รีวิวโดนใจ >> Gyunobi (กิวโนบิ) ร้านปิ้งย่างสไตล์ยากินิกุ หลากเมนูอร่อย คุ้มค่า ที่ต้นซุง Avenue
Gyunobi (กิวโนบิ) ร้านปิ้งย่างสไตล์ยากินิกุ ที่ครั้งนี้ออฟได้มาลองทานแล้วพบว่าติดใจมากๆ ร้านนี้เป็นร้านที่เต๋อแนะนำแล้วก็เลือกเป็นร้านเป้าหมายของดินเนอร์กันค่ะ ร้านอยู่ในโซนที่ดูจะห่างไกลจากแถวบ้านออฟไปเยอะเหมือนกัน แต่เนื่องด้วยเป็นช่วงวันหยุดแล้วก็ขึ้นทางด่วนมาเลย ดังนั้นก็ใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่ก็มาถึงค่ะร้านนี้อยู่ที่ต้นซุง อเวนิว ซึ่งออฟคิดว่าก็น่าจะมีคนน้อยเหมือนกัน เพราะว่าร้านอยู่นอกเมือง แล้วก็ต้องมีรถเท่านั้นด้วยถึงจะไปสะดวกค่ะ
บรรยากาศของร้านGyunobi (กิวโนบิ)
ร้านมีสองชั้น โดยชั้นล่างก็มีที่นั่งนอกอาคารด้วยค่ะ โดยความเก๋ของร้านอยู่ที่การคงคอนเซปต์โดราเอมอนเอาไว้ ประมาณว่าเริ่มตั้งแต่การใช้สีแต่งหน้าร้าน วัสดุการตกแต่งร้าน จนกระทั่งเมนูอาหารกันเลยค่ะ
ครั้งนี้ขึ้นมานั่งชั้นบน ซึ่งออฟคิดว่าก็ดูเป็นส่วนตัวกว่าข้างล่างหน่อย แล้วก็ได้เห็นวิวข้างนอกด้วย เพราะรอบๆ เป็นกระจกใสทำให้ร้านดูไม่อึดอัดดีค่ะ
บรรยากาศของร้านจะสไตล์ญี่ปุ่นแบบโมเดิร์นหน่อย แต่ความเก๋ที่รู้สึกว่าโดนใจคือเก้าอี้ค่ะ เพราะจะเห็นว่าเหมือนเป็นท่อของกลุ่มแก๊งค์โดราเอมอนชอบไปนั่งกันเลย น่ารักดีค่ะ
โต๊ะของที่นี่ออฟว่านั่งสบายกว่าหลายๆร้านปิ้งย่างที่เคยไปกินมา เพราะว่าไม่แคบจนเกินไป เข้าไปนั่งแล้วไม่อึดอัดมากๆ แล้วท่อระบายความร้อนที่อยู่ใต้โต๊ะก็ไม่ใหญ่มาให้เกะกะขาด้วยค่ะ บางที่นี่ คนขายาวนั่งลำบากไปเลย
เมนูของร้านGyunobi (กิวโนบิ)
เมนูของร้านก็มีให้เลือกทั้งแบบทานเป็นยากินิคุ ชาบู และสุกี้ยากี้ค่ะ โดยมีทั้งแบบธรรมดา และราคาพิเศษที่เพิ่มตัวเลือกให้มากขึ้นด้วย ครบเครื่องด้วยการมีของหวานและเครื่องดื่มให้เลือกในราคารวมแล้วด้วยค่ะ แถมราคาก็เป็น Net แล้วไม่ต้องคิดอะไรมากว่าจะมี service charge , vat อีกไหมด้วยค่ะ
รายการเนื้อที่ทานที่ร้านGyunobi (กิวโนบิ)
เนื่องด้วยครั้งนี้มาทานกับเพื่อนๆ ที่ไม่เจอกันมาร่วมปี ก็เลยออกตัวก่อนเลยนะคะว่า รีวิวครั้งนี้จะไม่ได้จำชื่อเนื้อมาฝาก แต่ก็เก็บรูปภาพของเนื้อที่ทานในวันนั้นมาให้ดูกันค่ะ
เนื้อของทางร้านที่มาเสิร์ฟก็ลายสวยดีทีเดียว เนื้อแดงดูน่ากินดี เท่าที่ลองกินจะชอบที่ทางด้านมีการนำซอสต่างมาใส่ให้ด้วย เพิ่มรสชาติได้ดีทีเดียวค่ะ ไม่ว่าจะเป็นซอสมิโซะ, ซอสตะไคร้, ซอสกะหรี่ญี่ปุ่น หรือจะทานแบบโรยเกลือและพริกไทยดำก็เข้ากันดีค่ะ
เวลาย่างอย่าทิ้งไว้นานจนแห้งมากค่ะ ย่างพอสะดุ้งไฟแล้วก็ทานได้เลยจะได้รสชาติของเนื้อได้อย่างเต็มที่
นอกจากเนื้อวัวที่มีให้เลือกหลายส่วนเลยไม่ว่าจะเป็น เนื้อสันใน เนื้อสันนอก เนื้อท็อป เนื้อริบอาย เนื้อ Australian Brisket แล้วก็สามารถเลือกสั่งเนื้อหมูส่วนต่างๆ หรือว่าเนื้อไก่ก็ได้นะคะ
เนื้อที่ทางร้านใส่จานมาให้จะไม่ได้สไลด์มาบางจนเกินไปซึ่งถือเป็นข้อดีค่ะ แล้วก็มีชิ้นเนื้อที่ย่างแล้วพอดีคำดีด้วย ไม่ต้องแบ่งชิ้นอะไรให้ยุ่งยากอีก เข้าปากได้เต็มคำพอดีเลยค่ะ
รายการอาหารทะเลที่ทานที่ร้านGyunobi (กิวโนบิ)
ส่วนอาหารทะเลที่เรามาลุยกันก็มีเด็ดๆ ตัวใหญ่อย่างหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ที่ขอบอกว่าตัวใหญ่เอาเรื่องมากๆ แต่ครั้งนี้ไม่ค่อยได้รับความสนใจเท่าไหร่ เพราะว่าเรามีกุ้ง แล้วก็มีมือแกะกุ้ง (ไผ่) ด้วย ดังนั้น เราก็เลยสั่งกุ้งกันมารัวๆ เลยค่ะ ขนาดของกุ้งนั้นถึงจะไม่ได้ดูใหญ่อลังการมาก แต่ว่าก็อยู่ในระดับที่แกะแล้วไม่เสียเวลา แต่เสียดายทางร้านไม่มีน้ำจิ้มซีฟู๊ด ไม่งั้นก็เหมือนมาทะเลบุฟเฟ่ต์ย่างกุ้งกันเลยค่ะ
รายการอาหารทานเล่นที่ทานที่ร้านGyunobi (กิวโนบิ)
ของทานเล่นที่นี่ก็มีทั้งซาซิมิแซลมอนที่หั่นมาชิ้นหนากำลังดี แต่แข็งเพราะน้ำแข็งไปหน่อย แต่ก็ยังคงความสดและอร่อยไว้ได้อย่างเต็มเปี่ยมค่ะ จิ้มกับโชยุและวาซาบิที่เค้าให้มาก็อร่อยเหมือนอยู่ภัตตาคารอาหารญี่ปุ่นได้เลยค่ะ
มาเบรกกันด้วยซุปมิโสะที่สั่งไปสองแต่ของออฟหายไปไหนก็ไม่รู้ ก็เลยดอยของเฮมาถ่ายรูปก่อนค่ะ อันนี้เลยไม่ได้ลิ้มลองรสชาติเลย
เมนูที่ทุกคนยอมให้ออฟกินคนเดียว เพราะอยากลองสั่งมาทานก็คือเมนูแคลิฟอร์เนียมากินี่ค่ะ ออฟว่าสาหร่ายเค้าก็กรอบใช้ได้อยู่ ใส่ข้างในก็อัดแน่นกันดี ซอสที่ใส่ก็ไม่เลี่ยนมาและเยอะเกินไปค่ะ
ที่ถูกใจมากๆค่ะ สาหร่ายแบบจัดเต็มกันเนี่ยแหละค่ะ ครั้งนี้เต๋อสั่งไปว่าสิบถ้วย พนักงานก็งงๆ แต่ก็ได้กลับมา 4 ด้วย แต่มีปริมาณเต็มถ้วย ให้กินกันจนหายอยากไปเลยดีค่ะ แบบว่าไม่งก ให้เราสั่งทีละนิด แล้วก็ประหยัดพื้นที่ให้เราด้วยการใส่ถ้วยมาพอดีคนให้ด้วยค่ะ เพราะแค่นี้โต๊ะก็ไม่มีที่จะวางของอยู่แล้ว
เมนูปูอัดสำหรับคนไม่ทานปลาดิบค่ะ ก็กลางๆนะคะ แต่ก็ไม่แป้งมากเท่าไหร่ดีค่ะ
เมนูไข่หวานนี่ทานแล้วเฉยๆค่ะ
สลัดรวมถ้วยนี้ออฟซัดคนเดียวเลยค่ะ หนุ่มๆ แย่งไม่ทันเลย และพบว่าชอบมากด้วย เพราะมีผักหลายอย่าง แล้วน้ำสลัดแบบญี่ปุ่นก็เค็มกำลังดีทานได้ง่ายค่ะ
การทานอาหารที่ร้านGyunobi (กิวโนบิ)
ทางร้านจะมีอุปกรณ์เป็นจาน ตะเกียบ และที่คีบแบบยาวให้เราค่ะ
เตาจะเป็นแบบไม่มีที่ดูดควันข้างบน เมื่อเค้าเอาถ่านพร้อมตะแกรงมาใส่ เราก็ลงเนื้อ กุ้ง หรืออะไรก็ตามที่ต้องการย่างไปเลยค่ะ เตาขนาดนี้ 4 คนกำลังสวยค่ะ ถ้าเยอะกว่านี้จะปิ้งไม่ทันกิน
ส่วนผักเครื่องเคียงก็สั่งกันมาได้ค่ะ หรือจะสั่งชุดผักกับน้ำจิ้มญี่ปุ่นที่รสชาติคล้ายกับสะเต๊ะมาลองทานก็อร่อยดีค่ะ
น้ำจิ้มของทางร้านให้มาเป็นถ้วยกำลังดี มาพร้อมกับพริก กระเทียมและมะนาวเป็นชิ้นค่ะ ครั้งนี้ ออฟใส่ทุกอย่างเลย ด้วยความเปรี้ยวปาก และอยากลดความเลี่ยนของไขมันจากเนื้อด้วย ก็เลยใส่กระเทียมกับพริกไปด้วย เพิ่งจะรู้เหมือนกันว่าใส่แล้วมันอร่อยกว่ามากขนาดนี้ ปกติจะกลัวพริก ไม่กินเผ็ดค่ะ ก็เลยไม่ใส่ แต่งานนี้ก็ใส่ (แต่ก็ไม่ได้เยอะ หรือท่วมอะไรขนาดนั้น) ได้ความอร่อยมากขึ้นดีค่ะ
ใบเสร็จจากร้านGyunobi (กิวโนบิ)
บทสรุปจากการทานที่ร้านGyunobi (กิวโนบิ)
ขอบคุณนายเต๋อที่นำทางเรามา และต้องขอบคุณเฮที่ไปรับเต๋อและขับจากแปดริ้วมาหาถึงนี่ด้วยนะจ๊ะ ได้มาเจอร้านอร่อยโดนใจแบบนี้ แฮปปิ้มากค่า (อย่าไปนับแคลอรี่ที่กินเข้าไป เดี่ยวจะอร่อยได้ไม่เต็มที่)
สุดท้ายต้องขอบคุณมือแกะกุ้งของเราวันนี้ด้วยค่ะ ทำหน้าที่ได้ดีมากๆ ส่วนเรื่องอาหารของทางร้านสรุปได้ว่าอร่อยคุ้มค่าดีค่ะ พนักงานก็โอเคดี จนมาถึงช่วงท้ายที่คนเริ่มเยอะนี่แหละ ถึงได้ออเดอร์ขาดหาย และใช้เวลานานหน่อย แต่ก็พอรับได้ค่ะ
Gallery จากร้านGyunobi (กิวโนบิ)
ข้อมูลทั่วไปของร้านGyunobi (กิวโนบิ)
ที่อยู่ : 426 อาคาร ชั้น 3 โครงการตันซุงแอฟเวนิว ถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310
สาขา : ต้นซุงแอฟเวนิว
เบอร์โทรศัพท์ : 0869810770
เว็บไซต์ : http://www.facebook.com/Gyunobi
วันและเวลาเปิดปิดทำการ : เปิดทุกวัน จันทร์ - ศุกร์ เวลา 10.30 - 14.00 และ 16.00 - 22.00 น. เสาร์ - อาทิตย์ เวลา 10.30 - 22.00 น.
การเดินทาง :ใช้ถนนประดิษฐ์มนูธรรม มุ่งไปทางโครงการต้นซุงแอฟเวนิว ร้านกิวโนบิยากินิกุ ตั้งอยู่ภายในโครงการต้นซุงแอฟเวนิว บนชั้น 3 ตึกเดียวกับธนาคารออมสิน สาขาต้นซุงแอฟเวนิว
ที่จอดรถ : ที่จอดรถของโครงการต้นซุงแอฟเวนิว
Leave a comment