รีวิวโดนใจ >> The Glass House มาพร้อมกับบุฟเฟ่ต์ปู Crab is back! ที่โรงแรม Eastin Grand Sathorn
ใครชอบกินปูบ้างยกมือขึ้นค่า คำถามนี้อาจจะทำให้หลายๆ คนยกมือโดยไม่รู้ตัว แต่ด้วยความที่ปูเป็นอาหารทะเลที่มีราคาค่อนข้างแพง แล้วยิ่งถ้าอยากกินปูสดจากทั่วโลกในที่เดียวยิ่งหากยากไปใหญ่เลยใช่ไหมคะ แต่ตอนนี้ทางห้องอาหาร The Glass House (เดอะ กลาส เฮ้าส์) ของโรงแรมอีสติน แกรนด์ สาทร จึงขอจัดหนักโดยการออกโปรโมชั่น บุฟเฟ่ต์ปู Crab is back! ที่รวบรวมปูสดจากทะเลทั่วโลกมาให้เลือกทานแบบไม่จำกัด ทั้งแบบเสิร์ฟบนน้ำแข็ง แบบนึ่งร้อนๆ พร้อมน้ำจิ้มสูตรเด็ด และแบบปรุงรสเป็นสารพันเมนู ซึ่งครั้งนี้ออฟก็ได้รับเชิญให้ไปรีวิวบุฟเฟ่ต์ปูมาให้ทุกๆคน ด้วยค่า
การเดินทางไปThe Glass House
ครั้งนี้มารีวิวกับไผ่ และพี่ออย โดยการเดินทางครั้งนี้มารถไฟฟ้า BTS เช่นเคยค่ะ โดยมาลงที่สถานีสุรศักดิ์ แล้วออกทางออก 4 ซึ่งจะมีทางเชื่อมจากทางสถานีเข้าไปยังโรงแรมอีสติน แกรนด์ สาทร เลยค่ะ
เมื่อเดินเข้ามาแล้วเราจะผ่านห้องอาหาร Chefman ก่อนแล้วก็ค่อยเจอลิฟต์นะคะ ลิฟต์จะอยู่ทางซ้ายมือค่ะ เมื่อเจอแล้วก็กดลิฟต์ขึ้นมาที่ชั้น 5 เลยค่ะ ห้องอาหารเป้าหมายของเราอยู่ที่ชั้นนี่ค่า
บรรยากาศของThe Glass House
ห้องอาหารนี้มีขนาดใหญ่ทีเดียวค่ะ มีโต๊ะและเก้าอี้หลายรูปแบบจัดโต๊ะตามจำนวนคนที่มาทานซึ่งถ้าจองไว้ก่อนเค้าก็จะจัดเตรียมไว้ให้เลยค่ะ
มีโซนที่ติดกระจกให้เราเห็นภาพจากมุมสูงของข้างนอกด้วยค่ะ
การจัดโต๊ะไม่ชิดกันมากเกินไปทำให้คนเดินไปตักอาหารได้สะดวกดีค่ะ
Line อาหารของห้องอาหาร The Glass House
ไลน์อาหารของห้อง The Glass House จะเป็นรูปแบบตัวยูค่ะ โดยมีพื้นที่ในการตักอาหารและเดินค่อนข้างกว้างไม่ต้องเบียดกันดีค่ะ
แต่ละโซนจะอยู่ติดๆ กันทำให้ไม่ต้องเดินไกลมากค่ะ จานสำหรับใส่อาหารจะอยู่ชั้นด้านล่างของเคาเตอร์วางอาหารค่ะ
โซนอาหารซีฟู๊ดของห้องอาหาร The Glass House
ขอเปิดตัวอาหารในห้องอาหารนี้กับเมนูปูทั้งหลายกันก่อนเลยค่ะ โซนแรกที่มานี้เป็นอาหารซีฟู๊ดบนน้ำแข็ง ซึ่งหลักๆ ก็มีปู กุ้ง หอย และปลาหมึกค่ะ
แต่ละจานเค้าจะจัดของทะเลทั้งหลายมาแบบเต็มที่ค่ะ พูนๆ กันไปเลย ปูทะเลยักษ์ทั้งจากอเมริกาและยุโรป ปูสีน้ำตาลแอตแลนติก ปูทะเล ปูม้า ปูเนื้อ
ปูอลาสก้านี่เค้าก็ทำมาให้กินง่ายด้วยการหั่นเป็นชิ้นเล็กๆค่ะ แต่จริงๆ ถ้าผ่ากลางมาให้ด้วยจะเยี่ยมมาก แต่สามารถขอที่บีบปูได้นะคะ
ปูสีน้ำตาลแอตแลนติก
ปูม้า
กุ้งนี่ลวกแล้วค่ะ
หอยแมลงภู่
ปลาหมึกนี่ก็แบบลวกแล้วเหมือนกันค่ะ
สำหรับโซนของนึ่งนี่ก็มีปูหลายๆ อย่างอยู่ในซึ้งนึ่งค่ะ เค้ามีเรียงกัน 2 อัน แต่ละอันใหญ่มากๆ เลยค่ะ
โซน Cold Cut ของห้องอาหาร The Glass House
ข้างๆ กับอาหารซีฟู๊ดก็จะเป็นเมนู Cold Cut ทั้งหลายค่ะ
แต่ละจานเค้าจะจัดมาแบบพับครึ่งเป็นสามเหลี่ยมแล้วเรียงกันเป็นชั้นๆ ค่ะ ซึ่งออฟว่าแบบนี้ก็ทำให้ตักได้ง่ายกว่าเรียงมาแบนๆ
มีหลายเมนูที่น่าลองทานเลยทีเดียวค่ะ
โซนของทานเล่นห้องอาหาร The Glass House
ของทานเล่นที่อยู่ติดกับ Cold Cut นั้นก็จัดใส่ถ้วยขนาดเล็กพอดีคำดีค่ะ
การจัดวางก็ลงตัวมีระเบียบดีค่ะ โดยมีทั้งถ้วยแบบทรงต่ำ ช้อนใส่ทาร์ตทูน่า แก้วทรงสูง ทำให้มีมิติดีค่ะ
โซนของร้อนของห้องอาหาร The Glass House
โซนของร้อนนี่ถือว่าเอาใจคนรักปูเช่นเดียวกันนะคะ ขนาดข้าวของที่นี่ยังเป็นข้าวผัดปูเลยค่ะ
หมูอบลูกพรุน
ปูจ๋า
ปูผัดสไตล์สิงคโปร์
สเต็กแซลมอนเนื้อปู
ห่อหมกปู
โซนของทอดของห้องอาหาร The Glass House
ของทอดก็มีจัดเป็นโซนพร้อมไฟให้ความร้อนเป็นสัดส่วนดีค่ะ เทมปุระปูก็อยู่ตรงนี้นะคะ
ขนมจีบทอด
เปาะเปี๊ยะทอด
ปูนิ่มชุบเกล็ดขนมปังทอด
โซนอาหารไทยของห้องอาหาร The Glass House
อาหารไทยก็มีจัดเป็นโซนไว้เช่นกันค่ะ โดยจะมีการใช้ฐานสีดำ แล้วอาหารอยู่ในจานสีขาวจัดเป็นระดับทำให้ตักได้ง่าย และมองเห็นอาหารทุกอย่างจากมุมสูงได้สะดวกดีค่ะ
เมนูอาหารไทยที่คุ้นเคยอย่างลาบหมู
ข้าวเกรียบปากหม้อ พร้อมผักอยู่ข้างๆ
เมนูนี้ไม่เคยเจอทีไหนเลยค่ะ น้ำพริกปลาทู พร้อมผักเครื่องเคียงทั้งลวกและทอด
ยำหมูย่าง
โซนสลัดของห้องอาหาร The Glass House
เมนูสลัดก็มีโซนผักสดและน้ำสลัดหลายอย่างให้เราเลือกทานเอง
หรือจะตักสลัดที่เค้าทำไว้ให้แล้วก็ได้ค่ะ
สลัดทูน่า
สลัดกุ้ง
โซนอาหารบาร์บีคิวและพาสต้าของห้องอาหาร The Glass House
เมนูอาหารบาร์บีคิว, ของย่าง และพาสต้าจะอยู่ติดกับของร้อนค่ะ อันนี้มาเลือกให้เค้าย่าง หรือจะเอาอาหารซีฟู๊ดมาให้เค้าปรุงรสตามใจชอบก็ได้ค่ะ
โซนอาหารญี่ปุ่นของห้องอาหาร The Glass House
อาหารญี่ปุ่นก็มีข้าวปั้นหน้าต่างๆ และซาชิมีให้เลือกกันหลายอย่างทีเดียวค่ะ
ข้าวปั้นก็มีทั้งแซลมอน ไข่หวาน กุ้ง ซาบะ และก็มีโรลอีกหลายแบบเลยค่ะ
ซาชิมิก็มีปลาแซลมอน ปูอัด ซาบะ หั่นเป็นชิ้นหนากำลังดีค่ะ
Line ของหวานของห้องอาหาร The Glass House
ของหวานของที่นี่มีสองโซนด้วยกันค่ะ ส่วนแรกจะเป็นของที่จัดมาในถ้วยและพวกไอศกรีมค่ะ
มะม่วงชีสเค้ก
ผลไม้รวมในน้ำเชื่อม
เยลลี่
ทาร์ตผลไม้
ทูโทนช็อกโกแลตมูส
ทีรามิสุ
เอแคร์
มูสมะม่วง และเครมบูเล่
ไอศกรีมโฮมเมดมีสามรสได้แก่เสาวรส ช็อกโกแลตและวานิลา โดยข้างๆกันจะมีท็อปปิ้งต่างๆ พร้อมซอสให้ใส่เพิ่มค่ะ
ข้างไอศกรีมมีพุดดิ้งช็อกโกแลตอยู่ด้วยค่ะ อันนี้อยู่ในหม้อให้ความร้อนด้วย
ส่วนอีกโซนนึงจะเป็นโซนฟองดูค่ะ
ของที่นี่จะเป็นไวท์ช็อกโกแลตและผลไม้แห้งมากมายค่ะ
รายการอาหารที่ทานที่The Glass House
เมนูหลักๆ ที่ทานกันวันนี้ส่วนใหญ่จะเป็นปูต่างๆค่ะ จากการทานออฟรู้สึกชอบแบบนึ่งมากกว่าแบบบนน้ำแข็ง
น้ำจิ้มซีฟู๊ดของที่นี่ก็จัดจ้านใช้ได้เลยค่ะ
พวกของร้อนต่างๆ ก็อร่อยและรสชาติลงตัวใช้ได้ค่ะที่ชอบมากเห็นจะเป็นปูอบชีสค่ะ
ของทอดก็ทานเล่นกันเพลินๆ ดี
ซาชิมิก็สดดีคะ
ที่ไม่ค่อยโอเคเห็นจะเป็นรสชาติของพาสต้าโดยตัวพาสต้าผัดสไปซี่พริกและกระเทียมอันนี้เผ็ดอย่างเดียวจนกินไม่ได้เลยค่ะ
ส่วนเส้นดำแบบครีมซอสก็มีรสชาติของนมมากไปหน่อย
เมนูหอยอบชีสนี่ก็ห้ามพลาดค่ะ
เมนูเนื้อย่างนี่ก็ไม่แห้งดีค่ะ
บาร์บีคิวรสชาติโอเคเลย
ซุปมีทั้งซุปครีม และต้มยำกุ้งค่ะ โดยรวมโอเคดี
ของทานเล่นของที่นี่ก็กินได้ง่ายดีค่ะ
เมนูของร้อนที่ชอบอีกอันก็เป็นเมนูปูผัดสไตล์สิงคโปร์ค่ะ
ปูจ๋าก็ทานง่ายดี ข้าวผัดก็แห้งดีค่ะ
รายการของหวานที่ทานที่The Glass House
เมนูของหวานนี่ต้องเผื่อท้องเอาไว้เยอะๆ เลยนะคะ เพราะเค้ามีตัวเลือกเยอะมาก ออฟชอบกินผลไม้รวมในน้ำเชื่อมมากค่ะ ทารต์ผลไม้นี่เปียกไปหน่อยแต่รสชาติยังโอเค
ไปเลือกตักแต่อันที่ชอบก่อนเลยค่ะ
ไอศกรีมของที่นี่ก็อร่อยค่ะ แต่แข็งมาก ต้องให้พนักงานช่วยตักให้
เมนูเครมบูเล่ก็หวานกำลังดี แอปเปิ้ลครัมเบิ้ลก็กรุบๆ ดีค่ะ พี่ออยชอบกินมูสมะม่วงมากๆ
ออฟลองไอศกรีมเสาวรสก็โอเคค่ะ ไม่เปรี้ยวจัดมากหนุ่มๆ ทานได้ค่ะ
ช็อกโกแลตพุดดิ้งนี่ราดซอสวานิลาหรือสตอเบอร์รี่ก็เข้ากันดีค่ะ แต่เนื้อแห้งไปนิด
รายการเครื่องดื่มที่ทานที่The Glass House
ปิดท้ายกันด้วยเมนูชาร้อนๆ ก่อนกลับปิดท้ายลงตัวดีค่ะ
บทสรุปจากการทานที่The Glass House
- เทศกาลบุฟเฟ่ต์ปู Crab is back ได้แล้ว ทุกวันศุกร์ และ วันเสาร์ เวลา 18.00 – 22.00 น. ตั้งแต่ 1 เมษายน ถึง 31 สิงหาคม 2556 เพียงท่านละ 1,599 ++ บาท เด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี ลด 50% แฟนเพจของโรงแรมรับส่วนลด 30%
- มีเมนูปูให้เลือกหลายอย่างเลยค่ะ ที่แตกต่างจากที่อื่นคือมีแบบนึ่งด้วย ซึ่งออฟชอบแบบนึ่งมากกว่า
- ของร้อนของที่นี่ก็เอาปูมาใส่ไว้ในเกือบทุกอย่างเลยค่ะ ถือว่ากินปูกันให้เต็มที่ไปเลย
- รสชาติอาหารไทยก็จัดจ้านลงตัวดีไม่ว่าจะเป็นลาบ หรือน้ำพริก
- ของหวานมีให้เลือกหลากหลายครบเครื่องมากๆ ไม่ว่าจะเป็นเค้ก, มูส, พุดดิ้ง, ไอศกรีม, ฟองดู, เอแคร์
- ความคุ้มค่าสำหรับคนกินปูนี่ถือว่าโอเคค่ะ มาลุยกันได้เต็มที่เลย แต่ถ้าไม่กินปูนี่อาจจะไม่คุ้มอยู่หน่อย
- การเดินทางสะดวกดีด้วยติดกับรถไฟฟ้าสถานีสุรศักดิ์เลยค่ะ
Gallery ที่The Glass House
ข้อมูลทั่วไปของThe Glass House
ที่อยู่ : 33/1 อาคาร ชั้น 5 โรงแรม อีสตินแกรนด์สาทร กรุงเทพฯ ถนนสาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120
สาขา : โรงแรม อีสตินแกรนด์สาทร กรุงเทพฯ
สำรองที่นั่งได้ที่ โทร 02 210 8100 หรือ อีเมล์ gh@eastingrandsathorn.com
เว็บไซต์ : http://www.eastingrandsathorn.com
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.facebook.com/EastinGrandSathorn
วันและเวลาเปิดปิดทำการ : เปิดทุกวัน และ 18.00 - 22.00 น.
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส BTS สถานีสุรศักดิ์ ให้ลงตรงสถานีแล้วจะเห็นโรงแรมอีสตินแกรนด์สาทร อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสุรศักดิ์ บนถนนสาทรใต้ (การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสุรศักดิ์ มีสะพานเชื่อมต่อโดยตรงจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสุรศักดิ์ เข้าสู่ตัวโรงแรมอีสตินแกรนด์สาทร กรุงเทพฯ) ห้องอาหารThe Glass House อยู่ที่ชั้น 5 ของโรงแรม อีสตินแกรนด์สาทร กรุงเทพฯ
ที่จอดรถ : ลานจอดรถของโรงแรม อีสตินแกรนด์สาทร กรุงเทพฯ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
Leave a comment