รีวิวโดนใจ >> Vanilla Cafe (วานิลลาคาเฟ่) : คาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่น-อิตาเลียน กลางซอยเอกมัย 12
ร้านวานิลลาคาเฟ่ เป็นหนึ่งในร้านของวานิลาการ์เด้นค่ะ โดยในสวนกลางซอยเอกมัย 12 นี้จะมีร้านย่อยๆ อีก 3 ร้านด้วยกันค่ะ Vanilla Cafe’, Royal Vanilla และ Sauce Vanilla Cafe’ (ร้านหนังสือ) ซึ่งครั้งนี้ออฟ ไผ่ จิโรจและมิวหลังจากที่ไปเที่ยวตลาดคลองสวนกันมาแล้ว ไปเที่ยวตลาด 100 ปีบ้านใหม่มาแล้ว ไปดู I am number four มากันแล้ว ก็มาปิดท้ายการทานอาหารเย็นร่วมกันที่ร้านวานิลลาค่ะ ที่เลือกร้านนี้เพราะว่าเห็นว่าเป็นร้านที่พี่สาวโปรดปรานเอามากๆ เรียกได้ว่าแนะนำถึงขนาดว่า ต้องมาทานคาโบนาร่าของที่นี่ให้ได้เลยทีเดียวค่ะ
บรรยากาศของร้านVanilla Cafe (วานิลลาคาเฟ่)
เมื่อเดินเข้ามาส่วนในสุดของสวนก็จะมาเจอส่วนที่เป็นวานิลาคาเฟ่ค่ะ ตัวร้านจะแบ่งเป็น 2 ชั้นด้วยกัน มีการตกแต่งเหมือนเป็นบ้าน มีบันไดที่มีช่องหนังสือใส่รายการอาหารต่างๆ เอาไว้ ตัวร้านมีการนำการ์ตูนญี่ปุ่น และของเล่นต่างๆ มาประดับตกแต่ง
ที่นั่งแต่ละส่วนนั้นจัดเอาไว้แต่ละมุมไม่เหมือนกัน ก็เลือกนั่งกันได้ตามใจชอบเลยค่ะ
โทนสีที่ใช้ตกแต่งจะเป็นสีน้ำตาล มีการใช้โคมไฟในการเพิ่มมิติและแสงสว่าง
อาหารที่ทานที่ร้านVanilla Cafe (วานิลลาคาเฟ่)
สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า 240 บาท
เริ่มต้นการทานอาหารที่ร้านวานิลลาเคาเฟ่ ด้วยการทานเมนูที่ได้รับการแนะนำจากพี่สาวค่ะ…สปาเก็ตตีคาโบนาร่า ออฟว่าบางครั้งการที่เราได้รับคำชื่นชมจากรายการอาหารใดนั้น เวลาที่เราไปลองทาน เรามักจะคาดหวังเอาไว้ค่อนข้างสูงนะคะ ดังนั้นผลที่ได้มันมีโอกาสจะผิดหวังสูงเช่นกัน ดังนั้นในการทานสปาเก็ตตี้ครั้งนี้ออฟก็เลยพยายามทำใจเป็นกลาง แล้วรับรู้รสชาติของอาหารเหมือนยังไม่เคยได้ฟังพี่สาวชมค่า
มาเริ่มพิจารณาที่เส้นสปาเก็ตตี้กันก่อน เท่าที่กินดูออฟว่าก็ลวกได้ดีนะคะ ไม่มีเส้นที่รู้สึกว่าไม่สุกอะคะ แล้วก็เส้นไม่เละจนเกินไป ด้านบนเค้าจะโรยชีสเส้นๆ มาให้ด้วย
รสชาติของคาโบนาร่าจานนี้ไม่ทำให้ผิดหวังค่ะ โดยส่วนผสมหลักๆของคาโบนาร่าจานนี้ก็คือ ชีส ไข่ เบคอน ครีม พริกไทย ออฟว่าตัวซอสนี่เข้มข้นไปด้วยชีสดีค่ะ แต่เบคอนนี่ออฟชอบเบคอนแบบแห้งๆ มากกว่าอะคะ อันนี้เหมือนกันเป็นแบบนิ่มๆ แต่ก็ให้รสชาติไปอีกแบบ
แซลมอนเทมปุระคริสปี้ 280 บาท
ทานอาหารอิตาเลียนไปแล้ว ก็มาลองทานอาหารฝั่งญี่ปุ่นกันบ้างค่ะ สำหรับคนที่ไม่ค่อยทานปลาดิบอย่างออฟ ข้าวปั้นนี่ก็เป็นอาหารญี่ปุ่นที่ทานได้บ่อยเลยทีเดียวค่ะ มาที่วานิลลาคาเฟ่ครั้งนี้ก็เลยลองสั่ง แซลมอนเทมปุระคริสปี้
เค้ามาเสริฟทั้งหมด 4 ชิ้นด้วยกันค่ะส่วนประกอบของ แซลมอนเทมปุระคริสปี้ ก็คือ มีเทมปุระ, หน่อไม้ฝรั่ง อยู่ตรงกลางค่ะ โดยด้านบนนั้นจะมีซอสและไข่กุ้งสีส้มอยู่ด้วย
เค้าหั่นออกมาเป็น 4 ชิ้นเท่าๆ กันดีค่ะ ข้าวไม่แตกออกมาเลย เรียกว่าใช้มีดและฝีมือในการหั่นมากๆ เพราะว่าหน่อไม้ฝรั่งที่อยู่ตรงกลางก็กรอบ และน่าจะหั่นยากอยู่ซักหน่อย ส่วนสาหร่ายที่ห่ออยู่นั้นก็กรอบดีค่ะ มาเสริฟแล้วทานเลยนะคะ อย่าทิ้งให้เย็น (แต่ถ้าไปกับออฟ ให้ออฟถ่ายรูปก่อน อิอิ) เพราะว่าถ้าทิ้งไว้นานแล้วสาหร่ายมันดูดน้ำจากข้าวไปแล้วนั้นจะทำให้สาหร่ายเหนียวและไม่น่ากินค่ะ เวลาทานนี่อาจจะทานยากไปนิดนึง เพราะว่าคำใหญ่มากๆ แต่ก็อร่อยมากๆค่ะ
ทาราโกะสปาเก็ตตี้โรล 240 บาท
เท่าที่ออฟพยายามหามานั้นว่า “ทาราโกะ” หมายถึงอะไร พอสรุปใจความได้ว่าเป็น “ไข่ปลาค็อด” ค่ะ แต่ต้องขอสารภาพกันตรงๆว่า ทาราโกะสปาเก็ตตี้โรล จานนี้นั้น ไม่ได้สัมผัสรสชาติ ได้ขนาดนั้นอะคะ ก็พอจะบอกได้แค่ว่าเป็นข้าวปั้นเท่านั้นเอง
ผักที่เค้าโรยหน้ามาให้นี่ ไม่รู้ว่าชื่ออะไร แต่ว่ากินแล้วขมอะคะ ก็เลยกิน ทาราโกะสปาเก็ตตี้โรล แบบจิ้มกับซอสแทน
ครีมโคโรเกะ 220 บาท
ส่ง ครีมโคโรเกะ มาลองทานด้วยค่ะ หลังจากที่เคยไปทานที่ร้าน Kuu ที่เซ็นทรัลเวิร์ลมาแล้ว แต่ออฟรู้สึว่าของร้าน Kuu จะมีเกล็ดขนมปังเยอะกว่า แบบว่าของร้านวานิลานี่จะดูเป็นก้อนครีมโคโรเกะกลมๆ แต่ของร้าน Kuu นี่มันจะไม่กลมขนาดนี้อะคะ ผิวมันจะขรุขระกว่า
ซอสจิ้มเค้าจะใส่มายองเนสมาให้ด้วยเลยค่ะ
ในถาดที่ใส่ครีมโคโรเกะมานี่ก็มีมัสตราดมาให้ด้วยค่ะ แต่ออฟไม่ได้จิ้ม ตัวโคโรเกะของร้านวานิลานั้นออฟว่าเครื่องด้านในอัดแน่นดีค่ะ
จิ้มกับซอสแล้วก็อร่อยดี ทานตอนกำลังร้อนๆ นี่คงสุดยอดไปเลย แต่ออฟตักมาแล้วแบ่งเป็นคำๆ ให้มันเย็นก่อนอะคะไม่งั้นลวกปาก
สปาเก็ตตี้แกงกะหรี่กราแตง 320 บาท
รายการอาหารที่ออฟว่าอร่อยไม่แพ้สปาเก็ตตี้คาโบนาร่าในการทานอาหารที่ร้านวานิลาคาเฟ่วันนี้ก็คือ “สปาเก็ตตี้แกงกะหรี่กราแตง” ค่ะ โดย กราแตง คือ เทคนิคในการทำงานอาหาร โดยจะมีส่วนประกอบหลักคือ ใส่ครีม ใส่ชีส แล้วก็อบจนหน้าเหลือง
ซึ่งเมื่อมาลองทานสปาเก็ตตี้แกงกะหรี่กราแตง แล้วนั้นต้องบอกว่าเทคนิคนี้ แกงกะหรี่ที่นี่ เส้นสปาเก็ตตี้แบบนี้ มันเข้ากันมากๆ ค่ะ น้ำแกงกะหรี่ที่คงเคี่ยวมาจนข้นเข้ากัน ดูจากการทานแครอทที่นิ่มแล้วเข้าเนื้อแล้วนั้น ออฟว่าแกงกะหรี่ที่นี่ไม่ได้ด้อยไปกว่าร้านแกงกะหรี่ Coco หรือว่า ขนมปังยัดไส้แกงกะหรี ของร้าน Kuu ที่เซ็นทรัลเวิร์ล เลยทีเดียวค่ะ
ของหวานที่ทานที่ร้าน ร้านVanilla Cafe (วานิลลาคาเฟ่)
พาเฟ่ต์ผลไม้สตรอเบอร์รี่ 95 บาท
หลังจากที่โซ้ยอาหารคาวกันไปแล้ว ก็มาลิ้มลองรสชาติของของหวานกันบ้าง โดยเริ่มกันที่ “พาเฟ่ต์ผลไม้สตรอเบอร์รี่
” ซึ่งพอมาถึงของหวานแล้ว คู่แข่งของออฟวันนี้ก็ยอมรามือไปตามๆ กันแล้วค่ะ ไผ่บอกว่าอิ่มจนกินอะไรไม่ไหวแล้ว ส่วนจิโรจบอกว่าไม่ชอบกินสละ ก็เลยเหลือออฟกับมิวทานกัน 2 คนค่ะ
ด้านบนจะเป็นสตอเบอร์รี่และสละแกะเม็ดแล้ว ราดด้วยน้ำซอสสตอเบอร์รี่ผสมสละ รสชาตินี่ไม่ต้องบอกก็คงพอจะนึกได้ค่ะ ว่าต้องเป็นเปรี้ยวนำแน่ๆ
ส่วนด้านล่างเป็นน้ำแข็งบดค่ะ การทานของออฟนั้นตัดสินใจใช้ช้อนคนมันรวมกันเลยค่ะ แล้วจากนั้นก็พบว่ากินแยกๆ ดูจะอร่อยกว่าอะคะ น้ำแข็งด้านล่างนี่เกล็ดใหญ่ไปอะคะ ก็เลยไม่รู้สึกละลายในปากเลย ส่วนความเปรี้ยวนี่ก็ถูกใจออฟอยู่เหมือนกันค่ะ
ชูไอซ์สตรอเบอร์รี่ช็อกโกแลต 160 บาท
“ชูไอซ์สตรอเบอร์รี่ช็อกโกแลต” นี่คงจะมาจากการรวมตัวกันของ “ชูครีม” + “Ice-cream” + “สตอเบอร์รี่” + “ช็อกโกแลต” ซึ่งออฟว่าเป็นของหวานที่มีส่วนผสมลงตัวมากๆ ค่ะ มีสีสันสดใส ความเปรี้ยวของสตอเบอร์รี่ ความหวานของไอศกรีมวานิลา และเอาใจหนุ่มๆ ด้วยการมีผงช็อกโกแลตด้วย
เวลาทานนี่จะลำบากนิดหน่อยค่ะ คือตอนทานนี่ใช้ช้อนตัดแล้วมันก็จะรวมๆ กันดูเน่าๆ ไปนิดนึง แต่เรื่องรสชาตินี่ออฟการันตีเลยค่ะ ว่างานนี้ทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่เลยทีเดียว
ชูครีมที่เค้ามีให้ซื้อกลับบ้านด้วยนะคะ ชิ้นละ 40 บาท
ใบเสร็จจากร้านVanilla Cafe (วานิลลาคาเฟ่)
งานนี้มากินกันแบบว่าเต็มที่ อยากลองอะไร อยากสั่งอะไรจัดไปจนหมดค่ะ สุดท้ายก็เลยราคาพุ่งกระฉูดหยุดไม่อยู่ขนาดนี้ เรียกได้ว่ากินกัน 4 คนซัดไปคนละเกือบ 500 บาท แบบนี้นี่ไปกินบุฟเฟ่เนื้อย่าง แบบมีระดับกันได้อย่างเต็มที่เลยทีเดียวค่ะ
หมายเหตุจากร้านVanilla Cafe (วานิลลาคาเฟ่)
– มีค่าบริการ 10 % แต่ไม่มี VAT
– ยุงเยอะมากๆ เรียกได้ว่า ไม่อยากนั่งนานเพราะว่ายุงกัดนี่แหละค่ะ เศร้ามากๆ เลย
– คนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ ดูเป็นส่วนตัวดี เหมือนกินข้าวอยู่บ้านเลย
Gallery จากร้านVanilla Cafe (วานิลลาคาเฟ่)
ข้อมูลทั่วไปของร้านVanilla Cafe วานิลาคาเฟ่
สถานที่ตั้ง Vanilla Cafe Japanese Restaurant: 53 ซอย เอกมัย 12 สุขุมวิท 63 ซ. 12 (เจริญใจ) คลองตันเหนือ วัฒนา กรุงเทพฯ 10110
เบอร์โทรศัพท์ Vanilla Cafe Japanese Restaurant: 0-2381-6120,0-2381-6122
การเดินทาง Vanilla Cafe Japanese Restaurant:ใช้ถนนสุขุมวิท ตรงไปจนถึงซอยสุขุมวิท 63 เลี้ยวเข้าซอยเอกมัย 12 ตรงเข้าไปประมาณ 500 เมตร จะเห็นวานิลลาคาเฟ่ อยู่ด้านซ้ายมือ
สถานที่จอดรถ Vanilla Cafe Japanese Restaurant:ลานจอดรถของร้านวานิลลาคาเฟ่
เว็บไซต์ : www.vanillaindustry.com
วันและเวลาเปิดปิดทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 11.00-24.00 น.
แผนที่
Leave a comment