รีวิวโดนใจ >> ร้านเวียงจูมออน ทีเฮ้าส์ (Vieng Joom On Teahouse) สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น5
ปกติแล้วออฟเป็นคออาหารหนักท้องค่ะ แต่ช่วงหลังนี่ต้องควบคุมอาหารบ้าง เลยพยายามลดการทานเนื้อลงไปหน่อย พอได้รับเชิญให้มารีวิวร้านเวียงจูมออน ทีเฮ้าส์ (Vieng Joom On Teahouse) ก็เลยตอบตกลงเพราะว่าจะได้ลองเปลี่ยนบรรยากาศการทานอาหารกันบ้างค่ะ ร้านนี้ชื่อเค้ามีที่มาค่ะ เวียง แปลว่า นคร จูมออน แปลว่า ชมพู เวียงจูมออน คือ นครสีชมพู ดังนั้นการตกแต่งร้านก็เลยมีโทนสีชมพูโดดเด่นขึ้นมาเลยค่ะ มาลองดูร้านนี้กันบ้างค่ะว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง
บรรยากาศของร้านเวียงจูมออน ทีเฮ้าส์ (เซ็นทรัลเวิลด์) ชั้น5
การเดินทางร้านนี้เป้าหมายหลักขอให้ยึด “ร้านอยู่ชั้น 5 ใกล้บันไดเลื่อนหน้าทางเข้าฝั่ง ZEN ” ใจความนี้จะพาท่านทั้งหลายที่คุ้นเคย หรือไม่เคยคุ้นกับ Central World มาร้านนี้ได้ง่ายขึ้นค่ะ เห็นหน้าร้านก็มีสีชมพูลอยมาเลยค่ะ การตกแต่งด้วยสีชุมพูและโทนน้ำตาลที่ตัดกันใช้ได้ดีค่ะ
โคมไฟ และเคาเตอร์ในส่วนของการจัดการเครื่องดื่มและของหวานก็มีที่กั้นเป็นสัดส่วนดีค่ะ
มาดูด้านข้างของร้านกันบ้าง จริงๆ ตัวร้านมีลักษณะเป็นรูปตัว L ค่ะ ที่นั่งโซนนี้เป็นที่นั่งติดกับบันไดเลื่อนเลยค่ะ โดยขึ้นมาก็เห็นตัวร้านได้ชัดเจนเลย เพราะร้านเป็นแบบโปร่ง มีเสาไฟประดับเก๋ๆ
ด้านหลังของร้านนี้มีป้ายชื่อร้านอยู่ด้วยค่ะ อันนี้ก็ช่วยให้มองเห็นจากชั้นอื่นๆ ได้ด้วยค่ะ และที่นั่งติดกระจกฝั่งด้านในนี้ก็ดูเป็นส่วนตัวใช้ได้เลยค่ะ
อีกมุมของร้านนี้จะมีการขายของฝาก พวกชาต่างๆ ที่มีให้เลือก โดยเจ้ากระปุกเล็กๆใสๆที่ใส่ชาแต่ละแบบไว้ให้เราลองดมกลิ่นที่ชอบกันค่ะ
หรือถ้าจะซื้อเป็นของฝากเค้าก็มี Gift Set สุดหรูให้เลือกกันด้วยนะคะ
เมนูของร้านเวียงจูมออน ทีเฮ้าส์ (เซ็นทรัลเวิลด์) ชั้น5
เมนูของร้านนี่ขอเก็บแต่ส่วนที่เป็นของหวานมานะคะ เพราะชาเค้ามีเยอะมากๆ ต้องไปลองเลือกกันที่ร้านเลยค่ะ แต่ถ้ามีเครื่องดื่มแล้วไม่มีของหวานทานคู่กันก็ดูจะขาดอะไรไปบางอย่างใช่ไหมคะ ดังนั้นทางร้านก็เลยจัดของหวานน่าทานมาให้เราเลือกกันหลายอย่างเลยค่ะ
รายการของหวานที่ทานที่ร้านเวียงจูมออน ทีเฮ้าส์ (เซ็นทรัลเวิลด์) ชั้น5
High Tea for Two 550 บาท
เริ่มต้นกันด้วยเมนูเริ่ดหรูที่อยากจะนำเสนอให้ลองสั่งกันมาทานค่ะ เมนูนี้คือ High Tea for Two โดยจะมี 3 ชั้น โดยสามารถเลือกชาร้อน 1 กา (เลือกรสได้ตามใจชอบ)
เริ่มกันด้วยเมนูที่คุ้นหน้าค้นตากันดีอย่าง Blueberry Cheese cake ซึ่งทางร้านก็ทำได้ดีทีเดียวค่ะ ตัวชีสเค้กแน่นและเข้ากันดีกับบลูเบอร์รี่เยิ้มๆ
ประดับด้วยวิปครีมแน่นๆ ที่มีผีเสื้อช็อกโกแลตน้อยโบยบินมาเกาะอยู่ ดูน่ารักทีเดียวค่ะ
ชั้นที่สองจะเป็นเมนูที่สวยหวานจนไม่กล้าจะทานเลยค่ะ โดยเมนูนี้คือ Rooibos tea Mousse
ซึ่งเมนูนี้เป็นการนำมูสชาแดงแอฟริกัน มาเสิร์ฟคู่กับซอสสูตรพิเศษราดด้
ปิดท้ายจานล่างสุดด้วย Fruit Salad ซึ่งเป็นการนำผลไม้ตามฤดูกาลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแอ๊ปเปิ้ลเขียว แอ๊ปเปิ้ลแดง แคนตาลูป แก้วมังกรมาหั่นเป็นชิ้นลูกเต๋า ล้อมรอบถ้วยซอสราสเบอร์รี่เพิ่มรสชาติเปรี้ยวนิดๆ ได้เป็นอย่างดีค่ะ
Scone Set 320 บาท
มาถึงเมนูหรูๆ อีกเมนูนึงกันบ้างค่ะ เมนูสโคนนี้ก็สามารถเลือกทานคู่กับน้ำชาได้ 1 กาเหมือนกันค่ะ เลือกรสชาติได้ตามใจชอบเลยค่ะ
เซตนี้จะประกอบด้วยประกอบด้วย สโคนโฮมเมด 4 ชิ้น ซึ่งครั้งนี้ได้ทานรสชาติปกติ และแบบลูกเกดค่ะ
ออฟทานแล้วชอบแบบลูกเกดมากกว่าเพราะรู้สึกว่ามันไม่แห้งเกินไป แล้วก็มีรสหวานของลูกเกิดมาช่วยเพิ่มรสชาติด้วยค่ะ
เสิร์ฟพร้อมโฮมเมดแยม, วิปครีม และไลท์ครีม
มาถึงวิธีการทานที่ถูกต้องกันบ้างค่ะ ใครที่หลงกัดไปเต็มคำแล้ว ครั้งหน้าอย่าพลาดนะคะ วิธีการทานสโคนที่ถูกต้องจะต้องเอามีดผ่าตรงกลางค่ะ จากนั้นค่อยป้ายครีมหรือแยมตามใจชอบ การทานแบบนี้จะทำให้เราได้พื้นที่ในการป้ายได้เต็มที่ ซึ่งก็จะช่วยให้เราอร่อยกันได้มากขึ้นด้วยค่ะ
Rooibos Tea Mousse 180 บาท
เอาชาคนรักชาเพิ่มขึ้นไปอีกสำหรับเมนูมูสชาเขียวนี้ค่ะ ตกแต่งสวยงามด้วยซอสราสเบอร์รี่สีแดงเข้มตัดกับตัวมูสที่มีสองสีขาวนวลและสีเขียวได้อย่างชัดเจน
ด้านบนทางร้านโรยผงชาเขียวไว้ด้วยค่ะ แล้วก็ยังมีแผ่นช็อกโกแลตและใบมิ้นต์ประดับมาด้วย ความเนียนของเนื้อมูสชาเขียวนี่ถือว่าใช้ได้เลยค่ะ
เวลาทานออฟคิดว่าตักพร้อมกันทั้งสองชั้นแล้วจะได้รสชาติที่ลงตัวสุดค่ะ ถ้าทานแต่ชั้นบนที่เป็นชาเขียวอย่างเดียวอาจจะรู้สึกว่าขมไปหน่อยค่ะ
Creme Brulee 160 บาท
เมนูเครมบูเล่ของที่นี่ก็ตกแต่งจานมาได้เก๋ไก๋ดีค่า การที่นำเครมบูเล่ไว้ตรงกลาง จากนั้นตกแต่งด้วยซอสราสเบอร์รี่เป็นรูปหัวใจ แล้วประดับรอบ ๆ ด้วยผลไม้ราดซอสอีกทีก็ถือว่าการจัดตำแหน่งลงตัวใช้ได้ค่ะ แต่โดยรวมแล้วสีสันยังไม่ค่อยเสริมกันเท่าไหร่
มาถึงรสชาติกันบ้างค่ะ ปกติแล้วเมนูนี้จะโดดเด่นที่น้ำตาลด้านบนซึ่งของทางร้านก็หวานกำลังดีค่ะ แต่ติดกันเป็นแผ่นหนาไปหน่อย ทำให้เวลาทานแล้วบางคำก็ได้แผ่นใหญ่ บางคำถึงกับไม่ได้น้ำตาลไปเลยค่ะ
การตัดรสชาตหวานของเครมบูเล่ด้วยผลไม้สดราสซอสก็โอค่ะ ช่วยลดความหวานได้ดีเลย
Cherry Cheese Cake 190 บาท
ลองทานบลูเบอร์รี่ชีสเค้กกันไปแล้วก็มาลองทานเชอร์รี่ชีสเค้กกันบ้างค่ะ การตกแต่งสไตล์เดียวกัน แต่จานนี้จะโดดเด่นกว่าด้วยสีแดงของเชอร์รี่ ซึ่งมีลูกเพียบเลยค่ะ น้ำเยิ้มมากๆ
รอบๆ ก็เป็นเหล่าวิปครีมและฝีเสื้อเช่นเคยค่ะ ตัวชีสเค้กนี่ทางร้านเป็นแบบนำไปอบนะคะ เนื้อก็เลยแน่น แต่ตักทานก็ได้รสชาติความเนียนและไม่หวานจนเลี่ยนเพราะมีน้ำเชอร์รี่ตัดกันค่ะ
Black Biscuit Cold Cheese 180 บาท
เมนูนี้เป็นเมนูโคลชีส และแบล็คบิสกิต เสิร์ฟพร้อมซอสส้มและบลูเบอร์รี่ ตอนแรกที่ดูสีแอบคล้ายน้ำพริกเผาค่ะ จริงๆ ทานแล้วรสชาติอร่อยดีค่ะ แต่หน้าตาและสีสันมันดูไปด้วยกันไม่ค่อยได้เท่าไหร่
ส่วนตัวชีสกับฐานบิสกิตก็เข้ากันดีค่ะ แต่เวลาทานออฟว่าต้องตักให้ติดซอสด้วยค่ะ จะตัดเลี่ยนได้ดีเลย หรือจะทานคู่กับแก้วมังกรก็โอเคค่ะ ส่วนตัวชอบการนำผีเสื้อมาติดมากๆ เลยค่ะ เพิ่มความน่ารักของเมนูได้มากเลย แต่นอกจากเรื่องรสชาติแล้วการใช้สีผสมกันนี่อาจจะต้องลองปรับเพิ่มค่ะ
รายการเครื่องดื่มที่ทานที่ร้านเวียงจูมออน ทีเฮ้าส์ (เซ็นทรัลเวิลด์) ชั้น5
ออกตัวก่อนเลยว่าไม่ใช่คอชาเลยค่ะ แต่ก็ได้ลองทานทุกกาอย่างละแก้ว ก็ต้องไปห้องน้ำหลังการทานอย่างด่วนเลยทีเดียว ดังนั้นขอแนะนำว่าให้ลองไปดมกลิ่นของชาที่ชอบที่ร้านเลยค่ะ เพราะมีให้เลือกเยอะจริงๆ
Vieng Joom On
EarlGrey Rooibos Tea
Rose Bud
Thai Jasmine Rice
Sweet Dream
การทานของหวานที่ร้านเวียงจูมออน ทีเฮ้าส์ (เซ็นทรัลเวิลด์) ชั้น5
เนื่องด้วยครั้งนี้มารีวิวพร้อมกับบล็อกเกอร์หลายๆ ท่านไม่ว่าจะเป็น ดังนั้นทางร้านก็ต้องจองโต๊ะยาวกินพื้นที่ครึ่งร้านให้เรานั่งกันเลยค่ะ
พอเริ่มสงครามโต๊ะก็เริ่มรกค่ะ ทุกคนมีถ้วยชาของตัวเอง จานทานขนม และของหวานเต็มโต๊ะทำให้ดูรกไปหน่อยนะคะ
การทานของหวานและชาที่เหมาะสำหรับคนที่มองหาร้านที่เงียบสงบและอยากจะลิ้มลองรสชาติและกลิ่นของชาได้อย่างเต็มที่ และนี่เป็นอีกสาเหตุนึงที่ทำให้ทางร้านเลือกไม่อยู่ในชั้นอาหารรวมกับร้านอื่นๆ เพราะความใส่ใจในรายละเอียด กลัวว่ากลิ่นของอาหารอื่นๆ จะบดบังความหอมจากกลิ่นชาค่ะ
สำหรับของหวานที่ทานคู่กับชานั้นก็มีให้เลือกทานพอสมควรเลยค่ะ แต่เนื่องจากทางร้านไม่ได้ทำทันทีทำให้เมนูที่มีเลยไม่ค่อยมีแบบเสิร์ฟร้อนๆค่ะ
การทานน้ำชานที่ร้านเวียงจูมออน ทีเฮ้าส์ (เซ็นทรัลเวิลด์) ชั้น5
เวลาทานชาที่ร้านนี้ จะถ้วยสำหรับแยกกากชามาให้นะคะ โดยเมื่อทานกาแรกเสร็จไปแล้ว ก็สามารถขอเติมน้ำร้อนเพิ่มได้ แต่ความเข้มข้นของชาก็จะลดลง โดยมากสุดจะได้ประมาณ 3 กาค่ะ
บทสรุปจากการทานที่ร้านเวียงจูมออน ทีเฮ้าส์ (เซ็นทรัลเวิลด์) ชั้น5
- มีชาให้เลือกหลากหลายดี บรรยากาศเงียบสงบ และเป็นส่วนตัวใช้ได้เลย เหมาะกับการมาเดตทีเดียวค่ะ
- คนที่ชอบชาน่าจะเป็นอีกตัวเลือกนึงที่น่ามาลองกันดูค่ะ เพราะมีให้เลือกหลายกลิ่น หลายรสทีเดียว
- สำหรับคนไม่ได้ทานชา ที่ร้านก็มีของหวานให้เลือกหลายอย่าง น่าลองดีค่ะ
- การเดินทางสะดวกเพราะใจกลางเมือง มาได้ทั้งรถไฟฟ้าสถานีสยามหรือชิดลมค่ะ
Gallery จากร้านเวียงจูมออน ทีเฮ้าส์ (เซ็นทรัลเวิลด์) ชั้น5
ข้อมูลทั่วไปของร้านร้านเวียงจูมออน ทีเฮ้าส์ (เซ็นทรัลเวิลด์) ชั้น5
เวลาเปิดปิด : เปิดทุกวัน 11.00 - 22.00 น.
Tel: 02-6131093
email: viengjoomon.teahouse@gmail.com
ที่ตั้ง : Central World 5th Floor Zone A, near ZEN
Facebook: http://www.facebook.com/vjotea
instagram: http://instagram.com/vjoteahouse
Website: http://www.vjoteahouse.com
Leave a comment