รีวิวโดนใจ >> อิตาเลี่ยนดินเนอร์บุฟเฟ่ต์สุดคุ้มที่ Giorgio’s โรงแรม Royal Orchid Sheraton

Giorgio_001

ถ้านึกถึงห้องอาหารในโรงแรม แล้วอยากทานอาหารอิตาเลี่ยนแล้ว ตอนนี้ออฟนึกถึงห้อง Giorgio’s ของโรงแรม Royal Orchid Sheraton เพราะห้องอาหารนี้เป็นแบบบุฟเฟ่ต์อาหารอิตาเลี่ยน ที่ให้เราอร่อยกันได้เต็มที่ในราคาเพียง 750++ บาท เท่านั้น มีทั้งอาหาร Main Course และอาหารในไลน์บุฟเฟ่ต์ที่ตักได้ไม่อั้นค่ะ โดยห้องนี้ถือเป็นตำนานของห้องอาหารอิตาเลี่ยนแห่งแรกในโรงแรมของกรุงเทพกันเลยทีเดียวค่ะ ครั้งนี้ได้รับเชิญมาอีกครั้ง (อ่านรีวิวครั้งก่อน) พร้อมเพื่อนบล็อกเกอร์อย่าง พีท แพ็ค และพี่ดัน ค่ะ

บรรยากาศของGiorgio’s

Giorgio_041

ขอเริ่มต้นกันด้วยการพาไปดูไลน์อาหารและบรรยากาศของห้องนี้กันก่อนเลยค่า ถ้าใครเคยไปห้องอาหารอื่นๆ แล้วอย่าเพิ่งตกใจกับขนาดของไลน์อาหารที่นี่นะคะ เพราะของที่นี่เค้าเน้นกระทัดรัดแต่คุณภาพคับแก้วค่ะ ผนังของห้องจะมีการใช้รูปตกแต่งขนาดใหญ่ให้บรรยากาศอิตาเลี่ยนมากๆค่ะ
Giorgio_007

ชั้นวางไลน์อาหารมีลักษณะโค้งลอนดูเก๋และไม่จืดชืดดีค่ะ มีการจัดวางอาหารแต่ละส่วนไม่ห่างกันมาก แต่แบ่งประเภทอาหารกันอย่างชัดเจน
Giorgio_054

ห้องอาหารนี้เป็นห้องอาหารขนาดใหญ่กำลังดี ที่มีโต๊ะเรียงกันอยู่ห่างๆ ไม่อึดอัดเกินไปค่ะ มีการแบ่งโซนที่นั่งและโซนไลน์อาหารอย่างชัดเจน แต่ก็อยู่ติดกันทำให้เดินไปสะดวกค่ะ

Giorgio_025

Line อาหารของGiorgio’s

Giorgio_027ส่วนแรกที่เข้ามาเจอจะเป็นส่วนของสลัดค่ะ มีผักสดและเครื่องสลัดให้เลือกทานกำลังดี แต่เน้นไปที่ซีซาร์สลัดซะมากกว่า โดยสามารถให้พนักงานทำแบบสดๆให้ได้เลยค่ะ หรือจะลองทำเองก็ได้เหมือนกัน
Giorgio_029ส่วนของอาหารทะเลที่นี่จะเน้นคุณภาพค่ะ โดยที่เห็นในรูปอาจจะดูไม่อัดแน่น แต่ก็ทำให้ทุกชิ้นได้รับความเย็นอย่างทั่วถึง และเค้าก็มาเติมเรื่อยๆเลยค่ะ โดยในสว่นนี้ก้มีทั้งมีกุ้งไทย และของนอก หอยแมลงภู่ หอยตลับค่ะ
Giorgio_030โซนของทานเล่นที่อยู่ด้านข้างก็มีการใช้ชั้นวางใสทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ทำให้ความสูงพอดีกับการตักอาหารดีค่ะ ส่วนนี้ก็มีเมนูให้เลือกหลายอย่างเช่น Pamarham salad, ผักย่าง, Smoked Duck Breast Salad, Roasted potato with ceasar sauce
Giorgio_033ด้านข้างกันเป็นส่วนของทอดค่ะ โดยมีข้าวปั้นทอดพร้อมผักขมและมอสซาเลล่าชีส, เส้นพาสต้าทอด, ข้าวปั้นผสมเนื้อทอด เป็นของทานเล่นที่กินเพลินๆ ก่อนจะเริ่มเมนูหนักๆกันค่ะ
Giorgio_036มาถึงส่วนของหวานกันบ้าง ที่นี่การันตีความอร่อยทุกอย่างเลยค่ะ ไปกี่ครั้ง ชิมกี่อย่างก็โดนใจไปหมด จนทุกครั้งต้องบอกให้ตัวเองเผื่อท้องเอาไว้สำหรับของหวานเสมอ โดยในไลน์ของหวานของที่นี่ก็มีทั้ง ทีรามิสุ, ทาร์ตผลไม้, มูส, มาการอง, แอปเปิ้ลครัมเบิ้ล, เค้กผลไม้, กล้วยทอด แล้วก็มีไอศกรีมด้วยค่ะ มากันครบมากๆ
Giorgio_040

เมนูของGiorgio’s

Giorgio_003

นอกจากอาหารในไลน์แล้วเราก็สามารถที่จะสั่ง Main course ได้ด้วยอีก 1 จานนะคะ ซึ่งจริงๆ แล้วออฟว่าแค่จานหลักนี่ก็คุ้มราคาแล้วค่ะ โดยเมนูที่มีให้เลือกก็มีหลายอย่างเลยมีทั้งพาสต้า, Risotto, สเต็กแซลมอน, และอีกหลายอย่างเลยค่า

รายการอาหาร Main Course ใน Buffet ที่ทานที่Giorgio’s

Risotto

Giorgio_016

Risotto (รีซอตโต้) ก็คือข้าวผัดสไตล์อิตาเลี่ยนนั่นเองค่ะ  โดยจานนี้แตกต่างจากที่เคยเห็นมามากๆ โดดเด่นที่สีสันสุดหวาน โดยการนำบีทรูทมาเป็นส่วนผสมเพิ่มสันให้ดูชมพูต้อนรับเทศกาลวาเลนไทน์มากๆค่ะ โดยรสชาติของจานนี้จะเป็นลักษณะข้าวผัดเหนียวๆ หนืดๆ แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเป็นชีสดีค่ะ

Cannelloni

Giorgio_052

หลายๆคนเวลาทานผักขมในอาหารอิตาเลี่ยนมักจะนึกถึงผักขมอบชีสก่อนเลย แต่เมนู Cannelloni (คาเนลโลนี่) ก็เป็นอีกเมนูความอร่อยจากผักขมสไตล์อิตาเลี่ยน เลยนะคะ โดยจานนี้จะเป็นการนำนำผักโขมไปผสมกับชีส Ricotta แล้วมาห่อด้วยแผ่น Cannelloni ซึ่งแผ่นแป้งนี้ก็จะมีลักษณะเป็นแผ่นสี่เหลี่ยม ทำให้สามารถม้วนเป็นก้อนได้ค่ะ รสชาติจานนี้จะมีความเป็นชีสกำลังดีค่ะ ตัดเลี่ยนด้วยซอสของทางห้องอาหาร รสชาติลงตัวดีค่ะ จะว่าไปก็คล้ายผักขมอบชีสหน่อยๆ แต่มาในรูปแบบของเปาะเปี๊ยะค่า

Grilled spring chicken

Giorgio_017

จานหลักสำหรับคนที่ที่อยากกินอะไรหนักท้อง แล้วไม่ทานเนื้อ แนะนำเมนูไก่กระทงย่างหมักกับเครื่องเทศรสเผ็ดสไตล์อิตาเลี่ยนนี่เลยค่ะ เสิร์ฟมาพร้อมกับพริกหวานและมันฝรั่งอบ ตัวเนื้อไก่ชิ้นโตมากค่ะ แต่เนื้อก็นุ่มดี เข้มข้นใช้ได้เลย ทานคู่กับมันฝรั่งอบก็เข้ากันดีค่ะ

Sucking pig belly

Giorgio_049

สำหรับคนที่ไม่ห่วงเรื่องไขมันก็แนะนำให้ลองสั่งเมนูนี้ค่ะ เป็นหมูสามชั้นชิ้นโตที่หนาเอาเรื่อง เค้าเอาไปตุ๋นจนนุ่ม และ ทอดให้หนังกรอบ ๆ เสริ์ฟมาบนซอสฟักทองสีเหลืองด้านล่าง ตกแต่งด้วยบล็อคเคอร์รี่สีเขียวตัดกัน แล้วตวัดลายด้วยซอสสีเข้ม เป็นเมนูที่สวยเหมือนภาพวาดเลยค่ะ

Grilled beef tenderloin

Giorgio_047

สำหรับคนทานเนื้อต้องลองสั่งจานนี้้ค่ะ เป็นเนื้อสันในย่างแบบสุกกำลังดี เนื้อนุ่ม ชุ่มไปด้วยรสชาติของเนื้อและไขมันที่ละลายในปาก เสิร์ฟมาคู่กับซอสเห็นทรัฟเฟิลและเพิ่มสีสันด้วยผักหวานค่ะ จานนี้คนรักเนื้อห้ามพลาดค่ะ เนื้อนุ่ม ไม่เหนียวเลยค่ะ

รายการอาหารใน Line Buffet ที่ทานที่Giorgio’s

Giorgio_042ส่วนของไลน์อาหารที่ออฟตักมาทานก็ลองมาอย่างละนิดค่ะ  โดยส่วนตัวชอบเป็ดอบมาก ทานง่ายดี ส่วนของทอดก็กินได้เพลินๆดีค่ะ แต่อย่าทานเยอะเดี่ยวไม่มีที่ให้อาหารจานหลักและของหวานนะคะ
Giorgio_010

สำหรับเมนูเบาๆ อย่างสลัดที่เค้าเตรียมไว้แล้ว ตัวแซลมอนรมควันก็โอเคเลยค่ะ ของที่อยู่ในถ้วยเล็กๆ ก็ใช้ได้เป็นพวกสลัดกุ้ง ,สลัดหอยเชลล์ค่ะ
Giorgio_043

เมนูอาหารทะเลของที่นี่ก็คงความสดไว้ได้เป็นอย่างดี ทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู๊ดรสแซ่บก็เข้ากันดีมากค่ะ
Giorgio_046

ซีซาร์สลัดที่เค้าทำมาให้ก็เข้มข้นไปด้วยชีสดีค่ะ เบคอนก็ทอดได้กรอบ ทานแล้วเค็มๆ เข้ากับผักสลัดดีค่ะ

รายการอาหาร แบบ A La Carte ที่ทานที่Giorgio’s

Grilled Tomahawk Wagyu

Giorgio_058

สำหรับเมนูที่ไม่ได้อยู่ในบุฟเฟ่ต์ แต่ครั้งนี้ได้มาลิ้มลองก็เป็นเมนูเด็ดของห้องอาหารอีกอย่างหนึ่งค่ะ ซึ่งเมนูนี้คือ Grilled Tomahawk Wagyu (โทมาฮอว์คเนื้อออสเตรเลียนวากิวย่าง) เป็นเนื้อย่างจานที่อลังการมากๆค่ะ เสิร์ฟมาพร้อมกับสลัดร็อกเกตด้านบน โรยชีสและตกแต่งด้วยมะเขือเทศ จานนี้ถ้าจะสั่งขอให้เป็นเมนูปิดท้ายนะคะ จะได้ฟินกันไปเต็มๆ กับความนุ่มของเนื้อค่า
Giorgio_015

รายการของหวานใน Line Buffet ที่ทานที่Giorgio’s

Giorgio_066

ของหวานที่เดินไปที่ไลน์แล้วเหมือนกำลังช็อปอยู่ในห้างเลยค่ะ มีเมนูของหวานให้เลือกเยอะดี และมีแต่ของน่าทานทั้งนั้น ดังนั้นก็ดีใจมากๆ ที่ทางห้องอาหารเค้าแบ่งแต่ละเมนูออกเป็นถ้วยเล็กๆ ทำให้เราได้ลองทานหลายอย่างดีค่ะ ครั้งนี้ชอบใจทีรามิสุมากๆ อร่อยมากๆค่ะ
Giorgio_020เมนูทาร์ตผลไม้ก็ทำได้ดีค่ะ ผลไม้สดและอลังการเต็มทาร์ตมากๆ
Giorgio_067ตัวมาการองกับแอปเปิ้ลครัมเบิ้ลก็ใช้ได้ค่ะ ทานได้ง่ายๆ ไม่หวานเกินไป
Giorgio_022

สำหรับของทอดก็มีกล้วยทอดราดซอสวานิลานะคะ และมีมูสช็อกโกแลตให้เลือกทานด้วยค่า

รายการเครื่องดื่มที่ทานที่Giorgio’s

Giorgio_009

เครื่องดื่มผลไม้นี่ไม่ได้อยู่ในเมนูบุฟเฟ่ต์นะคะ แต่สามารถสั่งเพิ่มได้ค่ะ ที่ลองทานกันวันนี้ก็มีทั้งน้ำส้ม สัปปะรดและแตงโมค่ะ อร่อยเพิ่มความสดชื่นดี ตัวแก้วก็เก๋ๆ ด้วยการเอียงคล้ายหอเอนปิซ่าค่า ขนาดแก้วเค้ายังสไตล์อิตาเลี่ยนขนาดนี้เลยนะเนี่ย

การทานอาหารที่Giorgio’s

Giorgio_051

ห้องอาหารนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากทานอาหารอิตาเลี่ยน แบบเต็มอิ่ม และมีความหลากหลายในราคาแบบบุฟเฟ่ต์ค่ะ โดยที่นี่มีทั้งส่วนของไลน์อาหารที่ตักกันได้ไม่อั้นทั้งของหวานของคาว สลัด และซีฟู๊ด แถมยังมีเมนู Main Course ให้เลือกกันคนละจานอีกด้วยค่ะ
Giorgio_065

บทสรุปจากการทานที่Giorgio’s

  • คิดถึงอาหารอิตาเลี่ยน คิดถึงบุฟเฟ่ต์ คิดถึงห้องจิออร์จิโอห้องนี้เลยค่ะ
  • มีเมนูในไลน์ไม่เยอะมากนัก แต่ที่ลองทานก็อร่อยใช้ได้ทั้งหมด
  • เมนูจานหลักของที่นี่เค้าอลังการ และตอบโจทย์คนอยากทานอาหารอิตาเลี่ยนมากๆ
  • ของหวานของที่นี่โดดเด่นมากๆค่ะ อร่อยทุกอย่างเลยค่ะ อย่าลืมเผื่อท้องไว้ด้วยนะคะ
  • การเดินทางถึงโรงแรมจะไม่ติดรถไฟฟ้าแต่ก็สามารถมาลงรถไฟฟ้า BTS สถานีสะพานตากสินแล้วทางโรงแรมมี Shuttle Boat ไปรับทุกครึ่งชั่วโมงเลยค่ะ
  • ราคาอาหารบุฟเฟต์ 750++ เปิดบริการมื้อค่ำของทุกวัน

Gallery จากGiorgio’s

ข้อมูลทั่วไปของGiorgio’s@ Royal Orchid Sheraton

ที่อยู่ :2 ซอยเจริญกรุง 30 อาคาร ชั้น 1 โรงแรม รอยัล ออคิด เชอราตัน ถนนเจริญกรุง แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
เบอร์โทรศัพท์ :0 2266 9214
เว็บไซต์ : www.royalorchidsheraton.com , SPG restaurants & bars, Giorgio's
วันและเวลาเปิดปิดทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 18.00-22.30 น.
การเดินทาง : ห้องอาหารจิออร์จิโอส์ตั้งอยู่ที่ชั้น 1 ติดกับแม่น้ำและสระน้ำของโรงแรม รอยัล ออคิด เชอราตัน ถ.เจริญกรุง
ที่จอดรถ : ลานจอดรถของโรงแรม รอยัล ออคิด เชอราตัน

ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น

 

Leave a comment