแน่นกันตั้งแต่หน้าเค้ก ส่วนแต่ละชั้นของเค้กก็อร่อยกลมกล่อม และลงตัวกันมากๆค่ะ คาราเมลก็ไม่หวานเกินไปด้วย ฐานด้านล่างที่เป็นแครกเกอร์เค็มนิดๆ ก็ช่วยทำให้รสชาติลงตัวมากขึ้นค่ะ ส่วนชั้นชีสเค้กก็ไม่เลี่ยนมากด้วย
โอรีโอ้ ไวท์ช็อค ชีสเค้ก ราคา 85 บาท
เมนูที่ออฟเคยทำเองแล้วครั้งนี้มาทานฝีมือของทางร้านคินนิจิกันบ้าง ก็ถือว่าสอบผ่านค่ะ แต่ตัวชีสเค้กคิดว่าอาจจะใส่วิปครีมหรือไวท์ช็อกไปด้วยทำให้เนื้อมันค่อยมีรสชาติของครีมชีสมากเท่าไหร่ค่ะ การตกแต่งข้างหน้าก็เก๋ๆ ดีค่ะ
การทานอาหารที่ร้านKinniji (คินนิจิ)
ครั้งนี้ทานกันเยอะมากๆ ขอบอกว่าปริมาณที่ทานเข้าไปนี่อิ่มไปอีกสามวันเลยค่ะ ของคาวที่ทานทั้งข้าวหน้าต่าๆ สลัด และของทานเล่นก็อร่อยดีทีเดียวค่ะ แต่ครั้งนี้ทางร้านมีแก็งค์อื่นๆ มาจอยกันในร้านด้วยก็เลยวุ่นวายและเสียงดังมากเอาเรื่องเหมือนกัน อันนี้อาจจะต้องช่วยๆ กันคอนโทรลนะคะ เพราะว่าไม่งั้นถ้าลูกค้ามานั่งในร้านแล้วเจอเสียงดังมากๆ อาจจะลุกออกไปเลยได้ค่ะ
ส่วนของหวานที่เพิ่มเข้ามาก็เป็นตัวเลือกที่ดีมากๆ แต่เรื่องราคาอาจจะต้องปรับตามขนาดอีกนิดหน่อย แนะนำว่าแมคคาเดเมีย อาจจะใช้เป็นแบบผ่าซีกได้ค่ะ เพื่อลดต้นทุน ซึ่งน่าจะทำให้ราคาโดยรวมปรับมาอยู่ในเรตที่ซึ้อได้ง่ายขึ้น
บทสรุปจากการทานที่ร้านKinniji (คินนิจิ)
ขอปิดท้ายรีวิวนี้ด้วยโมเอะบีมจากบล็อกเกอร์ทุกคนนะคะ วันนี้อิ่มอร่อยมากๆ (ถ้าแก็งค์นั้นไม่เสียงดังจะสุดยอดมาก) นานๆได้เจอกันแบบนี้ทำเอาเม้าท์กันกระจายเลยค่ะ ยังไงก็ขออวยพรให้ร้านคนเข้าเยอะๆ ไม่ขาดเลยนะค้า
Gallery จากร้านKinniji (คินนิจิ)
ข้อมูลทั่วไปของร้านKinniji (คินนิจิ)
ที่อยู่ : ซอย จุฬา 42 ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน, Bangkok, Thailand 10330
วันและเวลาเปิดปิดทำการ :เปิดวันจันทร์ – เสาร์ เวลา 10.30-21.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินไปลงสามย่าน แล้วขึ้นทางจามจุรีสแควร์ จากนั้นเดินข้ามฝั่งมาอีกด้าน แล้วเดินเข้าซอยจุฬา 42 แต่ถ้านั่งมอเตอร์ไซต์จากจามจุรีสแควร์มาเลย เสีย 20 บาทค่ะ
ที่จอดรถ : ลานจอดรถของยูเซ็นเตอร์
facebook : https://www.facebook.com/pages/Kinniji/333714850071977
map:
Leave a comment