รีวิวโดนใจ >> Perfume: A Notable Experience House of Walker Dinner Menu

Perfume_001

เรื่องเราที่จะเล่าในครั้งนี้เป็นการย้อนรอยความทรงจำในค่ำคืนที่แสนสนุกและน่าประทับใจอีกค่ำคืนหนึ่งที่ได้ไปมากับทางร้าน Perfume: Fragrance Bar & Aromatic Cuisine ร้านอาหารสุดเก๋และแปลกใหม่ด้วยการนำคอนเซปต์ของน้ำหอมมาเข้าคู่กันกับอาหาร แถมยังเพิ่มความพิเศษกันขึ้นไปอีกเมื่อทางร้านร่วมกับทาง Johnnie Walker สรรค์สร้างอาหารและเครื่องดื่มในค่ำคืนกันค่า ซึ่งทางร้านก็ได้ จัดเมนูพิเศษในชื่อว่า A Notable Experience House of Walker Dinner Menu ราคา 8,900++ โดยอาหารชุดนี้จะมีจัดเฉพาะคืนวันที่ 2 ต.ค. 2556 เท่านั้นค่ะ

บรรยากาศของร้านPerfume

Perfume_002วันนั้นเป็นวันที่ฝนตกค่ะ หลังจากที่ขึ้นแท็กซี่แล้วมาลงที่ตัวตึก 8 Thonglor ฝนก็พากันกระหน่ำลงมาทันที ถือเป็นความโชคดีที่ไม่เปียก แต่ก็มีความโชคร้ายตรงที่ไม่สามารถเก็บภาพบรรยากาศด้านนอกของร้านได้ เพราะร้านนี้เค้ามีที่นั่งส่วนที่เป็น Outdoor ด้วยค่ะ แต่เมื่อเข้ามาในห้างแล้วทางร้านก็มีทางเข้าผ่านในตัวห้างเหมือนกัน ตัวอักษร Perfume ในฟอนต์ ที่เพรียวทำให้ดูเรียบหรูขึ้นมาทันที
Perfume_003ค่ำคืนนั้นทางร้านถึงกับปิดร้านเพื่อให้การต้อนรับและเพื่อคนพิเศษในค่ำคืนนี้ค่ะ และความโชคดีอีกอย่างของออฟคือ ออฟเป็นหนึ่งในนั้น ก็เลยได้มาเก็บภาพบรรยากาศของร้านที่ใจกลางร้านมีการนำขวดน้ำหอมต่างๆ มาเรียงรายดูน่ารักและบ่งบอกความเป็นตัวร้านให้สมชื่อ Perfume กันไปเลยค่ะ
Perfume_004โต๊ะเรียงยาว ตั้งรอแขกคนพิเศษ พร้อมเมนู และของเล่นที่จะทำให้เราสนุกสนานไปกับการทานอาหารในคืนนี้ รวมไปถึงแก้วเครื่องดื่มตรงหน้าที่เริ่ดหรู จัดเรียงไว้อย่างเรียบร้อยพร้อมเอาใจกันอย่างเต็มที่แล้วค่ะ
Perfume_010

ส่วนที่เคาเตอร์ก็มีพื้นที่นั่งให้จับจองสำหรับคนที่อยากจะใกล้ชิด พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น หรืออยากดูบาร์เทนเดอร์เตรียมเครื่องดื่มให้เราก็ได้ค่ะ

รายการอาหารที่ทานที่ร้านPerfume

Fresh Note:

Bellisi Basilica

Perfume_021

เมนูเริ่มต้นของคอร์สสุดแสนอลังการนี้ขอเริ่มกันด้วยการเพิ่มความสดชื่นกันก่อนเลยค่ะ โดยเมนูนี้จะเป็นเมนู ขนมปังวางด้วยพาร์มาแฮม มาพร้อมซอสบัลซามิก และโหระพาโดยสิ่งที่เพิ่มบรรยากาศให้พิเศษมากขึ้นก็จะเป็นตัวกลิ่นน้ำหอมที่ล้อมรอบตัวเราหลังจากที่พนักงานได้เทน้ำลงไปในโถแก้ว ซึ่งงานนี้เป็นการเปิดตัวที่สร้างความตื่นตา ตื่นใจให้กับคนในโต๊ะมากๆค่ะ หยิบกล้องมาถ่ายกันแทบไม่ทันเลยทีเดียว

Perfume_023

Oceanic Note:

S.O.S

Perfume_075เมื่อได้รับความสดชื่นกับกลิ่นหอมกันไปแล้วก็มาถึงกิมมิคตัวต่อมากกันเลยค่ะ ครั้งนี้เป็นการให้เขียนอะไรก็ได้ลงไปบนแผ่นแป้งกระดาษ โดยใช้ปากกาขนนก จุ่มลงในหมึกที่เป็นซอสเบอร์รี่เข้มข้นค่ะ โดยเป็นเหมือนการส่งสาร SOS (Save Our Souls) ไปผ่านทางขวดแก้วค่ะ หลายๆคนอาจจะคุ้นกับเรื่องเล่าที่มีการเขียนข้อความแล้วส่งใส่ขวดเพื่อเมื่อคนที่พบแล้วจะได้ช่วยเหลือได้ค่ะ ซึ่งในครั้งนี้ก็คล้ายๆกันค่ะ เพียงแต่เราไม่ได้เอาขวดโหลไปลอยน้ำเท่านั้นเอง
Perfume_028

ซึ่งแน่นอนค่ะ Message ที่ออฟจะเขียนก็ต้องเป็นชื่อของคนข้างกายอยู่แล้วค่ะ ยิ่งวันนี้ไม่ได้มาด้วยกันด้วยแล้ว มาดูเรื่องอาหารของคอร์สนี้กันบ้างค่ะเป็นเมนู “Hokkaido Scallops-greens-orange dressing-pistachio”  ซึ่งก็เป็นเมนูที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน แล้วยิ่งบอกด้วยว่าเป็นเมนูหอยเชลล์ยิ่งงงกันไปใหญ่เลยค่ะ แต่ยังไงสีสันของการจัดจานก็ทำให้น่าทานและเพิ่มความอยากลิ้มลองไปมากแล้วค่ะ สำหรับรสชาติของเมนูนี้ออฟว่าออกเลี่ยนไปหน่อยค่ะ

Perfume_072

Oriental Note:

Quack Quaque : ซุปเป็ด

Perfume_078

ก่อนที่จะเริ่มอาหารหนักก็มาปรับลิ้นกันด้วยน้ำซุปกันก่อนค่ะ และแน่นอนกิมมิคใจเมนูนี้ก็ไม่ธรรมดาเหมือนเดิมค่ะ โดยเมนูนี้จะเป็นกระดาษป้ายผงชินเนมอนที่ให้เรานำมาคนในถ้วย แล้วกินเข้าไปทั้งกระดาษได้เลยค่ะ โดยเมนูนี้เป็นเมนูเบาๆ ซดน้ำซุปเป็ดใสกันเพลินๆ ก่อนจะเริ่มอาหารจานหลักค่ะ

Fougere Note:

From… Dear…

Perfume_035

ยังไม่ลืมใช่ไหมคะว่าก่อนหน้านี้มีการเขียนกระดาษใส่ขวดแก้วไป ครั้งนี้ลอยกลับมาในรูปแบบของฟรัวการส์ค่ะ โดยเมนูนี้ชื่อว่า “From… Dear…” ซึ่งมีส่วนประกอบของ Foie Gras – Green Apple – Basil – Port Wine – Lavender Crust โดยสิ่งที่โดดเด่นของจานที่แผ่นป้าย Message ที่เราเขียนไปเมื่อกี้ค่ะ โดยเมนูนี้ฟรัวการส์นุ่มมาก ไม่คาวเลยค่ะ ทานคู่กับแผ่นป้ายอบกรอบก็เข้ากันไปได้อีกแบบค่ะ

Leather Note:

Perfume_039

สำหรับเมนูจานหลักของออฟเป็นเมนู “Tanned from Down Under” ซึ่งเมนูเนื้อริบอายชิ้นโตเลยค่ะ โดยใจจานจะประกอบด้วย Rib Eye – Ratatouille – Potato Lyonnaise – Thyme Essence ซึ่งต้องชมว่าเนื้อนุ่มมากและเข้ากันดีกับซอสมากๆค่ะ

Floral Note: 

Perfume_080

สำหรับคนไม่ทานเนื้อนั้นก็มีเมนู  “Upstream to the Garden” ซึ่งเป็นเมนูปลาค่ะ อันนี้ไม่ได้ทานนะคะ แต่เก็บภาพของจานพี่ในโต๊ะมาให้ดูกันค่า

Smoky Note:

Perfume_044

ปิดท้ายกันด้วยเมนูของหวานอย่าง “BurnBerry Cheese Cake” ซึ่งดูชื่อแล้วอาจจะดูธรรมดาแต่แน่นอนทางร้านเค้าต้องมีอะไรพิเศษมาให้เราอยู่แล้วค่ะ และครั้งนี้ก็เป็นการใช้เทียนที่เป็น gimmick สุดท้าย ของค่ำคืนนี้มาจุดไฟในโชติช่วงกันค่ะ แวบเดียวเท่านั้น กระดาษก็หายวับไปกับตาเลยค่ะ เหลือแต่ความน่าทานของของหวานคืนนี้เอาไว้

Perfume_047

Fresh Blueberry – Lemon – Vanilla Ice Cream -gunpowder burn ส่วนประกอบต่างๆที่ถูกคัดสรรมาอย่างลงตัวทำให้เมนูของหวานที่นี่ไม่ธรรมดาเลยค่ะ

รายการเครื่องดื่มที่ทานที่ร้านPerfume

Perfume_011

สำหรับเครื่องดื่มในค่ำคืนนี้เค้าก็ปล่อยของออกมากันเต็มที่เลยค่ะ แบบว่าจัดให้เต็มมากๆ แต่ด้วยความที่ออฟไม่ถนัดเรื่องแอลกอฮอล์และเมาง่ายมากๆ ก็เลยต้องขอเก็บภาพมาฝากกันเบาๆนะคะ สำหรับเรื่องรสชาตินั้นต้องบอกว่าแค่ได้กลิ่นก็เมาไปหมดแล้วค่า

Green Lantern: by Oui

J.W Gold Reserve, Dry Vermouth, Blue Curacao, syrup, strawberry Ikura Juice, Lime, Melon Caviar, Angostura bitters
Perfume_056

Lemon Candy: By Art

J.W Gold Reserve, Dry Vermouth, Creme de Cacao, Lemon citrus

Perfume_059

Caramel Blitz: By JoeJoh Sang

J.W Gold Reserve, Peach liqueur, Orange juice, Simple syrup, Lime juice, Qual Egg
Perfume_055

Gold Label Reserve , Platinum Label, Blue Label

Perfume_034
Perfume_029

Blue Label King George V

Perfume_084

บทสรุปจากการทานที่ร้านPerfume

  • เป็นร้านที่สร้างความประทับใจในการทานอาหารให้สนุกและตื่นเต้นมากๆค่ะ มาพร้อมเครื่องดื่มไม่อั้นด้วย ถึงแม้ว่าส่วนใหญ่ออฟจะทานน้ำเปล่าก็ตาม
  • บรรยากาศของร้านนี่ก็ตกแต่งได้สวยงามลงตัวดีค่ะ
  • การเดินทางอาจจะไม่ติดรถไฟฟ้า แต่คนที่มากินดื่มย่านทองหล่ออยู่แล้วน่าจะไม่ใช่อุปสรรคค่ะ
  • รสชาติอาหารโดยรวมแล้วอร่อยดีเลยค่ะ

Gallery จากร้านPerfume

ข้อมูลทั่วไปของร้านPerfume

ที่ตั้งร้าน: 101A, ชั้น G, อาคาร Eight Thonglor, ทองหล่อ ซอย 8 (หัวมุมซ้ายของห้าง), ถนนสุขุมวิท กรุงเทพมหานคร 10110

ติดต่อ: 02-714-8071

Facebook : https://www.facebook.com/PerfumeBarAndRestaurant

 

Leave a comment