โดนใจไปญี่ปุ่น >> Day2 Tokyo Day : ASAKUSA – AKIHABARA – ODAIBA – SHIBUYA

JapanTrip_Day2_104
วันนี้เป็นวันที่เที่ยวในโตเกียวเป็นหลักค่ะ ซึ่งสิ่งที่ต้องเตรียมพร้อมก่อนเลยคือการเลือกลำดับสถานที่ว่าต้องการไปที่ไหนก่อน เพราะว่าแต่ละที่มีเวลาเปิด และควรที่จะไปแตกต่างกัน รวมไปถึงถ้าเลือกลำดับได้แล้วก็ให้ดูการเดินทางให้ละเอียดหน่อย เพราะว่าเราจะไปหลายที่ ถ้าเตรียมพร้อมไว้ก่อนจะได้ประหยัดเวลาได้เยอะค่ะ

ข้าวเช้าจาก Lawson

JapanTrip_Day2_056
ที่ญี่ปุ่นร้านสะดวกซื้อ Lawson เป็นร้านสาขาที่มีเยอะมากๆ เห็นได้ทั่วไปเลยค่ะ มีเซเว่นกับ Family Mart แทรกอยู่บ้าง ซึ่งเช้านี้ออฟก็เลือกการทานอาหารง่ายๆจากร้านลอว์สันนี่แหละค่ะ โดยทางร้านเค้าก็จะมีขายทั้งขนมปัง ข้าวปั้น อาหารสำเร็จรูปต่างๆ ให้เลือกหลายอย่าง โดยครั้งนี้ได้ลองซื้อ ข้าวปั้น149เยนและข้าวห่อสาหร่าย135เยน มาลองทานดูค่ะ ซึ่งรสชาติเค้าโอเคเลย ชิ้นใหญ่ ข้าวอัดแน่นมากๆ อิ่มแน่นอนค่ะ
JapanTrip_Day2_103

ซื้อตั๋ว Fuji Hakone Pass

JapanTrip_Day2_058
เนื่องจากมีวันที่วางแผนว่าจะไปเที่ยวโซนภูเขาฟูจิและฮาโกเน่ด้วย ก็เลยต้องมาซื้อ Pass เพื่อความสะดวกในการเดินทางกันก่อนค่ะ การเดินหาที่ขายตั๋วนี่แอบมึนเหมือนกัน โดยหลักๆคือ ไปสถานีชินจุกุทางออก West แล้วเดินไปทางตึก Odakyu ค่ะ

  • ชื่อ : Fuji Hakone Pass
  • ราคา : 7,400 yen ต่อคน
  • สถานที่ซื้อ : Odakyu Sightseeing Service Center ที่สถานี  Odakyu Railway Shinjuku Station ,West Exit ( http://www.odakyu.jp/english/center/)
  • Note : มีคนขายหลายภาษานะคะ วันที่ไปมีคนไทยด้วย แต่เท่าที่เห็นก็มีจีน เกาหลี อังกฤษเป็นหลักค่ะ
  • Linkhttp://www.odakyu.jp/english/course/fujihakone/

ไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมแห่ง ASAKUSA

JapanTrip_Day2_008
เมื่อซื้อตั๋วเสร็จแล้วก็ไปที่วัดอาซากุสะกันค่ะ โดยวันนี้มีชื่อเดิมว่า วัดเซ็นโซจิ แต่อยู่ในย่านอาซากุสะ เลยเรียกกันว่าวัดอาซากุสะ  วันนี้ออฟว่าเตรียมเสียเงินซื้อของกินระหว่างทางได้เลยค่ะ ครั้งนี้ออฟหมดไปเกือบสองพันเยนเลยทีเดียวในการลองกินของกินเล่น และไอศกรีมระหว่างไปที่วัดค่ะ
JapanTrip_Day2_061ทางเดินเข้าไปนั้นมีร้านค้าอยู่เต็มไปหมดเลยนะคะ หาได้ทั้งของกิน ของใช้ และของฝากเลยค่า
JapanTrip_Day2_108แค่เริ่มต้นเดินก็ซื้อของกินเล่นรสชาติคล้ายขนมไข่ใส้ถั่วแดงมากินแล้วค่ะ  ซื้อกลับมาฝากก็ได้ 2 แพค 500 เยน แพคนึงมี 8 ชิ้น
JapanTrip_Day2_109ต่อด้วยซาลาเปาทอดชิ้นละ 100 เยน อันนี้เฉยๆ ค่ะ เพราะว่ามันไม่ร้อนเลยด้วย
JapanTrip_Day2_110เบอร์เกอร์ไอกศรีมวานิลา 300 เยน อันนี้ไม่ผ่านค่ะ ตัวเบอร์เกอร์มันเหนียวเลย ไอศกรีมก็เฉยๆ ไม่แนะนำค่ะ
JapanTrip_Day2_111

ไอศกรีมมันอันนี้อร่อยดีมีคนต่อคิวเยอะ หาร้านไม่ยาก จิ้มจากตัวอย่าง จ่ายตัง แล้วไปยืนรอรับของได้เลยค่ะ อันนี้เค้าไม่ให้เดินทานนะคะ โดยจะมีโซนยืนทานอยู่ข้างร้านด้วย รสชาติโยดรวมก็อร่อยดีทีเดียว

  • ชื่อ: วัดอาซากุสะ
  • ย่าน : อาซากุสะ
  • การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสายกินซ่า (Ginza Line) ลงที่สถานีอาซากุสะ (G19) ออกทางออกหมายเลข 1 หรือใช้รถไฟสายอาซากุสะ (Asakusa Line) ลงที่สถานีอาซากุสะ (A18) ออกประตู 4 หรือ 5 เดิน 3-5 นาทีก็ถึงประตูสายฟ้า
  • บทสรุป : มีของกินและของฝากระหว่างทางเยอะดี คนเยอะมากๆ สถานที่กว้างไม่อึดอัด

กินเทมปุระร้าน Sansada

JapanTrip_Day2_065
หลังจากที่เดินกันได้ซักพักแล้ว จริงๆ ตั้งใจจะไปกินข้าวหน้าปลาไหลของร้าน  Irokawa แต่เดินไปหาร้านจนเจอแล้วพบว่าเค้าปิดวันอาทิตย์ค่ะ อันนี้ใครวางแผนจะไปเช้ควันกันด้วยนะคะ ดังนั้นก็เลยต้องเปลี่ยนแผนมากินเทมปุระที่ร้านใกล้กับวัดอาซากุสะแทน
JapanTrip_Day2_107
ตอนที่ไปกินประมาณสิบเอ็ดโมงคนก็เริ่มเต็มแล้วค่ะ พนักงานเป็นรุ่นป้าหน่อยใส่กิโมโนเดินนำขึ้นมาชั้น 2 แล้วต้องถอดรองเท้าไปนั่งบนเสื้อค่ะ งานนี้ใครไม่มั่นใจในกลิ่นเท้า ต้องเตรียมตัวไปก่อนนะคะ ไม่งั้นถอดมาคนอาจจะตายทั้งห้องได้ บรรยากาศของร้านเป็นสไตล์ญี่ปุ่นแบบเก่าเลย โต๊ะตัวเตี้ยที่พอจะสอดขาไปได้บ้างอยู่ คนมารับออเดอร์พูดภาษาญี่ปุ่นใส่ใหญ่เลยค่ะ ไม่ต้องตกใจ ให้ขอเมนูภาษาอังกฤษเค้า แล้วสั่งโดยการจิ้มเอาเลย จะทำให้การสั่งง่ายขึ้นมากค่ะ
JapanTrip_Day2_069
งานนี้ออฟเลือกสั่งเป็นเซตค่ะ โดยจะมีเทมปุระใส่จานแยกกับข้าวมาให้พร้อมเครื่องเคียง และซุปค่ะ ส่วนของไผ่จะเป็นข้าวหน้าเทมปุระถ้วยเดียวที่มีข้าวอยู่ด้านล่าง และเทมปุระตู้มๆ อยู่ด้านบน คนที่จะสั่งข้าวหน้าเทมปุระนี่สามารถเลือกขนาดได้ด้วยนะคะ คนที่อยากลองจริงๆ แนะนำให้สั่งชามเล็กก่อน ถ้าถูกใจค่อยสั่งเพิ่มนะคะ
JapanTrip_Day2_070

  • ชื่อร้าน : Sansada
  • ย่าน : อาซากุสะ
  • การเดินทาง : อยู่ข้างวัดอาซากุสะ นั่งรถไฟใต้ดินสายกินซ่า (Ginza Line) ลงที่สถานีอาซากุสะ (G19) ออกทางออกหมายเลข 1 หรือใช้รถไฟสายอาซากุสะ (Asakusa Line) ลงที่สถานีอาซากุสะ (A18) ออกประตู 4 หรือ 5 เดิน 3-5 นาทีก็ถึงประตูสายฟ้า
  • บทสรุป : ไม่แนะนำ กินแล้วไม่อร่อย เทมปุระไม่กรอบ ราคาก็แพง
  • Linkwww.tempura-sansada.co.jp

ไปเดินเล่นที่ อากิฮาบาร่า ( Akihabara ) เสาะหากันดั้ม

JapanTrip_Day2_026
อิ่มท้องกันไปแล้วถึงแม้จะไม่ค่อยฟิน แต่ก็เป็นการเติมพลังอย่างหนึ่งค่ะ เมื่อเติมแล้วก็ต้องใช้ออกกันบ้าง เลยไปเดินเล่นกันที่ย่านอากิฮาบาร่า ( Akihabara) โซนนี้จะคล้ายกับพันธ์ทิพย์บ้านเราค่ะ มีข้าวของเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ขายกันเยอะมากๆ นอกจากนี้ก็ยังมีของพวกเกมส์ การ์ตูน และ Figure ต่างๆ ให้มาซื้อกันด้วยค่ะ สำหรับครั้งนี้ไผ่มีเป้าหมายในการซื้อกันดั้มหลายตัวเลย ซึ่งตอนแรกก็ไปเดินดูหลายที่พบว่าไม่ค่อยมีของเลยค่ะ
JapanTrip_Day2_028
แล้วก็มาเจอที่สุดยอดรวมแหล่งกันดั้มเอาไว้นั่นก็คือ Yodobashi ค่า ขึ้นไปชั้น 6 มีเป็นโซนกันดั้มให้เลือกเยอะเลยงานนี้ความสุขพุ่งขึ้นสูงเลยค่ะ มีของครบที่อยากได้ทุกตัวเลย แถมราคาก็ถูกกว่าที่เมืองไทยเยอะมากๆ จนอยากจะซื้อกลับไปให้หมด แต่ไม่มีมือจะถือ เลยต้องเลือกแต่ที่อยากได้จริงๆค่ะ
JapanTrip_Day2_105
คนที่อยากซื้อของแล้วห่วงเรื่องเกะกะถ้าต้องไปเที่ยวต่อก็ไม่ต้องกลัวนะคะ เพราะแทบทุกสถานีมี Locker ให้ฝากของด้วยค่ะ
JapanTrip_Day2_059

  • ชื่อ : อากิฮาบาร่า ( Akihabara)
  • การเดินทาง : นั่ง JR สายสีเขียว Yamanote ลงที่สถานี Akihabara ออก Electric City Exit หรือ Subway สาย Hibiya ออก Showa – Dori Exit  ถ้าใครจะมาโดย Subway สาย Ginza ลงที่สถานี Seuhirocho (G14) ออกทางออกหมายเลข 1 หรือ 2
  • บทสรุป : มีของเล่นเยอะดี ตึกสูงเยอะมาก คนที่ชอบของพวก Electronic ,เกมส์, การ์ตูนน่าจะชอบ

เที่ยว ODAIBA

JapanTrip_Day2_073
เมื่อซื้อกันดั้มแล้วก็ต้องไปดูกันดั้มตัวใหญ่กันบ้างค่ะ เดี่ยวจะหาว่าไม่ใช่สาวกตัวจริง โดยที่ “โอไดบะ” (Odaiba) การเดินทางมาโอไดบะนี่เค้ามีสายรถส่วนตัวเลยนะคะ ที่เมืองนี้เค้าถือว่าเป็นเมืองใหม่ที่มีการวางแผนมาเป็นอย่างดี โดยเป็นการถมพื้นที่ทะเลให้กลายมาเป็นพื้นดิน และสร้างสิ่งก่อสร้างมากมายเลยทีเดียวค่ะ

  • ชื่อ : โอไดบะ (Odaiba)
  • การเดินทาง : นั่งรถไฟมาลงที่ JR Shimbashi  แล้วเดินออกไปที่สถานี Shimbashi ของรถไฟ Yurikamome จากนั้นนั่งรถไฟสาย Yurikamome เที่ยวรอบเมืองโอไดบะ
  • บทสรุป : เป็นเมืองใหม่ที่รวบรวมร้านดังๆเอาไว้เยอะมาก สาวกกันดั้ม และ One Piece ห้ามพลาดนะคะ

กินภัตตาคารโหดจาก Onepiece “BARATIE”

JapanTrip_Day2_074
ภัตตาคารลอยทะเล “บาราติเอ” (Baratie) เป็นที่ทำงานเดิมของ ซันจิ กุ๊กสุดหล่อของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางค่ะ โดยออฟชอบเรื่องวันพีซมาก เลยคิดว่าต้องมาให้ได้ เรียกว่ามาที่นี่ก่อนไปที่อื่นๆ ในโอไดบะเลยทีเดียวค่ะ ตัวร้านอยู่ ชั้น 7 ของตึก Fuji TV ซึ่งจุดเด่นของตึกนี้คือมีลูกกลมๆ อยู่ข้างบน ทางเดินขึ้นมีบันไดเป็นปล่องขึ้นไปถึงชั้น 7 เลยค่ะ
JapanTrip_Day2_029
มาถึงด้านหน้าร้านจะเห็นชื่อภัตตาคารและหัวเรือซันนี่ก่อนเลย เมื่อมาอีกมุมจะเห็นลูฟี่และชอปเปอร์ด้วยนะคะ เมื่อถ่ายรูปกันเสร็จแล้วก็เข้าไปที่ทางเข้าที่อยู่ทางขวามือเลยค่ะ งานนี้ไม่ได้จองอะไรเลยนะคะ เดินดุ่มๆ เข้าไปเลย
JapanTrip_Day2_075
พบว่าร้านว่างมาก ไม่รู้ว่าไม่ค่อยมีใครมาทานที่ร้านตอนบ่ายสามเหมือนออฟรึเปล่า หรือเป็นเพราะว่าวันที่ไปมีจัดคอนเสิร์ตเกิรล์กรุ๊ปด้านล่าง คนเลยไปยืนรอด้านล่างกันหมด แต่ทำให้ตัวร้านดูโหวงเหวงไปเลยค่ะ คนน้อยมาก มีไม่ถึง 5 โต๊ะเลยทีเดียว
JapanTrip_Day2_078
เมื่อนั่งแล้วเค้าจะเสิร์ฟน้ำเปล่าให้นะคะ เราสามารถเลือกสั่งอาหารด้วยการจิ้มในเมนูได้เลยค่ะ ไม่มีภาษาอังกฤษ ดังนั้นไม่รู้เลยว่าอะไรเป็นอะไรบ้าง จิ้มเอาอย่างด้วยเลย เนื่องจากยังไม่ค่อยหิวมากเลยตัดสินใจสั่งแค่เครื่องดื่มกับของกินเล่นมาทานค่ะ
JapanTrip_Day2_034
เครื่องดื่มนี่เค้าจะมีให้เลือกตามตัวละครในโจรสลัดหมวกฟางเลยค่ะ ให้ดูสัญลักษณ์ด้านข้างรูปประกอบเอานะคะ โดยครั้งนี้ออฟสั่งเครื่องดื่มลูฟี่(สีแดง) 670 เยน และของไผ่เป็นเครื่องดื่มก็อดเอนูลู สีส้ม 670เยน
JapanTrip_Day2_037
“Pirate’s Treasure Chest” (950 bellies) โดยในเมนูจะระบุราคาเป็น “เบรี” ตามสกุลเงินในโลกของวันพีซ แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ จ่ายเป็นเยนแบบเดิมเลยค่า เมนูนี้เป็นเมนูของทอดให้เรามากินกันค่ะ
JapanTrip_Day2_080
ปิดท้ายด้วยใบเสร็จจากทางร้าน
JapanTrip_Day2_039

  • ชื่อร้าน : บาราติเอ (Baratie)
  • ย่าน : Odaiba
  • การเดินทาง :  ตั้งอยู่บนชั้น 7 ของตึก Fuji TV ,นั่งรถไฟสาย Yurikamome มาลงที่สถานี Daiba
  • Open : 10:30 a.m. to 10:00 p.m.
  • บทสรุป : คนที่ชอบวันพีซห้ามพลาดนะคะ มาซักครั้งนึง แต่ถ้าคนไม่อินออฟว่าเฉยๆค่ะ ราคาอาหารและเครื่องดื่มแพงอยู่เหมือนกัน รสชาติกลางๆค่ะ

GUNDAM Front Tokyo

JapanTrip_Day2_085
เมื่อกินอิ่มแล้วก็ค่อยๆ เดิมเก็บบรรยากาศยามเย็นแสนโรแมนติกไปตามทาง แล้วก็เดินไปเรื่อยๆ จนถึง “DiverCity Tokyo Plaza” เป้าหมายหลักเพื่อมาการถ่ายรูปคู่กับเจ้าหุ่นยนต์ GUNDAM 「RG1/1 RX-78-2 GUNDAM Ver.GFT ขนาดเท่ากับของจริงด้วยอัตราส่วน 1:1 ตัวใหญ่อลังการได้ใจ มีรายละเอียดครบดีจริงๆค่ะ
JapanTrip_Day2_042
ข้างๆมี Gundum Cafe ให้ไปซื้อของฝากและของกินกันด้วยนะคะ
JapanTrip_Day2_086

  • ชื่อ : DiverCity Tokyo Plaza
  • ย่าน : Odaiba
  • การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Yurikamome มาลงที่สถานี Daiba
  • บทสรุป : กันดั้มตัวใหญ่มากๆ รายละเอียดครบ มาตอนกลางคืนเปิดไฟส่งเพิ่มความเท่ห์ไปอีก แต่ถ้ามาซื้อกันดั้มที่นี่จะแพงกว่า yodobashi

ไปชมบรรยากาศ ยามค่ำคืนของ Shibuya (ชิบูย่า) 5 แยกบันลือโลก

JapanTrip_Day2_088
จริงๆ ต้องบอกว่าวันนี้เหนื่อยมากๆแล้วค่ะ แต่เนื่องจากมีเวลาเที่ยวน้อยก็เลยตัดสินใจมาเดินเที่ยวที่ Shibuya (ชิบูย่า) ต่อ โดยตอนที่ไปถึงก็ประมาณทุ่มกว่าแล้ว แต่คนยังเยอะมากๆ ออกมาจากใต้ดินแล้วก็งงๆ ไปเลยว่าจะไปทางไหนดี และเนื่องจากไม่ได้มีเป้าหมายมาที่นี่ตั้งแต่แรกทำให้ไม่ได้วางแผนอะไรเท่าไหร่ เดินตามความรู้สึกมุ่งเป้าขึ้นไปที่ Starbuck ก่อนเลย เพื่อดูการข้ามถนนที่ห้าแยกในมุมสูง ซึ่งก็พบว่าแค่ช่วงเวลาสั้นๆที่ไฟคนข้ามถนนเป็นสีเขียว คนจากทุกมุมก็เดินข้ามถนนไปยังทิศที่ตัวเองต้องการกันอย่างมุ่งมั่น มีนักท่องเที่ยวหยุดถ่ายรูปบ้าง เมื่อดื่มด่ำกับความวุ่นวายไปได้ซักพักท้องก็เริ่มหิวแล้วค่ะ

  • ชื่อ : Shibuya (ชิบูย่า)
  • การเดินทาง : สามารถนั่งรถไฟ JR มาลงที่สถานี JR Shibuya โดยนั่งรถไฟได้ถึง 3 สาย ได้แก่ JR Yamanote Line, JR Saikyo Line, JR Shonan Shinjuku Line (สามารถใช้ JR Pass/Tokunai Pass ได้) นอกจากนี้ยังสามารถมาได้ด้วยรถไฟ Subway สาย Hanzomon Subway Line, Ginza Subway Line
  • บทสรุป : เป็นย่านที่มีของกินเยอะทีเดียว และมีความวุ่นวายเยอะมากๆ ด้วย

กินมื้อดึกที่มิโดริซูชิ สาขาชิบูย่า

JapanTrip_Day2_089
ร้านซูชิที่มีแต่คนแนะนำให้ไปลองด้วยราคาที่ถูกและคุณภาพดี ถึงแม้ว่าจะดึกแล้วแต่ก็ตัดสินใจไปลองทานซูชิที่ร้าน มิโดริซูชิ สาขาชิบูย่าดูค่ะ หาร้านแอบยากนิดหน่อย เนื่องด้วยเริ่มเหนื่อยและเมื่อยมากๆ แล้วด้วยก็เลยมีหงุดหงิดบ้าง มาถึงร้านแล้วก็ยังไม่แน่ใจเพราะว่าหาชื่อร้านภาษาอังกฤษไม่มีเลย และอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออก แต่ด้วยแถวที่ต่อคิวอยู่นั้นทำให้มั่นใจมากขึ้นว่ามาถูกร้านแล้วค่ะ ถ้าใครมาถึงแล้วรีบไปกดบัตรคิวก่อนเลยนะคะ เค้ามีโหมดภาษาอังกฤษด้วย กดแล้วจะไปเดินเล่นหรือว่านั่งรอตรงเก้าอี้หน้าร้านเค้าก็ได้ ครั้งนี้คนเยอะจนเก้าอี้เต็ม แต่ด้วยความหมดแรงทำให้ออฟนั่งรอกับพื้นเลยค่ะ ใช้เวลารอประมาณเกือบสองชั่วโมงก็ถึงคิว กว่าจะได้กินก็สามทุ่มแล้วค่ะ โดยทางร้านปิดรับออเดอร์ตอน 21:30 และร้านปิดตอน 22:00 ดังนั้นเลยต้องวางแผนไว้ก่อนเลยว่าจะกินอะไรบ้าง ไปนั่งปุ๊ปก็สั่งเลยค่ะ

JapanTrip_Day2_090

จัดเซตท็อป2,500เยนให้สมกับที่รอคิวเป็นชั่วโมงค่ะ
JapanTrip_Day2_098
โดยในเซตจะมีซูชิหน้าต่างๆประมาณ 15 อย่างเสิร์ฟมาพร้อมกับซุป และสลัดปูค่ะ
JapanTrip_Day2_091
คุณภาพของปลาสดใช้ได้ ซูชิคำใหญ่กำลังดี และต้องบอกว่ารู้สึกว่าคุ้มราคามากเลยค่ะ แอบมองในร้านเค้าไม่ค่อยสั่งชุดใหญ่กันเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะสั่งเป็นเมนูย่อยๆ แต่เนื่องจากนอกจากเซตแล้วมีแต่เมนูภาษาญี่ปุ่นเลยอดสั่งค่า แต่ครั้งนี้ออฟกับไผ่กินคนละเซตก็อิ่มแบบสุดๆ แล้วค่า
JapanTrip_Day2_096
ใบคิดเงินจากทางร้านให้นำไปจ่ายที่เคาเตอร์ด้านหน้านะคะ
JapanTrip_Day2_053

  • ชื่อร้าน : มิโดริซูชิ
  • ย่าน : Shibuya (ชิบูย่า)
  • การเดินทาง : ชั้น 4 ส่วนเชื่อมต่อ ห้าง Shibuya Mark City, สามารถนั่งรถไฟ JR มาลงที่สถานี JR Shibuya โดยนั่งรถไฟได้ถึง 3 สาย ได้แก่ JR Yamanote Line, JR Saikyo Line, JR Shonan Shinjuku Line (สามารถใช้ JR Pass/Tokunai Pass ได้) นอกจากนี้ยังสามารถมาได้ด้วยรถไฟ Subway สาย Hanzomon Subway Line, Ginza Subway Line
  • บทสรุป : กินแล้วอร่อยดี ราคาไม่แพงมาก ทำเร็ว และมีเมนูภาษาอังกฤษ

Leave a comment