Beautiful Day : วันที่สวยงาม

ด้วยอารมณ์ไหนก็ไม่รู้ ออฟอยากจะเพ้อเจ้อเรื่องราวของวันธรรมดาวันนึง ที่เมื่อมีคนสำคัญเข้ามาเกี่ยวข้องทำให้มันไม่ใช่แค่วัน “ธรรมดา” อย่างที่เคยเป็น ใครไม่นิยมเรื่องโรแมนติก หรือเรื่องน้ำเน่า จะผ่านเอนทรี่นี้ไปออฟก็ไม่ว่าหรอกนะคะ อิอิ

วันนี้เป็นวันดีๆ อีกหนึ่งวันที่ได้ไปชอปปิ้งกับเพื่อนเก่า (เพื่อนที่เรียนด้วยกันสมัยมัธยม) ที่สยาม ไม่ได้มาเดินตั้งนาน หลังจากที่ช่วงเตรียมเข้ามหาลัยมาบ่อยเพราะว่าต้องมา เรียนพิเศษ รายการแรกก็ประเดิมด้วยอาหารก่อนเลยอะคะ ออฟกินอุด้งทะเลเดือด ส่วนเพื่อนกินข้าวแกงกระหรี่ จากนั้นก็ไปเดินหารองเท้าที่ต้องเรียกว่าเข้าไปทุกร้าน ลองไม่ต่ำกว่าสิบๆ คู่ แต่ก็ไม่ซื้อ ==” จน คนขายคงจะแทบปารองเท้าใส่อ่ะค่ะ แล้วในที่สุด หลังจากที่เดินรอบโบนันซ่า และ 29 พลาซ่า ก็ยังไม่ได้ฤกษ์เสียตังเลยอะคะ ยังไม่โดนใจมากๆเลย จนกระทั่งเดินไปที่ร้านที่อยู่ใต้โรงหนัง คราวนี้ลองคนละครั้งก็เสียตังในทันใด แล้วหลังจากควักกระเป๋าออกไปบ้างแล้วก็สบายใจพอที่จะไปนั่งกิน Swensen คนละถ้วย ก่อนจะเริ่มปฏิบัติการต่อไป

หลังจากอิ่มอร่อยรอบบ่ายไปแล้ว ก็ไปเดินหา Brush on ที่มาบุญครองจริงๆ แล้วก็ไม่ได้มุ่งมั่นอะไรมากมายเท่าไหร่หรอกนะคะ แต่ก็เข้าห้างปุ๊ปก็ต้องเปิดกระเป๋าตังอีกคนละรอบก็เท่านั้นเอง อ้อ ก่อนหน้าเข้าห้างซื้อนิยายไปอีกสองเล่ม ตอนนี้จ่ายตังไปทั้งหมดเท่าไหร่แล้วหว่า ++ คุณหมอในอนาคต กับ วิศวกือ อย่างออฟก็บวกเลขกันไม่ค่อยจะถูกหรือว่ายังไม่อยากจะยอมรับว่าเสียเงินไป เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้อะคะ

การที่เราได้นั่งคุยกับเพื่อนเก่าที่รู้ใจ ซักคนมันมีเรื่องมากมายมาพูดกันจนไม่รู้จบ และก็ทำให้เรารู้ว่าถึงแม้จะไม่ค่อยได้เจอ แต่ก็ไม่มีอะไรมาทำให้ความรู้สึกที่มีมันเปลี่ยนไปได้เลย เรายังรู้ใจกันเหมือนเดิม ถึงแม้ว่าเพื่อนจะบอกว่าออฟเปลี่ยนไปนิดหน่อย ก็อาจจะเป็นเพราะอิทธิพลของความรักละมั้งออฟก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ส่วนเรื่องที่เม้าท์กันนะหรอคะ ก็ตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ ไม่รู้ว่าไปขุดเรื่องอะไรมาพูดกันก็ไม่รุ้ ถึงได้พูดกันไม่หยุด ร่วม 5-6 ชั่วโมงได้อะคะ จนถึงเวลาเืพื่อนต้องกลับ นั่นแหละค่ะเรื่องราวต่างๆจึงได้เริ่มขึ้น

การที่เราอยากจะไปอยู่ด้วยกันกับเค้าตลอดเวลามันคงเป็นความคิดที่ไม่ผิดใช่ไหมคะ หรือว่าออฟเพ้อเจ้อไปเอง จริงๆแล้วเค้ารำคาญรึเปล่าก็ไม่รู้  (= =) แต่ความรู้สึกที่ว่าอยากอยู่ด้วยตลอดจัง ไม่ได้มีที่ไหนที่อยากจะไป ไม่ได้อยากกินอะไร ก็แค่อยากอยู่ด้วยก็เท่านั้นเอง ประมาณว่า “แค่มีเธออยู่ด้วยกันก็เพียงพอ” อ้าวกรรม เริ่มน้ำเน่ามากเกินไปแล้วเดี่ยวคนอ่านจะสำลักความหวานตายไปก่อนอ่านจบก็แย่เลยอ่ะค่ะ  (ออฟติดพิมว่า “อะคะ” แต่ ploysic ploysics แนะนำว่าควรจะเป็น “อ่ะค่ะ” ซึ่งออฟยังไม่ค่อยเห็นความแตกต่างตรงไหน แต่จะพยายามทำตามคำแนะนำนะคะ) แล้วตอนที่กำลังไปส่งเพื่อนกลับไปก็ได้โทรไปหาเค้าเผื่อว่าถ้าเค้าสะดวกออฟจะได้ไปหา เพราะว่าการอยู่คนเดียวในอารมณ์ที่ไม่อยากทำอะไรนั้น สู้ไปหาคนที่อยู่ด้วยแล้วอารมณ์ดีก็ไม่ได้นี่คะ แต่คำตอบของเค้าทำให้ออฟอดยิ้มเพ้อไปคนเดียวไม่ได้ “เดี่ยวเราไปหาเอง” ว้าวๆๆ อยากจะกรี๊ดดังๆ ไม่ใช่ว่าปกติเค้าไม่ตามใจหรอกนะคะ แต่ว่าวันนี้มันเกินปกติไปนิดนึงเท่านั้นเอง กับการที่เค้าจะต้องนั่งรถมาตั้งนานเพื่อจะมากินข้าวเย็นด้วยกันนี่อะ แล้วจากเกษตรมาสีลมก็ไม่ใช่ใกล้ๆ ถึงจะไม่ไกลแบบแปดริ้วถึงสีลมก็เหอะ ออฟคงจะเพ้อมากไปจนเพื่อนที่กำลังจะกลับต้องปรามๆ ไว้ ไม่งั้นคนรอบๆ อาจจะหาว่าออฟบ้าได้ที่หัวเราะอยู่ได้คนเดียวกลางสยามแบบนี้

การรอบางอย่างอาจจะนาน…รวมไปถึงการรอให้ความรักวิ่งเข้ามาหาเรา แต่ครั้งนี้ดูท่าว่าคงจะไม่นานเท่าไหร่นักอะคะ เพราะว่าออฟยังอ่านนิยายไม่จบเล่มดีก็มีเสียงเพลงพิเศษจากคนพิเศษดังขึ้น “หากว่าเธอได้รู้ว่าเธอนั้นสำคัญแค่ไหน หากเพียงเธอได้รู้ ว่ามีคนรักเธอมากมาย หากเพียงเธอได้รู้ ว่าเค้านั้นยอมทำสิ่งใด เพื่อให้เธอ ได้พบกับความสุขใจ” เพลงดังจากหนังดังที่เพิ่งจะออกจากโรงไป เรียกสติของออฟจากการลุ่มหลงไปในวังวันของนิยายสไตล์แจ่มใส ที่ใครบางคนบอกว่าแค่หน้าปกก็ไม่อ่านแล้ว แต่ออฟกลับตกหลุมรักนิยายพวกนี้มากมาย แบบว่าร้องไห้ได้กับเรื่องเศร้า และ ขำ หัวเราะได้ รวมไปถึงความซาบซึงของเนื้อเรื่องแต่ละเรื่อง ที่ออฟยังคิดว่า คนอื่นที่อ่านเค้าก็เป็นกันทั้งนั้นแหละ (เค้าที่ว่ายังไม่รู้เหมือนกันว่าใคร แต่ที่แน่ๆ ไม่ใช่นายทองเหม็นนะ)

ร้านอาหารที่ออฟเป็นคนเลือกสำหรับมื้อเย็นเป็นร้านที่ไม่ไกลจากร้านของออฟเท่าไหร่ แต่เวลาที่เค้าอ่านเมนูแล้วบอกว่าอาหารน่ากินดี ทำไมออฟรู้สึกดีจังก็ไม่รุ้สิคะ เหมือนเวลาที่เราเลือกซื้อของขวัญให้ใครซักคน แล้วมันเป็นของที่เค้าอยากได้อยู่แล้วอะ อารมณ์ประมาณนั้น แต่อาจจะไม่มากถึงขนาดนั้นก็เถอะ อาหารจริงๆก็อร่อย แต่ยิ่งกินกับคนข้างหน้าก็ยิ่งอร่อยไปอีก ไม่ได้หวานขึ้นนะคะ ออกจะดูเค็มๆ ซะด้วยซ้ำ หรือทางร้านเค้าจะรู้ว่าชอบกินชีสก็ไม่รู้

อิ่มแล้ว..ทำอะไรดี คำถามที่ออฟคิดในใจจนในที่สุดก็ต้องถาม ซึ่งคำตอบก็พอจะรู้อยู่แล้วเหมือนกัน แต่ถ้าเป็นตอนแรกๆ ออฟคงจะกังวลว่าจะพาเค้าไปไหนดีในถิ่นของออฟแบบนี้ ทั้งๆที่ความจริงออฟเองก็คงต้องตอบว่า “แล้วแต่ ที่ไหนก็ได้” แบบที่เค้าตอบออฟเหมือนกันอะคะ คราวนี้ก็เลยมาลงเอยที่การเดินเล่นในห้าง ที่ตอนนี้ออฟไม่คิดจะซื้ออะไรแล้ว เพราะแค่ตอนบ่ายก็จ่ายไปจนกระเป๋าแห้งแล้วแห้งอีก ถึงแม้ว่าจะใกล้ตรุษจีนแล้วก็เถอะ แต่ก็ยังไม่สิ้นเดือนนี่คะ ถ้าซื้อหมด แล้วสิ้นเดือนจะทำยังไงอะ เดินคุยกันแบบนี้ก็ดี จริงๆ อยู่ด้วยกันเฉยๆ ก็ดี ไม่เมื่อย แต่ว่ามันดูแปลกๆ เดินด้วยจะได้ไม่เขินมาก (จะมาเขินอะไรตอนนี้ออฟ ไม่ทันแล้วอะ ^ ^)

เดินย่อยไปไม่นานก็มาถึงเวลาของหวานตบท้าย (วันนี้เธอกิน 5 มื้อแล้วนะจ๊ะ แล้วมาบอกว่าจะลดน้ำหนัก เอาไงกันแน่ แม่คนจริงจัง) เดินไปเดินมาก็กลับมาที่ A&W ที่เดิม กับวาฟเฟิลแสนอร่อย และรูทเบีย พร้อมมันฝรั่งทอดครบชุด กินไปคุยไป ซึ่งส่วนใหญ่จะมีแต่เสียงพูดของออฟ สลับกับเสียงหัวเราะของเค้า ที่ออฟก็ยังไม่ค่อยแน่ใจว่าที่หัวเราะนี่ขำจริงๆ รึเปล่าก็ไม่รุ้ แต่ท่าทางมีความสุขของเค้าออฟจะยอมเป็นคนติงต๊องอีกหน่อยก็ได้ (ทั้งๆที่จริงก็ต๊องมากพออยู่แล้วอะคะ)

หมดเวลาแล้ว…ฉันรู้ฉันเข้าใจ…หมดเวลาของวันนี้แต่เวลาของเราก็จะเริ่มใหม่ทุกๆวัน อิอิ เมื่อถึงเวลาสมควร เค้าก็กลับไป (บันไดลงรถไฟฟ้าใต้ดินเสียด้วยซิ คงไม่เมื่อยใช่ไหมอะ) พอกลับมาถึงที่ร้านออฟก็เลยสรุปอะไรให้ตัวเองได้หลายๆอย่างเลยอะคะ

หมายเหตุ

1. ความรักทำให้เราเพ้อเจ้อได้ไม่มีขีดจำกัด

2. เพียงแค่รอยยิ้มของคนบางคน ก็ทำให้เรามีความสุขได้

3. ระยะทางไม่ได้ทำให้เราห่างไกล…แต่ถ้ามาหาใกล้ๆก็จะดีกว่ามากๆเลย

4. สิ่งสุดท้ายที่จะทำคือทำให้เค้าเสียใจ

5. บอกได้คำเดียวว่า…”เป็นเอามาก “

หมายเหตุสุดท้าย :

I want to thank you for giving me the best day of my life.

Oh just to be with you is having the best day of my life

หมายเหตุท้ายสุด :

นับจากบัดนี้ไป จากวินาทีแห่งนี้ จะมีทางใหม่
ให้เธอและฉันเดิน ให้ฝันพาเราทั้งสองสู่ความสดใส
รวมความรักที่มีทั้งสองดวงใจ เข้าด้วยกัน

วันที่สุขและสวยงาม มีเธออยู่ตรงนี้ และเธออยู่กับฉัน
จะคอยอยู่เคียงข้างกัน เป็นจริงดั่งความฝัน
ที่ฉันนั้นเฝ้ารอจนวันนี้

และต่อจากนี้ไป ความทุกข์ใดๆ แค่ไหน ฉันจะไม่หวั่น
แค่เราอยู่ด้วยกัน ความฝันจะพาเราสองสู่ความสดใส
รวมความรักที่มีทั้งสองดวงใจ เข้าด้วยกัน

ที่ฉันนั้นเฝ้ารอจนวันนี้
ฉันนั้นเฝ้ารอจนวันนี้…

ศิลปิน :บอย โกสิยพงษ์ Feat.แดน วรเวช
เพลง : วันที่สวยงาม(Beautiful Day)

Leave a comment