รีวิวโดนใจ >> Jousen Yakiniku & Bar : โจเซ็น บุฟเฟ่ต์เนื้อย่างแบบพรีเมี่ยมในราคาสุดคุ้ม
Jousen (โจเซ็น) เป็นร้านบุฟเฟ่ต์เนื้อย่างแบบยากินิคุน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน แต่เปิดตัวแรงแซงทางโค้งด้วยการเพิ่มระดับความพรีเมี่ยมเข้ามาในราคาสุดคุ้มมากขึ้น โดยครั้งนี้ออฟได้รับเชิญให้มารีวิวโจเซนที่ สาขา Mercurry Ville ติดกับ BTS ชิดลม ครั้งนี้จะโดนใจแค่ไหนตามกันไปเลยค่า
บรรยากาศของร้านJousen (โจเซ็น)
หลังจากเลิกงานเหนื่อยๆ การได้ทานเนื้อย่างแบบบุฟเฟ่ต์นั้น เป็นกิจกรรมที่เดี่ยวนี้หลายๆ คนโปรดปรานเป็นอย่างมาก บางครั้งบางช่วงออฟถึงขนาดเสพติดการไปกินเนื้อย่าง แบบลืมแคลอรี่ และน้ำหนักที่ได้ตามมาเลยค่ะ ครั้งนี้เมื่อเดินทางมาถึงรถไฟฟ้าชิดลมแล้วก็ให้เดินมาออกที่ทางออกที่ 4 จะมีทางเชื่อมเข้าไปยัง ตึก Mercurry Ville แล้วก็ขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้น 2 ก็จะเจอร้านโจเซ็นแล้วค่า
โลโก้ของร้านนี้ให้ความขึงขังและดูมีพลังมากเลยค่ะ
เข้ามาในร้านก็จะเจอกับบรรยากาศที่ดูคลาสสิคและขรึมๆ หน่อย โดยเน้นไปใช้โทนสีดำเป็นหลัก และมีการใช้สีเขียวตกแต่งเพื่อเพิ่มความสดชื่น
ร้านมีหลายสไตล์เลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นห้องส่วนตัวที่ถ้ามากับกลุ่มเพื่อนๆ นี่คิดว่าได้ห้องส่วนตัวก็จะได้ไม่รบกวนคนอื่นๆ มีทั้งและโต๊ะที่ถ้าไมได้มาเยอะมากก็นั่งกันสะดวกดี
หรือคนที่มาเดี่ยวหรือเป็นคู่จะเลือกนั่งแบบเคาเตอร์ก็เก๋กันไปอีกแบบค่ะ ตัวร้านค่อนข้างใหญ่ มีโต๊ะเยอะ แต่ด้วยการจัดร้านทำให้ดูไม่แน่นเกินไป ไม่ต้องคอยดูว่าเก้าอี้จะชนใครรึเปล่าค่ะ แถมยังมีทางเดินให้พนักงานเข้ามาเสิร์ฟอาหารแบบสบายๆ ด้วย
เมนูของร้านJousen (โจเซ็น)
เมนูของร้านนี้โดนใจออฟมากทีเดียวค่ะ เริ่มต้นจากเค้ามีบุฟเฟ่ต์สุดคุ้มให้เลือก 2 ราคา ทั้งบุฟเฟ่ต์ แบบธรรมดา ราคา 489 บาท และบุฟเฟ่ต์แบบพรีเมี่ยม ราคา 689 บาท แถมยังมีอาหารแบบ A La Carte ให้เราสั่งเพิ่มได้อีกด้วย นอกจากนี้ในเมนูจะมีสัญลักษ์บอกว่าเมนูไหนอยู่ในกลุ่มใด แถมเอาใจสาวๆ ด้วยการบอกระดับพลังงานให้ด้วยค่ะ งานนี้ถ้าตอนเช็คบิลแล้วเค้าบอกค่าพลังงานเฉลี่ยของแต่ละคนที่ได้รับเข้าด้วยนี่จะเจ๋งสุดๆ
เมนูของทางร้านก็หรูหราด้วยการมีภาพชัดเจนของอาหารแต่ละอย่าง มีสามภาษาให้เลือกอ่านไม่ว่าจะเป็นไทย อังกฤษ หรือจีน
เมนูที่มีให้เลือกก็มีหลายอย่างมากเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเมนูเนื้อนี่ก็กินไปหลายหน้าแล้ว เมนูอาหารทะเลก็แปลกใหม่และมีของน่าทานหลายอย่างที่ร้านอื่นๆ ไม่มี
เมนูของผัก และเครื่องเคียง รวมไปถึงเครื่องดื่มก็มีให้เลือกเยอะทีเดียวค่ะ
รายการเนื้อ A La Carteที่ทานที่ร้านJousen (โจเซ็น)
สำหรับเนื้อพรีเมี่ยมนี่ถ้าต้องการสั่งสามารถสอบถามราคากับพนักงานได้ก่อนเลยค่ะ โดยหลักๆ แล้วเค้าจะมีชิ้นเนื้อที่ตัดไว้แล้ว เราก็เลือกก่อนว่าอยากจะกินเนื้ออะไร แล้วเค้าก็จะเอาชิ้นเนื้อมาให้เลือกค่ะ ว่าเราต้องการขนาดประมาณไหน โดยราคาก็จะขึ้นอยู่กับน้ำหนักของเนื้อที่เลือกเลยค่ะ
เนื้อโอมิ 1,056 บาท
เนื้อโอมินี่จะเป็นเนื้อที่ได้จากวัวที่ถูกเลี้ยงในเมืองโอมิค่ะ โดยจุดเด่นของเนื้อโอมิก็คือ ความฉ่ำนุ่ม และลวดลายของเนื้อเป็นลายหินอ่อนที่มีเนื้อและไขมันแทรกกันได้อย่างลงตัว หลังจากการทานพบว่าเนื้อโอมิโดดเด่นในเรื่องของความนุ่มค่ะ แต่ว่ายังขาดรสชาติของความเป็นเนื้อไปหน่อย คงเพราะรสชาติมันนุ่มละมุนนั่นเองค่ะ
ก่อนทานก็ใช้แปรงจุ่มกับน้ำซอสที่เสิร์ฟมาคู่กัน แล้วบรรจงทาลงบนเนื้อด้วยความละเมียดลไมให้สมกับที่เนื้อนี้ขึ้นชื่อว่าจะเสิร์ฟให้เฉพาะขุนนางชั้นสูงเท่านั้นค่ะ หลังจากนั้นก็เคลียร์เตาให้หมด แล้วค่อยวางเนื้อทีละชิ้นตรงกลางเตา ค่อยดูแลเป็นอย่างดี พอด้านนึงเริ่มสุกให้กลับด้านเนื้อเลยค่ะ อย่ากลับหลายครั้ง และไม่ต้องรอให้เนื้อสุกจนแห้งมากด้วยนะคะ เดี่ยวจะเหนียว และเสียรสชาติของเนื้อไป
d
เนื้อโกเบ 1,120 บาท
ต่อกันด้วย“เนื้อโกเบ” หรือ Kobe Beef ซึ่งเป็นเนื้อที่คอเนื้อทั้งหลายคุ้นหู และอยากลิ้มลองความอร่อยกันทั้งนั้นค่ะ เนื้อที่ส่งตรงมาจากเมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่นนี้นั้นอร่อยจนได้ชื่อว่าเป็น Queen of Beef กันเลยทีเดียว ซึ่งในการทานครั้งนี้ออฟก็ชอบเนื้อโกเบมากสุดค่ะ คงเพราะว่ามีไข่มันกำลังดี เวลาทานได้รสชาติของเนื้อเต็มๆคำ งานนี้อร่อยแบบไม่ต้องจิ้มอะไรเพิ่มเลยค่ะ
เนื้อมัตซึซากะ 2,160 บาท
ปิดท้ายกันด้วยราชาแห่งเนื้อกันกับ เนื้อมัทสึซากะ (Mutsuzaka beef) ค่ะ สังเกตได้ชัดเลยค่ะว่าเป็นเนื้อที่มีไขมันแทรกอยู่เยอะมาก ดังนั้นเวลาย่างก็จะมีไขมันหยดลงไปบนเตา ส่งผลให้ไฟลุกฮือขึ้นมาอย่างแรงเลยค่ะ เป็นการย่างที่สร้างความตื่นตาตื่นใจมาก
งานนี้ห้ามตกใจนะคะ เพราะเนื้อแพงต้องดูแลเป็นอย่างดี ดังนั้นต้องระวังไม่ให้สุกเกินไป จนไหม้ค่ะ สำหรับออฟแล้วราชาแห่งเนื้อ “มัตสึซากะ Matsusaka Beef” ดูจะมันมากไปหน่อยค่ะ แต่ถ้าใครชอบรสสัมผัสที่มีไขมันทุกอณูก็น่าจะโดนใจกับเนื้อนี้มากเลยค่ะ
รายการเนื้อบุฟเฟ่ต์ที่ทานที่ร้านJousen (โจเซ็น)
มาดูเมนูเนื้อที่ทานในครั้งนี้กันบ้างค่ะ สั่งกันไปแบบรัวๆ ไม่ว่าจะเป็น บริสเกต, คารูบิ,ลิ้นวัว, เนื้อมหักซอสโจเซน, เนื้อแกะ, เนื้อ US shoulder, เบคอนพรีเมี่ยม ซึ่งเนื้อแต่ละอันของที่นี่ก็ถือว่าทำได้ดีเลยค่ะ สไลด์มาหนากำลังดี ในถาดนึงก็ให้ปริมาณเหมาะสม ไม่น้อยเกินไป รสชาติเนื้อก็นุ่ม และไม่เหนียวมากดีค่ะ
รายการอาหารทะเลที่ทานที่ร้านJousen (โจเซ็น)
สำหรับอาหารทะเลของที่นี่นั้นที่เด็ดๆ ออฟว่าเป็นปูนิ่มค่ะ เพิ่งเคยกินปูนิ่มย่างในร้านบุฟเฟ่ต์แบบนี้เป็นครั้งแรก แถมรายการนี้ยังอยู่ในเมนูบุฟเฟ่ต์อีกด้วยค่ะ ไม่ต้องจ่ายราคาพรีเมี่ยม แต่ได้เมนูแบบนี้เด็ดมากเลยค่ะ
นอกจากนี้ก็ได้สั่งกุ้งแม่น้ำมาทานด้วยค่ะ นี่ก็เป็นหนึ่งในเมนูบุฟเฟ่ต์เหมือนกัน ในจานนึงมี 5 ตัวค่ะ ไม่รู้เค้านับตัวตามคนมาให้รึเปล่า แต่เนื้อกุ้งก็สดดีค่ะ สำหรับคนที่สั่งเมนูบุฟเฟ่ต์นั้น สามารถสั่งหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์, ปลาแซลมอนนอร์เวย์, ปลาหมึกจากฮอกไกโดและปลากระพง ได้ด้วยนะคะ
ต่อกันด้วยหอยเชลล์ไทยซึ่งเป็นหนึ่งในรายการเมนูพรีเมี่ยมกันบ้างค่ะ อันนี้ก็แปลกใหม่ดี เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำแข็ง ตัวใหญ่ใช้ได้เลยค่ะ จิ้มกับซีฟู๊ดก็อร่อยไปเลยค่ะ
สำหรับเมนูพรีเมียมครั้งนี้ก็ได้ลองสั่ง ปูซุไว Hokkaido Zuwai Crab มาทานค่ะ ซึ่งตอนแรกที่เห็นก็เอาลงเตาไปเลย ทำให้รู้ว่าอันนี้กินได้เลยนะคะ ไม่ต้องเอาไปย่างแล้ว เพราะว่ามันสุกอยู่แล้วค่ะ ถ้าเอาไปย่างอีกมันจะแห้งมากไปค่ะ แต่โดยรวมแล้วออฟว่าปูซุไวนี่เนื้อน้อยไปหน่อยค่ะ
รายการอาหารญี่ปุ่นที่ทานที่ร้านJousen (โจเซ็น)
เมนูอาหารญี่ปุ่นของที่นี่นั้น นึกว่ามาทานในร้านซูชิญี่ปุ่นแท้ๆ กันเลยทีเดียวค่ะ ใครจะคิดว่าในร้านเนื้อย่างแบบนี้จะมีการเสิร์ฟเมนูอาหารญี่ปุ่นที่เยอะและน่ากินขนาดนี้ อย่างจานด้านบนเป็นเมนูซาชิมิรวม (Premium) ซึ่งจัดเรียงซาชิมิมาให้หลายอย่างไม่ว่าจะเป็น ปลาแซลมอน ปลาซาบะ ปลาทูน่า กุ้ง ปูอัดอลาสก้า ไข่หวาน เต็มจานมากๆค่ะ
หรือใครอยากจะสั่งซาชิมิแซลมอน (Premium) มากินให้เต็มที่ก็สั่งแยกได้นะคะ
คอข้าวปั้นทั้งหลายไม่ต้องเสียใจนะคะ เพราะทางร้านมีข้าวปั้นเป็นเซตให้เลือกทานด้วยค่ะ แต่ถ้ากินแบบบุฟเฟ่ต์ก็สามารถสั่งข้าวปั้นหน้าปลาแซลมอน, หน้าไข่หวาน, ปูอัดอลาสก้า, ปลาซายะ, หน้าสาหร่าย ได้ด้วยนะคะ
รายการของทานเล่นที่ทานที่ร้านJousen (โจเซ็น)
เมนูของทานเล่นที่นี่ก็แตกต่างทั้งปริมาณและคุณภาพ รวมไปถึงความหลากหลายกับร้านอื่นๆ พอสมควรเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเกี๊ยวซ่าที่หมูอัดแน่น เรียงมาเต็มจาน, เมนูไข่หวานที่อร่อยกว่าร้านซูชิหลายๆร้าน , เมนูเทมปุระที่กรอบกำลังดี และที่ต้องลองเป็นเมนู ไข่แดงเทมปุระ Yolk Tempura (Buffet) เสิร์ฟมาบนหมี่ทอดกรอบ ซึ่งงานนี้กินแล้วจะฟินไปเลยทีเดียวค่ะ
รายการของหวานที่ทานที่ร้านJousen (โจเซ็น)
รายการของหวานก็ยกระดับความพรีเมี่ยมกันเข้าไปอีก อย่างผลไม้ก็เป็นแอปเปิ้ล, แตงโม, แคตาลูป, สัปปะรดค่ะ แต่เมนูของหวานที่อยากให้ลองมากๆ เป็นเมนู โมจิค่ะ เป็นความแตกต่างที่ทำได้ดีทีเดียว มีหลายรสชาติให้เลือกทานไม่ว่าจะเป็น คัสตาร์ด สตอร์เบอรี่ งาดำ และชาเขียวค่ะ นอกจากนี้ยังห้ามพลาดกับไอศกรีมชาเขียว ที่รสชาติเข้มข้นมากจริงๆ ไม่ใช่ไอศกรีมนมใส่รสชาเขียวแบบที่อื่น และสาวๆ ที่อยากจะปิดท้ายแบบเบาๆ ก็สั่งฟรุ๊ตสลัดมาทานก็ได้ค่ะ เป็นการปิดท้ายรายการที่ฟินได้อีกค่ะ
รายการเครื่องดื่มที่ทานที่ร้านJousen (โจเซ็น)
เครื่องดื่มของทางร้านมีให้เลือกเยอะมากค่ะ ไม่ว่าจะเป็นกาแฟเย็น, ชานมเย็น, ชามะนาว, ชาเขียวเย็น, ชาเขียวร้อน, น้ำพันช์, น้ำกีวี, น้ำอัดลมต่างๆ รวมไปถึงถ้าสั่งแบบ A la carte ก็สามารถสั่งน้ำปั่นต่างๆ ทานได้ด้วยค่ะ
การทานอาหารที่ร้านJousen (โจเซ็น)
การทานอาหารที่ร้านโจเซ็นในครั้งนี้นั้นขอบอกว่าขนาดเตรียมท้องมาเป็นอย่างดีแล้ว ก็ยังไม่พอที่จะอัดความอร่อยของอาหารที่นี่เข้าไปได้หมดค่ะ มีหลายเมนูที่อยากจะสั่งมาทานแต่ว่ากินไม่ไหวแล้วเยอะมากๆ เพราะที่นี่มีเมนูอาหารให้เลือกเยอะมากจริงๆ และก็แตกต่างจากที่อื่นทำให้อยากลองไปหมดเลยค่ะ
เตาย่างก็ต้องชมว่ามีขนาดใหญ่กำลังดี เพราะโต๊ะสำหรับนั่ง 6 คนนั้นถ้าเตาเล็กไปจะทำให้แย่งกันทานค่ะ แต่ที่นี่ไม่ต้องห่วงเพราะว่าเตาใหญ่ใช้ได้เลย แล้วถ่านก็ไฟแรงดีไม่มีตกด้วย แถมยังมีพนักงานคอยเปลี่ยนตะแกรงและเติมถ่านให้อีกด้วยค่ะ
ใบเสร็จจากร้านJousen (โจเซ็น)
ครั้งนี้ไปรีวิวกัน 5 คนค่ะ เลือกทานแบบพรีเมี่ยมและสั่งเมนู A la carte มาทานด้วย ถ้านับเฉพาะบุฟเฟ่ต์พรีเมี่ยมอย่างเดียวก็ตกคนละ 689 บาทต่อคนค่ะ
บทสรุปจากการทานที่ร้านJousen (โจเซ็น)
- เป็นร้านบุฟเฟ่ต์ที่น่ามาลองด้วยค่ะ ยกนิ้วให้กับคุณภาพของเนื้อ ความหลากหลายของเมนู และการให้บริการ
- มีอาการตกหล่น และรายการขาดไปบ้าง อันนี้อาจจะต้องปรับกันต่อไปค่ะ
- ราคาถือว่าโอเคอยู่ บุฟเฟ่ต์ แบบธรรมดา ราคา 489 บาท และบุฟเฟ่ต์แบบพรีเมี่ยม ราคา 689 บาท แถมยังมีอาหารแบบ A La Carte ด้วย
- การเดินทางสะดวกเพราะติดกับรถไฟฟ้า BTS ชิดลมค่ะ
- บรรยากาศของร้านก็ดูดี สะอาดและมีห้องส่วนตัวด้วยค่ะ
- พิเศษสุดๆ สำหรับเดือนพฤศจิกายน 2556 นี้โจเซนใจดีแจกโปรโมชั่นสุดคุ้มลด 25% (ไม่รวมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์) เพียงถ่ายภาพอาหารหรือภาพบรรยากาศในร้าน แชร์ลงใน Fanpage Facebook https://www.facebook.com/JousenYakiniku หรือ IG ใส่ Hashtag #Jousen แล้วแสดงแก่พนักงาน รับไปเลยส่วนลด 25% (1 แชร์/ส่วนลด 1 ท่าน)
Gallery จากร้านJousen (โจเซ็น)
ข้อมูลทั่วไปของร้านJousen (โจเซ็น)
ที่ตั้ง : ตึก MERCURY VILLE, ถนนเพลินจิต ปทุมวัน ลุมพินี กรุงเทพมหานคร 10330
การเดินทาง : ลงรถไฟฟ้าชิดลม ออกทางออกที่ 4 เข้าทางเชื่อมกับตึก Mercurry Ville แล้วขึ้นบันไปเลื่อนไปชั้น 2 ค่ะ
Facebook : https://www.facebook.com/JousenYakiniku
เบอร์ติดต่อ: 02-252-5504-5
Leave a comment