รีวิวโดนใจ >> Rabbit in the kitchen เริงร่าอาหารไทย อร่อยแบบต้นตำรับ ณ ใจกลางสยาม

Rabbit_in_the_kitchen_001

Rabbit in the kitchen เป็นร้านน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นานค่ะ ที่มาที่ไปของชื่อได้มาจาก “กระต่ายขูดมะพร้าว” ซึ่งเมื่อก่อนนั้นครัวไทยบ้านไหนก็ต้องมีทั้งนั้น นำมาปรับชื่อให้ดูทันสมัยไฉไลหน่อยๆ คนจะได้จำง่ายเลยกลายมาเป็น “แรบบิท อิน เดอะ คิทเช่น” นั่นเองค่ า โดยครั้งนี้ออฟได้รับเชิญให้ไปลิ้มลองรสชาติอาหารไทยแบบสูตรดั้งเดิม บางเมนูเป็นแบบสูตรชาววัง ที่มาประยุกต์เข้ากับร้านอาหารตกแต่งแนวทันสมัย แถมทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางสยาม ความน่าสนใจของร้านนี้ล้นปรี่เลยคะ ไปดูกันเลยว่าร้านนี้เค้าเป็นยังไงกันบ้าง

บรรยากาศของร้านRabbit in the kitchen

Rabbit_in_the_kitchen_002

ตัวร้านอยู่ใกล้กับ Hard Rock Cafe หาไม่ยากเลย ตัวร้านใหญ่เอาเรื่องเหมือนกัน หาร้านไม่ยาก เพราะป้ายขนาดใหญ่ทั้งด้านบน และด้านหน้าร้านค่ะ โดยเมื่อเข้ามาแล้วจะพบกับร้านดูโปร่งนิดๆ มีการใช้โครงเสาต่างๆ มาทำให้เหมือนกับใต้ถุนบ้านสมัยก่อน และเมื่อสังเกตที่พิ้นที่จะมีอาณาเขตของชานบ้านที่เป็นไม้ด้วยค่ะ
Rabbit_in_the_kitchen_049นอกจากนี้ก็ยังมีการนำ กระต่ายขูดมะพร้าว และครก อันเป็นอุปกรณ์หลักของครัวไทยเพื่อให้ได้รสชาติอร่อยเด็ดมาตั้งเป็นพร็อพอีกด้วยค่ะ
Rabbit_in_the_kitchen_005

มาทานร้านนี้มาได้หลายสไตล์ค่ะ เพราะเค้าจัดที่นั่งไว้พร้อมแล้วไม่ว่าจะเป็นมากันเป็นกลุ่มเพื่อนไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเล็ก กลุ่มใหญ่ หรืออยากจะจัดเลี้ยงย่อยๆ เค้าก็ปิดโซนให้ได้นะคะ โต๊ะที่ทำจากไม้ เก้าอี้สีขาว บนโต๊ะมีกระดาษรองสีขาวและสีดำ จานจัดไว้เรียบร้อยด้วยทิชชู่ และช้อนส้อม ทำให้น่านั่งมากเลยค่ะ
Rabbit_in_the_kitchen_065สำหรับคนที่มาเดี่ยวๆ ก็ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องเขิน ไม่ต้องอายอีกต่อไป เพราะมีโซนที่นั่งริมกระจกแบบแนวๆ เคาเตอร์ให้ได้นั่งชิลล์ดูวิวด้านนอก ทำให้ถึงจะมาทานคนเดียวก็ดูไม่เหงาเกินไปค่า
Rabbit_in_the_kitchen_004

อีกโซนนึงที่ขาดไม่ได้ก็คือโซนของครัวและห้องน้ำค่ะ อย่างหลังนี่เป็นที่โปรดปรานของออฟเป็นพิเศษ เพราะจะหาร้านที่นั่งได้นานๆ และมีห้องน้ำในสยามนี่ช่างหายากเย็นเลยค่ะ ส่วนของครัวนี่เค้าก็มีโซนข้าวคลุกบาร์ให้เราไปเลือกสั่งเมนูข้าวคลุกตามใจชอบได้ด้วยนะคะ

เมนูของร้านRabbit in the kitchen

Rabbit_in_the_kitchen_007

สำหรับเมนูของร้านนี้ออฟว่าแตกต่างจากร้านอาหารไทยอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ เพราะอ่านเมนูแล้วเหมือนกับเปิดโลกใหม่ แบบว่าชื่อนี้คืออะไร อันนั้นคืออะไร ทำไมมีแต่ชื่อเมนูที่ไม่คุ้นเคยเต็มไปหมด หลังจากสอบถามก็ได้ความว่า เค้าได้มีความพยายามในการทำเมนูอาหารไทยที่มีอยู่เดิมในสมัยก่อน แต่เนื่องด้วยอาจจะเป็นอาหารในรั้วชาววัง และหลายๆ เมนูมีส่วนผสมเยอะ ทำให้หลายๆ ร้านไม่ทำขายกันเพราะยุ่งยาก แต่ร้านแรบบิทเค้าจะเอากลับมาให้เราทานกันค่า โดยมีเมนูแนะนำเป็นอาหารไทยที่มีเรื่องเล่าจากตำนานโบราณ ซึ่งปัจจุบันหาทานได้ยาก ไม่ว่าจะเป็น แกงรัญจวน, แกงปู,เส้นใหญ่ต้มยำกุ้งแม่น้ำย่าง, ข้าวคลุกสูตรโบราณ, แกงส้มแก่นคูน – ไข่เจียวกากหมู ข้าวมันไก่หุง
Rabbit_in_the_kitchen_037

ตอนนี้น่าตาเมนูยังไม่มีรูปเพราะเค้ากำลังทำกันอยู่ แต่ก็ไม่ต้องห่วงเท่าไหร่ค่ะ พนักงานที่นี่เค้ามีการเตรียมตัวอย่างดี เป็นพนักงานร้านนี้ได้ต้องผ่านการสอบก่อนด้วยนะคะ สมองปลาทองแบบออฟนี่จำชื่อเมนูอะไรไม่ค่อยได้เลยค่า แต่ถ้าเป็นเมนูหลักๆว่าร้านนี้ขายอะไรบ้างก็พอจะได้นิดหน่อย โดยร้านนี้เค้าก็เน้นไปทางอาหารจานเดียว กินคนเดียวอิ่มค่ะ เพราะจานเค้าใหญ่เอาเรื่อง ซึ่งก็จะมีตั้งแต่ของทางเล่น, เมนูแนะนำ, เมนูอาหารหลัก, ของหวาน และเครื่องดื่ม เรียกได้ว่ามาร้านเดียว กินได้จบคอร์สเลยค่า

รายการอาหารที่ทานที่ร้านRabbit in the kitchen

ขนมจีนกุ้งสด-ทอดมันปลากราย 160 บาท

Rabbit_in_the_kitchen_012ขอเริ่มเปิดตัวเมนูอาหารกันด้วย “ขนมจีน” เมนูอาหารไทยแต่ดันมีชื่อประเทศจีนอยู่ซะงั้น จานนี้ทางร้านจะมีเส้นขนมจีนที่ทำจากแป้งข้าวเจ้าแบบเส้นเล็ก เสิร์ฟทอดมันปลากรายก้อนกลมรสชาติจัดจ้านมาข้างกัน  พร้อมด้วยน้ำราดที่มีส่วนผสมของกุ้งสด และผักหลายชนิดแยกใส่ถ้วยมาให้ เวลาทานก็ให้ตักน้ำราดลงในขนมจีนแล้วก็คลุกเคล้าให้เข้ากันก่อนทานนะคะ
Rabbit_in_the_kitchen_043

รสชาติของจานนี้จะต่างจากรสชาติที่คิดไว้มากๆค่ะ เพราะน้ำราดนี่รสชาติเหมือนน้ำยำมากๆ คือออกแนวมีรสชาติเปรี้ยวนำ หวานตาม มาตัดด้วยรสชาติเผ็ดเครื่องแกงนิดๆของทอดมันทำให้จานนี้ดูเป็นเมนูขนมจีนที่แปลกใหม่และไม่เคยทานที่ไหนมาก่อนเลยค่า

ไก่ซูสี 180 บาท

Rabbit_in_the_kitchen_040

ไก่ซูสี เป็นเมนูไก่ทอดที่หน้าตาดูแสนจะธรรมดา เป็นไก่ทอดใส่มาในกระป๋องสังกะสีที่ดูตัดกันมีกระดาษรองซับมันและมีสีสันจากพริกแห้งสีแดง และกระเพราะกรอบสีเขียวมาตัด แต่เมื่อได้ลิ้มลองแล้วพบว่าเมนูแตกต่างจากที่อื่นเลยค่ะ ตัวเนื้อไก่นั้นมีข้าวอยู่ข้างในด้วยค่ะ เวลาทานเลยจะได้รสชาติความกรอบของหนังไก่ และความเหนียวนุ่มของข้าวและเนื้อไก่ที่อยู่ด้านใน แนะนำให้ทานคู่กับซอสที่เค้าเสิร์ฟมาคู่กันนะคะ ตัวช่วยเพิ่มความอร่อยของจานนี้เลยค่า

ก๋วยเตี๋ยวปู 280 บาท

Rabbit_in_the_kitchen_038

มาถึงอีกเมนูที่หน้าตากับรสชาติไม่ค่อยไปด้วยกันเท่าไหร่ โดยหน้าตาที่ดูจะจืดๆ ไปหน่อยในรูปแบบของเส้นเล็ก ส่วนครีมเข้มข้นที่คลุกเคล้าก็มีส้มอ่อนๆ ส่วนผสมหลักอย่างปูก็ดันไม่มี แล้วยังตกแต่งด้วยแตงกวาด้านบนเรียกได้ว่าจานนี้แทบจะกลืนสีกันไปหมดกับจานเลยค่ะ แต่เมื่อได้ลองทานแล้วรู้สึกได้เลยว่าเมนู “ก๋วยเตี๋ยวปู” มันไม่ใช่รสชาติของก๋วยเตี๋ยวผัดอย่างที่เคยทานซะแล้ว เพราะครีมส้มๆ ที่เห็นอยู่นั่นรสชาติจัดจ้านเผ็ดใช้ได้เลยค่ะ ความคิดที่นึกว่าจานนี้จะเลี่ยนหายไปเลยตั้งแต่คำแรกที่ทาน เนื้อปูล้วนๆ ก็ทำให้ทานได้ง่ายดีไม่ต้องเสียเวลาแกะเองด้วยค่า

ยำเนื้อย่างเสด็จ 180 บาท

Rabbit_in_the_kitchen_011

เมนูนี้เป็นเมนูที่เค้าปรับรูปแบบการทานของเราค่ะ โดยตอนนี้เมนูยำ หรือน้ำตกนั้นจะถูกคลุกเคล้ามาให้เข้ากันแล้ว เรียกได้ว่าเสิร์ฟถึงโต๊ะก็ทานได้เลย แต่สำหรับจานนี้นั้นมีการดึงรูปแบบการทานแบบสมัยก่อนออกมาค่ะ โดยทางร้านแยกส่วนของเนื้อและส่วนผสม จัดจานเรียงสวย แยกน้ำยำเอาไว้ให้เราได้มาผสมเองค่ะ ก็ถือว่ามีกิมมิคของจานกำลังดีค่ะ
Rabbit_in_the_kitchen_046

ส่วนผสมในจานนี้ประกอบไปด้วยเนื้อย่างที่ถ้าดูสีแล้วจะรู้ได้เลยว่าย่างมาสุกกำลังดี ยังไม่แห้งไป ทำให้ทานแล้วไม่เหนียวมาก ส่วนผสมอย่างมะเขือเปราะ, หอมซอย, ตะไคร้ซอย และใบโหระพาที่เคยเขี่ยทิ้งทุกครั้ง เมื่อคลุกเคล้ากับน้ำยำรสกลมกล่อมก็ทานได้เพลินดีค่ะ

แกงกะหรี่ไก่-อาจาด-โรตี 120 บาท

Rabbit_in_the_kitchen_014สำหรับเมนูแกงสีเหลืองนี่เป็นเมนู “แกงกะหรี่ไก่-อาจาด-โรตี” ที่ชื่อเมนูแค่บอกก็รู้แล้วว่าอาหารที่ได้นั้นจะมีอะไรมาบ้าง เริ่มจากแกงกะหรีไก่ที่เข้มข้นมาก ทุกถ้วยทำใหม่เสมอไม่มีของค้าง ทำให้ได้ส่วนผสมที่ลงตัวจากการตวงตามสูตรเป๊ะแกงกะหรี่ไก่ที่เข้มข้นกว่าที่เคยทานที่ผ่านมามากๆเลยค่ะ เหมาะทานคู่กับแผ่นแป้งโรตีแผ่นหน้ากำลังดี เพิ่มรสชาติเปรี้ยวนิดๆ ด้วยอาจาด เมนูนี้ทำเอาเกือบอดใจไม่ไหว จะสั่งข้าวสวยมาทานคู่กับแกงกะหรี่แล้วค่ะ แต่พอระลึกได้ว่าไม่ควรทานเยอะนัก เลยห้ามใจเอาไว้ทัน
Rabbit_in_the_kitchen_042

ข้าวขยำปู 150 บาท

Rabbit_in_the_kitchen_050

เมนูข้าวคลุกที่ทางร้านเค้ามีให้เราเลือกทำเองได้ แต่ก็มีเมนูสำเร็จที่เค้าคิดไว้ให้แล้ว เลือกส่วนผสมความอร่อยไว้ให้แล้ว และถ้าใครจะลองทานข้าวคลุก แต่ไม่รู้จะสั่งอะไร แนะนำให้ลองทาน “ข้าวขยำปู” ค่ะ เมนูนี้ถ้าดูหน้าตาอาจจะรู้สึกว่าส่วนผสมน้อยจังมีแค่ ข้าว ปู และผักตกแต่งเท่านั้นหรอ แล้วจะอร่อยไหม ขอบอกว่าอร่อยค่า รสชาติเหมือนข้าวผัดน้ำจิ้มซีฟู๊ดค่ะ ยิ่งทานกับปูด้วยก็ยิ่งเข้ากัน แล้วเค้าก็มีน้ำจิ้มมาให้เพิ่มด้วย ใส่เพิ่มได้ตามระดับความเผ็ดที่ต้องการเลยค่า

ข้าวคลุก CYO

Rabbit_in_the_kitchen_024สำหรับเมนูที่ออฟไปเลือกเองกับเมือ หรือ ข้าวคลุก CYO (Create Your Own) เลือกตามความอยากทานเลยค่ะ เน้นของอร่อยล้นๆ เต็มจานไม่ว่าจะเป็นข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ ไข่เค็ม ไข่ฝอย กากหมู ชะอมทอดไข่ ปลาทู ผักทอด เรียกว่าจัดมาเต็มจาน แคลอรี่ล้นไปเลยค่า ก็แต่ละอย่างเค้าน่าทานทั้งนั้น ออฟก็รักพี่เสียดายน้อง อยากลองไปหมด เลยได้จานอย่างที่เห็นเลยค่า
Rabbit_in_the_kitchen_052

ขอไล่เรียงความอร่อยตั้งแต่ส่วนของข้าวที่คลุกกับน้ำพริกลงเรือ รสชาติน้ำพริกเผ็ดกำลังดี ทานคู่กับไข่เค็มตัดกันใช้ได้ เพิ่มความกรอบด้วยมะเขือยาวทอด ชะอมไข่ ไข่ฝอย ตบท้ายด้วยกากหมูที่ทอดได้กรอบ มันได้ใจ อร่อยลืมอ้วนไปเลยค่า

เส้นใหญ่ต้มยำกุ้งแม่น้ำ 380 บาท

Rabbit_in_the_kitchen_027

เมนูนี้เป็นเมนูที่ดูจะยังไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่ รสชาติเลยมีความมันของคาร์เนชั่นมากไปหน่อย กลบรสเผ็ด และเปรี้ยวไปเยอะเลยค่ะ แต่ตัวกุ้งใหญ่ใช้ได้เลย ย่างมากำลังดี เนื้อกำลังนุ่มทีเดียวค่า

รายการของหวานที่ทานที่ร้านRabbit in the kitchen

แรบบิทเมซ 120 บาท

Rabbit_in_the_kitchen_056

ของหวานอย่างเมนู “Rabbit Mess” ช่างเป็นเมนูกระต่ายน้อยที่วุ่นวาย แต่ก็หลากไปด้วยผลไม้หลายอย่างผสมกันไม่ว่าจะเป็นเมอแรงค์, ผลไม้สดหลายอย่าง ครีมสด และซอสเสาวรสที่มาเพิ่มความเปรี้ยวตัดเลี่ยนจากครีมสดได้เป็นอย่างดีค่ะ เมนูนี้แนะนำให้ทานตอนกำลังเย็นๆ จะได้ความอร่อยสดชื่นเต็มที่ค่า

ส้มฉุน 90 บาท

Rabbit_in_the_kitchen_060ส้มฉุนเป็นอีกหนึ่งเมนูของหวานไทยๆ สมัยก่อนค่ะ โดยมีที่มาจากกาพย์เห่เรือชมเครื่องคาวหวานสมัย ร.2  ที่เราคุ้นเคยกันดีด้วยบทขึ้นอย่าง “มัสมั่นแกงแก้วตา…หอมยี่หร่ารสร้อนแรง” ซึ่งเป็นช่วงของการกลาวชมอาหารคาวนะคะ โดยในบทพระราชนิพนธ์นี้ก็ยังมีส่วนของของหวานอีกด้วย โดยได้มีการกล่าวถึงส้มฉุนเอาไว้ดังนี้

“ลิ้นจี่มีครุ่นครุ่น…เรียกส้มฉุนใช้นามกร…หวนถวิลลิ้นลมงอน…ชะอ้อนถ้อยร้อยกระบวน”
Rabbit_in_the_kitchen_030

ซึ่งจุดเด่นของของหวานถ้วยนี้ก็คือลิ้นจี่นั่นเองค่า เป็นการนำลิ้นจี่ไปคว้านเมล็ดออก   อบอวลด้วยกลิ่นพิเศษจาก “ส้มซ่า” ผลไม้ตระกูลส้มที่หาได้ยากในสมัยนี้ แล้วใส่ผลไม้ประจำฤดูลงไป ทานคู่กับน้ำเชื่อม เพิ่มความสดชื่น เหมาะกับการเป็นเมนูของหวานในหน้าร้อนมากๆค่า

พานาคอตต้ามะพร้าว 120 บาท

Rabbit_in_the_kitchen_031

สำหรับเมนูของหวานสไตล์ฝรั่งทางร้านก็มีให้เลือกทานนะคะ โดยมีการประยุกต์เอาพานาค็อตต้า ของหวานแนวเนื้อครีมมาเข้ากับมะพร้าวอ่อน ตกแต่งหน้าด้วยผลไม้ประจำฤดู ซึ่งแน่นอนว่าฤดูร้อนปีนี้หรือปีไหน มะม่วงก็ยังชนะเลิศในใจออฟอยู่ดี ทานคู่กันก็เข้ากันใช้ได้อยู่ค่ะ

ขนมสี่ถ้วย 90 บาท

Rabbit_in_the_kitchen_033

ขนมสี่ถ้วย” เป็นขนมไทยที่เมื่อได้ยินชื่อจากร้านนี้ครั้งแรก ก็ติดใจจนกลับมาหาความรู้เพิ่มเติม เลยทำให้รู้ว่าขนมชนิดนี้มีที่มาย้อนไปตั้งแต่สมัยสุโขทัยกันเลยทีเดียวค่า โดย”ขนมสี่ถ้วย” หมายถึง ไข่กบ (เม็ดแมงลัก) นกปล่อย (ลอดช่อง) บัวลอย (ข้าวตอก) และอ้ายตื้อ (ข้าวเหนียว) ซึ่งเวลาทานก็จะทานคู่กับน้ำกะทิค่ะ โดยทางร้านจะแยกมาให้ ใส่ตามความหวานที่ต้องการเลย

Rabbit_in_the_kitchen_062

เวลาทานก็ได้ความแปลกๆดี ไม่เคยกินข้าวตอกเป็นขนมแบบนี้เท่าไหร่ ส่วนที่ชอบสุดของถ้วยนี้เป็นข้าวเหนียวค่ะ นึ่งได้นุ่มดี

รายการเครื่องดื่มที่ทานที่ร้านRabbit in the kitchen

มาการิต้าลิ้นจี่ 90 บาท

Rabbit_in_the_kitchen_044

เมนูเครื่องดื่มแบบมอกเทลที่สีเขียวสดใส อร่อยชื่นใจแถมยังเพิ่มความสดชื่นอีกด้วย แก้วนี้ดูดเพลินเลยค่ะ หวานเย็นกำลังดี กินจนเกลี้ยงแก้วกันเลยทีเดียว ยิ่งมาสไตล์น้ำปั่นด้วยแล้ว ยิ่งดีใหญ่เลยค่ะ เพราะว่าไม่ต้องคอยเขี่ยน้ำแข็ง ได้ดูดความอร่อยเต็มแก้วกันไปเลย

แพสชั่น เฟิร์ท 90 บาท

Rabbit_in_the_kitchen_047

เมนูสำหรับคนที่อยากทานอะไรเปรี้ยวๆ เพิ่มความสดชื่นค่ะ โดยด้านล่างของแก้วจะมีน้ำผึ้ง น้ำมะนาว และเสาวรสอยู่ เวลาทานต้องคนหน่อยนะคะ ไม่งั้นจะหวานเงินไป

ชาไทยเฉาก๊วย 80 บาท

Rabbit_in_the_kitchen_045

สำหรับชาไทยปั่นใส่เฉาก๊วยนี่ก็เป็นเครื่องดื่มดับกระหายคลายร้อนอีกเมนูที่น่าลองค่ะ สีส้มของชาโดดเด่นมากๆ รสชาติหวานกำลังดี ควรทานก่อนที่จะละลายด้วนะคะ เฉาก๊วยเส้นเล็กๆ ก็เพิ่มความสนุกในการทานดีค่ะ

การทานอาหารที่ร้านRabbit in the kitchen

Rabbit_in_the_kitchen_022

การหาร้านอาหารไทย ในสยามเหมือนจะง่าย แต่ก็เป็นโจทย์ที่ยากใช่เล่นค่ะ ยิ่งมีการระบุความต้องการอยากทานอาหารไทยแบบดั้งเดิม ที่ราคาไม่แพงมาด้วยยิ่งไปกันใหญ่ แต่ร้านนี้ถือเป็นตัวเลือกที่ดีเลยค่ะ ยังติดใจหลายเมนูที่อ่านชื่อแล้วจะต้องหาเวลาไปลองอีกให้ได้หลายเมนูเลยค่ะ

บทสรุปจากการทานที่ร้านRabbit in the kitchen

  • เป็นร้านอาหารไทยที่มีเมนูที่ไม่คุ้นหูอยู่เยอะมากๆค่ะ และแต่ละเมนูก็น่าลองทั้งนั้นเลย
  • รสชาติอาหารโดยรวมโอเคนะคะ ชอบแกงกะหรี่ไก่เป็นพิเศษ เข้มข้นได้ใจมากๆ
  • สำหรับของหวานก็ได้ลิ้มลองเมนูดั้งเดิมหลายเมนูด้วยกัน ใครได้ไปลองสั่ง “ส้มฉุน” มาลองทานดูนะคะ
  • บรรยากาศของร้านก็สบาย ใหญ่ และมีหลายโซนให้เลือกดีค่ะ
  • ตัวร้านเดินทางสะดวกเพราะอยู่กลางสยามเลย หาไม่ยาก เพราะใกล้กับ Hard Rock Cafe ด้วยค่ะ
  • ตอนนี้มีโปรโมชั่น Check in  ผ่าน Facebook  รับส่วนลดกันไปเลย  10% ด้วยนะคะ

Gallery จากร้านRabbit in the kitchen

 

ข้อมูลทั่วไปของร้านRabbit in the kitchen

ที่อยู่ สยามสแควร์ซอย 11  ใกล้  Hardrock Cafe, ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กทม 10330
เบอร์ติดต่อ 02-658-4200
ทุกวัน : 10:00 - 22:00
Website : http://www.rabbitinthekitchen.com/
Facebook : https://www.facebook.com/RabbitInTheKitchen

map_rabbit

Leave a comment