(แม้มิใช่) คนในฝัน

ออฟก็ไม่รู้เหมือนกันนะคะ ว่าลมอะไรหอบออฟให้มาเปิดเครื่องตอนเกือบจะเที่ยงคืนแบบนี้ ทั้งที่เมื่อห้านาทีก่อนกำลังเก็บของเตรียมตัวไปนอนแล้วอะ หลังจากที่ให้ตัวเองเบรกด้วยการอ่านหนังสือนิยาย (ความรู้สึกดีๆที่เรียกว่ารักเล่ม 9) หลังจากที่อ่านหนังสือสอบไปได้ซักพัก จริงๆแล้ววันนี้ก็เบรกมาหลายรอบแล้วอะคะ ถ้านับเวลาจริงๆ ก็คงจะเบรกมากกว่าอ่านหนังสืออะแหละ แต่ว่าออฟถือคติว่า ถ้าเครียดไปก็อ่านไม่รู้เรื่องอยู่ดี พักบ้าง แล้วกลับมาอ่านใหม่ดีกว่า

วันนี้ทั้งวันไม่มีนิยายเรื่องไหนที่โดนใจเลยซักเรื่องไม่ใ่ช่ว่าเค้าเขียนกันไม่ดีหรอกนะคะ แต่อาจจะเป็นเพราะว่าออฟมีเรื่องให้ต้องกังวลอยู่มากมาย แล้วก็คิดอะไรก็ไม่รู้อยู่ตลอดเวลาก็เลยไม่ค่อยจะอินไปกับเนื้อเรื่องเท่าไหร่ จนมาเรื่องก่อนรองสุดท้าย (หมายความว่าจบเรื่องนี้แล้ว ยังอ่านต่ออีกสองเรื่องอะ = =) เป็นเรื่องที่เหมือนจะไกลตัว แต่ก็ไม่ไกลเท่าไหร่ แต่ก็โดนใจมากกว่าเรื่องที่อ่านมาก่อนหน้านี้อะคะ

การตามหาคนที่ได้ตามอุดมคติของตนนั้นอาจจะยาก

แต่การไต่ขึ้นไปให้ถึงระดับอุดมคติของใครอีกคนนั้น

ยิ่งเหนื่อย ยากยิ่งกว่า และที่ร้าย… ไม่ยั่งยืน

“(แม้มิใช่) คนในฝัน…วัสส์”

ชื่อเรื่องก็ตรงกลับชื่อบล็อคของออฟวันนี้เลยอะคะ ขอยืมเค้ามาหน่อยละกัน เรื่องประมาณว่า ชายหนุ่มคนนึงต้องเลิกกับหญิงสาว เพราะว่าเค้าไม่สามารถจะเปลี่ยนตัวเองให้เป็นแบบที่เธอคนนั้นหวัง จนเค้าคิดได้ว่า “บางที…แค่คำว่ารักอาจจะไม่พอ… ” แต่หลังจากนั้นเค้าก็ได้พบกับหญิงสาวธรรมดาคนนึง ที่เค้าจะได้เป็นอย่างที่เค้าเป็น ไม่ต้องอึดอัดใจ ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ เนื้อเรื่องย่อสุดๆ ออฟอยากให้คนที่สนใจได้ไปตามอ่านกันเองมากกว่า มันจะได้อารมณ์กว่ามากเลยอะคะ แล้วถ้าถามออฟว่าตอนนี้ออฟกำลังเปลี่ยนตัวเองเพื่อใครอยู่ไหม ออฟคิดว่าคงตอบได้ว่า “ไม่” ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ค่อยเต็มเสียงนัก เพราะว่าการเริ่มต้นกับใครซักคน ก็ต้องมีการปรับตัวเข้าหากัน ขอเพียงแต่เรายังเป็นตัวเราเท่านั้นก็พอ

ทุกคนคงหวัง หรืออย่างน้อยก็อาจจะมีคนในอุดมคติของตัวเอง ถึงแม้ใครอาจจะบอกว่าไม่มี ใครก็ได้ แต่ส่วนใหญ่ก็จะตามมาด้วยคำว่า ขอแค่… เช่น ใครก็ได้ขอแค่รักเรา อะไรทำนองนั้น นิยายเรื่องนี้ทำให้ออฟตอบคำถามตัวเองได้อย่างนึง

“บีมจะรู้ได้ยังไงว่าเมื่อไหร่ที่บืมควรจะหยุดหวัง ก่อนที่บืมจะเสียใครไปอีก”
“ถ้าเมื่อไหร่ที่บืมรัก…และเห็นตัวตนของคนที่บีมรักจริงๆ บีมคงจะรู้คำตอบนั้น”
“แล้วตอนนี้คุณเห็นใคร???”

เราพยายามเพื่ออย่างน้อยจะเป็นได้อย่างที่เค้าหวัง ทั้งๆที่เค้าไม่เคยขอ ไม่เคยเรียกร้อง ไม่เคยเลยที่จะปฏิเสธในตัวตนของเรา แต่ทำไมเราถึงทำนะหรอ เหตผลเดียวคือ…อยากทำให้ ทั้งๆที่ต่อมาอาจจะต้องทำให้อึดอัดใจก็ตาม ดังนั้น พยายามเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด เปลี่ยนเท่าที่จะเปลี่ยนได้ อยากเกินขอบเขต อะไรที่มากไปหรือน้อยไปไม่ดีหรอกนะ ทำอะไรให้พอดีๆ

When I am down and, oh my soul, so weary.
When troubles come and my heart burdened be.
Then I am still and wait here in the silence,
Until you come and set a fire with me.

You raise me up, so I can stand on mountains.
You raise me up, to walk on stormy seas.
I am strong, when I am on your shoulders.
You raise me up… To more than I can be.

ฟังเพลง You Raise Me Up ศิลปิน: Westlife

หมายเหตุ :

>>ตอนนี้คงต้องไปนอนแล้วอะคะ พอได้มาอัพเอนทรีนี้แล้วรู้สึกดีขึ้นมาจริงๆ
>>กดปุ่มโทรออกมันไม่ได้ยากเย็นอะไรนักหรอกนะออฟ ไม่ต้องกดถึงถึงสิบหลักซะด้วยซ้ำ ถ้าอยากโทรหาก็โทร ไม่ต้องคิดมากหรอกน่ารู้มั้ย เพราะบางทีเค้าอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอยากคุยด้วย (แกไม่ได้ส่งกระแสจิตเป็นใช่มั้ยหล่ะ)
>>ถ้าจะพูดคำว่าไม่เป็นไร ต้องหมายความว่าอย่างนั้นจริงๆ นะออฟ แล้วไม่ต้องเอามาคิดให้รกสมองอีก

Leave a comment