รีวิวโดนใจ >> ห้องอาหาร Feast กับสุดยอด Seafood Sunday Brunch ที่โรงแรม รอยัล ออคิด เชอราตัน
สำหรับคนที่อยากจะลองทานอาหารบุฟเฟ่ต์ของโรงแรมที่อยากจะเจอกับความอลังการและหลากหลายของอาหาร รวมไปถึงบรรยากาศที่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ขอแนะนำห้องอาหาร ฟีซท์ (Feast) ค่ะ ครั้งนี้ออฟได้รับเชิญให้มารีวิว แล้วขอบอกว่าติดใจกับที่นี่มากๆ เพราะอาหารมีหลากหลาย ละลานตาจนเลือกไม่ถูก เป็นที่แรกที่แค่เดินดูไลน์อาหารก็เหนื่อยแล้วค่ะ เพราะของเค้ามีให้เลือกเยอะมากจริงๆ
บรรยากาศของห้องอาหาร Feast
การเดินทางมาได้ทั้งทางรถและทางเรือนะคะ ครั้งก่อนที่ได้มารีวิวห้องอาหาร Giorgio’s และ Sambal Bar & Grill ออฟนั่งรถไฟฟ้า BTS มาค่ะ แต่ครั้งนี้พาคุณแม่และพี่สาวมาลองทางซันเดย์ บรั๊นช์ ซึ่งเป็นมื้อที่ยิ่งใหญ่อลังการที่สุดของโรงแรมค่ะ ถ้าหากใครที่อยากมาลองทานอาหารโรงแรมแล้วไม่เกี่ยงราคา แต่อยากได้ความเต็มที่ก็ต้องมาลองซันเดย์บรั้นช์นี่แหละค่ะ
บรรยากาศในห้องอาหารนี้ขอบอกว่าเป็นห้องอาหารที่ใหญ่ทีเดียว โดยที่นั่งโซนแรกจะเป็นโซนที่ติดกับ Salad Station และ Cold Cut ค่ะ โซนนี้จะเป็นโต๊ะที่่กึ่งทางการหน่อยๆ แต่เก้าอี้ก็ตัวใหญ่นั่งสบายดีค่ะ บนโต๊ะจะมีอุปกรณ์ในการทานอาหารพร้อมกับแก้วน้ำเปล่าไว้ให้สำหรับแต่ละท่านแล้วค่ะ
โซนถัดมาเป็นโซนที่อยู่ติดกับไลน์ของหวานแสนน่าทานค่ะ ตรงนี้จะได้รับแสงจากด้านนอกเข้ามาทำให้ดูสว่างไปอีกแบบ โต๊ะและเก้าอี้จะดูสบายๆ กว่าโซนแรกหน่อยค่ะ จริงๆ แล้วถ้าได้นั่งโซนนี้จะทำให้ตักอาหารได้สะดวกทีเดียว แต่อาจจะมีคนเดินผ่านพลุกพล่านหน่อย เพราะว่าเป็นทางผ่านออกไปยัง Seafood On Ice Station และโซนอาหารที่อยู่ด้านนอกค่ะ
เมนูของห้องอาหาร Feast
ห้องอาหาร “ฟีซท์”โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน เปิดทุกวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 11.30 น. ถึง 15.00 น.
• 1,780 บาท /Net ต่อท่าน – ฟรีน้ำผลไม้สดปั่น ชา และกาแฟ
• 2,180 บาท /Net ต่อท่าน – ฟรีน้ำผลไม้สดปั่น ชา และกาแฟ,ไวน์, สปาร์คกิ้ง และเบียร์
สำหรับคุณหนูๆที่อายุระหว่าง 7-12 ขวบ จ่ายครึ่งราคา 6 ขวบลงไปรับประทานฟรีกับครอบครัวค่า
Seafood on Ice ที่ห้องอาหาร Feast
ขอเริ่มเปิดไลน์อาหารกันด้วยจุดเด่นของห้องอาหารนี้กันเลยค่ะ นั่นก็คือโซนอาหารทะเลสุดพิเศษ เรียงรายบนชั้นวางน้ำแข็งแกะสลัก ที่ได้ขึ้นชื่อว่าใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ
ส่วนนี้คนชอบทานอาหารทะเลแค่เห็นก็ยิ้มแก้มปริแล้วค่ะ เรียกได้ว่าอยากจะพุ่งเข้าใส่กันเลยทีเดียว ในโซนนี้จะรวบรวมอาหารทะเลเอาไว้หลากหลายมากๆ
เมนูเด็ดของโซนนี้ได้แก่ กุ้งลอบสเตอร์ ขาปูอลาสก้า หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ หอยนางรมสด หอยเชลล์ยักษ์ ปลาแซลม่อน กุ้งมังกร
นอกจากนี้ก็ยังมีกุ้ง ปู หอย และปลาหมึกอีกหลายอย่างเลยค่ะ
พวกหอยต่างๆ ที่เค้าเรียงรายมาก็ตัวใหญ่ๆ อวบๆ น่าฟัดทั้งนั้นเลยค่ะ
นอกจากนี้ยังมีโซนคาร์เวียร์สุดหรู ยกระดับมื้อนี้ให้เริ่ดขึ้นไปอีกด้วยค่ะ
ที่ขาดไม่ได้คือโซนน้ำจิ้มสูตรเด็ดของทางห้องอาหารและเครื่องเคียงต่างๆค่ะ ที่จะมาช่วยเพิ่มรสชาติความอร่อยให้กับซีฟู๊ดสุดอลังการนี้ขึ้นไปอีกค่ะ
Butcher ที่ห้องอาหาร Feast
กลับมาด้านในห้องอาหารด้านในกันบ้างค่ะ โซนนี้จะเป็นของย่างต่างๆ ซึ่งปกติแล้วที่ห้องอาหารอื่นๆ จะมีเพียงอย่างเดียวค่ะ แต่ที่นี่เรียงรายมากันครบทั้ง หมู เนื้อ ปลาเลยค่ะ ถือเป็นตัวเลือกที่หลากหลายและจัดได้น่าทานทีเดียวค่ะ
Hot Buffet Line ที่ห้องอาหาร Feast
สำหรับโซนที่ปกติห้องอาหารอื่นๆ จะถือว่าเป็นโซนที่ไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่ แต่ที่นี่กลับมาอาหารที่น่าดึงดูดใจมากทีเดียวค่ะ บางคนพอเห็นหม้อความร้อนนี่ก็เดินผ่านไปเลย ที่อื่นหน่ะได้นะคะ แต่ไม่ใช่สำหรับที่นี่ เพราะเค้าคัดสรรอาหารมาให้ทานกันเต็มที่มากๆ
เริ่มต้นกันด้วยลอบสเตอร์อบชีสค่ะ งานนี้เนื้อแน่นๆ ของกุ้งตัวใหญ่กับชีสเต็มเปี่ยม ลิ้มลองแล้วติดใจมากๆค่ะ
นอกจากนี้ก็ยังมีเมนูพัฟไส้สตูริบอาย, หมี่ผัด, หน่อไม้ฝรั่งครีสชีส
ไม่ได้มีเพียงแค่นี้ยังมีของทอดให้ทานเล่นอีกด้วยค่ะ
ผู้ใหญ่ทั้งหลายไม่ต้องกลัวจะไม่มีอะไรทานนะคะ เพราะที่นี่มีพวกแกงต่างๆ ให้ทานด้วยค่ะ แค่เปิดดูทุกหม้อก็เหนื่อยกันเลยทีเดียวค่ะ
Salad & Cold Cut Station ที่ห้องอาหาร Feast
มาถึงไลน์สลัดกันบ้างๆค่ะ ซึ่งก็แน่นอนว่าไม่ธรรมดาเหมือนคนอื่นเค้าอยู่แล้ว โดดเด่นกันด้วยซีซาร์สลัดที่มีพนักงานมาทำให้พร้อมทานเลยค่ะ
นอกจากนี้ก็ยังมีผักสลัดให้เลือกหลากหลายมากๆ ละลานตากันเลย แถมน้ำสลัดก็มีให้เลือกจนไม่รู้จะลองอะไรเลยค่ะ
โซน Cold Cut ก็เรียงสวยน่าลองทีเดียวค่ะ
นอกจากนี้ยังมีแซลมอนรมควันที่เรียงเป็นตัวปลาน่าทานจนไม่กล้าตักเลยค่ะ
สำหรับคนที่ชอบทานชีสและขนมปังก็มีเป็นโต๊ะยาวเลยนะคะ อันนี้มีป้ายบอกอยู่ข้างๆ ค่ะ ว่าเป็นชีสอะไร และมีขนมปังหลายแบบให้ทานคู่กันด้วยค่ะ
Japanese Station ที่ห้องอาหาร Feast
มาถึงโซนอาหารญี่ปุ่นกันบ้างแล้วค่ะ ที่นี่ต้องเรียกว่าเป็นโซนอย่างจริงจังกว่าที่อื่นมากๆ เพราะมีพ่อครัวประจำพร้อมกับมีเมนูอาหารญี่ปุ่นที่หลากหลายอย่างที่อื่นมากทีเดียวค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเทมปุระ และโซบะที่สั่งทำแล้วรอรับไปทานได้เลยค่ะ
ส่วนพวกซูชิและซาชิมินี่ก็สั่งได้เหมือนกันค่ะ หรือว่าไปเดินจิ้มเอาก็ได้ว่าอยากทานกันไหน พ่อครัวเค้าจะคีบใส่จานให้ค่ะ ที่นี่เค้าจะไม่ทำทิ้งไว้นานๆ เยอะๆ นะคะ แล้วความแตกต่างของเมนูซูชิของที่นี่ก็คือ หอยปีกนกค่ะ เพิ่งเห็นที่นี่มีที่แรกเลยค่ะ
พวกยำสาหร่ายต่างๆ ก็จะอยู่ในถาดน้ำแข็งด้านข้าง พร้อมกับเมนูปลาดิบต่างๆนะคะ
Grill Station ที่ห้องอาหาร Feast
โซน Grill Station ของที่นี่มีเป็นห้องเลยค่ะ ยิ่งใหญ่กันจริงจังมาก จุดเด่นของห้องนี้อยู่ที่ชั้นวางของสดต่างๆค่ะ
ของสดจะแยกเป็น 2 โซนคือพวกอาหารทะเลต่างๆ และพวกเนื้อและหมูค่ะ
อาหารทะเลโซนนี้ก็มีกุ้ง กั้ง และปลาต่างๆค่ะ ไม่ว่าจะเป็นดอลลี่, แซลมอน
ส่วนเนื้อนี่ขอบอกว่าสุดยอดมากค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อแองกัส, สันใน,เนื้อ Australian Rip eye, หมูคุโรบุตะ, เนื้อแกะ
สำหรับน้ำจิ้มก็มีครบเหมือนกันค่ะ แต่ที่ออฟชอบทานสุดคงจะเป็นน้ำจิ้มแจ่วนี่แหละค่ะ
Tharathong Life Cooking ที่ห้องอาหาร Feast
โซนอาหารจากห้องอาหารไทย ธาราทอง ก็น่าสนใจมากค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเมี่ยงพอดีคำ ยำส้มโอ ยำถั่วพลู ห่อหมก และผัดไทย
โดยแต่ละอย่างนั้นเค้าจะทำให้สดๆ ตอนที่เราสั่งเลยค่ะ ยำกันตรงหน้า ผัดกันให้เห็น ทำให้เราได้ทานตอนร้อนๆ เลยค่ะ
Sambal Life Cooking ที่ห้องอาหาร Feast
สำหรับห้อง Sambal นั้นก็โดดเด่นกันด้วยฟัวกราส์ค่ะ ของที่นี่เสิร์ฟมาพร้อมซอสมะม่วงด้วยค่ะ นอกจากนี้ก็ยังมีอาหารอินโดนิเซียให้ลองทานกันด้วยค่ะ
Giorgio ‘s Life Cooking ที่ห้องอาหาร Feast
มาถึงห้องอาหารอิตาเลี่ยนอย่าง Giorgio ‘s กันบ้างค่ะ โซนนี้จะเป็นเมนูพาสต้าที่มีเชฟมาทำให้เราทานโดยเริ่มต้นจากการเลือกเส้น และซอสที่ต้องการค่ะ มีซอสให้เลือกเกือบสิบอย่างเลยค่ะ ถ้าคิดไม่ออกให้เชฟแนะนำให้ก็ได้ค่ะ
Chinese Life Cooking ที่ห้องอาหาร Feast
โซนอาหารจีนก็มีนะคะ เป็นอีกจุดต่างของที่นี่ค่ะ เพราะห้องอาหารอื่นๆ ไม่ค่อยมี โดยในโซนนี้ก็มีตู้ติ่มซำให้ลองทานกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นขนมจีบ ฮะเก๋า หรือซาลาเปาก็ลองสั่งมาทานกันได้ค่ะ
สำหรับจุดเด่นของที่นี่ก็คือเป็ดปักกิ่งค่ะ เค้าจะห่อใส่แป้งเป็นคำให้ สั่งไปทานกันดูนะคะ
นอกจากนี้ก็ยังมีหมูแดง หมูกรอบ กุนเชียง และเป็ดให้เราทานกันด้วยนะคะ
Line ของหวานที่ห้องอาหาร Feast
สำหรับคนชอบทานของหวานไม่ต้องห่วงนะคะ เพราะที่นี่เค้าเน้นของหวานกันให้ทานกันเต็มที่ และมีให้เลือกหลากหลายทีเดียวค่ะ
Strawberry Mousse สีสันสดใส สตอเบอร์รี่แต่งซะสวยเชียวค่ะ
Sacher cake
Pudding
Chocolate Mousse
Tart
ทีรามิสุ
ของหวานไทยๆ
ฟองดูกับผลไม้หลายชนิด
Dessert Life Cookingที่ห้องอาหาร Feast
โซนนี้จะเป็นโซนที่ทำของหวานให้สดๆ ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเครป ข้าวเหนียวมะม่วง คนที่อยากทานผลไม้ก็เดินมาตักที่ซุ้มนี้นะคะ
นอกจากนี้ยังมีไอศกรีมหลากหลายรสชาติมากๆ ด้วยค่ะ
ของหวานเย็นก็มีก็มีให้เเลือกด้วยนะคะ
รายการเครื่องดื่มที่ทานที่ห้องอาหาร Feast
เครื่องดื่มของที่นี่ เอาใจสาวๆ มากค่ะ
เพราะว่านำน้ำผลไม้หลากหลายอย่างมาให้เลือกทานกันโดยสามารถทานได้ทั้งแบบปั่นและไม่ปั่นเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นน้ำส้ม แอปเปิ้ล แตงโม มะละกอ มะนาว
อาหารที่ทานที่ห้องอาหาร Feast
รอบนี้เป็นการทานอาหารมื้อกลางวันที่เต็มอิ่ม และอร่อยมากๆค่ะ เริ่มต้นกันด้วยลอปสเตอร์ และหอยเชลล์ตัวอ้วนๆ กันก่อนเลย
ส่วนซีซาร์สลัด และปลาแซลมอนก็เข้าท่าดีมากๆค่ะ
พวกซูชินี่โดดเด่นด้วยหอยปีกนกค่ะ แล้วออฟก็ลองกินมากิอีกหลายอัน อร่อยใช้ได้ค่ะ
เมนูที่แม่ปลื้มมากๆ เป็นยำถั่วพลู และยำส้มโอค่ะ ได้รสชาติยำกลมกล่อมดีทีเดียว
เมนูซีฟู๊ดที่จัดกันมานี่ก็เต็มที่มากค่ะ ปูเนื้อแน่น กุ้งก็เต็มคำ หอยก็สด น้ำจิ้มก็แซ่บค่า
เมนูฟัวร์กราส์กับซอสมะม่ววงก็เข้ากันได้ดีค่ะ
มีเมนูต้มยำด้วยนะคะ รสชาติจัดจ้านใช้ได้เลยค่ะ
เมนูพาสต้าครั้งนี้สั่งเป็นลาวิโอลี่ค่ะ กินจานนี้แล้วท้องแน่นไปเลยค่ะ
ขนมจีบกับซาลาเปาก็โอเคค่ะ
ห่อหมกและเมี่ยงคำนี่แม่ก็ว่าอร่อยดีค่ะ
ผัดไทยของที่นี่ก็ผัดได้แห้งดีค่ะ ไม่ต้องปรุงเพิ่มเลย
เมนูของย่างนี่ออฟจัดเต็มคนเดียวทั้งจานเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อ หมู แกะ เนื้อนุ่มดีทีเดียวค่ะ
ของย่างพวกซีฟุ๊ดนี่ได้ลองทานเป็นกุ้ง กุ้ง และปลาค่ะ อันนี้ก็ใช้ได้เลย
อาหารจีนที่ลองแป้งปักกิ่งเหนียวไปหน่อยค่ะ แต่หมูแดงหมูกรอบเข้มข้นดีค่ะ
ของหวานที่ทานที่ห้องอาหาร Feast
ของหวานนี่ละลานตาจนแทบจะแบ่งท้องเอาไว้ไม่ไหวค่ะ ที่ลองส่วนใหญ่จะเป็นของกระจุก กระจิกที่ใส่ถ้วยไว้แล้วค่ะ ไม่ว่าจะเป็นทาร์ตผลไม้ เครมบูเล่ ทาร์ตถั่ว และลูกชุปค่ะ
รสชาติของหวานที่นี่เด็ดมากๆค่ะ ขอบอกว่าต้องเผื่อท้องเอาไว้เยอะๆ นะคะ จริงๆ ตักพวกมูสมาทานด้วย แต่ใส่จานแล้วดูเละไปหน่อยค่ะ แต่รสชาติโดนใจทีเดียวค่ะ
ไอศกรีมของที่นี่ก็มีหลากรสชาติมากๆค่ะ รวมไปถึงท็อปปิ้งต่างๆ ก็มีให้เลือกมากมายเลยทีเดียว หรือถ้าเด็กๆ จะทานแบบโคนก็ได้นะคะ
ของหวานสำหรับผู้ใหญ่หน่อยอย่างข้าวเหนียวมะม่วงก็ใช้ได้ค่ะ มะม่วงหวานได้ที่เข้ากันดีกับข้าวเหนียวนุ่มๆ
คนที่อยากทานอะไรเย็นๆ ก็ลองหวานเย็นรวมก็ได้นะคะ ออฟกินลิ้นจี่ไปหลายลูกเลยค่ะ
เมนูของหวานเด็ดของที่นี่ก็ต้องมาลองช็อกโกแลตลาวาค่ะ พนักงานจะทำแล้วมาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะ นี่ก็ไม่เคยเจอจากห้องอาหารอื่นเหมือนกันค่ะ
นอกจากนี้โซนผลไม้ก็มีให้เลือกตั้งแต่ มะละกอ สับปะรด แคนตาลูป มังคุด เงาะ และขนุนค่ะ เยอะมากๆ
บทสรุปจากการทานที่ห้องอาหาร Feast
- สรุปรายการ Buffet ที่มีในห้องอาหารมีดังนี้
– อาหารนานาชาติ : ติ่มซำ, บะหมี่, พาสต้า, ฟรัวกราส์, สลัดบาร์, Cold Cut, Cheese Station
– อาหารซีฟู๊ด : กุ้งลอบสเตอร์ ขาปูอลาสก้า หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ หอยนางรมสด หอยเชลล์ยักษ์ ปลาแซลม่อน กุ้งมังกร
– ของทานเล่น : ลอปสเตอร์อบชีส, หน่อไม้ฝรั่งอบชีส, ปลาหมึกทอด
– อาหารญี่ปุ่น : ซูชิ ,ซาชิมิ, โซบะ, เทมปุระ
– อาหารไทย : ผัดไทย เมี่ยงคำ ยำส้มโอ ยำถั่วพลู
– เมนูปิ้งย่าง : กุ้งย่าง,กั้ง, ปลา, เนื้อแองกัส, สันใน,เนื้อ Australian Rip eye, หมูคุโรบุตะ, เนื้อแกะ
– ของหวาน : เค้ก มูส พานาค็อตต้า ขนมไทย ไอศกรีมโฮมเมด ของหวานเย็น ผลไม้ไทย เครป ข้าวเหนียวมะม่วง ช็อกโกแลตลาวา, ช็อคโกแลตฟองดู สองชนิด ทั้ง ไวท์ ช็อคโกแลต และ มิ้ลค์ ช็อคโกแลต
– เครื่องดื่ม : น้ำผลไม้ เช่น น้ำส้ม แอปเปิ้ล แตงโม มะละกอ มะนาว - เป็นห้องอาหารที่ยิ่งใหญ่อลังการมาก มีอาหารให้เลือกเยอะมากค่ะ และแต่ละอย่างก็คุณภาพคัดสรรมาอย่างดีทั้งนั้น
- ราคาต่อหัวและอาหารที่ทานคุ้มค่ามากที่เดียวค่ะ
- การเดินทางถึงโรงแรมจะไม่ติดรถไฟฟ้าแต่ก็สามารถมาลงรถไฟฟ้า BTS สถานีสะพานตากสินแล้วทางโรงแรมมี Shuttle Boat ไปรับทุกครึ่งชั่วโมงเลยค่ะ
Gallery จากห้องอาหาร Feast
ข้อมูลทั่วไปของห้องอาหาร Feast
ที่อยู่ :2 ซอยเจริญกรุง 30 อาคาร ชั้น 1 โรงแรม รอยัล ออคิด เชอราตัน ถนนเจริญกรุง แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
เบอร์โทรศัพท์ :0 2266 9214
เว็บไซต์ : www.royalorchidsheraton.com , SPG restaurants & bars
วันและเวลาเปิดปิดทำการ : ทุกวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 11.30 น. ถึง 15.00 น.
• 1,780 บาท /NET ต่อท่าน – ฟรีน้ำผลไม้สดปั่น ชา และกาแฟ
• 2,180 บาท /NET ต่อท่าน – ฟรีน้ำผลไม้สดปั่น ชา และกาแฟ,ไวน์, สปาร์คกิ้ง และเบียร์
การเดินทาง : ห้องอาหาร Feast ตั้งอยู่ที่ชั้น 1 ติดกับแม่น้ำและสระน้ำของโรงแรม รอยัล ออคิด เชอราตัน ถ.เจริญกรุง
ที่จอดรถ : ลานจอดรถของโรงแรม รอยัล ออคิด เชอราตัน
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
Leave a comment