วางแผนเรียนต่อปริญญาโท สายคอม IT ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
หลังจากที่ทำงานมาได้ปีกว่าๆ ซึ่งพบว่าปรับตัวเข้ากับงานได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็เลยเริ่มมาวางแผนการเรียนต่อกันบ้าง ใจจริงของออฟเลยนั้น แอบยังไม่ค่อยเห็นความสำคัญของการเรียนปริญญาโทเท่าไหร่ คือมันก็ได้ความรู้อะไรเพิ่มแน่ๆ แหละ แต่เนื่องจากการทำงานของออฟนั้นค่อนข้างจะอิงกับ Business และ Software ที่ใช้ ดังนั้นก็เลยคิดว่าเรียนต่อไม่ค่อยให้ประโยชน์อะไรเท่าไหร่ นอกจากความภาคภูมิใจของแม่และกระดาษใบนึง
Q : แล้วทำไมมาคิดวางแผนเรียนต่อปริญญาโท???
A : คือยังไงก็คิดว่าต้องเรียนแน่ๆ เพราะความภาคภูมิใจของแม่เป็นสิ่งสำคัญยิ่งชีพ แล้วตอนนี้ก็พอจะเห็นประโยชน์ที่น่าจะได้รับ จากการเรียนต่อโทบ้างแล้วด้วย ก็เลยมาเริ่มวางแผนการเรียน เพราะไม่ใช่ว่าคิดจะเรียนแล้วจะเรียนได้เลยใช่ไหมละคะ แบบว่าไหนจะเรื่องค่าใช้จ่าย คุณสมบัติในการเรียน (บางที่เค้าต้องให้มีประสบการณ์การทำงานก่อนถึงเรียนได้) เวลาเรียน คือมีหลายอย่างเลยที่จะต้องเตรียมตัว ก็เลยคิดว่าวางแผนไว้ก่อนดีกว่า
Q : ตั้งใจจะเรียนโท ที่ไหน และทำไม???
A: ตอนนี้ ย้ำค่ะ ว่าตอนนี้ที่กำลังอัพบล็อกอยู่นี่คิดว่าจะเรียนต่อที่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แบบว่าคิดว่าจะเดินทางสะดวกดี ทั้งตอนที่ออกจากที่ทำงานและตอนเลิกเรียนแล้วกลับบ้าน อีกทั้งเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศของสภาพแวดล้อม หลังจากเรียนปริญญาตรีที่รั้วนนทรี มา 4 ปี ครั้งนี้มาลองอยู่รั้วชมพูกันดูบ้าง ส่วนเท่าที่ดูตอนนี้ คอร์สที่เปิดก็น่าสนใจใช้ได้เลยค่ะ
Q : เล็งว่าจะเรียนหลักสูตรไหนบ้าง
A: ตอนนี้กำลังดู หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชา ระบบสารสนเทศทางการจัดการ (MIS) กับ หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชา การพัฒนาซอฟต์แวร์ด้านธุรกิจ (BSD) ของคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี อยู่ค่ะ แต่ตอนนี้เท่าที่ได้อ่านหลักสูตรกของ BSD นั้นน่าสนใจมากทีเดียว แบบว่าไม่ออกแนวธุรกิจมากไป และมีเนื้อหาที่เคยเรียนตอนป.ตรีแล้วหลายอย่าง แต่ยังเข้าเวบของ MIS ไม่ได้เลยค่ะ [BSD : http://bsd.acc.chula.ac.th, MIS : http://it.acc.chula.ac.th ]
Q : หลักสูตร BSD แตกต่างจากหลักสูตร MIS อย่างไร ?
A : แตกต่างตรงที่หลักสูตร BSD เน้นกระบวนการทั้งหมดของการได้มาซึ่งซอฟต์แวร์ (Software Engineering) แต่หลักสูตร MIS เน้นการบริหารจัดการระบบสารสนเทศ คือการนำซอฟต์แวร์ไปประยุกต์ใช้ในภาพรวม (ที่มา : http://bsd.acc.chula.ac.th/faq.html)
Q: รายละเอียดของ การพัฒนาซอฟต์แวร์ด้านธุรกิจ (BSD)
คุณสมบัติของผู้สมัคร
1. สำเร็จปริญญาบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อธุรกิจ หรือ สาขาที่เกี่ยวข้องโดยต้องเรียนผ่านวิชาด้านคอมพิวเตอร์อย่างน้อย 30 หน่วยกิต หรือมีคุณสมบัติอื่นๆ ที่คณะกรรมการบริหารหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพัฒนาซอฟต์แวร์ด้านธุรกิจ พิจารณาแล้วเห็นสมควรให้มีสิทธิ์สมัครได้
2. มีคะแนนทดสอบความรู้ความสามารถทางภาษาอังกฤษ ของศูนย์ทดสอบทางวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (CU-TEP) เทียบเท่ากับ TOEFL มากกว่า 450 คะแนน หรือคะแนน IELTS มากกว่า 4.5 (ผลสอบใช้ได้ภายใน 2 ปี)
3. ผู้ที่จะเข้าศึกษาในภาคนอกเวลาราชการ จะต้องมีประสบการณ์ทำงานหลังสำเร็จการศึกษาปริญญาตรีอย่างน้อย 1 ปี นับถึงวันปิดรับสมัคร
รายละเอียดเกี่ยวกับการสมัคร
ยื่นใบสมัคร – ปลายมิถุนายน ถึง ปลายกรกฏาคม
สอบข้อเขียน – ต้นสิงหาคม
ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสอบสัมภาษณ์ – กลางสิงหาคม
สอบสัมภาษณ์ – ปลายสิงหาคม
เรียนปรับพื้นฐานธุรกิจ – ต้นตุลาคม
เปิดเรียนภาคการศึกษาแรก – ต้นพฤศจิกายน
การสอบคัดเลือก
การสอบคัดเลือกประกอบด้วยการสอบข้อเขียน และการสอบสัมภาษณ์ ผู้ที่สอบข้อเขียนผ่าน จึงจะมีสิทธิสอบสัมภาษณ์
วิชาที่สอบในการสอบข้อเขียน ได้แก่
1. ตรรกะการพัฒนาโปรแกรม (Programming Logic)
2. การวิเคราะห์เชิงระบบ (System Analysis)
3. ฐานข้อมูล (Database)
4. โครงสร้างข้อมูล (Data Structure)
หลักสูตรภาคนอกเวลาราชการ
ค่าใช้จ่ายในการศึกษาตลอดหลักสูตรเป็นเวลา 2 ปี ประมาณ 200,000 บาท ได้แก่
1. ค่าเล่าเรียน เป็นไปตามประกาศของมหาวิทยาลัย
2. ค่าธรรมเนียมพิเศษ ภาคการศึกษาละ 25,000 บาท (รวมค่าหนังสือ และเอกสารประกอบการเรียน)
การอบรมความรู้พื้นฐานทางธุรกิจ
ค่าใช้จ่ายในการเข้าอบรมความรู้พื้นฐานทางธุรกิจ 4,000 บาท
จำนวนนิสิตที่คาดว่าจะรับ 20 คน
เวลาเรียน ของภาคนอกเวลาราชการ
วันธรรมดา จันทร์ – ศุกร์ เวลา 18.00 น. – 21.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ (9.00 น.-12.00 น. และ 13.00 น.-16.00 น.) อาจจะมีเรียนวันเสาร์-อาทิตย์บ้าง ทั้งนี้แล้วแต่อาจารย์ผู้สอน แต่ส่วนใหญ่จะไม่มีเรียนวันอาทิตย์
Q : อยากรู้รายละเอียดของ BSD เพิ่มเติม
A: ลองไปงาน OPEN HOUSE ’11 Chulalongkorn Univ.
วันที่ 22 พฤษภาคม 2554
สถานที่: ห้องโหงวฮก อาคารไชยยศสมบัติ 3
เวลา : 15.00 น.
Q: รายละเอียดของสาขาวิชา ระบบสารสนเทศทางการจัดการ (MIS)
วิชาที่ใช้ในการสอบของการเข้าเรียนหลักสูตรนี้มีอะไรบ้าง ?
มีคณิตศาสตร์ วิเคราะห์ธุรกิจ (ในรูปแบบของการสอบ CU-BEST) ภาษาอังกฤษ (ในรูปแบบของการสอบ CU-TEP) และความรู้พื้นฐานทางคอมพิวเตอร์ โดยคะแนนจะต้องผ่านเกณฑ์ทุกรายวิชา หลังจากสอบข้อเขียนผ่านจะมีการสอบสัมภาษณ์ และเรียนปรับพื้นฐาน
คุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัคร
1. ผู้ที่เลือกแขนงวิชาระบบสารสนเทศทางการบัญชี ต้องสำเร็จปริญญาตรีทางการบัญชี ผู้ที่เลือกแขนงวิชาระบบสารสนเทศทางการจัดการ (MIS) และระบบสารสนเทศทางสถิตื (SIT) ต้องสำเร็จปริญญาตรีโดยไม่จำกัดสาขาวิชา
2. มีความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ คณิตศาสตร์ และสถิติ รวมกันไม่น้อยกว่า 12หน่วยกิต หรือมีคุณสมบัติอื่นที่คณะกรรมการบัณฑิตศึกษา พิจารณาแล้วเห็นสมควรให้มีสิทธิสมัครเข้าศึกษาได้
3. มีคุณสมบัติอื่นตามระเบียบของบัณฑิตวิทยาลัย
4. ผู้ที่จะเข้าศึกษาในภาคนอกเวลาราชการ จะต้องมีประสบการณ์ทำงานหลังสำเร็จการศึกษาปริญญาตรีอย่างน้อย 3 ปี นับถึงวันสมัคร
จำนวนนิสิตที่คาดว่าจะรับ 60 คน
หลักฐานประกอบการสมัคร ได้แก่
- การสมัครหลักสูตรภาคปกติ ต้องยื่นหลักฐานตามที่บัณฑิตวิทยาลัยระบุ
- การสมัครหลักสูตรภาคนอกเวลาราชการ ต้องยื่นหลักฐานต่อไปนี้
- ใบนำส่งเอกสาร
- หลักฐานการชำระเงินค่าสมัครสอบ ผ่าน บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์
- สำเนาบัตรประชาชน หรือบัตรข้าราชการ 1 ฉบับ
- สำเนาใบรับรองคะแนนรายวิชาในระดับปริญญาตรี (Transcript) ฉบับสมบูรณ์ 1 ฉบับ
- สำเนาผลสอบภาษาอังกฤษ(CU-TEP) 1 ฉบับ(คะแนนเทียบ TOEFL มากกว่า 450 คะแนน
ขึ้นไป)* - สำเนาผลสอบความถนัดทางธุรกิจ (CU-BEST) 1 ฉบับ
- สำหรับหลักสูตรภาคนอกเวลาราชการ ผู้สอบผ่านข้อเขียนจะมีสิทธิเข้าสอบสัมภาษณ์จะต้องยื่นหลักฐานเพิ่มเติมดังต่อไปนี้
- รูปถ่าย 1 นิ้ว จำนวน 1 รูป (เขียนชื่อ-สกุลหลังรูป)
- หนังสือรับรองว่ามีประสบการณ์ทำงานไม่น้อยกว่า 3 ปี
- หนังสือรับรอง (Letter of Recommendation) 2 ฉบับ ซึ่งต้องรับรองโดยผู้บังคับบัญชาอย่างน้อย 1 ฉบับ
รายละเอียดเกี่ยวกับการรับสมัคร
กำหนดการ
|
ภาคปกติ
|
ภาคนอกเวลาราชการ
|
รับสมัคร |
พ.ย.
|
พ.ค.
|
ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบและ สถานที่สอบวิชาคอมพิวเตอร์ |
ต้น มี.ค.
|
ต้น มิ.ย.
|
สอบข้อเขียน
|
หลายครั้งต่อปี |
หลายครั้งต่อปี |
ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสอบข้อเขียน |
ปลาย มี.ค.
|
ต้น ก.ค.
|
สอบสัมภาษณ์ |
ต้น เม.ย.
|
กลาง ก.ค.
|
ประกาศผลสอบสัมภาษณ์ |
ต้น เม.ย.
|
ปลาย ก.ค.
|
เรียนปรับพื้นฐาน |
กลาง เม.ย. – ปลาย พ.ค.
|
ส.ค. – ก.ย.
|
เปิดเรียน |
ภาคการศึกษาต้น
|
ภาคการศึกษาปลาย
|
สถานที่รับสมัคร | ||
ติดต่อสอบถามรายละเอียด |
โทรศัพท์ : 0-2218-5715-6
Homepage : http://it.acc.chula.ac.th |
การสอบคัดเลือก
การสอบคัดเลือกประกอบด้วย การสอบข้อเขียน และการสอบสัมภาษณ์ ผู้ที่สอบผ่านข้อเขียนจึงจะมีสิทธิสอบสัมภาษณ์ วิชาที่สอบในการสอบข้อเขียน คือ
- ภาษาอังกฤษ (CU-TEP) ซึ่งจัดสอบโดยศูนย์ทดสอบ ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รายละเอียดเพิ่มเติม…
- ความถนัดทางธุรกิจ (CU-BEST) ซึ่งจัดสอบโดยหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (MBA) คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 4 ครั้ง/ปี รายละเอียดเพิ่มเติม…
- ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ จัดสอบโดยหลักสูตร IT
อนึ่ง ผลสอบ CU-TEP และ CU-BEST สามารถเก็บไว้สมัครสอบคัดเลือกได้
ภายในระยะเวลา 2 ปี โดยนับถึงวันเปิดเรียน
จำนวนนิสิตที่คาดว่าจะรับ
หลักสูตรรับนิสิตประมาณ 60 คน ต่อภาคการศึกษาในเวลาและนอกเวลาราชการ
การเรียนวิชาเสริมความรู้พื้นฐาน
ผู้ผ่านสอบสัมภาษณ์ต้องเรียนวิชาเสริมความรู้พื้นฐานในด้านซึ่งไม่มีพื้นฐานความรู้มาก่อน ตามที่กรรมการสอบสัมภาษณ์กำหนดให้เรียน ได้แก่ ระบบปฏิบัติการยูนิกซ์ ระบบการจัดการฐานข้อมูล บัญชีการเงิน และหลักสถิติ ซึ่งไม่จำเป็นต้องศึกษาทุกด้าน เช่น ผู้เลือกแขนงวิชาระบบสารสนเทศทางการบัญชีไม่จำเป็นต้องเสริมพื้นฐานด้าน บัญชีการเงิน เป็นต้น การเรียนในช่วงเวลานี้นอกจากเสริมความรู้พื้นฐานแล้วยังช่วยให้ผู้เรียนสามารถ ปรับตัว และมีข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อพิจารณาว่าควรศึกษาในหลักสูตรนี้หรือไม่ เมื่อสอบผ่านวิชาเสริมความรู้พื้นฐานแล้วหลักสูตรจึงรับเข้าเป็นนิสิต
ค่าใช้จ่ายในการศึกษา
ค่าเรียนวิชาเสริมความรู้พื้นฐานเทคโนโลยี 4 วิชา รวม 20,000 บาท
หลักสูตรภาคปกติ
ค่าเล่าเรียนภาคการศึกษาละ 19,000 บาทและค่าธรรมเนียมอื่นๆ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประกาศของมหาวิทยาลัยดังนั้น ค่าใช้จ่ายในการศึกษาตามหลักสูตรเป็นเวลา 2 ปี ประมาณ 80,000 บาท
หลักสูตรภาคนอกเวลาราชการ
ค่าใช้จ่ายในตลอดหลักสูตรการศึกษาเป็นเวลา 2 ปี ประมาณ 260,000 บาท ได้แก่
- ค่าธรรมเนียมการศึกษา ภาคการศึกษาละ 45,000 บาท (รวมค่าหนังสือ เอกสารประกอบการเรียนและค่าธรรมเนียมอื่นๆ ของบัณฑิตวิทยาลัย)
- ค่าเล่าเรียน ภาคการศึกษาละ 19,000 บาท ตามประกาศของมหาวิทยาลัย
Q : CU-TEP ที่ต้องใช้ด้วยคือคืออะไร สอบไง
CU-TEP (Chulalongkorn University Test of English Proficiency)
ทดสอบอะไร?
วัดความสามารถการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษาทางทักษะการอ่าน การเขียนการฟังและ
การพูดเนื้อหาเป็นภาษาอังกฤษทั่วไป และภาษาอังกฤษกึ่งวิชาการ
นำผลสอบ ไปใช้ทำอะไร?
ข้อสอบชุดนี้เหมาะสำหรับวัดระดับ ความสามารถทางภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษา ทั้งในระดับปริญญาตรี และบัณฑิตศึกษา
ค่าสมัครสอบ
600 บาท
วิธีการสมัคร
ผู้สมัครต้องสมัครสอบผ่านโปรแกรมลงทะเบียนแบบOnlineทาง Internet เท่านั้น และหลังจากที่ผู้สมัครลงทะเบียนถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้ว โปรแกรมจะสร้างใบลงทะเบียนให้ผู้สมัคร ดังนั้น เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ผู้สมัครใช้ในการลงทะเบียนต้องต่อเข้ากับเครื่องพรินเตอร์ให้พร้อม (สมัครที่ http://register.atc.chula.ac.th/ChulaATC/internet/index.jsp)
ปฎิทินการสอบ : http://www.atc.chula.ac.th/th_html/Schedule2011.pdf
Q : สรุปว่าวางแผนไว้ยังไงบ้าง
A : 22 พฤษภาคม 2554 เวลา : 15.00 น. งาน OPEN HOUSE ’11 Chulalongkorn Univ.
ช่วงเดือนตุลาคม ถึงเดือนธันวาคม เตรียมสอบ CU-TEP
ช่วงเดือนมกราคม ถึงเดือน เมษายน เตรียมสอบ
1. ตรรกะการพัฒนาโปรแกรม (Programming Logic)
2. การวิเคราะห์เชิงระบบ (System Analysis)
3. ฐานข้อมูล (Database)
4. โครงสร้างข้อมูล (Data Structure)
ปลายมิถุนายน ถึง ปลายกรกฏาคม ยื่นใบสมัคร
Leave a comment