รีวิวโดนใจ >> TOKIYA (โทคิยะ) ศิลปะในเมนู Full Course ในราคา 499 บาท ที่ Siam Discovery
TOKIYA Fusion Steak Course (โทคิยะ ฟิวชั่นสเต็กคอร์ส ) เป็นร้านอาหารสุดหรูที่เสริฟเมนูแบบ Full Course และให้บริหารระดับ 5 ดาว เรียกได้ว่าตั้งแต่เข้าร้านและเดินออกไปจะได้รับการให้บริการทุกย่างก้าวกันเลยทีเดียว ครั้งนี้มาทานเพื่อฉลองความสำเร็จอีกก้าวหนึ่งของออฟ โดยมีไผ่เป็นเจ้ามือ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เหมาะกับการเฉลิมฉลองจริงๆค่ะ เพราะทำให้คนที่ไปรู้สึกได้ว่าได้รับการดูแลอย่างดีจริงๆ
บรรยากาศของร้านTokiya (โทคิยะ)
เมื่อลงรถไฟฟ้าสยาม ข้ามทางเชื่อมห้างมาจนถึงสยามดิสเคอเวอร์รี่แล้วลงบันได้มาอีกชั้น จะเจอกับร้านโทคิยะ เมื่อลงบันไดเลื่อนมาเลยค่ะ หาไม่ยากเท่าไหร่
ด้านในร้านจะมีการจัดแสงและการตกแต่งร้านที่ใส่ใจรายละเอียดทุกเม็ดมากๆ แบบว่าไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ เก้าอี้ โคมไฟ ผนังล้วนมีเอกลักษณ์ของตัวเอง เราเลือกมุมโปรดของตัวเองได้เลยค่ะ มีหลายมุมมากๆ
เมนูของร้านTokiya (โทคิยะ)
Appetizer ที่ร้านTokiya (โทคิยะ)
Tokiya style Eringi (เห็ดออรินจิผัดซอสโทคิยะ)
เห็ดออรินจิก้านโตย่างผ่านไฟบนกระทะร้อน คลุกเคล้าซอสปรุงพิเศษของโทคิยะทั้งงาขาว งาดำ และรสเผ็ดร้อนนิดๆ จากพริกไทยญี่ปุ่น โรยผิวส้มเพิ่มความหอมให้จานเด็ดนี้เปิดตัวมื้อใหญ่อย่างสมบูรณ์แบบ
ด้วยความที่ออฟเป็นคนไม่ชอบกินเห็ดเท่าไหร่ ก็เลยเฉยๆ กับเมนูนี้ค่ะ แต่เท่าที่ลองชิมรสชาติก็เข้มข้นดีค่ะ
Salad ที่ร้านTokiya (โทคิยะ)
หลังจากทานของทานเล่นไปแล้วก็มาเริ่มต้นกันเบาๆ ด้วยสลัดค่ะ
Tomato Salad (สลัดมะเขือเทศไข่กุ้งมังกร)
ทางร้านคัดมะเขือเทศพันธ์เนื้อลูกโตสีสวยสด รสหวานฉ่ำ คว้านเมล็ดออก แล้วเติมเต็มด้วยไข่กุ้งมังกรและไข่ปลา คลุกเคล้าน้ำสลัดรสหวานอมเปรี้ยว
ออฟทานแล้วก็ชอบนะคะ เพราะว่าชอบทานมะเขือเทศอยู่แล้วด้วย แต่ก็เขี่ยหอมที่อยู่ด้านบนออกไปจนหมดเลยค่ะ รสชาติจะมีรสเผ็ดนิดๆจากวาซาบิด้วยค่ะ
Cocktail Fruit Salad (ค็อกเทลฟรุ๊ตสลัด)
รสชาติที่ลงตัวของ เมลอนญี่ปุ่น แอปเปิ้ลเขียว แคนตาลูปเหล่าผลไม้สด เสริฟเย็นฉ่ำในครีมสลัด แล้วหยอดความเปรี้ยวด้วยน้ำสลัดเสาวรส
เมนูนี้ทานด้วยส้อมลำบากอยู่เหมือนกันค่ะ ถ้าทางร้านให้ช้อนมาด้วยจะพอดีมากๆ แต่ไผ่ก็พยายามทานด้วยส้อมจนเกลี้ยงเลยค่ะ ทานแล้วก็โอเคค่ะ
Soup ที่ร้านTokiya (โทคิยะ)
Lobster Bisque(ซุปครีมล็อปสเตอร์)
สีสันที่การันตีความอร่อย ความข้นแบบเบาๆ ของครีมซุป ตัดพอเหมาะกับรสหอมกลมกล่อมเค็มนิดๆ ติดปลายลิ้นจากกุ้งมังกร
ซุปถ้วยนี้ออฟชดจนหมดเลยค่ะ คงเป็นเพราะว่าทานของร้อนช้าด้วย แต่เมนูนี้ออฟว่ารสชาติกลมกล่อมดีทีเดียวค่ะ สีแสบตาดีด้วย
Tokiya Beef Soup (ซุปเนื้อโทคิยะ)
เคี่ยวเนื้อติดเอ็นในซุปสูตรลับของโทคิยะอย่างพิถีพิถันนานกว่า8 ชั่วโมง เพื่อให้ได้ซุปเนื้อนุ่มรสกลมกล่อมหอมกลิ่นเครื่องเทศ
เมนูของไผ่ออฟว่ามันดูธรรมดาไปหน่อย แต่รสชาติก็กลมกล่ม เนื้อนุ่มดีค่ะ
Rice Dishes ที่ร้านTokiya (โทคิยะ)
Yagi Onigiri (ข้าวทอดญี่ปุ่นทรงเครื่อง)
ข้าวญี่ปุ่นเนื้อนุ่มคลุกเคล้าหมูอบหมักโชยุและผักสองสีกรุบกรอบภายนอดและอร่อยนุ่มชุ่มลิ้นภายใน เพิ่มรสชาติอีกนิดด้วยซอสวาซาบิ
Aromatic Rice(ข้าวอบสาหร่ายปลากรอบ)
ข้าวญี่ปุ่นคลุกเคล้าด้วยสาหร่ายทะเล หอยลาย และปลากรอบอบร้อนในหม้อดินใบจิ๋ว หอมอบอวลด้วยกลิ่นไอทะเล
อีกเมนูที่ออฟทานจนเกลี้ยงอีกเช่นกัน เมนูนี้รสชาติของข้าวและปลากรอบจะเข้ากัน ทำให้ทานแล้วติดค่ะ ทานไปทานมาก็หมดเลยค่ะ
Juice ที่ร้านTokiya (โทคิยะ)
Mulberry Vinegar Juice (น้ำมัลเบอร์รี่วีนิการ์)
เตรียมความพร้อมกระตุ้นรสสัมผัสก่อนจะถึง main courseด้วยน้ำมัลเบอร์รี่หมักเสริฟเย็นเจี๊ยบแบบเกล็ดน้ำแข็งรสเปรี้ยวอมหวาน ตัดรสชาติจานก่อนๆ ให้ลิ้นพร้อมรับรสได้เต็มที่
น้ำที่จะปรับลิ้นเราให้พร้อมนี่ก็ซาบซ่าดีทีเดียวค่ะ ทานคำแรกจะรู้สึกแปลกๆ คล้ายยาแก้ไอหน่อยๆ แต่ทานไปแล้วก็โอเคอยู่ค่ะ
Main Course ที่ร้านTokiya (โทคิยะ)
Combu Australian Beef Steak (คอมบุสเต็กเนื้อออสเตรเลีย)
สเต็กเนื้อออสเตรเลีย คัดเฉพาะส่วนคอ ย่างบนกระทะร้อนกับซอสคอมบุ โรยด้วยกระเทียมโทนทอดกรอบ
สเต็กของไผ่ทานแล้วเนื้อนุ่มดีค่ะ กระเทียมทอดเยอะไปหน่อยค่ะ ขืนกินหมดที่เค้าให้มาจากที่จะสวีตกันคง สวีตไม่ลงแล้วค่ะ กลิ่นกระเทียมคงอบอวลน่าดู
Combination of Fish Fillet and Tokiya Beef(ชุดรวมสเต็กปลาและสเต็กเนื้อโทคิยะ)
สเต็กปลาดอรี่อบนุ่มชุ่มเนยและชีสสไตล์อิตาเลี่ยน ปะทะสเต็กเนื้อออสเตรเลียคัดเฉพาะส่วนคอที่มีเอ็มนุ่มตรงกลาง
สำหรับเมนคอร์สของออฟเรียกได้ว่าผิดหวังเหมือนกันค่ะ ปลาทอดมาไม่กรอบเลย และเนื้อก็เละมากๆ เรียกได้ว่ามันพร้อมจะแตกตัวออกจากกันได้ทุกเมื่อเลยค่ะ ส่วนเนื้อที่ออฟสั่งแบบเวลดันก็มาซะแดงเลยค่ะ อันนี้ขอบอกว่าทานไม่หมดเลยค่ะ ถึงจะเสียดายแต่ไม่โดนใจเลย
Dessert ที่ร้านTokiya (โทคิยะ)
Melt Me Gelato Cheesecake Butterfly Pea & Berry
ของหวานที่นี่เป็นอะไรที่ผิดหวังที่สุดค่ะ ทานคำแรกแล้ววางช้อนเลยไม่ว่าจะเป็นของไผ่หรือของออฟค่ะ รับรู้ได้ว่าชีสเค้กมันไม่เข้ากับไอศกรีมแบบนี้จริงๆ
แต่ต้องยอมรับในการจัดจานของทางร้านค่ะ ดูมีศิลปะมากๆ
Melt Me Gelato Cheesecake Lemongrass & Kiwi
สำหรับรสตะไคร้กีวีของออฟนี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึงค่ะ เพราะว่ากลิ่นตะไคร้มันแรงและเด่นกว่ากีวี่มากๆ เลยค่ะ ซึ่งปกติเจ้าตะไคร้ก็เป็นผักที่ออฟเขี่ยออกอยู่แล้ว งานนี้เลยโดนเมินเลยค่ะ
เครื่องดื่ม ที่ร้านTokiya (โทคิยะ)
เครื่องดื่มสีสันสวยของออฟ (สีแดงจากสตอเบอร์รี่) และสีฟ้าจากบลูเลมอนของไผ่ ทานแล้วก็โอเคค่ะ แต่มีโซดาเยอะทีเดียว เล่นเอาลมเต็มท้องเลย
บทสรุปจากการทานที่ร้านTokiya (โทคิยะ)
- โทคิยะเป็นร้านที่น่ามาลองทานกันค่ะ ถ้านับเรื่องราคาต่อหัว 499 บาท ไม่รวม service charge ก็ถือว่าคุ้มอยู่ค่ะ เมื่อเทียบกับปริมาณ, คุณภาพอาหาร และการบริการที่ได้รับ
- รสชาติโดยรวมโอเคค่ะ มีบางอย่างที่ชอบ แต่ก็มีอันที่ไม่ชอบเลยเหมือนกันค่ะ
- การเดินทางสะดวกต่อคนไม่มีรถค่ะ เพราะลงรถไฟฟ้าก็เดินผ่านห้างแล้วก็ถึงร้าน แต่ถ้าเอารถมาก็มาวนหาที่จอดกันหน่อยค่ะ
Gallery จากร้านTokiya (โทคิยะ)
ข้อมูลทั่วไปของร้านTokiya (โทคิยะ)
สถานที่ตั้ง :989 อาคาร ชั้น 2 ห้างสยามดิสคัฟเวอร์รี่ ถนนพระราม 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
เบอร์โทรศัพท์ :026580015
facebook :www.facebook.com/tokiya
website : http://www.tokiya.co.th
วันและเวลาเปิดปิดทำการ :เปิดทุกวัน เวลา 10.00 - 21.00 น.
การเดินทางจากถนนพระราม 1 มุ่งหน้าห้างสยามดิสคัฟเวอร์รี่ ร้านอาหารญี่ปุ่นโทคิยะ ตั้งอยู่ชั้น 2 ในห้างสยามดิสคัฟเวอร์รี่
ที่จอดรถ : ที่จอดรถของห้างสยามดิสคัฟเวอร์รี่
Leave a comment