Time…บอกเวลา…หรือกำหนดชีวิต

นาฬิกา…คงเป็นสิ่งที่ไม่มีใครไม่รู้จัก
หน้าที่ของมันอย่างที่เรารู้ๆกันดีอยู่แล้วก็คือบอกเวลา
ถ้าเปรียบนาฬิกากับชีวิตของคนก็คงต้องเป็นคนที่ทำงานหนัก แต่ก็ยังคงมีความรับผิดชอบอยู่จนถึงวาระสุดท้าย
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้แล้วจะไม่ยกย่องผู้ประดิษฐ์คิดค้นนาฬิกาที่ให้เราใช้อยู่ทุกวันนี้ก็คงจะไม่ได ้เพราะถ้าหากเราไม่มีพวกเค้าเหล่านั้น คนกลุ่มนึงที่สละเวลามาทำในสิ่งที่โลกต้องยกย่อง เราก็คงไม่มีอะไรดีๆได้ใช้อย่างทุกวันนี้หรอก ใครสนใจกดเลย

เวลาสำคัญกับเราตอนไหน
เปิดเทอม
.ใกล้จะสอบ
..จะรับปริญญา
…สัมภาษณ์งาน
….จะแต่งงาน
…..จะคลอดลูก
……และอีกหลายๆสถานการณ์ที่จังหวะนั้นของชีวิตไม่ว่านาฬิกาเรือนที่ใส่จะมีราคาเท่าใด
ขอเพียงมันทำหน้าที่ของมันได้ มันก็เข้ามากำหนดชีวิตเราได้เหมือนกัน

ตอนนี้เราเองก็เพิ่งจะหยุดเวลาของตัวเองลงหลังจากที่สอบวิชาสุดท้ายจบลง (ทั้งๆที่ออกก่อนเวลาตั้งชั่วโมงเพราะคิดว่าหมดเวลาแล้ว) แต่ถ้าหากนั่งต่อก็คงทำไม่ได้ไปกว่านี้แล้วแหละ ที่บอกว่าหยุดเวลาก็คือไม่อยากจะทำอะไรที่มันเครียดๆแล้วอ่ะ อยากจะปลดปล่อยภาระอันหนักอึ้ง ดับสวิตช์ตัวเองแต่ก็คงทำได้แค่ stand by เอาไว้เท่านั้น เพราะว่าถ้า shut down ไปเลยก็คงจะไม่ไหวเหมือนกัน เดี่ยวจะเปิดเครื่องไม่ขึ้นปิดเทอมนี้เรามีกิจกรรมมากมายอาทิเช่นไปค่ายอาสาของมหาลัย
แบบว่าไปสร้างอาคารเรียน ให้เด็กต่างจังหวัดอะไรทำนองนั้นอะ แล้วก็ยังมีโอกาสได้เข้าร่วมทำงานกับ CubicCreative ในหลายๆงาน เวลาที่เราหยุดไว้แท้จริงก็เป็นเพียงการหลอกตัวเองให้ไปทำสิ่งที่ตัวเองอยากทำ อยากลอง และ อยากสนุกไปกับมัน อะไรที่มันน่าเบื่อน้อยกว่าการอ่านตำราที่มันเทียบไม่ได้เลยกับประสบการณ์จริง

เราก็คงเป็นอย่างนั้น พอดีนึกขึ้นได้ว่า การเลือกซื้อนาฬิกาก็เป็นการใช้ดวงอีกแบบนึง จริงๆแล้วเราเป็นคนที่เชื่อเรื่องดวงพอสมควร แต่หลักๆจะเชื่อว่าถ้าหากไม่ทำความดี ไอ้ที่บอกว่าดวงดี หรือว่าโชคช่วยนั้นก็จะน้อยลง แบบว่าตอนที่ดวงซวยทีไรก็มักจะคิดว่าใช้บุญเก่าหมดแล้ว ประมาณนั้นอ่ะ อ้าวๆๆจะออกนอกเรื่องไปกันใหญ่แล้ว จริงๆเราแค่อยากจะเล่าให้ฟังว่า เราไปซื้อนาฬิกามาสองเรือน เหมือนกันทุกอย่าง ต่างที่หน้าปัดสีต่างกันเท่านั้นเอง (แล้วนี่จะเรียกว่าเหมือนกันทุกอย่างได้ไหมเนี่ย) เอาเป็นว่าเหมือนกันในความคิดของเรา ราคาก็ไม่แพงอะไร เรือนละร้อยพอดีๆทำให้ตัดสินใจซื้ออย่างไม่ยากเย็น ทั้งๆที่ตอนจ่ายตังก็นึกถึงคำพูดของแม่ว่าของราคาถูกมักจะคุณภาพไม่ดีแต่นาฬิกาที่ใช้อยู่ก็เรือนไม่เท่าไหร่แต่ก็ยังไม่พังซะทีจนสภาพมันไม่ไหวแล้วแบบตอนนี้ถึงต้องหาเรือนใหม่มาแทน เราให้เรือนนึงกับเพื่อนสนิท ใช้เหมือนกันนี่แหละ ดูเค้าจะใช้สมบุกสมบันกว่าด้วยซ้ำเพราะว่าขนาดอาบน้ำยังไม่ถอดเลย เค้าบอกว่าเป็นการทดสอบการกันน้ำของนาฬ่กาหน่ะ แล้วไม่นาน เรือนของเราก็จะ reset ตัวเองทุกครั้งที่กดดูแสง
(นาฬิกาเป็นแบบดิจิตอล แนวสปอร์ต แบบมีจับเวลาได้ มีแสง) ทำให้เราเซงจนต้องเลิกใส่ไปเลย เพราะว่าขี้เกียจมาตั้งบ่อยๆ แต่ของเพื่อนเรามันกลับไม่เกิดอะไรขึ้น ตอนแรกนึกว่าถ่านหมด พอไปที่ร้านเค้าบอกว่าซื้อมาไม่แพงก็อย่างนี้แหละ ถ้าจะซ่อมขั้นต่ำก็ 300 แล้ว เราก็เลยไม่ซ่อมอ่ะ ก็ค่าซ่อมแพงกว่าค่านาฬิกาตั้ง 3 เท่านี่นา

ไอ้ที่ร่ายมาตั้งยาวก็สรุปคร่าวๆได้ว่าเวลาจะซื้อนาฬิกาให้คิดตามนี้
1. กำลังทรัพย์ของเราเป็นเช่นใด…หากใครมีทรัพย์มากหน่อยก็ซื้อให้มันดีๆหน่อยดีกว่า แบบว่าพอตัวนะ
2. เราชอบใส่แนวไหน ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกาสำหรับนักกีฬา ,ออกงานสังคม หรือแม้กระทั่งใส่เล่นๆ
3. สถานที่ที่จะซื้อเป็นยังไง น่าเชื่อถือแค่ไหน …ถ้าซื้อข้างถนนที่เค้าปูผ้าละก็ อย่าไปคิดว่ามันจะอยู่กับเรานานเลยนะ
แล้วการเลือกนาฬิกาก็บอกนิสัยได้หลายอย่าง…ลองไปดูนิสัยของคุณกันเลย

ช่วงนี้เพื่อนหลายคนกลับมาติดเกมส์อีกครั้งหลังจากที่ห่างหายไปได้ซักพัก(ประมาณวัน สองวันได้)
ก็คงต้องของติดเทรน เอาเกมส์ที่เกี่ยวกับนาฬิกามาแนะนำ
ลองเข้าไปเล่นกันเลย เล่นเกมส์ ยานอวกาศนาฬิกา

วันนี้เวลาของเราก็คงจะต้องจบลงแต่เพียงเท่านี้…เพราะว่าคนเขียนง่วงนอนแล้วจ้า
อย่าลืมแวะเข้ามาอ่านบ่อยๆน้า