[Movie] Transformers: Revenge of the Fallen
TRANSFORMER: Revenge of the Fallen (อภิมหาสงครามแค้น)
เพิ่งกลับมาจากดู Transformers: Revenge of the Fallen ที่โรงหนังพารากอนซีนีเพล็กซ์ที่ตอนแรกอยากจะไปดูในโรง IMAX แต่ว่าที่นั่งเต็มหมดเลย ก็เลยต้องโทรจองที่นั่งตั้งแต่ 4 โมงกว่าเลยอ่ะ ซึ่งที่นั่งก็ได้ที่นั่งกลางโรง G14-15 ซึ่งเค้าบอกว่าโรงไม่ใหญ่มากประมาณ 300 คนก็เลยต้องถามย้ำว่าต้องเงยหน้าดูไหม เค้าบอกว่าไม่ก็เลยรีบจอง เพราะไม่งั้นก็คงไม่ได้ดู
การโทรจองตั๋วหนังนั้นมีข้อดีก็คือ ไปถึงแล้วมีที่นั่งแน่นอน แต่ก็เสี่ยงกับการที่จะได้ที่นั่งไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไม่เหมือนกับที่ไปเลือกเองหน้าโรง แต่ครั้งนี้ก็ถือว่าใช้ได้ ถึงแม้ว่าจะอยู่ต่ำกว่าที่นั่งที่เลือกปกติก็ตาม แต่ที่เลือกโรงหนังที่พารากอน เป็นเพราะว่าที่นั่งมันนั่งสบายกว่า แล้วก็ที่นั่งไม่ติดกันจนเมื่อยขาสำหรับคนขายาว ส่วนออฟความกว้างของแถวที่นั่งไม่เคยมีผลอยู่แล้วอ่ะคะ
วันนี้เป็นวันแรกของการเข้าโรงของเรื่อง Transformers: Revenge of the Fallen แต่ว่าคนดูก็เยอะทีเดียว รู้สึกว่าส่วนใหญ่ก็จะเป็นเด็กวัยรุ่นซะเป็นส่วนมาก หรือว่าโรงหนังที่ไปมันก็อยู่ใจกลางย่านของวัยรุ่นเค้าเลยก็เป็นได้ ทำให้ถึงแม้ว่าจะโทรจองที่นั่งไว้แล้วแต่ก็ต้องมาเข้าคิวรอเอาตั๋วอีกซักพักเลยทีเีดียว
เรื่องนี้เป็นหนังภาคต่อมาจาก ทรานสฟอร์เมอร์ : มหาวิบัติจักรกลสังหารถล่มจักรวาล ที่เป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มกับรถยนต์ที่แปลงร่างเป็นหุ่นยนต์ได้ นั่นแหละที่ออฟจำเนื้อเรื่องของภาคแรกได้ แต่รู้ว่าตอนแปลงร่างมันเจ๋งมากๆ ก็เลยต้องมาดูภาคต่อของเค้า
เนื้อเรื่องของหนังนั้นยังใช้เด็กหนุ่มที่ชื่อ แซม วิทวิคกี้ (ไชอา ลาบัฟฟ์) เป็นตัวดำเนินเรื่องโดยมีแฟนสาวสวย มิคาเอลล่า (มีแกน ฟ็อกซ์ ) ที่เป็นอีกหนึ่งในแม่เหล็กของหนังเรื่องนี้ที่ดูดคนที่ไม่ค่อยจะสนใจหุ่นยนต์ แต่สนสาวสวยมาดูหนังเรื่องนี้ จุดเริ่มต้นของเรื่องจริงๆ น่าจะเป็นตอนที่ แซม ไปเจอคิวบ์จากเสื้อที่เค้าใส่ไปฟาดฟันกับหุ่นทั้งหลายตอนภาคที่แล้ว ทำให้อารยธรรม หรือแผนที่อะไรซักอย่างไหลเข้าไปอยู่ในตัวเค้า
จากนั้น ฝ่าย ดีเซปทิคอนส์ ผู้ทำลายล้าง ก็ต้องการตัวเด็กหนุ่มเพื่อชี้ไปยัง เมทริกซ์ ที่พวกมันจะใช้เป็นตัวทำลายดวงอาทิตย์ของโลก คราวนี้ ฝ่ายออโต้บอท ผู้พิทักษ์รักสันติ ซึ่งมี ออพติมัส ไพร์ม เป็นผู้นำ ก็เลยมาช่วยปกป้อง แบบว่าตอนที่หุ่นของทั้งสองฝ่ายสู้กันนั้นรู้สึกว่าฝ่ายดีเซปทิคอนส์ จะมีหุ่นที่เจ๋งๆ กว่าเยอะเลยอ่ะ
ภาคนี้การแปลงร่างของหุ่นแต่ละตัวดูเจ๋งกว่าภาคที่แล้วพอสมควร แต่ว่าอาจจะเป็นเพราะว่าหุ่นมันตัวใหญ่เต็มจอไปหมด ก็เลยรู้สึกว่าบางทีก็ปวดหัวนิดๆ เวลาที่ดูมันแปลงร่าง แล้วการต่อสู้ในอียิปต์ ที่ผู้สร้างเค้าว่าทำให้หุ่นของเค้าดูเด่นและคนดูไม่สับสนกับฉาก เหมือนอย่างในภาคแรก ที่หุ่นสู้กันในเมืองทำให้คนดูเวียนหัว ออฟกลับรู้สึกว่าทำไมหุ่นมันดูน้อยๆ แล้วก็ไม่ค่อยมัน ส่วนใหญ่มีแต่ควันที่ลอยขึ้นจากการที่มนุษย์ยิงปืนมาจากที่ไกลๆ
แล้วทีมทหารที่ทำงานอยู่กับ ฝ่ายออโต้บอท ผู้พิทักษ์รักสันติ ที่ออฟรู้สึกว่าจะส่งคนตัวเล็กๆ เข้าไปร่วมทัพด้วยทำไมก็ไม่รู้ แบบว่าโดนหุ่นตัวใหญ่เหยียบเอาง่ายๆ แถมน่าจะเกะกะกับทีมของตัวเองด้วย แบบว่าตั้งป้อมยิงอยู่ห่างๆ ก็น่าจะพอแล้ว ปืนกระจิ๋วริวของคนจะไปทำอะไรหุ่นยนต์ใหญ่ยักษ์ได้อะ่
เนื้อหาของเรื่องมีกา่รเชื่อมโยงกันเป็นอย่างดี มีฉากให้ขำบ้างกับตัวละครประกอบที่มาแทรกมุกให้ได้ผ่อนคลายอารมณ์ร่วมกับสงครามล้างแค้นของหุ่นยนต์ลงไป แต่ยังไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมถึงเหลือ ไพร์ม อยู่ตัวเดียว และจะมีเพียง ไพร์ม เท่านั้นที่จะสามารถปราบดีเซปทิคอนส์ ได้ อ้อ แล้วก็ไอ้ทีเก็บเมทริกส์ที่เป็นหัวใจของเรื่องก็ดูจะไม่ค่อยลึกลับเท่าไร่นัก (แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องค้นหาขุมทรัพย์ เลยพอให้อภัยได้)
สรุปแล้วหนังเรื่องนี้ที่กินเวลาไปกว่าสองชั่วโมงครึ่ง (ดูรอบ 18.45 ออกมาจากโรงตอน 21.30) ก็รู้สึกว่าคุ้มค่ากับราคา เพราะว่าเข้าไปตั้งนานแต่รู้สึกว่าหนังดึงอารมณ์ไว้ได้อย่างต่อเนื่องก็เลยไม่ค่อยรู้สึกว่ามันนาน ไม่ใช่บางเรื่องที่แบบว่าจะยืดเยื้อไปไหนอะไรทำนองนั้น
แต่ยังไม่ค่อยแนะนำให้ไปดูในโรงตอนช่วงหนังเข้าแบบนี้ เพราะว่าการดูหนังที่มีการแปลงร่างเยอะๆ แบบนี้ อยากให้ใส่ใจกับที่นั่งของตัวเองหน่อย เพราะว่าขนาดนี่นั่งกลางโรงแต่ว่าออกมาก็ปวดหัว ปวดคอนิดๆ ถ้าอยากดูหนังให้ได้อรรถรสแนะนำให้ดูแถวไกลๆ หน้าจอจะดีกว่า แล้วหนังเรื่องนี้ก็รับรองได้ว่ามันส์คุ้มค่าตั๋วแน่นอน
Leave a comment