รีวิวโดนใจ >> Fuji Restaurant ร้านอาหารญี่ปุ่นที่โดนใจ

วันนี้ไปเดินที่แพลตตินัมเพื่อชอปปิ้งคลายเครียด ซึ่งกองทัพต้องเดินด้วยท้อง ดังนั้นอาหารมื้อเที่ยงของเรา(ออฟและไผ่ที่โดนลากมา)วันนี้ก็คือ “ซูชิ” ซึ่งร้านอาหารที่เข้าตาก็คือ ฟูจิซึ่งอยู่ที่ชั้นบนสุดนั่นเอง ปกติแล้วออฟจะสั่งชุดเบนโตะเทมปุระ เพราะว่ามีของที่ชอบกินหลายอย่าง แต่ว่าวันนี้จะมากินซูชิกันบ้างค่า

เริ่มกันด้วยซุดซูชิรวม

อาหารชุดนี้มีซูชิหลากหลายให้เลือกทานกันมากมาย ซึ่งพอกลับมาค้นหาข้อมูลก็พบว่ารูปแบบที่เห็นเค้าเรียกว่า “นิงิริซูชิ” (Nigiri Sushi) และเนื่องจากเป็นอาหารจานแรกที่มาเสริฟ ก็เลยได้รับการพิจารณาค่อนข้างนานนิดนึง (เพราะว่าจะรอถ่ายรูปรวม อิอิ) เมื่อพิจารณาภาชนะที่ใส่ซูชินั้นให้ผ่าน เพราะว่าไม่มีคราบสกปรก หยดน้ำ หรือเม็ดข้าวให้เห็น

จากนั้นมาพิจารณาการจัดวางพบว่าถ้าสัีงเกตดีๆ จะมีการไล่สีของเนื้อปลาดิบหรือหน้าของซูชิจากสีเข้มไปสีอ่อน ซึ่งทำให้เป็นการดึงดูดตาของผู้ทานได้โดยง่าย เนื่องจากมีการไล่เรียงสี ทำให้เวลามอง ไม่รู้สึกถึงความสับสนของสีอาหารที่ปนเปกัน

มาถึงรสชาติของซูชิจานนี้ ต้องบอกทำได้ดีไม่ผิดหวังเลยทีเดียว ซูชิจะมีการใส่วาซาบิไว้ใต้หน้าของซูชิ ซึ่งถ้าคนที่ไม่ทา่นซูชิ แนะนำให้บอกพนักงานก่อนล่วงหน้า จะทำให้การทานอาหารสะดวกมากยิ่งขึ้น นอกจากตัวซูชิแล้ว เครื่องเคียงก็เป็นสิ่งสำคัญ ในที่นี้จะมีน้ำซุป เต้าหู้ และ กิมจิมาให้ด้วย ซึ่งออฟคิดว่า น้ำซุปอุ่นนี่ช่วยให้การทานอาหารมีความสุขยิ่งขึ้น เพราะว่าตัวร้านเป็นห้องแอร์ ตัวซูชิเองก็ไม่ใช่อาหารร้อน ดังนั้นการที่มีอะไรอุ่นมาทานคู่กัน เป็นการเพิ่มความสุขให้กับผู้ทานมากๆ

ต่อด้วยซุดไข่หวาน

ไข่่หวาน หรือ ไข่ม้วน (ทามาโกะ ยากิ – Tamago Yaki ) นั้นเป็นอาหารที่ชื่นชอบสำหรับออฟพอสมควร เป็นว่ามันกินง่าย เหมือนไข่เจียวอัดแท่ง แต่มีรสชาติหวาน ซึ่งออฟก็คิดอยากทำด้วยตัวเองเหมือนกัน แต่ยังไม่มีโอกาส และกลัวทำไม่อร่อยด้วย ใครสนใจวิธีทำลองเข้าไปที่ ตัวอย่างวิธีทำ

ไข่หวานที่มาเป็นเซตนี้จะมีขนาดแตกต่างจากที่เป็นซูชิ และอุ่นกว่าด้วย คงเป็นเพราะว่าส่วนที่ใช้ทำซูชิ เค้าคงต้องทำทิ้งไว้บ้างก็เลยเย็นๆ แต่ที่เป็นเซตนี้คงทำไว้ไม่นาน  ด้านบนจะมีหัวไชเท้าบดเป็นแท่งสามเหลี่ยมดูน่ารักดี (แต่ออฟเขี่ยทิ้ง หลังจากลองกินแล้วพบว่า กินแบบไม่ใส่หัวไชเท้าอร่อยกว่า) จานสะอาดเหมือนเดิม แต่มีการใช้ใบไม้ (ไม่รู้ว่าเป็นใบอะไร) มาตกแต่งเพิ่มสีสันให้จานนี้ได้อย่างมาก

ข้าวห่อสาหร่ายรวมมิตร

ข้าวห่อสาหร่ายรวมมิตรในที่นี้คือมีหลายไส้นั่นเอง โดยเค้าเรียกกันว่า “มากิซูชิ” (Maki Sushi) ซึ่งวันนี้ก็มีกุ้ง แตงกว่า ปลาสด ไข่หวานและปูอัด ซึ่งการตกแต่งก็ดูเรียบง่าย ลงตัวดี ภาชนะสะอาดดี มีการจัดเรียงที่สวยงาม สังเกตการเรียงสีสันของจานนี้จะแตกต่างจากจานซูชิเซตนิดหน่อยตรงที่ว่า จานนี้มีการเรียงสีไล่โทนเข้มอยู่ตรงกลาง และสีอ่อนลงตามลำดับไปทั้งสองข้าง ซึ่งสร้างจุดดึงดูดสายตาตรงกลางจานได้เป็นอย่างดี

ถ้าไม่นับส่วนของความสูงของข้าวห่อสาหร่ายที่ไม่เท่ากันเท่าไหร่ ก็นับว่าอาหารจานนี้ผ่าน เพราะหน้าตัดของของซูชิแต่ละอันนั้นเรียบเสมอกัน ไม่มีรอยข้าวปลิ้นออกมา ไส้ก็ถูกตัดด้วยใบมีดคมจนไม่มีรอย สาหร่ายที่ใช้ห่อ ตึงเรียบ ไม่หย่อนยาน อัตราส่วนของไส้และข้าวนั้นค่อนข้างดี เมื่อจิ้มกับโชยุแล้วอร่อยมากๆ

ปิดท้ายด้วยกาแฟร้อน

ทางร้านมีให้เลือกเครื่องดื่มฟรี ไม่ว่าจะเป็นชา หรือกาแฟ โดยไผ่เลือกกาแฟร้อน ซึ่งเป็นกาแฟแก้วเล็กๆ แต่เข้มข้นใช้ได้เลย มีน้ำตาล และนมมาให้ปรุงเองตามความชอบใจของผู้ดื่ม ซึ่งรสชาติก็ถือว่าดีทีเดียว สำหรับคนที่ไม่ชอบดื่มกาแฟ อาจเลือกดื่มชาก็ได้

ภาพรวมของอาหารเที่ยงวันนี้

อาหารวันนี้มียอดรวมทั้งสิ้น 440 บาท อาจจะเป็นราคาที่แพงไปนิดสำหรับคนที่คุ้นเคยกับการกินซุชิชิ้นละ 5 บาท แต่เรื่องรสชาติและคุณภาพนั้นไม่อาจจะนำไปเปรียบเทียบกันได้ เนื่องจากคุณภาพของวัตถุดิบ การตกแต่ง  รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆนั้น บางครั้งสามารถเติมเต็มให้อาหารยิ่งทวีรสชาติความอร่อยได้อย่างไม่น่าเชื่อ