รีวิวโดนใจ >> Rice Bar : Korean Healthy Kitchen ร้านอาหารเกาหลีเปิดใหม่ในซอยศาลาแดง
เมื่อร้านอาหารมาเปิดใหม่ในซอยศาลาแดงอันเป็นที่พักของออฟนั้น ก็เลยต้องไปลองประเดิมชิมรสชาติกันซะหน่อยค่ะ ทั้งๆที่ไม่ได้รู้เลยว่าร้านขายอาหารอะไรประเภทไหน เรียกได้ว่ารอวันที่ร้านเค้าตกแต่งเสร็จเลย วันนี้ที่ออฟมากินทางร้านเพิ่งจะเปิดเป็นวันที่ 2 เองค่ะ ตอนเข้าไปก็มีคนนั่งอยู่บ้าง จริงๆ ต้องบอกว่าไปด้อมๆ มองๆ หน้าร้านก่อนว่าเป็นร้านอาหารอะไร
แต่ในขณะที่พยายามอ่านโปรชัวใบเล็กๆ ที่แปะหน้าร้านนั้น พี่ในร้านก็มาเชิญเข้าไปลองทานก็เลยเข้าไปเลยทั้งๆ ที่ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นอาหารอะไรอยู่ดี ^ ^ ทางร้านเค้าจะให้เลือกประเภทของข้าวและท็อปปิ้งด้วยนะคะ วันนี้ไผ่กินข้าวขาวและท็อปปิ้งเป็นไก่ ส่วนออฟกินข้าวกล้อง และเลือกท็อปปิ้งเป็นกุ้ง
บรรยากาศของร้าน Rice Bar
หน้าร้านจะตกแต่งแบบเรียบง่าย แต่ก็มีแผ่นโปรชัวร์เล็กๆนี่ติดอยู่เรียงราย ซึ่งออฟแอบคิดว่าไม่ติดน่าจะงามกว่าอะคะ เพราะว่าแผ่นมันเล็กต้องตั้งใจเข้าไปอ่านจริงๆ ถึงจะมองเห็นตัวอักษร ถ้าอยากมีแผ่นโฆษณาแปะหน้าร้าน แนะนำให้ขยายเป็นแผ่นใหญ่แล้วติดตรงกระจกที่เป็นประตูทางเข้าดีกว่า หรือว่ามีขาตั้งที่เป็นบอร์ดไม้เขียนรายการอาหารที่มีอยู่หน้าร้านก็ได้ค่ะ แต่อันหลังนี่อาจจะเกะกะทางเดินไปนิดนึง
ตัวร้านเป็นสีน้ำตาล โดยมีการใช้ไม้มาเป็นองค์ประกอบในส่วนของผนัง เก้าอี้ โต๊ะ ส่วนกั้น ซึ่งเมื่อเข้ามาแล้วจะเห็นเครื่องเคียงแบบเกาหลีเรียงรายกันอยู่ทางซ้ายมือ โดยมีชั้นวางของถ้วยและจานต่างๆ เป็นพื้นหลัง ออฟว่าพี่เค้าจัดร้านได้ลงตัวทีเดียว เพราะเท่าที่ดูแล้วนั้นน่าจะหยิบของใช้ได้ง่าย ถ้ายังมีพนักงานจัดของคนเดียวแบบตอนนี้
นั่งได้ซักพักก็มีคนเข้ามาร้านหลายกลุ่มเหมือนกัน ทั้งร้านนั่งได้ไม่เกิน 10 โต๊ะ เพราะงั้นถ้ายกโขยงมากินกันเป็นทีม อาจจะดูเหมือนปิดร้านเค้าเลยก็ได้ค่ะ ทางร้านจะเปิดเพลงเกาหลีคลอๆ ไปเรื่อยๆ ด้วยออฟว่าถ้ามีจอทีวีที่เปิด MV ของสาวๆ เกาหลีมาให้ดูด้วยนี่จะเจ๋งมากค่ะ
เมนูอาหารของร้านRice Bar
อาหารหลักๆ เท่าที่เห็นก็จะมี บิบิมบับ, ราปอกกี, Rice Ball โดยทางร้านก็มีการจัดอาหารเป็นเซตเอาไว้ให้ แต่วันนี้ออฟไปเหลือแต่เซต B และ Korean Set แล้วค่ะ
หลังจากไปลิ้มลองรสชาติของราปอกกีที่ร้านซังกุงแล้วก็เลยติดใจรสชาติอยากจะทานอีก ออฟตั้งใจว่าครั้งหน้าจะต้องมาลองราป็อกกีของร้านไรท์บาร์นี่ให้ได้ค่ะ
ส่วนเจ้า Korean Set นี่ก็คือชุดข้าวบิบิมบับ และเครื่องเคียงชุดใหญ่พร้อมน้ำโค้กค่ะ ออฟว่าถ้าคนที่ยังไม่เคยกินเลยลองสั่งชุดนี้ก็ดีนะคะ ดูได้ลองทานอะไรหลายๆ อย่างดี อย่างวันนี้ออฟก็ลองสั่งชุดนี้เหมือนกันค่ะ
เซตบีบิมบับ+ ซุบ + กิมจิ + โค้ก 89 บาท
อาหารเย็นของไผ่ที่ร้าน Rice Bar ก็สั่งชุดเซตบีบิมบับ+ ซุบ + กิมจิ + โค้ก 89 บาท ซึ่งออฟว่าจริงๆ กินแค่นี้กำลังดีค่ะ สำหรับคนที่ยังไม่เคยกินบิบิมบับหรือข้าวยำเกาหลี ก็คล้ายๆ กับข้าวผัดนั่นแหละคะ แต่ว่ามีการใส่ซอสแบบเกาหลี ก็ถ้วยเล็กๆ สีส้มๆ นั่นแหละค่ะ ที่มาช่วยเพิ่มรสชาติความเข้มข้นให้มากขึ้น ซอสไม่เผ็ดนะคะ ดังนั้นใส่ได้ตามใจชอบ ถ้าไม่พอขอเพิ่มได้ค่ะ
Korean Set 139 บาท
สำหรับอาหารชุดใหญ่ของออฟที่อยากสั่งมาลองทานเครื่องเคียงแบบเกาหลีกันอย่างเต็มที่นั้นก็เหมือนชุดของไผ่เลยค่ะ แต่ว่ามีเครื่องเคียงเพิ่มขึ้นมาเท่านั้นเอง
กิมจิของร้านไรส์ บาร์จะเข้มข้นกว่าที่เคยกิน ก็เลยรู้สึกว่าฉุนๆ ไปหน่อย
ถั่วนี่จะกินแล้วกรุบๆ เพิ่มพื้นที่ในการเคี้ยวและความมันเวลากินข้าวยำเกาหลีค่ะ จะทำให้คำนั้นหวานขึ้นมาอีกนิดนึงด้วย
ส่วนซอสสีแดงนี่ก็เป็นตัวที่ทำให้เข้าเป็นสีส้ม และมีรสชาติกลมกล่อมนั่นแหละค่ะ
ไข่ห่อสาหร่าย ออฟว่าสาหร่ายสีดำตรงกลางที่เด่นตัดกับสีเหลืองของไข่มากๆ ค่ะ ดูแล้วสวยดี แต่รสชาติของไข่จืดไปนิด หรือเป็นเพราะว่าเราจะรู้สึกว่ามันเป็นไข่หวานแบบอาหารญี่ปุ่นก็ไม่รู้ก็เลยรู้สึกว่ามันจะต้องหวานกว่านี้อีกนิด
ไอ้ก้อนๆ นี่เป็นฟักทองผัดค่ะ เนื้อกวนๆ ดี ออฟว่าฟักทองนี่ช่วยทำให้กินอิ่มมากขึ้นด้วย รสชาติจะมันๆ หวานนิดๆ ตักทีละน้อยกินพร้อมกับบีบิมบับก็อร่อยดีค่ะ
รูปด้านบนนี่ขอสารภาพอย่างจริงใจว่าจำชื่อเกาหลีมันไม่ได้ รู้แต่ว่าเค้าใส่ให้ตอนคลุกข้าวเลยค่ะ กินแล้วก็กรุบๆ ดี
รากบัวที่มีรสชาติแปลกๆ เพราะว่าเกิดมา เท่าที่จำความได้ก็เพิ่งกินรากบัวที่นี่ครั้งแรกอะค่ะ มันจะกรอบๆ แข็งๆ ไม่นิ่มๆ แต่มีรสชาติหวานปะแล่มๆอะคะ
ขั้นตอนการกินบีบิมบับ
1. คว่ำชามข้าวลงในชามกับ
2. เทเครื่องเคียงบางส่วนที่อยากจะคลุก และซอสลงไป แล้วใช้ช้อนคลุกให้เข้ากัน
3. เมื่อข้าวมีสีส้มทั่วๆ แล้วก็เริ่มทานได้ค่ะ
ใบเสร็จจากร้าน Rice Bar
ออฟคิดว่าราคาอาหารต่อหัวนี่ถือว่าโอเค มากินใหม่แบบไม่้ต้องคิดมากเท่าไหร่ (ในกรณีที่ไม่ใช่สิ้นเดือน) เพราะออฟคิดว่าครั้งต่อไปน่าจะสั่งเป็นชุดแบบไผ่มากกว่าค่ะ ดังนั้นต่อหัวก็จะไม่เกิน 100 บาท ทั้งค่าอาหารและค่าน้ำ เพราะทางร้านไม่มี vat และ service charge แต่จะแพงหน่อยก็ตรงชุดใหญ่ที่มีเครื่องเคียงหลายอย่างนั่นแหละค่ะ ที่จะมีราคาสูงกว่าอาหารชุดอื่นๆ แต่ออฟว่าก็เพราะว่าเครื่องเคียงที่เพิ่มขึ้นอีกจำนวนมาก ซึ่งแต่ละอย่างก็ต้องใช้เวลาในการเตรียม และเครื่องปรุงต่างๆ มากขึ้นก็ถือว่าโอเคทีเดียวค่ะ
Gallery ของร้าน Rice Bar
ข้อมูลทั่วไปของร้านRice Bar
สถานที่ตั้ง ร้าน Rice Bar : ตรงข้ามร้านเซเว่น ในซอยศาลาแดง สีลม บางรัก กรุงเทพ
เบอร์โทรศัพท์ ร้าน Rice Bar : 086-625-3776
การเดินทาง ร้าน Rice Bar : นั่งรถไฟฟ้ามาลงสถานีศาลาแดง หรือนั่งรถไฟใต้ดินมาลงสถานีสีลม จากนั้นเดินเข้าซอยศาลาแดง เดินประมาณ 100 เมตรจะเจอร้าน Rice Bar อยู่ตรงข้ามกับเซเว่น
สถานที่จอดรถ ร้าน Rice Bar : จอดรถในซอยข้างร้านได้ หรือจะเข้าไปจอดที่เซ็นทรัลสีลมคอมเพล็กซ์ก็ได้
เปิดให้บริการ : 10:00 - 22:00
แผนที่ร้าน Rice Bar
Leave a comment