รีวิวโดนใจ >> Centara Grand Mirage Beach Resort Pattaya (ตอนที่ 2) : ห้องพัก และสวนน้ำ
หลังจากที่ได้เติมพลังด้วยของหวานและเครื่องดื่มแสนอร่อยจาก Vistas กันแล้ว ออฟก็ขอพาเดินชมห้องพักและบริเวณโดยรอบของโรงแรม Centara Grand Mirage Beach Resort Pattaya ซึ่งที่นี่เค้าจะออกแบบโรงแรมเป็น Theme Resort ในรูปแบบของ “Lost World” ดินแดนที่สาบสูญ มาดูกันว่าโรงแรม เซ็นทารา แกรนด์ มิราจ บึช รีสอร์ท พัทยา ซึ่งเป็นโรงแรมใหญ่ระดับ 5 ดาว เค้าจะมีอะไรให้เรากันบ้างค่า
ห้องพักของ Centara Grand Mirage Beach Resort Pattaya
ห้องพักที่นี่เค้ามีให้เลือกหลากหลายตามสไตล์และจำนวนคนที่มาพักเลยค่ะ
พาขึ้นห้องพักกันก่อน…
ห้องพักของออฟคืนนี้อยู่ชั้น 10 ค่ะ เป็นห้องแบบ Deluxe Family Ocean Facing ซึ่งห้องที่ได้นี้อยู่ใกล้ลิฟต์มาก ออกจากลิฟต์มาเดินเลี้ยวขวาไปหน่อยก็เจอเลยค่ะ
เข้าห้องมาแล้วสิ่งแรกที่เจอจะเป็นส่วนของห้องน้ำ และตู้เสื้อผ้าค่ะ ที่นี้จะแปลกกว่าที่อื่นหน่อยตรงที่ห้องน้ำที่นี่แยกส่วนอาบน้ำกับส่วนทำธระส่วนตัวเป็นคนละห้องกันนะคะ
ส่วนตู้เสื้อผ้าเป็นแบบเปิดค่ะ มีชุดคลุมอาบน้ำให้ พร้อมทั้งตู้นิรภัยให้ใส่ของสำคัญถ้าจะออกไปไหน
ส่วนของห้องน้ำจะแยกกันนะคะ อันนี้แอบขัดใจนิดหน่อย เพราะชินแต่แบบห้องน้ำอยู่ห้องเดียวกับห้องอาบน้ำมากกว่า
พอเดินต่อเข้ามาในห้องก็จะเจอเตียงใหญ่ขนาด 5 ฟุต 2 เตียงค่ะ
เตียงนี้นอนสบายมากเลยนะคะ เล่นเอาไม่อยากลกเลยค่ะ
ที่ผนังด้านหลังเป็นหินแกะสลักดูอลังการดีค่ะ
อีกฝั่งของเตียงจะเป็นโซฟา และทีวีค่ะ และโต๊ะค่ะสามารถดึงตรงกลางออกมาเป็นเก้าอี้ได้ด้วยนะคะ
หันไปทางด้านซ้ายของเตียงจะเป็นโซนที่อาบน้ำค่ะ อันนี้ด้านหน้าจะเป็นอ่างล้างมือ
ที่นั่งแต่งตัว มีของใช้ให้ครบหมดนะคะ ไม่ว่าจะเป็น หวี หมวกอาบน้ำ สำลี อุปกรณ์เย็บผ้า ที่โกนหนวด แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ไดร์เป่าผม
ในห้องอาบน้ำจะเป็นแบบฝักบัวและ rain shower ค่ะ มีชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำที่เค้าจะมี สบู แชมพู และครีมนวดไว้ให้ ขอบอกว่าสบู่กลิ่นมะลิของที่นี่หอมมาก อยากซื้อกลับบ้านเลย
ในห้องอาบน้ำจะมีที่แขวนผ้าเป็นไม้ติดกับผนังนะคะ แต่ถ้าอาบรุนแรงมาก แนะนำให้แขวนด้านนอกห้องน้ำนะคะ
ข้างห้องน้ำจะเป็นมินิบาร์ค่ะ มีตู้เย็นเล็กๆอยู่ด้านล่างสุด ข้างบนมีกาต้มน้ำ ชา กาแฟให้ทานได้ค่ะ
หลังจากนั่งพักได้สักพักหนึ่ง ก็มีพนักงานนำผลไม้ต้อนรับมาเป็นจานเลยค่ะ มีกล้วย ส้ม และชมพู่ แต่ตอนนี้ออฟยังไม่หิวเพราะเพิ่งทานขนมมา เลยเอาแช่ตู้เย็นไว้เป็นสเบียงยามดึกค่ะ อิอิ
แถมยังมีช็อกโกแลต 3 รูปร่าง 3 รสชาติมาให้อีกด้วยนะคะ
หลังจากสำรวจภายในห้องเรียบร้อยแล้วก็ออกไปดูวิวระเบียงกันบ้างนะคะ
มองออกไปด้านนอกจะเห็นวิวของสวนน้ำและทะเลค่ะ ขอบอกเลยว่าการได้นั่งอ่านหนังสือรับลมทะเล พร้อมกับวิวดี ๆ นี่มันเป็นอะไรที่ฟินมากเลยค่ะ
สวนน้ำที่โรงแรม
อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญที่ทำให้โรงแรมนี้เจ๋งกว่าโรงแรมอื่นคือ”สวนน้ำ”ค่ะ ซึ่งโดยปกติแล้วสงวนสิทธ์ให้เฉพาะลูกค้าที่เข้าพักในโรงแรมเท่านั้นนะคะ
สวนน้ำที่นี่่เค้าอิงกับธีม Lost World มากค่ะ แค่ตอนที่เดินเข้ามายังสวนของสวนน้ำนี่ก็จัดองค์ประกอบต่างๆได้ลงตัวมากๆ มีสะพานเชือกๆ ให้เดินข้ามก่อนที่จะเข้าไปโซนสวนน้ำด้วย
จุดแรกที่จะเจอก็คือวงเวียนสิงโตค่ะ อันนี้ตั้งชื่อเองนะคะ เพื่อความง่ายคือมันเป็นจุดที่เราจะต้องผ่านเป็นหลักถ้าจะเดินเข้าโรงแรมหรือว่าเดินมาที่สวนน้ำ และจะเป็นจุดแยกไปส่วนต่างๆของสวนน้ำด้วยค่ะ
ถ้ากลัวงงๆ เพราะมันใหญ่มาก ไม่รู้จะเดินไปทางไหน แนะนำให้เดินตรงมาเรื่อยๆ ก่อนเลยค่ะ ถ้าตรงมาแล้วจะมาเจอกับสระน้ำใหญ่ซึ่งเป็นสระหลักของที่นี่
เป็นจุดที่เค้าจะมีการจัดกิจกรรมต่างๆ รวมไปถึง กิจกรรมแอรอบิคในน้ำด้วยค่ะ มีแป้นบาสให้โยนลูกบาสกันด้วย ขอบอกว่าโยนตอนที่ตัวอยู่ในน้ำนี่ยากเอาเรื่อง เพราะความสูงของน้ำจะอยู่ที่ 120 ซม.แล้ว ดังนั้นความสูงที่เหลือของออฟก็ไม่ค่อยมากนัก มันเลยไม่ค่อยมีแรงส่งในการชู้ตเลยค่า โดยทางโรงแรมจะมี Entertainer มืออาชีพ คอยสร้างความสนุกสนาน และจัดกิจกรรมต่าง ๆ ให้แขกได้ร่วมสนกกันตลอดค่ะ
ใจกลางสวนน้ำจะเป็นบารเครื่องดื่ม Wave ค่ะ อันนี้
ใครว่ายน้ำเหนื่อยอยากจะจิบนู่น ดื่มนี่ก็ไปนั่งได้เลย เค้ามีบาร์ให้นั่งด้วย แถมที่นั่งอยู่ใต้น้ำด้วยนะคะ
ครั้งนี้ลองสั่ง Mango Spice แก้วละ 150++ มาลองกินดูค่ะ เมนูนี้ใช้ผลไม้ซึ่งมีมะม่วงเป็นหลัก และเพิ่มความแปลกใหม่ด้วยซอสทาบาสโก้ ซึ่งมันเข้ากันได้อย่างไม่น่าเชื่อ!! เมนูนี้แนะนำให้ลองเลยค่ะ
อีกในสวนน้ำที่ดูเหล่าเด็ก ๆ จะชอบกันมาก(เห็นเล่นกันคนละหลายรอบเลย) คือผากระโดดน้ำค่ะ อันนี้เด็กฝรั่งน้อยๆ เค้าก็โดดกันนะคะ เด็กประมาณสองสามขวบเอง ไม่ใส่ห่วงยางอะไรเลยด้วย เก่งมากๆเลยค่า
หลังจากที่เล่นสวนน้ำหลักจนได้ที่แล้วจะพาไปดู Lazy River กันบ้างค่ะ
อันนี้ง่ายๆ เลยคือนอนบนห่วงยางแล้วลอยตัวไปตามน้ำค่ะ จะมีน้ำตกระหว่างทางให้เล่นกัน จะมาเป็นคู่หรือเดียวเค้าก็มีห่วงยางให้เลือกนะคะ
ครั้งนี้ออฟเลือกแบบห่วงคู่ ลองขึ้นไปนั่งสองคนดูก็พบว่าน้ำมันไหลเอื่อยมากๆ หรือเราจะหนักกันเกินไปก็ไม่รู้ แต่ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าทางน้ำมันไหลไปได้หลายทางด้วยค่ะ เลยทำให้มันไม่มีแรงผลักให้เคลื่อนที่ไปได้เร็วเท่าไหร่
รอบๆ Lazy River จะมีกระท่อมเบาๆที่ดูเป็นส่วนตัวหน่อย เอาไว้เป็นที่พักเหนื่อยในน้ำก็ได้ค่ะ ใจกลางของ Lazy River จะมีสไลเดอร์สำหรับเด็กน้อยอยู่ค่ะ
มากันเป็นครอบครัวนี่เด็กตัวเล็กก็มีเครื่องเล่นของเค้านะคะ มีต่อคิวเล่นเรื่อยๆ เลย อยากจะลองไปเล่นบ้างแต่ก็แอบอายน้องเค้าเหมือนกัน
แต่ถ้าเดินมาอีกด้านจะเจอสไลเดอร์ที่ยาวกว่าอันนี้ออฟว่าผู้ใหญ่ก็เล่นได้ค่ะ มันเป็นสไลเดอร์รางคู่ สามารถเล่นได้พร้อมกัน 2 คน แต่ว่ามันไม่ยาวมากนัก ก็ลงน้ำแล้วนะคะ เป็นอีกจุดที่เด็กๆ ต่อคิวกันเหมือนกันค่ะ
โซนใหม่ของที่นี่จะเป็น มุมสวนน้ำเด็ก Monsoon Island จุดเด่นจะอยู่ที่เครื่องเล่นสีสันสดใส และมีน้ำพุงออกมาจากหลายทิศทางเลยค่ะ มีปื่นให้ยิงเล่นกันด้วย แค่ทางเข้าที่มีน้ำยิงใส่ตัวนี่เด็กๆ ก็สนุกกันมากแล้วค่ะ
ด้านในสุดยังมีแท็งค์น้ำที่ถ้าน้ำเต็มเมื่อไหร่ ก็จะเทน้ำออก หาจุดเหมาะๆ แล้วไปยืนรับน้ำกันเลยนะคะ สนุกดีค่า อย่าลืมเอามือปิดหูบ้างนะคะ โซนนี้เด็กเล็กๆ ก็เล่นได้ค่ะ พื้นจะนุ่มๆ ล้มแล้วไม่เจ็บนะคะ
ที่นี่ไม่ได้มีแต่โซนกิจกรรมนะคะ พื้นที่สำหรับผู้ใหญ่ที่อยากนอนรับลม ชมวิวแบบสงบๆ ก็มีเหมือนกันค่ะ
บริเวณ Quiet Zone จะเป็นมุมสงบ (ห้ามเด็กเข้านะคะ) ที่มีสระน้ำแบบ infinity edge ติดชายทะเลให้ว่ายน้ำ ลอยคอดูวิว หรือใครจะนอนอ่านหนังสือเฉย ๆ มุมนี้ก็เหมาะสุด ๆ เลยค่ะ
สำหรับใครที่อยากว่ายน้ำออกกำลังกายแบบจริงจังหน่อย ที่นี่ก็มีสระว่ายน้ำแนวตรง 25 เมตรไว้บริการด้วยนะคะ
ซึ่งสระนี้ตั้งอยู่บริเวณหน้า fitness นะคะ
ถ้าเล่นสวนน้ำจนพอใจแล้ว แนะนำให้เดินต่อมาที่ริมหาดเลยค่ะ
หาดที่นี่สะอาดมากเลย และทางโรงแรมมีบริการเตียงริมหาดไว้ให้แขกได้ใช้งานด้วยคะ
นั่งเล่นชายหาด ดูพระอาทิตย์ตกกันแล้ว ก็ได้เวลาอาหารเย็นพอดี
เดี๋ยวตอนต่อไปเราจะพาไปทานอาหาร Seafood Buffet Dinner ที่ห้องอาหาร Oasis กันนะคะ
Leave a comment