รีวิวโดนใจ >> The Reflexions ห้องอาหารฝรั่งเศสสไตล์โมเดิร์นสุดหรูที่โรงแรม Plaza Athenee

The Reflexions เป็นห้องอาหารฝรั่งเศสสไตล์โมเดิร์ของโรงแรม พลาซ่าแอทธินีรอยัลเลอเมอริเดียน ซึ่งออฟได้รับเชิญให้มารีวิวในครั้งนี้ค่ะ ถือเป็นห้องอาหารแบบ A La Carte อีกที่นึงที่ออฟคิดว่าเหมาะกับการมาเดตมากค่ะ ไปดูกันเลยดีกว่าว่าที่นี่เป็นยังไงบ้าง

บรรยากาศของ The Reflexions

การเดินทางออฟมารถไฟฟ้าเช่นเคยค่ะ ครั้งนี้ลงที่สถานีเพลินจิต แล้วออกทางออกที่ 2 ค่ะ จากนั้นก็เดินตามทางเชื่อมมาหน่อยจะมาเจอกับถนนวิทยุค่ะ ขอบอกว่าถ้าเอารถมานี่ติดมากๆค่ะ แต่ครั้งนี้มารถไฟฟ้าก็เลยสบายๆค่ะ ลงสะพานลอยมาแล้วก็เดินเข้ามาประมาณ 50 เมตรค่ะ จะเจอโรงแรมอยู่ทางซ้ายมือจากนั้นก็เดินเข้ามาในโรงแรมค่ะ ถ้าจำชั้นไม่ได้ก็สามารถสอบถามทางพนักงานได้เลยค่ะ เข้ามาในตัวโรงแรมจะเจอความอลังการและหรูของโรงแรมใช้ได้เลยค่ะ
ดูเหมือนว่าวันที่ไปจะมีจัดงานแต่งงานด้วย ก็เลยมีสาวๆ แต่งตัวสวยๆเดินผ่านไปมาเยอะเลยค่ะ กลับมาที่ห้องอาหารกันต่อ เราขึ้นลิฟต์ไปเลยค่ะ ห้องอาหารอยู่ชั้น 3
ออกจากลิฟต์แล้วเดินมานิดหน่อยก็เจอห้องอาหารอยู่ทางขวามือเลยค่ะ
ด้านหน้าของห้องอาหาร Reflexion เป็นกระจกบานใหญ่เปิดโล่งทำให้มองเห็นด้านใน โดยพอเราเดินไปด้อมๆ มองๆ ข้างหน้าก็จะมีพนักงานเข้ามาถามไถ่เป็นอย่างดีค่ะ เมื่อแจ้งชื่อคนจองเรียบร้อยแล้วก็เดินเข้าไปนั่งโต๊ะที่เค้าจองไว้ได้เลย
เข้ามาแล้วจะเจอบรรยากาศสลัวๆ นิดๆค่ะ การจัดโต๊ะนั้นดูเริ่ดหรู แต่มีสไตล์มากๆค่ะ แต่ละโต๊ะจะมีเก้าอี้เพียงสองที่นั่งด้วยค่ะ เพื่อที่ให้สามารถเห็นการแสดงดนตรีที่เวทีด้านหน้าได้อย่างชัดเจน
ครั้งนี้ที่ไปมีชาวต่างชาติมาแสดงฮาร์ฟด้วยค่ะ ตอนที่เล่นก็มีการเปิดวิดีโอบรรยากาศเมืองนอกเข้ากันไปด้วยค่ะ
พื้นที่ด้านบนจะมีแสงคล้ายดาวระยิบระยับอยู่ด้วยค่ะ เหมือนนั่งอยู่ด้านนอกเลย นอกจากนี้ก็ยังมีการนำรูปต่างๆ มาประดับเพิ่มความอาร์ตให้กับห้องอาหารมากขึ้นไปอีกด้วยค่ะ

เมนูของ The Reflexions

เมนูของที่นี่ก็มีให้สั่งไม่เยอะมากค่ะ แต่ละตัวเด็ดๆทั้งนั้น แต่ที่จะแนะนำคือ เค้ามีโปรโมชั่น โดยสามารถเลือกอาหาร 3 จานจากรายการ A la carte พร้อมกับชีสหรือของหวานในราคา 2400 บาท Net ด้วยค่ะ ออฟว่าคุ้มใช้ได้เลยค่ะ

การทานอาหารที่ The Reflexions

เมื่อโต๊ะพร้อม อุปกรณ์พร้อมก็มาเริ่มมื้อค่ำสุดหรูกันเลยค่า
เริ่มต้นกันด้วย complimentary drink ซึ่งรสชาติเหมือนน้ำซุปอะไรซักอย่างค่ะ เสิร์ฟมาในหลอดทดลองก็เก๋ดี แต่ทานยากไปหน่อย รสชาติก็แปลกๆ ด้วยค่ะ ออฟลองชิมคำนึงแล้วก็ขอยอมค่ะ
ระหว่างที่รออาหารก็มีขนมปังฝรั่งเศสให้เราทานรองท้องคู่กับเนยเค็มค่ะ อันนี้ถือว่าโอเคค่ะ ขนมปังไม่แห้งเกินไป อบมาอุ่นๆ ทานแล้วโอเคดีค่ะ

รายการอาหารที่ทานที่ The Reflexions

AMUSE BOUCHE

เมนูเปิดตัวทำเอาตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมากค่ะ เพราะเชฟเดินมาปรุงรสให้ต่อหน้า โดยการวางหินร้อนบนจาน และคีบปลาแซลมอนสไลด์มาวางบนหินร้อน ได้ยินเสียงฉ่าๆ ชัดเลยค่ะ จากนั้นก็โรยเกลือและพริกไทย คีบพลิกเนื้อปลาอีกครั้งก็ทานได้เลยค่ะ แถมยังมีการตกแต่งด้วยผักชุดเล็กๆ ที่มุมอีกด้านของจานด้วยค่ะ เมนูนี้เรียกได้ว่าเป็นศิลปะบนจานอาหารอย่างแท้จริงเลยค่ะ รสชาติของปลาแซลมอนก็สด เค็มนิดๆ แต่รวมๆ โอเคมากค่ะ

SCALLOP 800 บาท

ต่อกันด้วยเมนูหอยเชลล์ตัวใหญ่บักเอ้ก เห็นสีเข้มข้นขนาดนี้แต่รสชาติไม่จัดจ้านนะคะ เนื้อหอยหั่นแล้วนุ่มแต่เด้งๆดีค่ะ น้ำซอสมาเพิ่มรสของหอยขึ้นมาดีค่ะ ทำให้จานนี้ไม่จืดเกินไป

JERUSALEM ARTICHOKE400 บาท

ขอบอกว่าซุปถ้วยนี้อร่อยดี แต่ตอนที่ทานก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าคืออะไรค่ะ ซุปข้นกลมกล่อมดี เพิ่งมาดูชื่อที่หลังว่า ARTICHOKE = แก่นตะวัน เป็นพืชล้มลุกอายุยืนหลายปีสายพันธุ์เดียวกับทานตะวัน แต่ก็ยังไม่รู้จักอยู่ดี แต่ทานร้อนๆ ก็คล่องคอดีค่ะ ซุปรสชาตินุ่มๆ ขนมปังกรอบที่โรยมาด้านบนก็เพิ่มรสสัมผัสของซุปจานนี้ให้ไม่เหลวมากเกินไปดีค่ะ

Mint Ice cream

ก่อนที่จะเริ่ม Main Course ก็ต้องเคลียร์ลิ้นกันก่อนค่ะ โดยเชฟได้จัดไอศกรีมรสมิ้นต์มาให้ ถ้าเอาจริงๆ ต้องบอกว่าเป็นไฺอศกรีมรสสาระแหน่ค่ะ รสชาติชัดเจนมาก สีก็เขียวสดทีเดียวค่ะ แต่ทานแล้วสดชื่นดีทีเดียว

CHALLAN DUCK 1500 บาท

Main Course เป็นเป็ดค่ะ ด้วยความที่เชฟถามตอนเริ่มแล้วว่ามีอะไรที่ทานไม่ได้รึเปล่า แต่ออฟกับไผ่ทานได้ทุกอย่างเลยค่ะ ก็เลยให้เชฟแนะนำมาให้เลย ซึ่งก็ได้มาเป็นจานที่มีชื่อเต็มๆ ว่า “Challan duck 59 degrees’ with a layer of carrot, orange and lavender, fennel and sautéed peace”
ดูการตกแต่งกันก่อนค่ะ เป็นจานที่สวยแบบแปลกๆดี คือการจัดจานกระจายเต็มจาน หลักๆ มี 4 มุม โดยมีเป็นเป็ดกินพิ้นที่มากสุดโดดเด่นสุด อีกสามมุมเป็นเครื่องเคียงค่ะ มีการใช้ซอสเชื่อมโยงทุกมุมเข้าด้วยกันทำให้ไม่ดูตัดขาดกันมากเกินไปค่ะ
เนื้อเป็ดนุ่มและชุ่มดีมากๆ เข้ากับซอสได้เป็นอย่างดี ทานคู่กับผักก็เสริมกันได้เต็มที่ดีค่ะ ผักไม่เด่นกว่าเป็ดดีค่ะ
Note : ใครอยากทราบรายละเอียดของสูตรจานนี้เข้าไปดูได้ที่ http://www.hisoparty.com/lifestyle/giy/Gourmet-it-yourself-Challan-duck-59-degrees

CARDAMOM CRÈME BRULEE

ปิดท้ายด้วยของหวานแสนสวยค่ะเป็นเมนูเครมบูเล่ที่จัดจานได้แตกต่างจากที่เคยเห็นมามากเลยค่ะ เสิร์ฟมาพร้อมกับไอศกรีมรสส้มที่ออฟว่าเหมือนส้มเขียวหวานค่ะ ทานคู่กันแล้วลงตัวดีมากๆ ที่เห็นเป็นแผ่นๆ ตั้งอยู่เป็นน้ำตาลค่ะ เวลาทานก็ตักทุกอย่างอย่างละนิด พร้อมกับไอศกรีมจะได้รสชาติเปรี้ยวหวานลงตัวค่ะ

รายการเครื่องดื่มที่ทานที่ The Reflexions

Fruit Punch 280 บาท

เครื่องดื่มของออฟเป็นน้ำพันช์ค่ะ ขอแบบไม่มีแอลกอฮอล์จะได้รับรู้รสชาติอาหารฝรั่งเศสของที่ได้ให้เต็มที่ค่า

Mosquito 280 บาท

ของไผ่เป็นเมนู Mosquito ค่ะ อันนี้ก็รสมะนาวๆ ดีค่ะ

บทสรุปจากการทานที่ The Reflexions

ปิดท้ายด้วยการถ่ายรูปกับเชฟหนุ่มรูปหล่อของที่นี่ ‘เชฟดาเนียล บูคอร์’ (Daniel Bucher)

• รสชาติอาหารทุกเมนูเข้ากันได้เป็นอย่างดี มีการไล่ลำดับความเข้มข้นของรสชาติเพิ่มขึ้น ทำให้เราอร่อยขึ้นเรื่อยๆค่ะ
• เชฟเอาใจใส่และใจดีมากๆค่ะ แถมหล่อด้วย คุยด้วยแล้วอารมณ์ดีด้วยเลย
• บรรยากาศออกแนวโมเดิร์นทีเดียว งานนี้ถ้าหาที่เดตก็น่ามาลองที่นี่ค่ะ
• การเดินทางมารถไฟฟ้าก็สะดวกดีค่ะ แต่ถ้าเอารถมาต้องเผื่อเวลารถติดหน่อย เพราะว่าแถวนั้นรถเยอะมากๆ
• 15% discount for SPG members

Gallery จาก The Reflexions

[Show slideshow]

◄123

ข้อมูลทั่วไปของ The Reflexions

ที่อยู่ : 10 ซอยร่วมฤดี อาคาร ชั้น 3 โรงแรมพลาซ่าแอทธินีรอยัลเลอเมอริเดียน ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
สาขา : โรงแรมพลาซ่าแอทธินีรอยัลเลอเมอริเดียน
เบอร์โทรศัพท์ :026508800
เบอร์แฟกซ์ : 026508500 , 026508844
เว็บไซต์ : http://www.spgrestaurantsandbars.com/thailand/bangkok/TheReflexions
วันและเวลาเปิดปิดทำการ :เปิดทุกวัน เวลา 18.00-23.00 น. หยุดทุกวันอาทิตย์
การเดินทาง : จากถนนเพลินจิต ตรงไปทางสี่แยกวิทยุ เลี้ยวเข้าถนนวิทยุ มาประมาณ 50 เมตร จะเห็นโรงแรมพลาซ่าแอทธินีรอยัลเลอเมอริเดียน อยู่ทางซ้ายมือติดกับสถานทูตเวียดนาม ห้องอาหารฝรั่งเศสเดอะรีเฟล็กซ์ชั่นส์ อยู่ที่ชั้น 3 ของโรงแรมพลาซ่าแอทธินีรอยัลเลอเมอริเดียน
ที่จอดรถ : ลานจอดรถของโรงแรมพลาซ่าแอทธินีรอยัลเลอเมอริเดียน

ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น