[ภูเก็ต] ท่องเที่ยวภูเก็ต เขาตะปู เขาพิงกัน เกาะปันหยี พังงา

08.45 น.     รถออกเดินทางจากภูเก็ต มุ่งหน้าสู่พังงา

เช้า วันนี้เนื่องจากที่พักมีห้องน้ำห้องเดียวทำให้พื่อนหลายคนที่ไม่อาบน้ำตอน เช้า ออฟตื่นตั้งแต่ประมาณ 6 โมง กว่าจะอาบน้ำแต่งตัวและเตรียมตัวกันก็ใช้เวลาหลายอยู่ ขนาดที่ออฟออกไปเดินเล่นที่หาดในยาง ซึ่งอยู่ใกล้กับที่พักมากๆ เดินไปประมาณ 10 นาทีเท่านั้น เดินไปถ่ายรูปและเดินเล่นกันกับ เปิ้ล ไผ่ จิโรจ และน้องแก่ง กลับมาเพื่อนบางคนก็ยังไม่ตื่นเลย

09.45 น. ชมวัดสุวรรณคูหาและนมัสพระพุทธไสยาสน์

ถึง จังหวัดพังงา ชมวัดสุวรรณคูหา หรือวัดถ้ำ มาถึงก็เจอน้องลิงเยอะแยะมากมายไปมดมาต้อนรับข้างหน้าตั้งแต่ลงจากรถเลยที เดียว แม่ค้าที่นี่ก็อินเตอร์มากๆ หลังจากที่พยายามฟังกันอยู่นานว่าเค้าพูดว่าอะไร จนได้ใจความว่า “Banana Peanut for monkey” แต่เพื่อนๆ ที่ไปกันก็ไม่มีใครซื้ออะไรเลย  = =” พอเข้าไปในถ้ำก็ทำการนมัสพระพุทธไสยาสน์ที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดพังงา โดยถ้าเป็นชาวต่างชาติจะต้องเสียค่าเข้าคนละ 20 บาทแต่ถ้าเป็นคนไทยก็ไม่ต้องเสียค่าเข้า แล้วแต่ให้บริจาค ก็มีธูปเทียนให้ ซึ่งออฟขอบายเรื่องจุดธุปเทียนงานนี้ เพราะว่าข้างในเป็นถ้ำกลัวว่าจะมีควันทำให้อากาศหายใจลำบาก ก็เลยเดินถ่ายรูปชมความงามของธรรมชาติภายในถ้ำส่วนต่าง ๆ ก็เจอค้างคาวด้วย ถึงจะไม่กี่ตัวก็ตาม แถมด้วยหินงอกหินย้อยบนผนังถ้ำที่มีบ้างเล็กน้อย ซึ่งบางจุดก็ยังมีน้ำไหลมาอยู่

10.15 น. ล่องเรือชมธรรมชาติท่ามป่าโกงกาง เขาตะปู เขาพิงกัน

หลังจาก ที่ออกจากวัดก็ออกเดินทางสู่ท่าเรือ ซึ่งก็ใช้เวลาไม่นานนักไม่เกิน 10 นาที ก็เข้าห้องน้ำกันให้เรียบร้อย แบบไม่เสียตัง แล้วก็ใส่เสื้อชูชีพ แล้วก็ไปขึ้นเรือหางยาวเพื่อไปล่องเรือชมธรรมชาติท่ามป่าโกงกางซึ่งก็มีอยู่ ข้างทาง และทิวทัศน์ของภูเขาที่มีรูปร่างคล้าย สัตว์ อาทิ  เขาหัวช้าง, เขาหมาจู ตอนแรกอากาศก็เย็นๆ มีลมพัดให้ชื่นใจ แต่ไม่นานนักฟ้าก็เริ่มครึ้มและฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก กล้องทั้งหลายรวมถึงของมีค่าพวกมือถือก็ต้องเก็บแทบไม่ทัน มีแต่กล้องกันน้ำของแก่งเท่านั้นที่ได้ภาพมา ฝนตกไม่เท่าไหร่ เพราะว่าก็เตรียมเสื้อผ้ากันมาเปลี่ยนอยู่แล้ว แต่ความหนาวยามเเมื่อลมพัดผ่านนั้นเย็นยะเยือกไปถึงทรวงในเลยทีเดียว ตอนที่พอจะพักหายใจกันได้ก็เป็นช่วงที่ผ่านถ้ำลอดชมหินงอก หินย้อย ซึ่งก็ได้เห็นม่านน้ำตก (ฝนจากฟ้า) อยู่รอบๆ แต่พอออกมาก็ตากฝนต่อ จากนั้นชมความมหัศจรรย์ธรรมชาติ เขาตะปู เขาพิงกัน บันทึกความทรงจำกับธรรมชาติ ที่คอยให้สัมผัสครั้งนี้ได้ขึ้นไปเดินดูเขาตะปูในหลายๆมุมเลยทีเดียว ที่นี่มีนักท่องเที่ยวมากันเยอะพอสมควร ส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติซะเป็นส่วนมาก

12.30 น. รับประทานอาหารกลางวัน บริเวณหมู่บ้านกลางน้ำ เกาะปันหยี

พอฝนหยุด ตกท้องก็เริ่มร้อง ก็พอดีกับถึงเวลาที่ได้มาทานอาหารกลางวันที่บริเวณหมู่บ้านกลางน้ำ เกาะปันหยี ซึ่งรู้สึกว่าจะเป็นที่หลักๆที่ทัวร์มาลงกันเยอะมาก แต่ร้านที่ไปกินก็มีคนไม่เยอะ แบบว่าลงจากเรือ เข้าห้องน้ำกันออกมาอาหารก็พร้อมเต็มโต๊ะเลยทีเดียว อาหารเที่ยงวันนี้ก็มี ผัดผัก ต้มยำรวมมิตร ไก่ทอด ผักปลาหมึก และปลาราดพริก ซึ่งอาหารก็รสชาติปานกลาง แต่ด้วยความหิวก็เลยกินกันหมด แถมตามด้วยของหวานอย่างสับปะรด จากนั้นก็เดินไปเลือกชมซื้อสินค้าที่ระลึก และวิถีชีวิตพื้นเมืองของหมู่บ้านกลางน้ำ  โดยออฟก็ได้ซื้อของฝากให้เพื่อนด้วยเป็นสร้อยคอจี้ปลาโลมา เมื่อได้เวลาพอสมควร ออกเดินทางกลับสู่ท่าเรือ

14.00 น. ถึงบริเวณท่าเรือ รถออกเดินทางกลับสู่ภูเก็ต

ตอนกลับ นี่รู้สึกเร็วกว่าตอนมามากๆเลยอ่ะ และเนื่องจากว่าทุกคนตัวเปียกหมดแล้วพอมาถึงบ้านพักก็เลยไปเล่นน้ำทะเลกัน ต่อเลยที่หาดในยาง ซึ่งมีทะเลใสมากๆ ถึงแม้ว่าชายหาดจะมีขยะอยู่บ้าง แบบที่พัดมาจากทะเลมาติดชายฝั่ง เล่นๆ ไปฝนก็ตก ก็เกือบจะเลิกกันไป แต่ว่าซักพักฝนก็หยุดก็เลยเล่นกันต่อ แล้วฝนก็ตกมาอีกหนักมากๆก็เลยต้องกลับกัน

19.00 น. กินติ่มซำที่ร้านสมใจ

หลังจาก ที่เมื่อวานพยายามมาวนหาร้านตั้งนานวันนี้ก็มากินอย่างที่ตั้งใจไว้ ทุกคนก็กินกันไม่อั้นมากๆ เหมือนกับว่าจะกินเป็นบุฟเฟ่เลยอ่ะ ลักษณะจะเป็นติ่มซำถ้วยเล็กมี 2-3ชิ้น ก็เลยเลือกมากินหลายๆอย่าง แถมยังสั่งอาหา่รมากินอีกด้วยเป็นพวกโจ๊กและหมี่ซั่ว ซึ่งราคาก็ไม่แพงมาก ติ๋มซำมี 2 ราคาคือ ถ้วยเล็ก 12 บาท ถ้วยใหญ่ 15 บาท และซาลาเปาลูกละ 8 บาท รวมทั้งหมดเย็นนี้รวมกินทั้งหมด 1366 บาทเลยทีเดียว