Confession of a Shopaholic and OISHI RAMEN

เหตุผลของเอนทรี่นี้

อาจเป็นเพราะ…เป็นวันครบรอบ

อาจเป็นเพราะ…เค้าไม่ว่าง

อาจเป็นเพราะ…กลับบ้านเร็ว

อาจเป็นเพราะ…ไม่อยากอยู่คนเดียว

อาจเป็นเพราะ…ขี้เกียจอ่านหนังสือ

อาจเป็นเพราะ…ครอบครัวอยู่พร้อมหน้า

อาจเป็นเพราะ…นานๆได้อยู่ด้วยกัน

หรือเป็นเพราะ…ฟ้าลิขิตไว้ให้เป็นแบบนี้

เมื่อเรื่องราวเริ่มต้น

หลังจากที่ได้ออกเดินทางจากร้านของแม่เพื่อที่จะไปดูหนังและผ่อนคลายอย่างที่ลูกสาวคนเล็กอย่างออฟอยากจะให้เป็นแล้ว ตอนแรกก็คิดว่าจะไปดูหนังที่เซ็นทรัลบางนากันแต่ก็เปลี่ยนใจไปเมเจอร์เอกมัยแทน เพราะว่าใกล้กว่า หลังจากที่จอดรถเสร็จแล้วก็ไปดูรอบหนัง ที่ตอนแรกพี่สาวตั้งใจว่าจะดู Underworld แต่ว่าไม่มีรอบ (มีรอบอีกทีก็ห้าทุ่มนู่นเลยอ่ะค่ะ รอไม่ไหว) แล้วพอดีหนังเรื่อง Confession of a Shopaholic มีรอบเข้าฉายพอดี ก็เลยเลือกเรื่องนี้เลย พอซื้อป็อปคอร์นและน้ำเสร็จแล้ว ก็ถึงเวลาเข้าโรง ที่ออฟก็ยังทำเปิ่นเดินไปเข้าโรง 4 ซะงั้น ทั้งๆที่จริงๆ หนังฉายที่โรง  2 (ออฟบอกแม่และพี่สาวว่าเป็นแผนเพราะว่าโรง 4 ใกล้ห้องน้ำมากกว่า = =)

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=jml_MOEPA-s[/youtube]

หนัง Confession of a Shopaholic เรื่องนี้ก็เป็นสไตล์ที่บ้านออฟชอบอยู่แล้ว ประมาณว่าดูแล้วไม่เครียด เฮฮา ขำๆ จริงๆ ปรกติจะเช่ามาดูกันทีบ้าน แต่ว่าช่วงนี้ต่างคนก็ต่างไม่ค่อยว่าง พอมีเวลาตรงกันทีก็เลยอยากทำอะไรร่วมกัน ไม่งั้นกลับบ้านก็ต่างคนต่างเข้าห้อง ดูหนังคราวนี้แม่นั่งตรงกลางระหว่างออฟกับพี่ออย และถือป็อปคอร์นถุงโตเอาไว้ด้วย ที่ตอนแรกออฟคิดว่าคงกินไม่หมด แต่ว่าอาจจะเป็นเพราะไม่ได้กินข้าวเย็นกันก็เลยหิวๆ

ออฟต้องบอกว่าหนังเรื่องนี้มีครบรสจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นช่วงความรักระหว่างคนรัก เพื่อน และครอบครัว เสียงหัวเราะ เรื่องเศร้าๆ ความซึ้ง และความเปิ่น บวกกับความตลกของนางเอก ก็เรียกเสียงหัวเราะได้ตลอด ประมาณว่าเป็นอีกเรื่องนึงที่ดูแล้วไม่เสียดายตัง (ถึงแม้ความจริงจะไม่ต้องเสีย เพราะว่าพี่สาวเลี้ยงก็ตาม อิอิ)

ดูหนังเสร็จก็ถึงเวลากิน

Shopaholic_and_OISHI_RAMEN.jpg

หลังจากที่หนังจบและออฟก็ต้องรีบวิ่งพาแม่ไปห้องน้ำแล้วนั้น ก็ได้มากินข้าวเย็น (ตอนสองทุ่มและพร่งนี้มีสอบ  = = ) ที่ร้านโออิชิราเมน แบบว่าพอเห็นป้ายโฆษณาแล้วก็ต้องตัดสินใจเลือกได้ทันทีเพราะว่าหน้าตามันน่ากินมากๆ แต่ว่าก็อย่างที่เคยเป็น คือ โฆษณามักจะเกินจริงเสมอ และรสชาติของราเมนราดซอสผัดผงกระหรี่ก็ไม่ค่อยโดนใจออฟเท่าไหร่ สู้ยำสาหร่ายของพี่สาว และ ราเมนผัดหอยลายของแม่ก็ไม่ได้ – -“

งานเลี้ยงยังมีวันเลิกรา

เมื่อถึงเวลาสมควรก็กลับบ้านและแยกย้ายเข้าห้องนอนของตัวเอง แต่ความสุขก็ทำให้คืนนั้นฝันดี ออฟอยากบอกว่า บางครั้งเราก็ควรจะแบ่งเวลาให้ครอบครัวบ้าง เพราะว่ายังไงก็ตามครอบครัวก็ต้องเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเราอยู่แล้ว เพราะครอบครัวคือคนที่จะอยู่เคียงข้างเวลาที่ล้ม เวลาที่เราเศร้าใจ และก็เป็นคนที่ไม่ว่าเราจะเป็นยังไงก็ยังรักเรา

สุดท้าย

กลับบ้านครั้งสุดท้าย…เมื่อไหร่

กอดแม่ครั้งสุดท้าย…เมื่อไหร่

กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาครั้งสุดท้าย…เมื่อไหร่

ดูหนังด้วยกันครั้งสุดท้าย…เมื่อไหร่

ไปเที่ยวด้วยกันครั้งสุดท้าย…เมื่อไหร่

บอกรักแม่ครั้งสุดท้าย…เมื่อไหร่

ถ้าคำตอบของคุณ…นาน…จนคุณเริ่มจะตกใจในความเหินห่างของตัวเองกับครอบครัวละก็ รีบเติมเต็มช่องว่างนั้นซะ และหมั่นดูแลความรักให้ดี เพราะว่าความรักก็เหมือนต้นไม้ ถ้าไม่ดูแลมันก็ตายได้ ถ้าอยากให้มันเติบโตก็ต้องใส่ปุ๋ยบ้าง พรวนดินบ้าง เดี่ยวมันก็ออกดออกให้ชื่นชม

Leave a comment