รีวิวโดนใจ >> Wholly Cow ร้าน Steak Wine Cigar ครบทุกอารมณ์ กลมกล่อมกันที่ซอยอารีย์
Wholly Cow (โฮลลี่คาว) เป็นร้านอาหารที่มีจุดเด่นหลักอยู่ที่ เสต็ก ไวน์ ซิการ์ ซึ่งครั้งนี้ออฟก็ได้รับเชิญมารีวิวที่ร้านนี้พร้อมกับ พีทกินกับพีท ซึ่งตัวร้านอยู่ในอารีย์ ซอย 2 ออฟเดินจากรถไฟฟ้ามาที่ร้านใช้เวลาประมาณ 15 นาทีค่ะ (อันนี้เดินแบบปกติและช้าเล็กน้อย เนื่องด้วยส้นสูง 2.5 นิ้วนี่ไม่อำนวยให้เดินเร็วเท่าไหร่) ร้านที่มีจุดเก่นทั้งสามขนาดนี้จะเป็นอย่างไร ตามไปกับออฟเลยค่า
บรรยากาศของร้านWholly Cow
มาถึงหน้าร้านกันแบบมืดๆ หน่อยค่ะ ด้านหน้าเป็นที่จอดรถ ตรงกลางเป็นส่วนของร้านอาหารที่สว่างสไว ให้เห็นด้านในด้วยกระจกใสที่อยู่รอบๆ
เข้ามาในร้านแล้วก็จะพบว่าร้านตกแต่งเอาไว้แบบเน้นความเรียบหรู ใช้โทนสีน้ำตาลเป็นหลัก โต๊ะที่จัดไว้เป็นทางการเอาเรื่องอยู่เหมือนกันค่ะ ช้อนเล็ก ส้อมน้อย แก้วไวน์ มีดอะไรมากันครบมากๆ แค่เห็นการจัดโต๊ะก็รู้เลยค่ะว่าค่ำคืนที่ทานอาหารที่ร้านนี้จะหรูหราทีเดียว
เมนูของร้านWholly Cow
เมนูของทางร้านก็เริ่มกันด้วยของทานเล่นกันก่อนค่ะ จากนั้นก็ทานซุปร้อนๆ ให้คล่องคอ จากนั้นรองท้องกันด้วยเมนูสปาเก็ตตี้ แล้วค่อยสั่ง Main Dish มาเติมเต็มค่ำคืน จากนั้นปิดท้ายกันด้วยเมนูของหวานที่จะทำให้ฟินกันไปเต็มๆ ระหว่างทานก็สั่งเครื่องดื่มมาทานกันได้นะคะ ที่นี่มีเครื่องดื่มให้ครบเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นคอแอลกอฮอล์หรือไม่ก็มีให้เลือกเพียบเลยค่ะ
การทาน Appetizer ที่ร้านWholly Cow
หอยเชลล์พันเบคอน 280 บาท
หอยเชลล์พันเบคอนเสิร์ฟพอดีคำค่ะ ทานได้ง่าย เต็มปากเต็มคำไปนิด แต่ความเหนียวนิดๆของหอยเชลล์และเบคอนที่เค็มหน่อยก็เข้ากันดีทีเดียวค่ะ แต่ในจานมีน้อยชิ้นไปนิดค่ะ
ปลาหมึกชุบแป้งทอด(Calamari) 150
เมนูที่ดูจะแสนธรรมดาอย่างปลาหมึกชุปแป้งทอด แต่ถ้าได้ทานแล้วจะรู้เลยค่ะว่าแตกต่างจากร้านอื่นอย่างเห็นได้ชัด คงเพราะผงโรยและสูตรแป้งด้วยทำให้รสชาติที่ได้ต่างไปจากที่เคยกินค่ะ
ตับห่าน (Foie Gras) 450 บาท
เมนูที่หรูเริ่ดและเป็นอีกเมนูหนึ่งที่การันตีความจัดเต็มของค่ำคืนนี้ก็คือ ฟัวร์ กราส์ค่ะ เจ้าตับห่านชิ้นโตที่เสิร์ฟมาพร้อมซอส และสลัดผัก ชิ้นนึงเหมาะสำหรับทาน 2 คนค่ะ หรือถ้าชอบจริงๆ จะทานคนเดียวก็ได้ แต่ครั้งนี้ออฟแบ่งกับไผ่ทานแล้วก็ไขมันละลายเต็มปากดีค่ะ แต่สาวๆ อาจจะรู้สึกว่าเยอะไปนิดนึง แต่ซอสที่มาคู่กันก็จะช่วยเพิ่มรสชาติให้เมนูนี้ได้เป็นอย่างดีค่ะ
ซุบข้นกุ้ง (Lobster Bisque) 180 บาท
ซุปข้นกุ้งของทางร้านสีส้มสวยดีค่ะ ตัวซุปเข้มข้นดีทีเดียว ทานคู่กับขนมปังที่ทางร้านให้มาด้วยเข้ากันดีทีเดียว นอกจากน้ำซุปแล้วยังมีเนื้อกุ้งให้เมนูนี้ไม่เหลวจนเกินไปด้วยค่ะ
ซุปครีมหน่อไม้ฝรั่ง (Asparagus) 100 บาท
ส่วนซุปครีมหน่อไม้ฝรั่งนี่ก็เฉยๆค่ะ ไม่ได้โดนเด่นมากเท่าไหร่ แต่ก็ไม่แย่
สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า 200 บาท
สปาเก็ตตี้ที่ได้รับการสั่งมากที่สุดคงจะหนีไม่พ้นเมนูสปาเก็ตตี้คาโบนาร่าที่หลายคนคุ้นหูกันดีอยู่แล้ว ซึ่งทางร้านก็มาในแบบซอสเข้มข้นค่ะ ความหนืดและเข้มของชีสนี่ได้ใจกันไปเต็มๆ เบคอนทอดกรอบกำลังดีเพิ่มความเค็มให้กับเมนูนี้ให้ลงตัวเข้าไปอีก
Angel Olio Seafood 250 บาท
สำหรับออฟที่ชอบเส้นแองเจิลแฮร์เป็นพิเศษอยู่แล้วก็อดไม่ได้ที่จะสั่งเมนูนี้มาทานค่ะ เป็นจานซีฟู๊ดที่ครบเครื่องดีทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นปลาหมึก กุ้ง หอยแมลงภู่ รสชาติเผ็ดนิดๆของพริกแห้งเข้ากันดีกับเส้นและเครื่องซีฟู๊ดค่ะ คนที่ไม่ชอบทานอะไรเลี่ยนๆ เมนูนี้เป็นเมนูแนะนำเลยค่ะ
การทาน Main Dish ที่ร้านWholly Cow
กุ้งแม่น้ำอบชีส (Prawn Thermidor) 580 บาท
มาถึงเมนูอาหารจานหลักของค่ำคืน ก็ลองสั่งกุ้งอบชีสมาลองทานดู ด้วยความที่ตัวร้านเน้นที่สเต็ก เลยมองหาเมนูสำหรับคนที่อยากทานเมนูซีฟู๊ดเป็นอาหารจานหลักกันบ้างค่ะ กุ้งอบชีสทางร้านจะหั่นเป็นชิ้นแล้วค่อยมาอบในตัว มาพร้อมกับข้าว ซึ่งพอทานแล้วออฟว่าตัวกุ้งอบชีสกับข้าวไม่ค่อยเข้ากันเท่าไหร่ค่ะ เมนูนี้เลยไม่ค่อยโดนใจเท่าไหร่
สเต็กเนื้อพริกไทยดำ โคขุนออสเตรเลีย (Pepper Steak) 750 บาท
สเต็กเนื้อพริกไทยดำที่นุ่มและกลมกล่อมกำลังดี เสิร์ฟมาพร้อมกับมันฝรั่งทอดสูตรของทางร้านที่ออฟชอบมากๆ ทานเล่นจนหมดเลยค่ะ และผักลวกที่มาช่วยลดความมันและเลี่ยนของเนื้อ เมนูนี้ทานแล้วโอเคเลยค่ะ เนื้อนุ่มและไม่เหนียวมากหั่นง่ายดีด้วย
ซี่โครงแกะย่าง (Lambs Chops) 550 บาท
เมนูซี่โครงแกะย่างนี่ทางร้านเสิร์ฟมาพร้อมกับเยลลี่มิ้นต์สีเขียวสดใสค่ะ เมนูนี่คนที่ชอบทานเนื้อแกะอยู่แล้วพลาดไม่ได้ค่ะ ส่วนคนที่ยังไม่เคยลองทานครั้งนี้ขอให้ลองค่ะ เพราะว่าจะหาร้านที่ทำเนื้อแกะแล้วไม่มีกลิ่นสาบและความคาวหาได้ยากจริงๆ และร้านนี้ทำได้ดีทีเดียวค่ะ
เนื้อริบอาย โคขุนออสเตรเลีย (Melt Rib Eye) 650 บาท
เนื้อริบอายจานนี้เป็นเมนูการันตีความอร่อยแบบละลายในปากค่ะ เนื้อชิ้นโตที่ย่างแบบกึ่งสุกกึ่งดิบทำให้เนื้อยังแดงอยู่นิดๆ ทานแล้วไม่เหนียวเลยค่ะ คนไหนจากจัดเนื้อกันแบบเต็มๆขอให้ลองสั่งเมนูนี้ค่ะ ไม่ผิดหวังแน่นอน
การทาน ของหวานที่ร้านWholly Cow
เครปราดซอสส้ม (Crepe Suzette 180) บาท
หลังจากที่ทานของคาวกันไปจนเต็มครบแล้ว ถึงท้องจะใกล้แตกเท่าไหร่ แต่ของหวานก็ขาดไม่ได้ค่ะ ทางร้านมีเมนูที่ออฟคิดว่าสาวๆ น่าจะชอบกันเพราะเป็นเมนูเครปส้ม ซึ่งมีรสชาติเปรี้ยวหวานนิดๆ ตัวเครปนิ่มและนุ่มลิ้นดีค่ะ ทานคู่กับไอศกรีมวานิลาเย็นเข้ากันดีมากๆ
ช็อกโกแลต ซูฟ์เฟล (Chocolate Souffle) 180 บาท
เมนูช็อกโกแลตซูเฟ่ล์ ของทางร้านก็ทำออกมาได้น่าทานมากๆค่ะ เนื้อเค้กชุ่มฉ่ำด้วยช็อกโกแลต ขมกำลังดี ทานร้อนๆ ตัดกับไอศกรีมวานิลาเย็นๆ มันเกิดมาคู่กันจริงๆค่ะ
รายการเครื่องดื่มที่ทานที่ร้านWholly Cow
Wholly Cocktail 280 บาท
เครื่องดื่ม Signature ของร้านสำหรับคอค็อกเทลที่ห้ามพลาดค่ะ เยลลี่ที่อยู่ด้านล่างจะหวานๆ ทานคู่กับคอกเทลสีฟ้าที่แรงหน่อย แต่ก็อร่อยดีค่ะ
Go Green 95 บาท
เมนูสีเขียว ที่มาในแก้วทรงสูงนี่ รสชาติสำหรับคนชอบผักมากๆค่ะ
Sex on Koh Samui 95 บาท
ส่วนเจ้าแก้วที่ปักร่มใส่สับปะรดมานี่ ก็เห็นบรรยากาศของทะเลลอยมาลิบๆ แล้วค่ะ สีเขียวสดใสดีทีเดียวค่ะ
Cinderella 95 บาท
เมนูที่ออฟสั่งเป็นซินเดอเรลล่าค่ะ สั่งเพราะชื่อล้วนๆ ส่วนหน้าตาของเครื่องดื่มที่ได้ก็น่ารักทีเดียวค่ะ เมนูไม่มีแอลกอฮอล ฉาบขอบแก้วด้วยน้ำตาล เวลาทานจะได้หวานนิดๆ ด้วยค่ะ
B-52 250 บาท บาท
เมนูแรงๆ ที่พนักงานมาจุดไฟให้พุ่งแรงสมเป็นชื่อรถแข่ง เมนูนี้ขอไม่ชิมเลยค่ะ กลัวกลับบ้านไม่ไหว เพราะแรงเอาเรื่อง
Red Wine 200 บาท
เนื่องด้วยทางร้านมีห้องไวน์ ก็เลยได้ไวน์มาลองด้วยค่ะ ทานแล้วนุ่มดี แต่ไม่กล้าทานเยอะ เดี่ยวไม่รอด
Grappa Bianca 180 บาท
ห้องไวน์ของร้านWholly Cow
ในร้านด้านในจะมีห้องไวน์เอาใจคอนักดื่มทั้งหลายค่ะ ด้วยราคาที่หลากหลายทำให้คนที่อยากจะเริ่มลองทานไวน์ หรือเป็นมือโปรอยู่แล้ว สามารถหาไวน์ของตัวเองได้ตามใจชอบเลยค่ะ
ห้องซิการ์ของร้านWholly Cow
สำหรับส่วนของซิการ์ เนื่องด้วยทางร้านคำนึ่งถึงความต้องการของลูกค้าที่อยากจะมีความเป็นส่วนตัวและสูบซิการ์ก็เลยมีขายซิการ์ให้และมีห้องที่แยกเป็นสัดส่่่วนโดยเฉพาะค่ะ
ใบเสร็จจากร้านWholly Cow
บทสรุปจากการทานที่ร้านWholly Cow
- เป็นร้านที่ค่อนข้างหรู และราคาก็มีระดับ ดังนั้นถ้ามาในโอกาสสำคัญ หรือการเฉลิมฉลองร้านนี้ก็เป็นตัวเลือกที่ดีค่ะ
- เมนูอาหารมีให้เลือกหลากหลายดี ยิ่งเครื่องดื่มนี่มากันครบเลยค่ะ
- เมนูเนื้อของที่นี่ไม่ทำให้ผิดหวังเลยค่ะ นุ่มลิ้นและละลายสมราคามากๆ
- ชอบของหวานของร้านมากๆค่ะ อร่อยดีทีเดียว
Gallery จากร้านWholly Cow
ข้อมูลทั่วไปของร้านWholly Cow
ประเภทร้าน : ร้านสเต็กเฮ้าท์ ,ไวท์บาร์ Steakhouse, Wine bar
เวลาเปิดปิด : เปิดทุกวัน 11.00 - 14.30 and 17.30- 22.30
Tel : 02-6198177
Address : 34/1 ซอยอารีย์ 2 สามเสนใน พญาไท กรุงเทพ 10330
การเดินทาง: ร้าน Wholly Cow อยู่อารีย์ซอย 2 ตรงข้ามเยื้องกับสานักงานเขตพญาไท ใกล้รถไฟฟ้า BTSอารีย์
หากขับรถยนต์มา ให้เข้าซอยพหลโยธิน 5 (ราชครู) แล้วเลี้ยวมาซอยอารีย์ 2 (ทางวันเวย์)
ที่จอดรถ: จอดภายในร้าน 10 คัน และบริเวณหน้าร้านอีก 20 คัน
Join Us on Facebook http://www.facebook.com/whollycow.bangkok
map :
Leave a comment