รีวิวโดนใจ >> Barcamp Bangkhen#2 : บาร์แคมป์บางเขน @คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

18 กันยายน พ.ศ. 2554 ณ อาคารนานาชาติ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่ผ่านมานั้นเป็นวันจัดงาน Barcamp Bangkhen ซึ่งครั้งนี้จัดเป็นครั้งที่สองแล้วค่า (ตามอ่านรีวิวครั้งที่ 1) ซึ่งครั้งนี้ออฟและเพื่อนๆ ก็ไม่พลาดกันอย่างเช่นเคย หลังจบงานมาแล้วก็เลยขอมาแปะรีวิวฉบับย่อๆ ให้คนที่ไม่ได้ไปหรือไม่ได้เข้า session ที่ออฟเข้ากันหน่อยค่ะ งานนี้อาจจะไม่เต็มรูปแบบมากนัก เพราะเนื้อหาส่วนใหญ่ออฟพิมพ์ในตอนที่ฟังเลยค่า

What is Barcamp?

เป็นงานสัมมนานอกกรอบ คือเป็นงานที่ไม่มีการกำหนดรูปแบบงาน ผู้พูด หรือผู้ฟัง ทั้งหมดขึ้นอยู่กับ “ผู้ร่วมงาน” ว่าจะจัดการอย่างไร โดยผู้ร่วมงานแต่ละคนเสนอหัวข้อที่ต้องการนำเสนอ แล้วทุกคนก็ช่วยกันเลือกหัวข้อที่น่าสนใจขึ้นมาเอง แต่นิสิตนักศึกษาที่สนใจงานนี้ค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับจำนวนทั้งหมด ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากช่องว่างระหว่างผู้ร่วมงานที่ห่างกันมาก หลายคนมองว่าผู้ที่มางาน Barcamp จะต้องมีความสามารถมากและตนเองไม่ได้มีความสามารถพอที่จะไปนำเสนออะไรให้ผู้ อื่นฟังได้ ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่เป็นความจริงแต่อย่างไร
by http://barcampbangkhen.org/

9:00  ลงทะบียนรับเสื้อ และ Wifi

งานนี้สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนไว้ก็ให้มาตรวจสอบและเซ็นชื่อค่ะ ก็จะได้สติกเกอร์ไว้เขียนชื่อ พร้อมกับเสื้อขนาดที่ลงทะเบียนได้ โดยที่คนที่ไม่ได้ลงทะเบียนก็สามารถเข้ามาลงทะเบียนหน้างานได้ค่ะ ครั้งนี้ที่น้องๆ ใช้สติกเกอร์แทนป้ายแขวนชื่อออฟคิดว่าเป็นไอเดียที่ดีนะคะ เพราะน่าจะเตรียมง่ายกว่า และคนเข้างานก็อาจจะต้องไม่รำคาญป้ายแขวนชื่อก็ได้ค่ะ แต่ว่าอาจจะต้องเพิ่มปากกาที่เขียนให้มากกว่านี้ค่ะ
เสื้อสีเขียวน้ำทะเลมีวงล้อมของเทคโนโลยีอยู่ไม่ว่าจะเป็น Twitter, Ubuntu, Window, Apple, Facebook, Mobile,  Andriod, Clound  Computing ซึ่งออกแบบได้น่ารักดีค่า

ปัญหาของช่วงเริ่มงานนั้นส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการใช้งานอินเตอร์เนตไม่ได้ ถ้าหากอุปกรณ์ยังไม่ได้ลงทะเบียน MAC Address กับทางสำนักทะเบียนก่อนค่ะ ซึ่งงานนี้ทำเอาหลายๆคนเศร้าๆ ไปเล็กน้อย แต่น้องๆ ก็แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีค่ะ โดยมีการประกาศและติดวิธีการลงทะเบียนให้ในสถานที่ต่างๆ จริงๆ สำหรับปีหน้าอาจจะต้องมีการประสานงานกับทางสำนักคอมให้เค้าจัดการให้นะคะ เพราะเมื่อปีก่อนที่มีการประสานงานนั้นผู้เข้าร่วมงานก็ไม่ต้องมาลงทะเบียนก็สามารถใช้เนตได้เลยค่ะ

9:30 เปิดงาน

เนื่องด้วยท่านอาจารย์ภุชงค์ หัวหน้าภาคคนปัจจุบันติดภารกิจดังนั้นก็เลยเป็นการเปิดงานด้วยพิธีกรสาว 2 คนนี้ค่า คนเข้ามาร่วมงานเยอะกว่าปีที่แล้วอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะชาวต่างชาติที่เห็นกันมากขึ้นมากๆค่า

10:00 From Microsoft to Google (Live from United States) by brad phaisan

– พี่แบด live มาจากเมกาผ่าน Skype เลยทีเดียว เป็นการเล่าประสบการณ์จากพี่สู่น้อง และเป็นคนไทยคนหนึ่งที่ได้มีโอกาสไปทำงานที Microsoft และได้มาทำในส่วนของ Adwords ของ Google
– พี่เปรียบเทียบข้อมูลทั่วไประหว่าง Microsoft และ Google หลังจากที่ google เข้าตลาดหลักทรัพย์ในปี 2004 นั้นก็ทำให้มีเงินไปซื้อบริษัทอื่นๆ ทำให้เป็นการขยายตลาดให้กับ Google มากขึ้น
– รายได้หลักของ Google มาจากโฆษณา
– Microsoft corp. มีพื้นที่ขนาดใหญ่ น่าจะพอๆ กับม.เกษตร มีตึกประมาณ 50-60 ตึก ส่วนใหญ่ที่ Head Quarter จะมีแต่ Engineer ตาม campus จะมีโฆษณาอยูู่ด้วย มีรถมารับด้วย ห้องทำงานจะเหมือนเป็นหอพักในมหาลัย ทุกคนจะมีห้องเป็นของตัวเอง
– Google จะอยู่ใน silicon valley เป็นหุบเขาที่ล้อมรอบไปด้วยบริษัทไอทีที่รวมตัวกันอยู่เยอะที่สุด ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Yahoo, HP ยานพาหนะใน Google ก็จะมี Gbite, Chrome bite ข้างในของ Google จะเป็น office ที่เปิดโล่ง มีสไลด้เลื่อน และตู้เกมด้วย
– ภาย Microsoft จะมีการแบ่งทีมเป็นทีมย่อยๆ โดยค่อนข้างจะมีการแข่งขันค่อนข้างสูง แต่ละทีมเหมือนเป็นคู่แข่งกันเอง แต่ Google นั้นแต่ละคนจะไม่ได้มีการบอกชัดเจนว่าอยู่ทีมไหน
Manager คล้ายกับอาจารย์ที่ปรึกษา คือแต่ละคนสามารถเข้าไปช่วยดู Product ที่ไม่ใช่ทีมตัวเองก็ได้

11:00 เขียน real-time app ด้วย node.js by @cmmadnat

– nogd.js เป็น evented Server-side โดย node.js จะมองในมุมที่ว่าไม่ว่าที่ไหนก็รัน Javascript ได้
– Real Time Application เป็น app ที่ต้องการตอบสนองอย่างรวดเร็วเช่น Facebook Notification, Chat, Game online
– ข้อดีของ node.js คือ I/O nonblocking and all file I/O
– ปัญหาทั่วๆไปของ Server Side Script

1. Blocking, Deadlock
2. ภาษาส่วนใหญ่จัดการกับเรื่องการ I/O ได้ไม่ดีอย่างงที่ควรจะเป็น เช่นการเขียนอ่านไฟล์, เขียนอ่าน Database
3. เวลาที่เสียไปกับการประมวลผลของ DBMS, รอ Locl ของ Database, การอ่านไฟล์

– ถ้าแก้ไขปัญหาด้วย Multi-Thread Program นั้นจะมีปัญหาในส่วนของ mem, กินเวลา Setup, การสับไปมาระหว่าง Thread สำหรับ CPU
– ข้อดี

1. พัฒนาด้วยภาษา C โดยเขียนด้วย Google V8 Javascript Engine ทำให้ได้ประสิทธิภาพสูง
2. สามารถ ใช้งานโค้ดร่วมกันเขียนฟังก์ชั่นในทั้ง server, client สามารถ Debug ได้ง่ายที่ Google chrome กด Ctrl + Shift +J เพื่อ Debug ได้
3. javascript มีรูปแบบเป็น Event อยู่แล้ว เช่น Anonymous functions, closures , callback function
4. Non-Blocking ระหว่างที่รอค่าอยู่นั้นสามารถทำงานบรรทัดต่อไปได้ทันที

– ทำไมต้องเลือกใช้

1. node.js มีประสิทธิภาพสูงในการรองรับ connection จำนวนมากพร้อมๆกัน
2. มีตัวจัดการ Package

11:30 -อนาคตใหม่- Windows Phone X by WinPhoClub.com

– Window Phone 7 เกิดมาอย่างไร
– ปัจจุบันมีนักพัฒนา 8400 คน, 30,000 Apps แต่ก็ได้ Feedback กลับมาแม้ว่ายอดขายจะแย่ก็ตาม
– มีการจับมือกับ Nokia และทำให้เกิด Third Ecosystem โดย Nokia จะช่วยออกแบบในส่วนของ Hardware
– ต่อมามีการซิ้อ skype ในเดือนพฤษภาคม 2554 ในราคา 8.5 พันล้าน โดย Skype มีข้อดีตรงที่มีฐานข้อมูลการใช้งานเยอะอยู่ ประมาณ 590 ล้านคน
– ก้าวที่สามนั้นมีการเปิดเตัว partner ใหม่คือ acer, fujitsu, ZTE โดยเป็นงาน Mango Press โดยปัจจุบันเป็น version 7.5 แล้ว
– ต่อมาเป็นเส้นทางที่เค้าจะเดินนั้น ซึ่งปัจจุบัน OS ต่างๆเริ่มพอๆ กันแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Android, Symbian Belle, iOS, Bada 2.0 โดยล่าสุดนั้น Symbian Belle ก็ถือว่าโอเคขึ้นแล้ว ซึ่งทำให้เปลี่ยนเป็นสงครามของ Ecosystem War แทนส่งคราม OS กันแล้ว
– Ecosystem War ก็คือมีสามบริษัทใหญ่ได้แก Google, Apple, Microsoft โดยคนที่จะชนะได้ก็ต้องมีทุกผลิตภัณฑ์ที่เก่งกว่า โดยในส่วนของ Microsoft นั้น โดยเลข 8 เป็นตัวที่เริ่ม Ecosystem War
– CEO’s vision ก็บอกว่า 3 screen and the clound โดยตอนนั้นเป็นภาพลางๆ จนมาถึงในปี 2011 นั้นก็ได้มี Metro Sytle UI เป็นอารยธรรมใหม่ ซึ่งเป็นการแผ่ขยายความเจริญไปยังที่อื่นๆ
– Clound จะทำให้แต่ละการใช้งานเชื่อมถึงกัน
– ตัวอย่างเช่นในห้องนั่งเล่นมี xbox, Kinect โดยก็สามารถมาแจมกันได้

– Window Phone 8 ตอนนี้ยังไม่มีหน้าตาทีชัดเจน ซึ่งก็มีข่าวลือมากมาย ซึ่งก็มีข้อมูลที่ทาง microsoft รับสมัครงานว่าเป็น window 8 and windows phone 8 OD Cnvergence
– ในงานล่าสุด งาน Build เป็นงานที่เอา window 8 มาเปิดตัวครั้งแรก โดยมี hightlight สำคัญคือสามารถใช้ได้ทุก PC สิ่งที่น่าสนใจจากงานนี้ก็คือ API ตัวใหม่ที่ชื่อว่า WinRT เป็น Metro Style App ซึ่งถ้าหากต้องการพัฒนา app ต่างๆ ก็ให้ใช้ตัวนี้
– สิ่งที่เค้าพูดถึง window phone 8 เล็กนั้นก็มีการยอมรับจาก CEO ว่่า “We’ve just got to kick this thing to the next level” โดยมีการทิ้งท้ายว่า “Window Phone 8 to be backward compatible with WP7A” ถ้าเป็นตามที่วิเคราะห์นั้น ในอนาคตคนที่ใช้ window phone 8 ก็จะใช้ core เดียวกับ window 8

13:40 How to customize module for opensource vtiger crm (TH) by @THAMMATHAT

คำถามและบทสรุปจากการฟัง Session นี้
– ประเภทของฟิลด์ในฟอร์มเป็น dropdown ที่มี checkbox ได้หรือไม่ >> standard ยังไม่รองรับ
– จัดการสิทธ์ได้ในระดับฟิลด์หรือไม่ >> จัดการได้
– ใช้ Database ตัวอื่นได้หรือไม่ได้นอกจาก MySQL >> น่าจะใช้ได้
– ถ้ามีการปรับแก้ไขฟิลด์ต้องไปแก้ Database เองตามด้วย
– vtiger crm ปัจจุบันเป็น open source ที่ได้รับความนิยมมากสุด โดยที่โตมาจาก SugarCRM
– vitger เป็น MVC

VtigerCRM คือ CRM ที่เป็น Open source ที่สำคัญ ฟรี 100% ครับ เป็นระบบที่รันบน Web base ซึ่งพัฒนาต่อยอดมาจาก SugarCRM ซึ่งเหมาะสำหรับ องค์กรขนาดเล็ก และขนาดกลาง เป็นระบบที่พัฒนาขึ้นโดยใช้ PHP + MySQL และVtigerCRM ยังสามารถ Integrate กับระบบอื่นได้ เช่น OUtlook ,Joomla เป็นต้น และได้มี Feature เกือบจะครบทั้งหมดของระบบ CRM from http://www.crm.in.th/product/4-sugarcrm/11–vtiger

14:30 MongoDB ทำไมpantip.comจึงใช้NOSQL (TH) by Pantip 3G team

– MongoDB
– พันธ์ทิพย์ปัจจุบันให้การเก็บข้อมูลด้ว MySQL+FileSystem ซึ่งใช้มาตั้งแต่ MySQL version 3 ซึ่งที่ออกแบบแบบนี้เพราะป้องกันเรื่อง load และก็ใช้งานได้มาในระยะนึง แต่มาเจอปัญหาคอขวดที File System เวลาที่มีการเข้าดูกระทู้เยอะๆ ซึ่งตอนนี้เวลาใช้มาเดือนนึงแล้วต้องฟอร์แมต พอมาขึ้นPantip3G ก็เลยเปลี่ยนมาใช้ MongoDB เนื่องจาก MySQL ขยายทางกว้างลำบาก (จำนวนคนที่เข้าถึงพร้อมๆ กันได้เยอะ)
–  MongoDB

1. ไม่ค่อยต่างจาก MySQL เท่าไหร่ทำให้มี learning curve ไม่สูงมาก
2. Performance ค่อนข้างโอเค

– MongoDB เป็นการทำงานแบบ Agile และ Scalable เพื่อรองรับสำหรับการเปลี่ยนแปลงความต้องการของลูกค้า และสามารถให้เพิ่มได้ง่าย
– Compare

– MongoDB

1. มาจาก humongous เขียนด้วย C++
2. MongoDB เป็น Document-oriented storage โดยถ้าเทียบกับ MySQL ที่มีตารางและมีฟิลด์ เมื่อมีการเก็บข้อมูลของกระทู้ก็ต้องมีการดึงข้อมูลจากตารางกระทู้, สมาชิก, รูปภาพ แล้วมา join ข้อมูลกัน แต่สำหรับ MongoDB นั้นมันไม่ต้อง Join เพราะว่ามันอยู่ใน Document เดียวกัน แต่ก็เสียในเรื่อง normalization แต่ก็อาจจะต้องเขียน batch
3. MongoDB ต้องมี server มากกว่า 1 แล้วทำ replicate กัน
4. MongoDB แก้ปัญหายังไงถ้ามี user เข้าดูข้อมูลในขณะที่มีการอัพเดตข้อมูลอยู่ โดย MongoDB จะมีการทำงานแบบ atomic
5. Map/ Reduce จะใช้แทนพวกaggregate function เช่น group by
6. GridFS เป็น file system แบบ Grid
7. Foursquare ใช้ MongoDB เพราะมี feature ที่เอาไว้ค้นหาพิกัดได้ ว่ามีสิ่งที่ต้องการค้นหาอยู่ในรัศมีหรือไม่

– ปัญหาที่อาจจะพบ

1. การคิวรี่นั้นจะต้องระบุ Datatype ทำให้การดึงข้อมูลแตกต่างกัน เช่น 1 (char), “1” (string), 1 (Boolean)
2. การอัพ เดตของ MongoDB นั้น ถ้ามีการออกแบบโครงสร้างเรียบร้อยแล้ว ลูกค้าต้องการมีการปรับความต้องการ จะสามารถเพิ่มฟิลด์เข้าไปได้เลย โดยการอัพเดตนั้นของเก่าจะหายหมดเลย ให้ระวังด้วย

– การใช้คิวรี่ด้วย MongoDB
– ไม่ต้องสร้าง table, field ก่อน สามารถ insert ได้เลย
– มี Browser Shell ให้ลองใช้งานด้วย

15:20 เอาตัวรอดในเหตุภัยพิบัติ แบบ Geek Geek

– Emergency Radio

1. ที่ประเทศไทยใช้คลื่่น 144.900
2. ถ้าเครื่องบินมีปัญหาให้หมุนไปที่ 121.5 MHz
3. NOAA เป็นดาวเทียมที่ขอให้ช่วยเหลือได้

– MAY DAY เป็นสัญญาณของความช่วยเหลือให้พูด Mayday 3 ครั้ง แล้วคามด้วยชื่อผู้เรียก, ตำแหน่ง, เหตุที่กำลังประสบ
– เวลาขอความช่วยเหลือ ถ้าจะขอความช่วยเหลือจากเฮลิคอปเตอร์ให้ใช้กระจก
– ให้ช่วยเหลือครอบครัวตัวเองก่อน และให้พูดคุย คิดบวกกับเพื่อนที่อยู่ด้วยกัน, การให้อภัยเป็นสิ่งสำคัญเพราะทุกคนทำได้ดีที่สุดแล้ว
– สงคราวนิวเคลียร์ชีวเคมี ถ้าเกิดขึ้นอย่างแรกให้ออกมาให้ไกลที่สุด, ถ้ามีถังในบ้านให้รองน้ำไว้ก่อนแล้วให้เปิดน้ำเพิ่ม,
– ถ้าต้องหนีให้หาสิ่งกำบังให้มิดชิด ห้ามใช้ผ้าเช็ดน้ำเช็ด เพราะสารเคมีบางตัวทำให้เกิดแก๊สพิษได้
– เมื่อขอความช่วยเหลือแล้วให้ใจเย็นแล้วก็รอ
– CPR ให้ดูชีพจรก่อน, แล้วดูว่าทางเดินหายใจตีบไหม, หายใจไหม โดยช่วงเวลาทองคือ 3 นาทีแรก
– ช่วงนี้มีอุทกภัย ทำอย่างไรให้รอดก็ให้ไปในที่สูง หลังจากที่น้ำท่วมแล้วจะมีเชื้อโรคหลายตัวมา ทำใหร่างกายแห้งอยู่เสมอ

16:00 ของว่างยามบ่าย

ของว่างมีให้เลือกเยอะทีเดียวค่ะ พร้อมน้ำเปล่า ซึ่งเท่าที่ออฟลองทานเค้กฝอยทองก็อร่อยดีค่ะ แต่ว่าถุงในขยะน้อยไปหน่อย ก็เลยทำให้ดูล้นๆ และเต็มๆออกมาอะค่ะ

16:10 จาก Developer มาเป็น Photographer by @FordAntiTrust

– สาวๆ ถือของในแขนแล้วจะเกร็ง
– เวลาถ่ายรูปที่สระว่ายน้ำนั้น ระวังเรื่องแสงด้วย บางทีที่เค้ามี reflex ที่บนน้ำเพราะกันแสงสะท้อนจากน้ำด้วย เพื่อให้ได้รายละเอียดของนางแบบ
– ถ้าไปทริปถ่ายรูปให้ดูว่าต้องไปถ่ายอะไร แสงธรรมชาติเข้ามารึเปล่า จะได้ไม่ต้องใช้ flash เยอะ
– ราคาสถานที่ส่วนใหญ่ประมาณ 3000
– รับงานแต่ง, งานรับปริญญาครึ่งวัน 3000, เต็มวัน 4000

18:00 ร้านนทรีเรสเตอร์รอง

ออฟและกลุ่มเพื่อนๆ มาถึงร้านประมาณหกโมงค่ะ แต่เนื่องด้วยมีฝนตกอย่างหนัก และอาหารจากทางร้านรอนานมากๆ จนกระทั่งประมาณทุ่มนึงก็ตัดสินใจลาน้องๆ และไปทานอาหารที่ร้านบอยโพนยางคำแทนค่า

20:00 ร้านบอยโพนยางคำ เนื้อย่างโคขุนเจ้าแรกรัชดา บุฟเฟ่ต์ 189 บาท

ตามอ่านรีวิวกันเมื่อครั้งก่อนที่ออฟเคยไปทานได้ที่ http://don-jai.com/boy_ponyangkham/

บทสรุปจากBarcamp Bangkhen#2

• คนเข้าร่วมงานดูน่าจะมากกว่าครั้งที่แล้ว
• อยากให้น้องที่เป็นทีมจัดงานได้เข้าร่วม session ต่างๆ มากกว่านี้ เพราะว่าเห็นอยู่ตรงที่โต๊ะหน้าห้องรับรองกันตลอดเลยอะคะ
• ไม่ได้ทานอาหารเที่ยงของงาน เลยบอกไม่ได้ว่าเป็นไงบ้างค่า
• มีคนคุ้นหน้าคนตากันในวงการกันมาร่วมงานกันเยอะทีเดียว

Gallery Barcamp Bangkhen#2

[Show slideshow]

◄12

18 กันยายน พ.ศ. 2554 ณ อาคารนานาชาติ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำหนดการ 9.00 - 17.00 น.