รีวิวโดนใจ >> Miss Siam ห้องอาหารไทยแท้แบบต้นตำรับที่โรงแรมหัวช้าง เฮอริเทจ
ห้องอาหารมิสสยาม (Miss Siam Restaurant) เป็นห้องอาหารไทยของโรงแรมหัวช้าง เฮอริเทจ กรุงเทพฯ (Hua Chang Heritage Hotel) ให้เราสามารถสัมผัสอรรถรสความงดงามของอาหารไทยแบบต้นตำรับ ในบรรยากาศร่วมสมัยกันค่า ครั้งนี้ได้รับเชิญจากทางห้องอาหารไปทานเลยควงคุณแม่ พร้อมพี่สาวคนสวยไปลิ้มลองรสชาติอาหารไทยแท้ๆ กันค่า
บรรยากาศของMiss Siam Hua Chang Heritage
ตอนที่ไปถึงเป็นช่วงเย็นแล้วค่ะ ประมาณเกือบทุ่มแสงข้างนอกมืดลงทุกที เพิ่มความโดดเด่นให้สถานที่ภายในได้มากขึ้น โดยห้องมิสสยามนี้จะเป็นการตกแต่งแบบประยุกต์ มีการนำความเป็นไทยมาผสมผสานกับตะวันตก
โดยเป็นการตกแต่งที่ลงตัวดีค่ะ ลวดลายของกระเบื้องซีเมนต์พิมพ์ลายโบราณ เข้ากันได้ดีกับเก้าอี้ที่ใช้ผ้ามีลวดลายรับกัน โดยนำเสนอความหรูหราอย่างมีวัฒนธรรมที่สะท้อนถึงบรรยากาศบ้านข้าราชการชั้นสูงสมัยก่อน ในยามที่ต้องรับรองแขกบ้านแขกเมืองค่า
เมนูของMiss Siam Hua Chang Heritage
เมนูอาหารจะเป็นเมนูอาหารไทยคาว-หวาน และอาหารว่างสูตรต้นตำรับ มีให้เลือกหลายอย่างเช่น ประทัดลม หมี่กรอบทรงเครื่อง ข้าวเกรียบปากหม้อ สะเต๊ะสามอนงค์ น้ำพริกกะปิกับปลาทู หลนเนื้อปูกับปลาฟู ยำเนื้อย่างองุ่น พะแนงแกะลำไย แกงเผ็ดเป็ดย่าง แกงมัสมั่นเนื้อ ปลากระพงราดพริกสามรส ฯลฯ พร้อมของหวานไทยหาทานยากอย่าง ผลไม้ลอยแก้ว ข้าวเหนียวมะม่วงน้ำกระทิสด ไอศครีมโบราณ ทับทิมสยาม หรือทับทิมกรอบ ฯลฯ
รายการอาหารที่ทานที่Miss Siam Hua Chang Heritage
รวมอาหารว่างสาวสยาม 290++
เมนูแรกเป็นเมนูรวมอาหารว่างสาวสยามค่ะ สาวคนแรกเป็น สะเต๊ะ ที่มีทั้งหมู ไก่ และเนื้อราดน้ำสเต๊ะมาพร้อมทาน เสิร์ฟมาคู่กับขนมปังและ น้ำอาจาดเพิ่มรสชาติเปรี้ยวหวาน สาวคนต่อมาเป็น “ปอเปี๊ยะปู” ที่มากับคู่แฝดคนละฝาอย่าง “ประทัดลม (ปอเปี๊ยะกุ้งแม่น้ำ)” โดดเด่นที่ความกรอบของแป้งด้านนอก และด้านในอัดแน่นไปด้วยไส้เต็มคำ
สาวนางสุดท้ายอยู่ในตำหนักโปร่งเป็นแม่นาง ค้าวคาวเผือก โดยสาวนางสุดท้ายนี้อาจจะไม่คุ้นหน้าคุ้นตากันเท่าไหร่ เพราะนางเป็นสาวโบราณที่ทางห้องอาหารพานางข้ามภพมาให้เราได้ลิ้มลองกัน ที่เรียกว่าค้างคาวเผือกก็ด้วยรูปร่างสามเหลี่ยมคล้ายค้างคาว และมีส่วนผสมของเผือกเป็นหลักค่ะ จานนี้แนะนำให้ทานตอนร้อนๆ ด้วยความที่ทิ้งไว้จะแห้งและเสียความกรอบไปได้ค่า
หมูย่างใบชะพลู 140++
ทานอาหารว่างกันไปแล้วก็ต่อกันด้วยเมนูหมูย่างใบชะพลูกันบ้างค่ะ ในจานจะประกอบด้วยหมูห่อด้วยใบชะพลูแล้วนำไปย่าง ความสุกกำลังดีไม่แห้งเกินไป มีซอสหวานสีดำในแก้วใบเล็กมาให้เพิ่มความหวานตามใจชอบ จะทานคู่กับหมี่ขาวลวกในตะกร้าน้อยๆ ด้วยก็เข้ากันดีค่า
หมี่ขยุ้ม 220 ++
หมี่ขยุ้มเป็นเมนูที่ออฟคิดว่าถ้ากินคนเดียวก็อิ่มได้ในจานเดียวเลยค่ะ โดยเมนูนี้เป็นการนำหมี่กระทิมาปรุงรส ใสเครื่องและผัก รสชาติจะเปรี้ยวอมหวาน ทานคู่กับไข่ต้มก็เข้ากัน มีกุ้งเต็มคำ ทานแล้วกรุบๆ นิดๆด้วยถั่วลิสงค่า
กุ้งสะดิ้ง 220++
กุ้งสะดิ้ง เมนูที่ไม่เคยได้ยินชื่อจากที่ไหนมาก่อน กุ้งสดนำไปลวกสุกกำลังนี้ เนื้อแน่นหวานเต็มคำ เรียงรายอยู่ในผักหั่นซอย จะทานแบบร้านน้ำจิ้ม หรือว่าแยกทานก็ได้ค่ะ ครั้งนี้ออฟตัดสินใจราดน้ำจิ้มลงไปเลย เพิ่มความสวยงาม แต่อาจจะเสี่ยงกับคนไม่ทานเผ็ดได้นะคะ เวลาทานแยกทานเป็นคำ ให้มีทั้งกุ้ง น้ำราด และผักด้วยกันจะเข้ากันมากค่า
น้ำพริกกะปิกับปลาทูทอดและหลนเนื้อปูกับปลาฟู 290 ++
เมนูจานนี้เป็นเมนูที่ออฟรู้สึกว่าคุ้มมาก ได้ปริมาณเยอะ และเป็นการรวมของโปรดของออฟทั้งสองอย่างเข้าด้วยกันไม่ว่าจะเป็นน้ำพริกกะปิ และปูหลน แถมผักเครื่องเคียงเค้าก็มากันเต็มที่ มีผักหลายอย่างให้เลือกทานไม่ว่าจะเป็นผักทั่วไปที่หาทานได้ง่ายอย่างแตงกวา, ถั่วฝักยาว, ผักกาดขาว, ฟักทอง,มะเขือม่วง และผักที่ไม่ค่อยเห็นบ่อยนักอย่างดอกขจร, บวบงู, กระเจี๊ยบ, มะระขี้นก
นอกจากผักแล้วก็ยังมีปลาทู ไข่เจียวทอดกับชะอม ไข่ต้ม และปลาฟูให้ทานคู่กันอีกด้วยนะคะ
รสชาติของหลนปูนี่อร่อยเข้มกำลังดี เนื้อปูแน่นๆ มาเต็มๆ แบบเน้นๆ ทานกันจะหมดเกลี้ยงเลยค่ะ
น้ำพริกกะปินี่ก็แซ่บลงตัวมากๆ กลมกล่อมได้รสชาติทั้งความเผ็ด เปรี้ยว หวาน เค็ม มาครบหมดค่ะ ทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ พร้อมผักเครื่องเคียงอีกนิดเข้ากันมากๆค่ะ
สำหรับจิบน้ำชายามบ่าย 600++ (สำหรับ 2 ท่าน)
นอกจากห้องอาหารมิสสยามแล้วทางโรงแรมหัวช้าง เฮอริเทจก็ยังมีห้องไอวอรี่ เล้านจ์ สำหรับคนที่กำลังมองหาสถานที่จิบน้ำชายามบ่าย พร้อมกับทานขนมว่างแสนอร่อยไปพร้อมกัน โดยทางห้องมีสำรับจิบน้ำชายามบ่าย “ศรีตอง” (600 ++ บาท สำหรับสองท่าน) เป็นตัวเลือกที่ดีให้อยู่ด้วยนะคะ
โดยในชุดจะเป็นการนำขนมไทย 11 อย่างมาเรียงราย โดยในสำหรับจะประกอบไปด้วยของว่างอย่าง “เปาะเปี๊ยะ หมี่กรอบ กุ้งทอด ข้าวตังเมี่ยงลาว กะหรี่พัฟ หมี่กรอบทรงเครื่องโบราณและ ล่าเตียง” ส่วนของหวานจะประกอบด้วย “หม้อแกงถั่ว ฝอยทอง ขนมมันสำปะหลัง ลูกชุบ ขนมทองเอก สังขยาฟักทอง” เรียงสลับกันให้ทานสองชุดแบบไม่ต้องแย่งกันนะคะ
สำหรับของว่างนั้นก็อร่อยลงตัว แนะนำให้ทานของทอดก่อนนะคะ ไม่งั้นจะไม่กรอบ ส่วนของหวานทานตามหลังได้สบายๆ เพราะของหวานที่นี่ไม่หวานแสบคอมากค่า
ทานขนมไปจิบชาหอมๆ คู่กันไปด้วย ฟินไปเลยค่าครังนี้ที่ไปออฟได้ลองทานโรสที หอมอ่อนๆ สีชมพูโดดเด่นดีค่า
บทสรุปจากการทานที่Miss Siam Hua Chang Heritage
- ห้องมิสสยามเป็นห้องอาหารไทยที่ทำอาหารไทยได้อร่อย กลมกล่อม และลงตัวดีมากค่า
- ใครมีแขกบ้าน แขกเมือง เพื่อนต่างชาติ หรืออยากลิ้มลองอาหารไทยต้นตำรับมาทานที่ห้องมิสสยามนี้ไม่ผิดหวังแน่ค่า
- ราคาอาหารกับปริมาณและความอร่อยนี่ไปด้วยกันได้ดีค่ะ
- บรรยากาศของห้องอาหารมีมนต์เสน่ห์และคลาสสิคมากๆ สามารถเลือกนั่งได้ทั้งในห้องหรือนอกห้องที่ติดกับสระว่ายน้ำก็ได้ค่ะ
- การเดินทางตัวโรงแรมอยู่ใจกลางเมือง มาลงรถไฟฟ้าราชเทวีก็พอเดินมาได้อยู่ค่ะ
Gallery จากMiss Siam Hua Chang Heritage
ข้อมูลทั่วไปของMiss Siam Hua Chang Heritage
ที่อยู่ ห้องอาหาร มิสสยาม โรงแรม หัวช้างเฮอริเทจ : ดูแผนที่ 400 ซอยเกษมสันต์ 1 อาคาร ภายในโรงแรมหัวช้างเฮอริเทจ
เว็บไซต์ : www.huachangheritagehotel.com
Facebook : https://www.facebook.com/HuaChangHeritageHotelBangkok
วันและเวลาเปิดปิดทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 10.30 - 22.30 น
การเดินทาง ห้องอาหาร มิสสยาม โรงแรม หัวช้างเฮอริเทจ :จากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ใช้ถนนพญาไท ตรงไปเชิงสะพานหัวช้าง จะพบโรงแรม หัวช้างเฮอริเทจ อยู่ด้านซ้ายมือ ตรงข้ามกับวังสระปทุม ส่วน ห้องอาหาร มิสสยาม อยู่ภายใน โรงแรม หัวช้างเฮอริเทจ
Leave a comment