รีวิวโดนใจ >> Let Them Eat Cake ร้านเค้กสไตล์ฝรั่งเศสแสนอร่อย พร้อมหลากเมนูที่น่าลิ้มลอง สาขาสุขุมวิท20

 Let Them Eat Cake เป็นร้านเค้กที่ไผ่ชวนไปลองมานานมากๆ แล้วค่ะ แต่ก็หาโอกาสไม่ได้ซักทีจนตอนนี้เค้าเปิดสาขากันไปหลายสาขาแล้ว ก็เพิ่งจะได้มาลองนี่แหละค่ะ ด้วยความที่วันที่ไปเป็นวันเกิดของออฟและคุณแม่ หลังจากที่อิ่มอาหารเที่ยงกันมาแล้วก็ต้องมาหาเค้กทานให้ครบสูตรวันเกิดกันบ้าง ซึ่งร้านเดียวที่นึกออกว่าอยากไปและยังไม่ได้ไปก็คือร้านนี้เลยค่า

บรรยากาศของร้านLet Them Eat Cake

ร้านนี้อยู่ในซอยสุขุมวิท 20 โครงการ Mille-Malle ซึ่งก็ลึกลับนิดหน่อย คนไม่มีรถอาจจะมาไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ค่ะ แต่ตอนนี้เค้ามีสาขา Siam Center แล้วถ้าไม่มีรถก็ไปสาขานั้นแทนก็ได้ค่ะ ตัวร้านมีทั้งแบบ Indoor และ Outdoor ซึ่งเมื่อจอดรถเสร็จหันกลับมาก็จะเห็นตัวร้านเลยค่ะ
ด้านหน้าร้านมีชื่อร้านเก๋ๆ ซึ่งเมื่อลองค้นหาดูพบว่าคำว่า “Let them eat cake” นี่มีที่มาที่ไปที่น่าสนใจทีเดียว โดยเป็นประโยคเค้าว่ากันว่าพระนาง มารี อ็องตัวแน็ตได้กล่าวเมื่อทราบว่าประชาชนชาวฝรั่งเศสไม่มีขนมปังทานค่ะ (อ่านเพิ่มเติมที Wiki)
เข้ามาด้านในของร้านเจอตู้เค้กก่อนเลยค่ะ ตู้เค้กเก๋ๆ ต่างจากร้านทั่วๆ ดีค่ะ ตู้กระจกสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ให้เราได้เห็นเค้กชัดๆ เกาะกระจกแนบหน้าเข้าไปดูันได้อย่างใกล้ชิด ไม่มีละอองน้ำมากั้นกลางให้เสียอารมณ์ แถมยังมีเค้กสีสันสวยงามเรียงรายกันอยู่เต็มไปหมด จนจะเลือกไม่ถูกด้วยค่ะ
ร้านนี้คนเยอะเอาเรื่องเหมือนกัน และมีที่นั่งน้อง นับดูคร่าวๆ ด้านในร้านมีไม่ถึง 10 โต๊ะเลยค่ะ ส่วนด้านนอกนี่ก็มีประมาณ 5 โต๊ะ ดังนั้นใครมาอาจจะต้องจองหน่อยค่ะ โชคดีครั้งนี้ที่ไปมีคนทานเสร็จพอดีก็เลยได้โต๊ะสำหรับ 4 คนพอดีเลยค่า

โต๊ะและเก้าอี้จะเป็นโซฟาสีเทาเรียบแต่คงความหรูไว้ด้วยค่ะ มีกระจกเพิ่มมิติและทำให้ร้านดูไม่แคบเกินไป แสงที่ส่องจากด้านนอกก็เพิ่มความสว่างของร้านได้ดีค่ะ

เมนูของร้านLet Them Eat Cake

ตู้เค้กของที่นี่มีสีสันทีเดียวค่ะ ออฟถ่ายจากมุมบนมาไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ เพราะความสูง (ของคนถ่าย) ไม่ค่อยจะพอค่ะ
สำหรับคนที่อยากดูรายละเอียดของเค้กแต่ละชิ้นว่าประกอบด้วยอะไรบ้าง เค้าก็มีเมนูรายละเอียดให้ชัดเจนดีนะคะ มีทั้งภาษาไทยและอังกฤษ แต่ถ้ารูปเค้กเป็นรูปจริงๆ แทนรูปวาดน่าจะช่วยให้เห็นภาพชัดมากกว่านี้ค่ะ
มองมุมด้านบนกันไปแล้วมามองมุมข้างดูบ้างค่ะ เค้กแต่ละแบบจะถูกเรียงเป็นแนวยาว โดยด้านหน้าสุดจะเป็นป้ายชื่อเมนูพร้อมรายละเอียด และราคาค่ะ

นอกจากเค้กในตู้แล้วก็ยังสามารถสั่งแบบเป็นเซตต่างๆ ได้ด้วยนะคะ อ้อเค้กของที่นี่เค้าจะเปลี่ยนตามฤดูกาลด้วยดังนั้นตอนที่ไปจะเป็นช่วง Spring-Summer และจะมีการปรับเมนูต่างๆ ไปตามฤดูกาลด้วยค่ะ

รายการของหวานที่ทานที่ร้านLet Them Eat Cake

La Passion 175 บาท

เมนูแรกที่จะขอแนะนำเป็นเมนู La Passion ค่ะ เมนูนี้โดดเด่นด้วยสีเหลืองสด ซึ่งสะดุดตาเอามากๆ โดยเมนูนี้จะเป็นการนำเสาวรสซึ่งมีรสเปรี้ยวและถูกนำมาใช้ทำขนมมากขึ้น มาทำเป็นมูสค่ะ
ฐานด้านล่างจะเป็นครันช์หน่อยๆ ใจกลางเป็นเยลลี่ราสเบอร์รี่ที่เข้ากันดีมากๆ คือมันทานพร้อมกันแล้วรู้สึกเปรี้ยวหวานกำลังดี ไม่เลี่ยนค่ะ ด้านนอกสุดจะเคลือบด้วยเยลลี่เสาวรสอีกทีค่ะ และด้านบนตกแต่งด้วยราสเบอร์รี่คริสปี้ ทำให้เมนูนี้ไม่โล่งจนเกินไปค่ะ

ขอบอกว่าเมนูนี้อร่อยมาก จนคุณแม่และพี่สาวคะยั้นคะยอให้ออฟพยายามทำมูสเสาวรสให้ทานที่บ้านบ้างเลยค่ะ สำหรับเมนูนี้ถือว่ารสชาติลงตัวมากๆเลยค่ะ

St. Honore Rose-Framboise 185 บาท

เมนูที่โดดเด่นและดูอลังการจนอดไม่ได้ที่จะต้องสั่งมาลองทานเป็นเมนู St. Honore Rose-Framboise (แซงต์ ออนอเร่ กุหลาบ-ราสเบอร์รี่)ค่ะ
เมนูนี้จะเป็นสไตล์แป้งพายค่ะมีความกรอบของแต่ละชั้น และเพิ่มความเข้ากันด้วยซอสราสเบอร์รี่และครีมรสกุหลาบค่ะ เมนูนี้ออฟว่าเป็นเหมือนดาบสองคมที่ถ้าคนไม่ชอบรสชาติของกุหลาบนี่คงต้องส่ายหน้ากันไปเลยค่ะ เพราะทุกอณูของเมนูนี้อบอวลและมีกลิ่นอายของกุหลาบในทุกๆ รสสัมผัสกันไปเลยทีเดียว

แต่ยังไงออฟก็ยังชอบการจัดและออกแบบหน้าตาของเมนูนี้ค่ะ สีสันลงตัวด้วยการใช้โทน ชมพูสลับไล่สีกับแดง เข้ากันดีทีเดียวค่ะ ส่วนรสชาติโดยรวมแล้วออฟเฉยๆค่ะ แต่คนอื่นๆ ออกแนวจะไม่ชอบที่มีความเป็นกุหลาบมากไปหน่อยค่ะ

Mango Bellini 175 บาท

เมนูนี้เป็นมะม่วงนะคะ ต้องย้ำอีกครั้งเนื่องด้วยถ้าใครหลายคนเห็นสีของเมนูนี้แล้วคงเถียงขาดใจแน่ๆ ว่ามะม่วงอะไรสีแดงขนาดนี้ แต่เมนูนี้เป็นมะม่วงจริงๆค่ะ โดยเมนู Mango Bellini  (แมงโก เบลลินี่) เป็นมูสมะม่วงอยู่ด้านในค่ะ จากนั้นสอดไส้ด้วยพีชเยลลี่เพิ่มความเปรี้ยวหน่อยๆ  ส่วนด้านนอกนี่เป็นเกลซซี่ช็อกโกแลตขาวรสพีชค่ะ และมีฐานเป็นอัลมอนด์ครัทช์

รสชาติของเมนูนี้จะคล้ายสไตล์ของ La Passion ค่ะ แต่มีความเปรี้ยวหน่อยกว่าหน่อย ซึ่งออฟก็คิดว่าลงตัวดีแล้วค่ะ เพราะมะม่วงเองก็มีรสชาติหวานๆ อมเปรี้ยวนิดๆ อยู่แล้ว เมื่อมาเข้ากับพีชที่เปรี้ยวกว่านิดหน่อย ก็เลยได้เมนูที่หวานแต่อมเปรี้ยวอย่างลงตัวดีค่ะ

Madame Pompadour 145 บาท

Madame Pompadour (มาดามปอมปาดูร์) เป็นเมนูที่ไผ่เลือกค่ะ โดยเมนูนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากจะทานอะไรที่เป็นผลไม้เท่าไหร่ เพราะเมนูนี้เป็นสไตล์ถั่วๆค่ะ
ตรงกลางที่ดูจะดึ่งๆ หน่อยเป็นมูสพราลีเน่ค่ะ โดยมีการนำส่วนผสมของเฮเซลนัทและอัลมอนด์คั่วคาราเมลมาเป็นส่วนผสมหลัก ฐานก็เป็นแผ่นฮาเซลนัทค่ะ รสชาติรวมๆ แล้วจะเป็นเมนูถั่วๆ มากๆ แต่ก็กินแล้วไม่ติดคอนะคะ เพราะเนื้อของเมนูนี้มีแบบมูสอยู่ด้วย

รายการเครื่องดื่มที่ทานที่ร้านLet Them Eat Cake

ครั้งนี้ทานน้ำเปล่ากันค่า แต่แก้วเค้าอลังการดีจริงๆ ทำเอาน้ำเปล่าธรรมดามีราคาขึ้นมาทันทีเลย

การทานเค้กที่ร้านLet Them Eat Cake

การทานเค้กที่ร้าน Let Them Eat Cake (เลทเดมส์อีทเค้ก) นั้นออฟว่าเหมาะสำหรับคนที่ตั้งใจจะหาร้านเค้กที่แตกต่างจากร้านเค้กทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเค้กสไตล์ฝรั่งเศสที่ใส่ใจรายละเอียดทั้งรสชาติและหน้าตาเป็นอย่างมากค่ะ

รสชาติของเค้กที่ได้ในวันนี้ถือว่าแตกต่างจากการทานเค้กที่ผ่านมามากๆ เลยค่ะ

ใบเสร็จจากร้านLet Them Eat Cake

บทสรุปจากการทานที่ร้านLet Them Eat Cake

• เป็นร้านที่มีเมนูเค้กให้เลือกหลากหลาย และมีสไตล์ที่ต่างกัน น่าทานไปหมดเลยค่ะ
• บรรยากาศของร้านเรียบหรูดี แต่มีโต๊ะน้อยไปหน่อยค่ะ
• พนักงานทำเสียงดังไปหน่อยตอนที่เก็บโต๊ะ และด้วยความที่ร้านมันเล็กและเสียงก้องทำให้เสียสุนทรียภาพในการทานไปพอสมควรค่ะ
• การเดินทางคงต้องมีรถถึงจะสะดวกมาสาขาสุขุมวิท 20 นี้ค่ะ ถ้าไม่มีรถไปสาขา Siam Center ดีกว่า
• ราคาเค้กถือว่าแพงกว่าร้านทั่วไปอยู่เหมือนกัน มี Service Charge 10% ด้วยค่ะ
• รสชาติของเค้กถือว่าเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ในการทานเค้กดีค่ะ

Gallery จากร้านLet Them Eat Cake

[Show slideshow]

12►

ข้อมูลทั่วไปของร้านLet Them Eat Cake

ที่อยู่ Let Them Eat Cake : ซอยสุขุมวิท 20 อาคาร ชั้น G โครงการ Mille - Malle ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110
เบอร์โทรศัพท์ Let Them Eat Cake :026634667
เว็บไซต์ :http://www.facebook.com/letthemeatcakebkk
วันและเวลาเปิดปิดทำการ :เปิดทุกวัน เวลา 10.00 - 23.00 น.
การเดินทาง Let Them Eat Cake :
- จากBTS ลงที่สถานีพร้อมพงษ์ แล้วเดินย้อนกลับมาทางสถานีอโศกประมาณ 600 เมตร เข้าซอยสุขุมวิท 20 ประมาณ 300 เมตร โครงการ Mille-Malle จะอยู่ทางด้านขวามือ ก่อนถึงร้านครัวเจ๊ง้อ |- รถส่วนตัว สามารถมาได้สองทาง คือถนนสุขุมวิท เข้าซอยสุขุมวิท 20 หรือถนนพระราม 4 ใช้เส้นทางลัดเข้าซอยสุขุมวิท 22 (จุดสังเกตคือปากซอยจะมีปั๊มเอสโซ่) และเลี้ยวซ้ายที่ซอยสายน้ำทิพย์ 1 เมื่อผ่านร้าวครัวเจ๊ง้อแล้ว โครงการ Mille-Malle จะอยู่ด้านซ้ายมือ
ที่จอดรถ : บริเวณลานจอดรถของร้าน Let Them Eat Cake ด้านหลังร้านและชั้นใต้ดิน