รีวิวโดนใจ >> ห้องอาหาร Espresso กับ Sunday Brunch ที่โรงแรม Intercontinental ราชประสงค์
ถ้าพูดถึง Espresso (เอสเพรสโซ่) หลายๆ คนก็คงได้กลิ่นกาแฟหอมๆ ลอยมาตามลม และรสชาติขมติดลิ้นที่ตรึงใจคนที่ชอบความเข้มข้น แต่ครั้งนี้ออฟไม่ได้พามารีวิวร้านกาแฟค่ะ แต่ Espresso ในวันนี้เป็นห้องอาหารของ โรงแรม Intercontinental ราชประสงค์ ซึ่งครั้งนี้ได้รับเชิญให้มารีวิวในวันที่เป็น Sunday Brunch ซะด้วยค่ะ มื้อนี้จะอิ่มอลังการกันขนาดไหนไปตามกันได้เลยค่ะ
บรรยากาศของห้องอาหารEspresso
ห้องอาหารนี้อยู่ที่ชั้นล็อบบี้ ของโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัลค่ะ ครั้งนี้ไผ่ขับรถมา ซึ่งจริงๆ ออฟว่ามาทางรถไฟฟ้า BTS น่าจะสะดวกกว่าค่ะ เพราะว่าลงสถานีชิดลม แล้วก็เดินสวยๆ เข้าโรงแรมผ่านทางเชื่อมมาเลย ไม่ต้องมาวนรถไปจอดให้ปวดหัวเล่น
บรรยากาศของห้องอาหารนี้จะเป็นแนวหรูๆ และเป็นทางการหน่อยค่ะ ด้วยการจัดตกแต่งของทางโรงแรม และองค์ประกอบอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะและเก้าอี้ด้วย
โซนที่นั่งจะเป็นรูปตัวยู (U) ล้อมรอบไลน์อาหารค่ะ ดังนั้นออฟคิดว่าโต๊ะไหนๆ ก็ห่างจากไลน์อาหารไม่ต่างกันมากนัก แถมที่นี่มีดนตรี Jazz มาเล่นให้ฟังแบบเบาๆ เคลิ้มๆ ไปด้วยค่ะ งานนี้คนอยากจะฟังดนตรีใกล้ๆ ก็เลือกโต๊ะใกล้เวที คนที่อยากจะเดินบ่อยๆ แล้วไม่อยากเหนื่อยก็เลือกใกล้ไลน์อาหารได้เลยค่ะ
เมนูของห้องอาหารEspresso
ห้องอาหารนี้เป็นห้องอาหาร International Buffet ค่ะ โดยส่วนที่เป็น Sunday Brunch นั้นจะมีวันอาทิตย์ตั้งแต่ 11:45 จนถึง 15:00 โดยมีราคาต่อหัว 1,869++ บาทโดยรวมน้ำและน้ำชาแล้ว แต่ถ้าใครอยากจะดื่มเครื่องดื่มเพิ่มเติมเค้าก็มี package น่าสนใจให้ด้วยค่ะ
ทางเข้าของห้องอาหาร Espresso
เข้ามาจุดแรกจะเป็นน้ำอมฤตค่ะ อันนี้เค้าก็จะเอาหินต่างๆ มาใส่ในน้ำให้ดื่มกันตามความเชื่อ อันนี้ก็แล้วแต่ศรัทธาเลยนะคะ ออฟลองดื่มแล้วถ้าเอาตามหลักวิทยาศาสตร์ ก็เป็นน้ำเปล่าดีๆ นี่เองค่ะ ไม่มีสี ไม่มีกลิ่นและไม่มีรส
โซนสลัดของห้องอาหาร Espresso
ต่อกันด้วยเมนูผักเบาๆ รองท้องกันก่อน โดยที่นี่จะมีสลัดแบ่งเป็น 3 โซนติดๆ กัน โดยอันแรกจะเป็นสลัดผักตามใจ(คนกิน)ชอบ อันนี้ที่สองเป็นซีซาร์สลัด
ส่วนโซนสุดท้ายเป็นโซนสลัดตามใจ(คนทำ)ชอบ ซึ่งอย่างหลังนี่ก็มีตัวเลือกให้เยอะทีเดียวค่ะ เลือกกันไม่ไหวเลยทีเดียว
แต่ละเมนูนี่จะมีทั้งแบบที่อยู่ในแก้วไวน์ ที่สวยเก๋ แต่แอบกินยากเล็ก หรือบางอย่างก็อยู่ในจานที่ให้เราตักได้ตามใจชอบค่ะ
ข้างๆ กันมีตู้ Cold Cut ด้วยนะคะ ก็ถือว่ามีให้เลือกเยอะทีเดียวค่ะ
โซนอาหารซีฟู๊ดของห้องอาหาร Espresso
ต่อด้วยด้วยโซนโปรดของใครหลายคน ดูภาพมุมกว้างจะเห็นว่าโซนซีฟู๊ดของที่นี่เรียงกันเป็นแนวนอน ซึ่งมีการเรียงอาหารทะเลแบบมีระเบียบและกระจายความเบียดคนได้ดีค่ะ เริ่มจากซ้ายสุดจะมีกุ้งกระดานที่ผ่าครึ่งทำให้ทานได้ง่ายค่ะ
ข้างกันเป็นกุ้งลวกมาแล้ว
ตรงกลางเป็นหอยแมลงภู่ตัวใหญ่ๆค่ะ
คนที่ชอบทานปูก็ไม่ต้องกลัวนะคะเพราะมีปูอลาสก้าให้กินไม่อั้นด้วยค่า
แล้วด้านในก็ยังมีโซนหอยนางรมตัวโตๆ เรียงมาเต็มๆ ให้ตักได้ไม่อั้นด้วยค่ะ
โซนอาหารญี่ปุ่นของห้องอาหาร Espresso
โซนอาหารญี่ปุ่นกันบ้าง โซนนี้ก็มีเชฟประจำการ โดยในตู้ก็จะมีปลาเรียงรอให้โดนหั่นอยู่ ส่วนด้านบนก็จะมีโรลในแบบต่างๆ พร้อมให้เลือกสรรกันค่ะ
นอกจากนี้ก็ยังมีข้าวปั้นปลาหน้าต่างๆ ให้เลือกหยิบ หรือสั่งกันได้ด้วยนะคะ โดยรวมรสชาติและการปั้นถือว่ากลางๆค่ะ
โซนพาสต้าของห้องอาหาร Espresso
โซนพาสต้านี่จะอยู่ตรงกลางของโซนของร้อนและอาหารนานาชาติค่ะ โดยโซนนี้ก็เป็นโซนที่ให้เราสามารถเลือกสั่งเมนูพาสต้าให้ได้ตามใจชอบเลย โดยครั้งนี้ที่ลองทานเป็นสปาเก็ตตี้คาโบนาร่าที่ทานแล้วนมไปหน่อยค่ะ แล้วก็เป็นราวิโลลี่ซอสมะเขือเทศ อันนี้ก็โอเคอยู่ค่ะ
โซนของร้อนของห้องอาหาร Espresso
จริงๆ แล้วออฟรู้สึกว่าโซนของร้อน หรืออาหารที่อยู่ในหม้อของที่นี่ทำให้ดีทีเดียวค่ะ เพราะส่วนใหญ่แล้วอาหารในหม้อแบบนี้จะมีความแห้งและทานแล้วจะไม่ค่อยอร่อย แต่ที่นี่ต่างไปเลยค่ะ จะเห็นได้ว่าการเลือกเมนูที่มาทำก็มีผลเยอะเหมือนกัน
ขอเริ่มด้วยเมนูเด็ดสูตรลับของเชฟกันก่อนเลยค่ะ เมนูนี้เป็นแกะอบที่เรียงตัวกันสวย ทางแล้วรสชาติเข้มข้นดีค่ะ
ต่อกันด้วยสตูเนื้อ
เมนูที่ออฟชอบมากเป็นปูนิ่มผัดพริกค่ะ อันนี้อร่อยกลมกล่อมดีทีเดียว ไม่เผ็ดมากด้วย
เมนูกราแตงนี่ก็ทำเป็นถ้วยเก๋ๆ ทานได้ง่าย และสวยงามดีค่ะ
ยำกุ้งนึ่งนี่ก็เด็ดใช่ย่อยช่วยตัดรสเลี่ยนจากเมนูอื่นๆ ได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ
โซน Grill ของห้องอาหาร Espresso
ต่อกันด้วยโซนห้องกระจกกันบ้าง ขอเริ่มด้วยโซนของย่างกันก่อนเลยค่ะ ด้านหน้ากระจกจะมีเนื้อสัตว์ต่างๆ ให้เราเลือกไปย่างไม่ว่าจะเป็นเนื้อ กุ้ง ไก่ หมู หรือปลาค่ะ
อันนี้ก็เลือกกันได้ตามใจชอบเลย ออฟว่าเมนูนี้ก็อร่อยดีค่ะ แต่ต้องเอาน้ำจิ้มไปด้วยนะคะ จะช่วยเพิ่มรสชาติได้ดีขึ้นค่ะ
แล้วก็ขอติดโซนของย่างอีกอันนึงเข้าไปด้วยค่ะ อันนี้จะเป็นเนื้อวัวและเนื้อแกะ
ตอนที่ตัดมานี่เนื้อยังแดงๆ อยู่เลยค่ะ รสชาติโดยรวมของเนื้อโอเคดี แต่ออฟชอบสุกกว่านี้อีกนิดนึงค่ะ อันนี้ก็สามารถบอกทางเชฟให้ตัดในส่วนที่ชอบและระดับความสุกได้เลยนะคะ
โซนอาหารจีนของห้องอาหาร Espresso
โซนอาหารจีนของที่นี่ก็โดดเด่นใช่ย่อย เพราะว่ามีทั้งติ่มซำ หมูแดง เป็ดปักกิ่ง รวมไปถึงก๋วยเตี่ยวด้วยค่ะ
ติ่มซำของที่นี่รสชาติใช้ได้เลยค่ะ แล้วเป็ดปักกิ่งก็กรอบดีทีเดียว
Line ของหวานของห้องอาหาร Espresso
ไลน์ของหวานของที่นี่เอาใจคนรักช็อกโกแลตมากๆค่ะ ขอบอกว่ามองไปทางไหนก็เห็นแต่ช็อกโกแลตกันเลยทีเดียว มีให้เลือกหลากหลายด้วยไม่ว่าจะเป็นมูสใส่ถ้วยใสเรียงพร้อมรอให้หยิบ
หรือที่ห้ามพลาดอย่างทรัฟเฟิลหลากรสที่ขอบอกว่าต้องลองทุกอันให้ได้เลยค่ะ
เค้กต่างๆ ก็ทำให้ทานง่ายด้วยเป็นชิ้นในถ้วยเล็กไม่ต้องกลัวเวลาไปตักแล้วเค้กจะไม่สวยค่ะ
แต่สำหรับเค้กก้อนใหญ่ที่นี่ก็มีนะคะ เลือกตักกันได้ตามใจชอบเลยค่ะ
นอกจากนี้สาวๆ ถ้ากลัวแคลอรี่สูงก็เลือกทานผลไม้สดก็ได้ค่ะ
เมนูทรัฟเฟิลที่ออฟชอบมาเป็นเลมอนค่ะ เพราะทานแล้วเปรี้ยวกำลังดี ไม่หวานจนเลี่ยนเกินไป
สำหรับเด็กน้อย หรือผู้ใหญ่ที่ยังอยากเด็กก็มียาสีฟันช็อกโกแลตให้กินเล่นกันด้วยนะคะ แล้วอย่าเพลินกลับบ้านไปกินยาสีฟันทีบ้านนะคะ
รายการเครื่องดื่มที่ทานที่Espresso
เครื่องดื่มของที่นี่เป็นเคาเตอร์ที่มีน้ำผลไม้แช่อยู่ในถาดน้ำแข็งค่ะ ทำให้น้ำไม่จืดและยังเย็นสดชื่นอยู่
ซึ่งออฟก็ลองมาหลายอย่างเลย ไม่ว่าจะเป็นน้ำส้ม น้ำฝรั่ง และน้ำพันช์ค่ะ โดยรวมแล้วชอบน้ำส้มมากสุดค่ะ
ทีเด็ดของห้องอาหาร Espresso
ขอปิดท้ายกันด้วยทีเด็ดของห้องอาหารนี้กันบ้างค่ะ เริ่มด้วยเมนูกุ้งล็อปสเตอร์ตัวยักษ์ใหญ่ที่นอนตัวแดง และถูกผ่ามาให้เราทานได้ง่ายค่ะ จิ้มน้ำจิ้มซีฟู๊ดรสแซ่บซะหน่อย อร่อยเด็ดเลยค่ะ อันนี้คนนึงได้ทานครึ่งตัวนะคะ
เมนูเป็ดย่างของที่นี่ก็ห้ามพลาดค่ะ น้ำซอสราดของเค้าเข้มข้น และเนื้อเป็ดก็นุ่มอร่อยทีเดียวค่ะ
และอีกเมนูเป็นฟรัวกาส์หรือตับห่านกันนี้ก็ชิ้นโตมากๆ ไม่ค่อยคาวเลยค่ะ
บทสรุปจากห้องอาหาร Espresso
- มีวันอาทิตย์ตั้งแต่ 11:45 จนถึง 15:00 โดยมีราคาต่อหัว 1,869++ บาท
- การเดินทางสะดวก เพราะติดรถไฟฟ้า BTS
- ห้องอาหารใหญ่ใช้ได้เลย บรรยากาศของห้องอาหารก็โอเค มีการเล่นดนตรี Jazz กันสดๆ ด้วย
- สรุปรายการ Buffet ที่มีในห้องอาหารมีดังนี้
– อาหารนานาชาติ :ซูชิ ,ซาชิมิ, พาสต้า,ฟรัวการ์, สลัดบาร์,พาสต้า, กราแตง
– อาหารจีน: ติ่มซำ, บะหมี่, เป็ดปักกิ่ง
– อาหารซีฟู๊ด : กุ้ง, หอยแมลงภู่,ล็อปสเตอร์,ปูอลาสก้า,หอยแมลงภู่, หอยนางรม
– ของทานเล่น : ยำต่างๆ, Cold Cut, Cheese
– ของหวาน : เค้ก, มูส ,ทรัฟเฟิล์ ,ขนมไทย ,ไอศกรีม, ผลไม้ไทย
– เครื่องดื่ม : น้ำเปล่า, ชา , กาแฟ,น้ำผลไม้
Gallery จากห้องอาหาร Espresso
ข้อมูลทั่วไปของห้องอาหาร Espresso
ที่อยู่ : 973 อาคาร ชั้นล็อบบี้ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพ ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
สาขา : โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ
เบอร์โทรศัพท์ :026560444
เว็บไซต์ :http://www.intercontinental.com/icbangkok
การเดินทาง Espresso Restaurant โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล :
ใช้ถนนพระราม 1 ตรงไปทางถนนเพลินจิต ผ่านสี่แยกเอราวัณ ให้ชิดซ้ายจะเห็นโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพ อยู่ติดกับห้างเกษรพลาซ่า ห้องอาหารเอสเพรสโซ่ อยู่บริเวณชั้นล็อบบี้ ของโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพ
ที่จอดรถ : ที่จอดรถของโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ
Leave a comment