รีวิวโดนใจ >> Scalini (สกาลินี่) ห้องอาหารสไตล์อิตาเลี่ยน-อเมริกันสุดหรู ณ Hilton สุขุมวิท

ครั้งนี้ได้รับเชิญจากห้องอาหาร Scalini (สกาลินี่) ให้มาลิ้มลองเมนูอาหารเซตใหม่ที่เพิ่งออกมาด้วยค่า ห้องอาหารนี้เป็นห้องอาหารสไตล์อิตาเลี่ยนแบบโฮมเมด มีการผสมผสานกลิ่นอายของความเป็นอเมริกันเข้าไปอย่างลงตัว โดยตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ของโรงแรมฮิลตัน สุขุมวิท

บรรยากาศของห้องอาหาร Scalini

การเดินทางมาที่นี่สำหรับออฟสบายมาก เพราะว่าสามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS แล้วลงที่สถานีพร้อมพงษ์ จากนั้นเดินเข้ามาในซอยสุขุมวิท 24 ตรงเข้าไปเรื่อยๆ จะเจอโรงแรม ฮิลต้น สุขุมวิท อยู่ทางซ้ายมือนะคะ ระยะเดินถือว่าไม่มากนัก เป็นการวอร์มท้องที่กำลังดีมากค่ะ เมื่อมาถึงแล้วขึ้นลิฟต์มาชั้น 2 แล้วห้องอาหาร Scalini จะอยู่ทางขวามือค่า

Scalini เป็นภาษาอิตาเลี่ยน หมายถึงขั้นบันได ซึ่งหมายถึงบันไดวนสำรหับเดินขึ้นมาจากด้านล่างของโรงแรมมายังห้องอาหาร  แต่น่าเสียดายที่วันที่ไปเค้าปิดบันไดเอาไว้ เลยได้ขึ้นลิฟต์มาแทนค่ะ การตกแต่งของห้องอาหารนี้จะโดดเด่นด้วยการใช้โทนสีเข้มแบบคลาสสิก จัดฉากย้อนหลังไปยังปี ค.ศ. 1920 ช่วงที่ชาวอิตาเลี่ยนลี้ภัยมายังเมืองนิวยอร์ค และได้นำเอาอาหารอิตาเลี่ยนมาเผยแพร่ในอเมริกา
ผนังที่โดดเด่นด้วยขวดไวน์เรียงตัวสุงให้ความหรูหราไปอีกแบบค่ะ หรือจะเลือกนั่งโซนติดหน้าต่างก็โรแมนติกไปอีกแบบ ห้องนี้มีให้เราเลือกหลายมุมมากเลยค่ะ

สำหรับครัวของห้องอาหารนี้เป็นครัวแบบเปิด ทำให้เรามองเห็นความมีชีวิตชีวาในการสร้างสรรค์อาหาร และสร้างสีสันให้กับบรรยากาศในการทานอาหารด้วยค่ะ

เมนูอาหารที่ห้องอาหาร Scalini

เมนูอาหารอิตาเลี่ยนเล่มโตทีพร้อมให้คุณเลือกทาน โดยมีให้เลือกครบทุกรูปแบบของอาหารอิตาเลี่ยนเลยทีเดียว ซึ่งโรงแรมระดับ 5 ดาวแบบนี้การันตีความเริ่ดหรู และความพรีเมี่ยมไม่ว่าจะเลือกทานของทานเล่น, สลัด, ซุป, พิซซ่า , พาสต้า หรือของหวานต่างๆ ก็มีให้เลือกเต็มที่เลยค่า

สำหรับคอรืสที่ทางโรงแรมจัดให้ออฟครั้งนี้ก็ครบรสมากเลยค่ะ เดี่ยวเราไปดูันเลยว่าแต่ละเมนูเป็นยังไงกันบ้าง

รายการอาหารที่ทานที่ห้องอาหาร Scalini

Complementary

แค่เริ่มด้วยเมนู Complementary อันนี้ก็เกือบอดใจไม่ไหวแล้วค่ะ ในถาดไม้เป็นขนมปังหลากสไตล์ที่เสิร์ฟมาคู่กับซอสที่เชฟจะเปลี่ยนไปแต่ละวัน โดยวันที่ออฟไปเป็นซอสฟักทอง นอกจากนี้ยังมีกระเทียมที่เราสามารถปาดเนื้ออกมาทาบนขนมปัง กินแทนเนย อร่อยเข้มข้นไปอีกแบบค่า

ชีสโทมิโนย่าง 530 บาท

ต่อกันด้วยเมนูเอาใจสำหรับ Cheese Lover เพราะเมนูนี้เป็นการนำเอาชีสโทมิโนมาย่างบนกระทะร้อน ด้านนอกจะเป็นเหมือนแป้งกรอบ เอามีดตัดด้านในจะมีชีสไหลเยิ้ม ทานคู่กับแฮม ถ้ากลัวว่าจะเลี่ยนก็ให้ทานคู่กับสลัดผักสดๆราดเดรซซิ่งบัลซามิก ซึ่งของที่นี่ใช้บัลซามิกขาวที่ให้ความเปรี้ยวอมหวาน และรสชาติเบาๆ ตัดเลี่ยนชีสได้เป็นอย่างดีเลยค่า

สลัดผักสด และฟัวกราส์  650 บาท

เริ่มด้วยชีสกันไปแล้วมาต่อกันด้วยฟรัวกราส์ชิ้นโตๆ กันบ้างค่า การทานฟรัวกราส์ของที่นี่ให้ความแตกต่างจากที่อื่นๆมากทีเดียวค่ะ เพราะปกติแล้วจะมีการเสิร์ฟฟรัวกราส์กับซอสผลไม้ต่างเพื่อตัดเลี่ยนกัน แต่ที่นี่เสิร์ฟฟรัวกราส์มาในรูปแบบของซอสเทอริยากิ ด้านล่างฟรัวกราสมีเห็ดชิตาเกะ มีความนุ่มเข้าคู่กันได้เป็นอย่างดี โดยไม่แย่งซีนกัน ด้านล่างสุดเป็นหน่อไม้ฝรั่งเพิ่มความกรุบกรอบกันหน่อยค่า  หากว่ากลัวจะเลี่ยนเกินไป ก็สามารถทานสลัดผักสดที่เค้าจัดมาคู่กันได้ค่า

ลิงกวินีผัดใส่กุ้งซิซิลเลียนแดง 900 บาท

เมนูพาสต้าเป็นการนำเส้นลิงกวีนี่แบบไม่ขัดสี มาผัดใส่กุ้งซิซิลเลี่ยนแดงที่ส่งตรงมาจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โดยกุ้งตัวใหญ่เนื้อแน่น ทานแล้วเข้าคู่กันกับเส้นลิงกวีนี่ที่มีความหนาหน่อย ดูดซับและติดซอสมาเต็มที่ทำให้ทานแล้วรับรู้ถึงความเข้ากันของการผัดค่ะ

ปลากระบอกสีแดงอบ 850 บาท

เมนูปลาเป็น Main Course สำหรับสาวๆ ที่ดูจะเหมาะมาก เพราะว่าแคลอรี่น้อย และการที่ทางห้องอาหารทำการปรุงทำอย่างแล้วนำไปอบทำให้เนื้อปลานุ่ม ไม่คาว ความเก่งของการปรุงอาหารคือเนื้อปลาไม่เละค่ะ รสชาติจะมีเปรี้ยวเล็กๆ เผ็ดหน่อยๆ ของมะนาวและพริกมาช่วยเสริมรสชาติของปลาให้โดดเด่นมากขึ้น

ของหวานที่ทานที่ห้องอาหาร Scalini

เค้กช็อกโกแลตสูตรของคุณยาย 300 บาท

ทานของคาวกันไปแล้วมาดูของหวานกันบ้าง เมนูเค้กช็อกโกแลตอาจจะดูธรรมดา และหาทานได้ง่าย แต่ห้องอาหารสกาลินี่ก็สามารถสร้างความแตกต่างได้ต่างชัดเจนมากค่ะ ตัวเค้กมีความเข้มข้นของช็อกโกแลตชัดเจนมาก เนื้อเค้กแน่นกำลังดี เสิร์ฟมาพร้อมกับไอศกรีมวานิลา และช็อกโกแลตฟองดูให้เราเอาผลไม้มาจิ้มได้เพิ่มด้วย จานนี้คนรักช็อกโกแลตต้องปลาบปลื้มแน่ๆค่ะ

เลมอนทาร์ต 300 บาท

สำหรับสาวๆ ที่มองหาของหวานที่มีรสชาติเปรี้ยวหน่อย เลมอนทาร์ตก็ตอบโจทย์ได้ดีค่ะ แถมที่นี่จะมีเลมอนทาร์ตที่ต่างจากที่อื่นตรงที่เค้าเสิร์ฟพร้อมซอสเอสเพรสโซ่ด้วยค่ะ การทานเลมอนทาร์ตที่มีรสชาติเปรี้ยวๆ คู่กับกาแฟเอสเพรสโซ่ที่เอารสขมมาตัดกัน เข้ากันได้อย่างดีเลยค่ะ

การทานอาหารที่ห้องอาหาร Scalini

การทานอาหารที่ห้องนี้คุณจะได้รับการบริการอย่างดี ดูแลทุกอย่าง พนักงานสุภาพ และยิ้มแย้มแจ่มใส ดูแลกันเป็นอย่างดีเหมือนเป็นคุณหนูเลยค่ะ ตอนที่ทานฟรัวกราส์ได้มีการนำเอาที่บดพริกไทยขนาดใหญ่บิ๊กเบิ้มมาโชว์และใช้งานด้วยนะคะ อันนี้ก็เก๋ดี แต่คนใช้ต้องแข็งแรงเหมือนกัน เพราะทางท่าจะหนักอยู่ ^ ^ แต่ก็เป็นสีสันในการทานดีค่ะ

บทสรุปจากการทานที่ห้องอาหาร Scalini

หลังจากอิ่มอร่อยกันไปตั้งแต่เริ่มทาน Complementary จนจบของหวานไปแล้ว พนักงานได้นำหนังสือเล่มนึงมามอบให้บอกว่าให้อ่านรอไปก่อน ขณะที่รอเชฟมาพูดคุยด้วย แต่เมื่อเปิดหนังสือออกมากลายเป็นภาพวาดที่รังสรรค์ด้วยคุ๊กกี้และครัสท์ช็อกโกแลต  เค้าบอกว่ามันเป็นรูปต้นไม้มุมสูงค่ะ ซึ่งไม่ใช่เพียงความเก๋ของหนังสือเล่มนี้เท่านั้น คุ๊กกี้ยังอร่อยดีอีกด้วยค่า อันนี้เป็นของพรีเมี่ยมที่ได้รับเป็นพิเศษ ทำเอาว้าวมากๆค่า

• รายการอาหารอิตาเลี่ยนของที่นี่เป็นการปรับเมนูอาหารอิตาเลี่ยนเดิมๆ อย่างที่เราคุ้นกันให้อร่อยอลังการขึ้นไปอีก โดยการเน้นไปที่วัตถุดิบ และปรุงแต่งให้รสชาติของวัตถุดิบโดดเด่นขึ้นมา ซึ่งสกาลีนี่ทำได้ดีเลยค่ะ
• ราคาอาหารของที่นี่พรีเมี่ยมใช้ได้ เหมาะกับการมาในโอกาสพิเศษ เลี้ยงฉลอง หรือสำหรับคนที่อยากทานอาหารอิตาเลี่ยน ที่นี่ก็เป็นตัวเลือกที่ดีอีกที่นึงค่า
• การเดินทางถือว่าสะดวกใช้ได้ เพราะใกล้กับรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์ เดินไปจากรถไฟฟ้าได้อยู่ค่ะ
• บรรยากาศของห้องอาหารหรูหรามีสไตล์ การนำทั้งอิตาลีและอเมริกันมาเข้าคู่กันก็ทำได้อย่างลงตัวดีค่ะ

Gallery จากห้องอาหาร Scalini

ข้อมูลทั่วไปของห้องอาหาร Scalini

โรงแรม ฮิลตัน สุขุมวิท กรุงเทพ / Hilton Sukhumvit Bangkok hotel
11 สุขุมวิท24 คลองตัน คลองเตย กรุงเทพ 10110 [เขตคลองเตย]
โทร : 0-2620-6666
การเดินทาง Hilton Sukhumvit Bangkok Hotel :จากถนนสุขุมวิท มุ่งหน้าไปทางสถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์ เลี้ยวเข้าซอย สุขุมวิท 24 ไปประมาณ 150 เมตร โรงแรม ฮิลตันสุขุมวิทกรุงเทพฯ อยู่ทางด้านซ้ายมือ
ที่จอดรถ : ที่จอดรถของโรงแรม ฮิลตันสุขุมวิทกรุงเทพฯ
website: https://www.facebook.com/ScaliniBangkok