รีวิวโดนใจ >> Gyu Gyu Tei (กิวกิวเต้) ร้านปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นกับเนื้อคุณภาพดีการันตีความอร่อย
Gyu Gyu Tei (กิวกิวเต้) เป็นร้านปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นสำหรับคนที่อยากทานเนื้อคุณภาพ และได้รับความอร่อยกันอย่างเต็มที่ค่ะ โดยที่ร้านกิวกิวเต้สาขาบางนาที่ออฟได้รับเชิญไปรีวิวครั้งนี้นั้นไม่ได้เป็นแบบบุฟเฟ่ต์นะคะ ซึ่งจุดนี้อาจจะทำให้ใครหลายคนกลัวที่จะเข้ามาทานได้ แต่ถ้าเป็นคนที่อยากได้คุณภาพจริงๆ ร้านนี้ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอนค่ะ
บรรยากาศของร้านกิวกิวเต้
ตัวร้านอยู่ห่างไกลจากรถไฟฟ้าหน่อย ถ้าคนมีรถและอยู่แถวบางนาน่าจะสะดวกมากค่ะ จริงๆ ออฟก็ผ่านบ่อยเหมือนกัน แต่ก็ยังไม่ได้เข้ามาลองซักที หลังจากที่รู้ว่าไม่ได้เป็นบุฟเฟ่ต์ค่ะ ซึ่งครั้งนี้ก็เลยกระดี้กระด้านหน่อย เพราะเป็นร้านที่เล็งไว้อยู่แล้วด้วยค่า หน้าร้านมีลานจอดรถขนาดใหญ่อยู่ค่ะ ก็จอดกันแล้วก็เข้าร้านไปลุยกันเลยค่า
จริงๆ ออฟมาทานตั้งแต่ 5 โมงกว่าซึ่งก็เป็นช่วงเย็นๆ ยังไม่มีคนมากนัก แต่ก็นั่งทานเรื่อยๆ จนถึงเกือบทุ่มนึงเลยพบว่าพอเริ่มดึกแล้วคนก็เข้ามาเรื่อยๆ เลยค่ะ ในภาพจะเป็นช่วงเย็นแล้ว บรรยากาศเลยดูมืดหน่อย ตัวร้านจะตกแต่งแบบเรียบๆ แต่ดูโปร่ง เพราะเป็นห้องเพดานสูงและโต๊ะไม่ชิดกันมากนัก ตรงกลางเพดานมีโคมไฟประดับตกแต่งอยู่ดูเข้ากับร้านดีค่ะ
เมนูของร้านกิวกิวเต้
เมนูของร้านที่โดดเด่นจากสีแดงของเนื้อที่ผสมผสานลายไขมันไว้อย่างสวยงาม จัดจานเป็นดอกกุหลาบเก๋ดีค่ะ
ด้านในก็มีรูปเนื้ออยู่พร้อมราคา จริงๆ ส่วนนี้ถ้าเพิ่มรายละเอียดของเนื้อแต่ละจานลงไปจะช่วยให้คนสั่ง เข้าใจง่ายขึ้นมากค่ะ แต่ในเมนูก็มี 3 ภาษาแล้วทั้งไทย อังกฤษ และญี่ปุ่น ก็รองรับหลายชาติดีค่ะ โดยราคาก็มีเริ่มตั้งแต่จานละ 250 บาทเป็นต้นไปค่ะ
นอกจากเมนูเนื้อที่เป็นจุดเด่นหลักแล้วก็ยังมีหมูดำคุโรบุตะมาให้เลือกทานอีกหลายเมนูด้วยกันเลยค่ะ
รายการเนื้อที่ทานที่ร้านกิวกิวเต้
กิวกิวเต้ ดับเบิ้ล 1,100 บาท
เมนูที่เป็น Signature ของร้านที่มาแล้วต้องมาโดนซักหน่อย ทั้งความโดดเด่นในการจัดจานเป็นดอกกุหลาบ และคุณภาพของเนื้อสันไหล่ที่ Import เข้า ซึ่งออฟคิดว่าเป็นเมนูเนื้อที่ออฟชอบมากทีเดียวค่ะ หลายๆ คนเห็นราคาแล้วอาจจะตกใจจนไม่กล้าสั่ง แต่ปริมาณของเค้านั้นเหมือนในรูปเลยนะคะ มีเนื้อในจานเยอะอยู่เหมือนกัน ทำให้แอบคิดว่าปกติถ้าเราทานแบบบุฟเฟ่ต์นั้นที่สั่งมาหลายๆ รอบที่ดูเหมือนจะเยอะ ถ้านับชิ้นกันจริงๆ อาจจะไม่ต่างจากสั่งแบบจานอย่างนี้ก็ได้ค่ะ
เนื้อโกเบ 1,000 บาท
ต่อกันด้วยเนื้อสำหรับคนที่ชอบทานแบบชุ่มมันหน่อยๆ เพราะเนื้อโกเบนี่มีลายไขมันแทรกอยู่โดยตลอด โดยเฉพาะส่วนปลายที่เป็นไขมันขาวนวล เสิร์ฟมาโดยการโรยพริกไทย และน้ำมะนาวให้ทานคู่กันค่ะ ในจานลองนับดูแล้ว สิริรวมมี 8 ชิ้นค่ะ แต่ทานแล้วจะลืมเนื้อที่เคยกินมาไปจนหมดเลยค่ะ เป็นเหมือนการยกระดับลิ้นให้ตัวเอง ความนุ่ม และฉ่ำไขมันของเนื้อที่ทานเข้าไปนั้น อร่อยเกินบรรยายเลยค่ะ ถ้าเป็นการ์ตูนคงต้องมีพลังแสงอะไรซักอย่างระเบิดออกมาแล้ว
หมูโทโร่ 200 บาท
กินเนื้อระดับพิเศษกันไปแล้วก็มาดูเมนูธรรมดาที่ไม่ธรรมดากันบ้างค่ะ จานนี้เป็นเมนูหมูสันนอกจานใหญ่ในราคา 200 บาท สไลด์หมูมาเรียงกันสวยงาม เนื้อหมูแต่ละชิ้นขนาดพอดีกัน ทางร้านโรยงาขาวมาให้ด้วยค่ะ เมนูหมูจานนี้ไม่ธรรมดาที่ความนุ่มของเนื้อ ถ้าคนไม่ทานเนื้อก็ไม่ต้องห่วงนะคะ ทางร้านมีเมนูอร่อยอีกหลายอย่าง (แบบจานนี้) มาให้เลือกทานกันด้วยค่า
สันคอหมูดำคุโรบุตะ 700 บาท
หมูดำถือเป็นเนื้อหมูที่ถูกยกระดับความอร่อยให้มากกว่าเนื้อหมูทั่วไปค่ะ โดยของทางร้านก็มีเมนูแยกมาโดยเฉพาะเลย จานนี้จะเป็นเมนูสันคอหมูดำคุโรบุตะ ที่ราดซอสสูตรพิเศษจากทางร้านมาให้แล้ว ทำให้เวลาทานได้รสชาติเข้มข้นแบบที่ไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มเพิมก็อร่อยได้แล้วค่า
ลิ้นวัว
เมนูลิ้นวัวนี่ดูจะเป็นเมนูพิเศษที่หลายๆคนไม่ทานกัน ถึงแม้ว่าจะเป็นคอเนื้อมาเพียงไรก็ตาม แต่ขอบอกว่าลิ้นวัวของที่นี่แตกต่างไปค่ะ ความคาวของเนื้อนั้นน้อยมากๆ รสชาติความกรุบๆของลิ้นก็ทำให้อร่อยกันได้แบบไม่รู้สึกหยึยๆ ถ้าเอาเข้าใจง่ายๆ ก็คือเป็นลิ้นวัวที่ทานได้ง่ายกว่าร้านอื่นค่ะ
เนื้อติดกระดูก 500 บาท
เนื้อติดกระดูกก็เป็นอีกเมนูที่ออฟว่าใช้ได้อยู่เหมือนกันค่ะ ความยาวของเนื้อนั้นก็มีกรรไกรมาเป็นตัวช่วยในการทานด้วยนะคะ ถึงในจานจะมีเนื้อน้อยไปหน่อย (มีเพียง 4 ชิ้น) ซึ่งก็คิดว่าแอบแพงไปนิดสำหรับเมนูนี้ แต่ความอร่อยของเนื้อก็ไม่ทำให้ผิดหวังค่ะ
โจ คะรุบิ 450 บาท
โจคะรุบิ (โจคารุบิ) เป็นเนื้อที่คล้ายกับเนื้อกิวกิวเต้ แต่เป็นคนละส่วนกัน มีไขมันน้อยกว่าหน่อยค่ะ
ริบอาย 400 บาท
เนื้อริบอาย เป็นเนื้อส่วนต้นซีโครงที่ตัดเอากระดูกและเอ็นรอบนอกออกเหลือแต่เนื้อส่วนกลางที่ให้รสชาติดีที่สุด โดยทางร้านก็เสิร์ฟแบบไม่ใส่ซอสให้รับรสชาติของเนื้อเต็มๆ คำ โดยเพิ่มการโรยพริกไทยเข้าไปหน่อยเป็นการเพิ่มความเข้มข้นของแต่ละคำค่ะ
ปลาแซลมอน 400 บาท
ปลาแซลมอนของทางร้านจะเห็นได้ชัดว่าแตกต่างจากร้านปิ้งย่างร้านอื่นๆมากทีเดียว คงเพราะว่าทางร้านมีการราดซอสมาให้แบบชุ่มฉ่ำมากๆ ซึ่งแต่ละชิ้นก็แล่มาชิ้นไม่หนามากนัก ทำให้ซอสแทรกซึมเข้าไป เวลาทานก็เลยได้รับความอร่อยของเนื้อปลาแซลมอนที่เข้ากันดีกับซอสได้อย่างเต็มที่เลยค่ะ
รายการเครื่องเคียงที่ทานที่ร้านกิวกิวเต้
สลัดกิวกิวเต้ 120 บาท
ถ้าจะทานเนื้อกันอย่างเดี่ยวอาจจะเลี่ยนไป ดังนั้นสลัดผักที่มีความหวานหน่อยๆ พร้อมกับความสดของผักก็มาช่วยเติมเต็มมื้อนี้ได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ
เห็ดออรินจิ 80 บาท
เมนูเห็ดที่เข้ากับการปิ้งย่างเป็นอย่างดีอย่างเห็ดออรินจินั้นก็ถูกสไลด์มาเป็นแผ่นบางราดซอสปรุงรสมาด้านบน ย่างแล้วก็ทานนิ่มๆ ดีค่ะ
ซันจุ 110 บาท
ซันจุเป็นเมนูผักสดในน้ำแข็งเพิ่มความสด กรอบและอร่อย ตรงกลางเป็นซอส ที่ออฟขอถือว่าเป็นซอสที่อร่อยสุดในวันนี้เลยค่ะ เวลาทานเนื้อก็สามารถจะทำผักมาห่อและใส่ซอสซันจุเป็นการเพิ่มความอร่อยไปอีกแบบค่ะ
สาหร่ายทะเลเย็น 60 บาท
กิมจิ 70 บาท
ข้าวผัดกระเทียม 50 บาท
ข้าวหอมญี่ปุ่น 30 บาท
รายการของหวานที่ทานที่ร้านกิวกิวเต้
สำหรับของหวานของที่นี่ก็มีทั้งไอศกรีมและเฉาก๊วยนะคะ แต่ครั้งนี้ด้วยความร้อนของเตาก็เลยเลือกสั่งเป็นไอศกรีมแทนค่ะ
ไอศกรีมชาเขียววาซาบิ 65 บาท
ไอศกรีมชาเขียววาซาบิของที่นี่แปลกใหม่แบบที่ออฟไม่เคยเจอที่ร้านอื่นมาก่อน พอสั่งมาลองทานก็ได้รสชาติทั้งชาเขียวและวาซาบิไปพร้อมๆกันดีค่ะ
ไอศกรีมมะม่วง 65 บาท
ส่วนของออฟที่ชอบไอศกรีมผลไม้อยู่แล้วก็ไม่พลาดที่จะสั่งไอศกรีมมะม่วงมาทาน แล้วก็พบว่าความอร่อยนั้นคล้ายกับของ Melt Me เป็นอย่างมากเลยทีเดียวค่ะ
รายการเครื่องดื่มที่ทานที่ร้านกิวกิวเต้
ครั้งนี้สั่งชาเขียวเย็นมาทานกันค่ะ
การทานอาหารที่ร้านกิวกิวเต้
บนโต๊ะจะมีจานและตะเกียบพร้อมกับทีคีบไว้ให้อยู่แล้วนะคะ เตาตรงกลางแบบสี่่เหลี่ยมก็ดูใหญ่ดีค่ะ
เครื่องปรุงน้ำจิ้มก็มีทั้งมะนาวแบบสดแน่นอนเพราะมาเป็นเสี้ยวเลย ถึงจะมือเปื้อนตอนบีบไปหน่อย แต่ก็การันตีความสดแท้ของมะนาวแน่นอนค่ะ นอกจากนี้ก็ยังมีพริกและกระเทียมให้ปรุงรสกันด้วยค่ะ
เนื้อด้วยเป็นเตาสี่เหลี่ยมทางร้านก็คงเรียงถ่านเรียงกันให้ได้มากที่สุด แล้วถ่านก็พอดีกับเตามากๆค่ะ ใส่ได้ 10 ก้อนพอดีเลย
น้ำจิ้มของวันนี้มี 3 อย่างด้วยกัน ถ้าไม่นับซอสซันจุที่ออฟชอบ ก็มีน้ำจิ้มกิวกิวเต้ น้ำจิ้มปิ้งย่าง และน้ำจิ้มแจ่วค่ะ ซึ่งครั้งนี้มากัน 4 คนก็ชอบต่างกันไปหมดเลยค่ะ
เมื่อเนื้อมาเรียงรายเต็มโต๊ะพร้อมทานแล้วก็เริ่มย่างกันเลยค่ะ
เนื่องด้วยเนื้อแบบพรีเมี่ยมเราก็เลยเปลี่ยนรูปแบบการทานจากเดิมที่เคยกินบุฟเฟ่ต์ย่างรวมกันหมด ก็มาเป็นแบบย่างที่ละอย่าง เพื่อการรับรู้รสชาติของแต่ละเมนูได้อย่างเต็มที่ค่ะ
จากนั้นเมื่อย่างได้ที่แล้ว ขอบอกว่าอย่าย่างจนแห้งให้เสียของนะคะ ควรจะดูแลเป็นอย่างดี ประหนึ่งเด็กน้อยเลยค่ะ เมื่อได้ระดับความสุกที่ต้องการแล้วก็ทานได้เลยทั้งแบบไม่จิ้มน้ำจิ้ม หรือจะจิ้มก็อร่อยได้ทั้งคู่เลยค่า
บทสรุปจากการทานที่ร้านกิวกิวเต้
- เนื้อคุณภาพดีมากๆ จนทำให้คิดเลยว่าที่ผ่านมาฉันกินเนื้ออะไรอยู่เนี่ย
- ราคาต่อหัวถ้าจะมาทานให้อิ่ม และจัดเต็ม ก็ต้องจ่ายหนักพอสมควรค่ะ
- น้ำจิ้มที่เค้าให้มาก็มีหลายสไตล์ เอาใจทุกคนกันเลยทีเดียว แต่จริงๆ ออฟว่ามีเกลือมาให้ก็ดีนะคะ เนื้อย่างกับเกลือนี่ก็เข้ากันได้ดีไปอีกแบบเลยทีเดียว
- ร้านตกแต่งแบบโปร่ง ทำให้ไม่อึดอัดจนเกินไปดีค่ะ
- การจัดจานสวยและมีเนื้อเรียงกันเต็มจานพอดี แต่อยากให้แยกจานเนื้อวัว และเนื้อหมูหน่อยก็ดีค่ะ ถ้าคนที่มากินแล้วเบลอๆ จะได้แยกแยะได้ง่ายขึ้น
- ผักของที่นี่สด กรอบมากๆค่ะ
- ถือเป็นร้านที่ถ้าอยากจะมากินเนื้อคุณภาพดีๆ จะคิดถึงร้านนี้แน่นอนค่ะ
Gallery จากร้านกิวกิวเต้
ข้อมูลทั่วไปของร้านกิวกิวเต้
ที่อยู่ :1668 ถนนบางนา-ตราด แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ 10260
สาขา : บางนา
เบอร์โทรศัพท์ :027467771
website : http://www.gyugyuteibbq.com
facebook :http://www.facebook.com/GYU.GYU.TEI.Bangna
วันและเวลาเปิดปิดทำการ :เปิดทุกวัน จันทร์ - ศุกร์ เวลา 17.00 - 22.00 น. เสาร์ - อาทิตย์ เวลา 11.00 - 22.00 น.
การเดินทาง :จากทางด่วนมุ่งหน้าไปบางนา ใช้ถนนบางนา-ตราด แล้วออกทางคู่ขนานหน้าห้างเซ็นทรัล บางนา กลับรถบนสะพานกลับรถแรก ตรงไปอีกประมาณ 500 เมตร จะเห็นธนาคารธนชาติอยู่ทางด้านซ้ายมือของอาคาร Apple Auto Auction ร้านกิวกิวเต้ จะอยู่ด้านในอาคาร
ที่จอดรถ : ที่จอดรถบริเวณร้านและภายในอาคาร Apple Auto Auction
Leave a comment