รีวิวโดนใจ >> ห้องอาหาร Jasmine Station อิ่มอร่อยในราคาสบายกระเป๋า เดินทางสบายด้วยติด BTS พระโขนง
ห้องอาหาร Jasmine Station เป็นอีกหนึ่งห้องอาหารที่ออฟได้รับเชิญไปร่วมรีวิวอาหารค่ะ ซึ่งจุดเด่นของห้องอาหารนี้ก็คือความหรูหราในระดับโรงแรม ในราคาเบาๆ และเดินทางได้สะดวกเพราะอยู่ติดกับรถไฟฟ้าสถานีพระโขนงค่ะ โดยห้องอาหารนี้จะมีเมนูที่จัดไว้เป็นเซตในราคาไม่แพงนักที่เสิร์ฟของคุณภาพในปริมาณที่เหมาะสมค่ะ
บรรยากาศของห้องอาหาร Jasmine Station
ลงจากรถไฟฟ้าสถานีพระโขนงโดยใช้ทางออกที่ 1 แล้วเดินลงบันไดทางซ้ายมือลงมา เดินเข้าทางหน้าโรงแรมจะเจอห้องอาหารอยู่ทางขวามือค่ะ โดยห้องอาหารนี้จะมีกระจกใสเป็นผนังด้านข้างทำให้มองเห็นบรรยากาศได้ตั้งแต่อยู่ในสถานีรถไฟฟ้าแล้วค่ะ
เข้ามาในตัวห้องอาหารแล้วจะมีสไตล์เรียบหรูโดยใช้โทนสีของไม้โอ๊กทั้งเก้าอี้และโต๊ะ แผ่นกระจกสีดำตัดกับถาดรองอาหารสีฟ้า แต่ละโต๊ะประดับด้วยต้นไม้เล็กๆ และใบโปรโมชั่นของทางห้องอาหาร
นอกจากนี้ก็ยังมีส่วนที่เป็นโต๊ะสบายๆ มีโซฟานุ่มๆ จัดเข้ามุมกันได้อย่างลงตัวให้เลือกนั่งด้วยค่ะ
เมนูของห้องอาหาร Jasmine Station
เมนูของห้องอาหารจะมีการจัดอาหารเป็นเซตทีคัดสรรเมนูเด็ดเข้ามาให้เลือกกันในราคาไม่แพงนัก โดยแต่ละชุดจะมีเครื่องดื่มให้ด้วยค่ะ ถ้าเป็นปกติจะเป็นกาแฟหรือโค้ก แต่บางเมนูก็จะเสิร์ฟพร้อมกับไวน์แดงหรือไวน์ขาวเลยทีเดียวค่ะ
อาหารก็มีให้เลือกทั้งเป็นแบบอิตาเลี่ยนและไทยนะคะ ส่วนใหญ่จะเป็นเมนูอาหารจานเดียวที่ทานแล้วอิ่มเลยเช่นข้าวคลุกน้ำพริกลงเรือ ข้าวคลุกกะปิ ผัดไทย อุด้งต้มยำกุ้ง เบอร์เกอร์ สปาเก็ตตี้ก็มีค่ะ
รายการอาหารที่ทานที่ห้องอาหาร Jasmine Station
สลัดทูน่า (Tuna Salad)
เมนูแรกเริ่มต้นด้วยเมนูสลัดทูน่า ซึ่งเนื้อปลาทูน่าย่างแบบสุกกำลังดีราดซอสสูตรเด็ด แถมมีไข่กุ้งด้านบนเพิ่มสีสันในจานด้วยค่ะ
ส่วนสลัดเป็นแบบสลัดน้ำใสของญี่ปุ่นที่เค็มหน่อยๆค่ะ ทานคู่กันแล้วถือว่าลงตัวกำลังดี ตัวปลาจะเข้มข้นนิดๆ ค่ะ
ผัดไทยกุ้งแม่น้ำ 150 บาท
ผัดไทยกุ้งแม่น้ำ ดูจะเป็นเมนูที่ฝรั่งน่าจะชอบทานกันค่ะ ในจานจะมีกุ้งแม่น้ำตัวกำลังดีอยู่ด้านบน ดูโดดเด่นใช้ได้เลยค่ะ ในจานจะมีมะนาวและผักเครื่องเคียงมาให้ครบเลยทีเดียว แต่น่าจะเสิร์ฟพร้อมกับเครื่องปรุงเพิ่มเติมอย่างน้ำตาล น้ำปลา หรือพริกป่นมาด้วยหน่อย ถึงแม้รสชาติโดยรวมจะโอเคแล้ว แต่อาจจะมีคนอยากปรุงเพิ่มได้ค่ะ
ตัวเส้นจะไม่เละมากนัก และผัดมาได้แห้งกำลังดีทีเดียวค่ะ แต่ออฟคิดว่ายังปรุงให้จัดได้กว่านี้อีกหน่อยค่ะ
สปาเก็ตตี้คาโบนาราซอสไข่กับเบคอน 180 บาท
เมนูนี้ดูจะเป็นที่ทุกคนชื่นชอบกันเป็นอย่างมาก ด้วยความที่ชอบสไตล์คาโบนาร่าสูตรเข้มข้นที่อัดแน่นไปด้วยชีส และเบคอนแบบทอดกรอบ ซึ่งจานนี้ทำมาให้ได้โดนใจมากๆค่ะ
ชีสด้านบนขูดเป็นฝอยโรยพูนๆ บนซอสคาโบนาน่าที่มีรสชาติชีสอัดแน่นเข้มข้นตัวซอสจะเหนียวข้นทีเดียวค่ะ เบคอนที่มีรสชาติเค็มมาช่วยเพิ่มสีสันและความกลมกล่อมให้กับเมนูได้เป็นอย่างดีทีเดียวค่ะ
สเต็กหมูติดกระดูก(Pork Chop) 220 บาท
สเต็กหมูติดกระดูกของที่นี่จะมีรสชาติเข้มข้นดีค่ะ เนื้อจะถูกหมักในนมให้นุ่มไว้ก่อนที่จะเอามาปรุง แต่ออฟว่าเนื้อยังนุ่มได้อีกหน่อยนะคะ
เสิร์ฟมาพร้อมผักและเฟรนฟรายแบบดั้งเดิมที่ชิ้นใหญ่กรอบนอกนุ่มในค่ะ
ปลาสามสหายครีมซ๊อสสไวน์ขาว 280 บาท
เมนูปลาของที่นี่ถือว่าเป็นเมนูที่ครีเอทดีจริงๆค่ะ เริ่มตั้งแต่การนำปลาทั้ง 3 ชนิดมาปรุงรสและเสิร์ฟพร้อมกับเครื่องเคียงที่คู่กันเพื่อเพิ่มรสชาติให้ลงตัวมากยิ่งขึ้น เริ่มจากเจ้าปลาบนผักโขมสีเขียวค่ะ เป็นปลาแซลมอน
ต่อด้วยปลาดอลลี่ที่วางอยู่ผัดหอมผัดกับมะเขือเทศค่ะ ออฟชอบอันนี้มากๆ คิดว่าลงตัวกันดีจริงๆ
ส่วนปลาชิ้นสุดท้ายเป็นปลากระพงที่เสิร์ฟบนมันบดค่ะ
เซตนี้จะมีไวน์ขาวให้ทานกับปลา 1 แก้วด้วยกันนะคะ เพิ่มความหรูหราในราคาเบาๆ มากๆค่ะ
เอารูปขวดของไวน์ขาวมาให้ดูกันค่ะ
เบอร์เกอร์หมู 220 บาท
สำหรับคนที่อยากจะทานอาหารสไตล์อเมริกันก็มีเบอร์เกอร์เป็นเมนูที่น่าลองสั่งทานกันดูค่ะ
ชิ้นเบอร์เกอร์ที่หนาเพราะชั้นของเนื้อชิ้นโต มีไข่ดาวแบบกึ่งสุกกึ่งดิบอยู่ด้านบน แถมยังมีเบคอนกรอบๆมาแปะไว้อีกด้วยค่ะ
เมนูนี้เสิร์ฟมาพร้อมกับเฟรชฟรายและผลไม้สดให้ทานแก้เลี่ยนด้วยค่ะ ความอร่อยอยู่ตรงที่ไข่แดงของไข่ดาวตอนที่แตกออก ความเยิ้มของมันทำให้เบอร์เกอร์ชิ้นนี้ไม่แห้งกระด้างเกินไปค่ะ แต่คำจะใหญ่ไปหน่อยอันนี้ก็ใช้มีดตัดแบ่งเอาได้ค่ะ
Pork Loin Steak ซอสไวน์แดง 280 บาท
สเต็กพอร์คลอยด์ชิ้นโตที่วางมาบนสัปปะรด โรยด้านบนด้วยมันฝรั่งทอดฝอย พร้อมด้วยผักสลัดแบบญีปุ่น และไวน์แดงมาเพิ่มความลงตัวให้กับเมนูนี้ด้วยค่ะ
สังเกตว่าเนื้อชิ้นหนาเอาเรื่องเลย แต่ว่าทานแล้วจะนุ่มมากๆ
ไวน์แดงของห้องอาหารรสชาติหวานนุ่มๆดีค่ะ
เครื่องดื่มที่ห้องอาหาร Jasmine Station
น้ำส้ม 95 บาท
เครื่องดื่มน้ำส้มจะเสิร์ฟมาแบบไม่มีน้ำแข็งนะคะ ทานความเข้มข้นกันได้เต็มที่มากๆค่ะ
Royal Jasmine 165 บาท
เมนูคอกเทลเบาๆ ก็ลองสั่งรอยัลจัสมินกันดูได้ค่ะ หวานกำลังดีทีเดียว
Punch
ถ้าไม่อยากทานแอลกอฮอลก็สั่งเป็นพันช์มาทานเล่นก็ได้ค่ะ
Baileys Ice Coffee 88++ บาท
ส่วนเครื่องดื่มที่อยากให้ลองกันหน่อยก็คือการนำแอลกอฮอล์มาผสมกับกาแฟค่ะ ความเข้มข้นของเอสเปรสโซ่นั้นเวลาทานจะหอมกลมกล่อมแล้วเมื่อหลอดดูดไปถึงโซนเหล้าแล้วก็จะมีกลิ่นและรสชาติที่แปลกใหม่แต่เข้ากันได้ดีด้วยค่ะ
บทสรุปจากการทานที่ห้องอาหาร Jasmine Station
- เป็นห้องอาหารที่เดินทางสะดวกเพราะติดกับรถไฟฟ้า แต่ถ้าเอารถมาต้องวางแผนการเดินทางหน่อย เพราะเส้นสุขุมวิทติดมากๆ
- การตกแต่งเรียบๆดี แต่ไม่น่ากลัวจนเกินไป
- เมนูอาหารให้เลือกเยอะทีเดียว ชอบที่มีเป็นเซตให้เลือก เพราะจะทำให้คนสั่งสามารถวางแผนการเงินของตัวเองได้
- ครั้งนี้ไปทานกับ พีทเจ้าของ Facebook แฟนเพจ “กินกับพีท” ( https://www.facebook.com/eatwithpete) พร้อมแพคมือกล้องสุดโปร และพี่พิชหรือ Dunbine (https://www.facebook.com/Dunbine.H.E.A.T) ทานและรีวิวกันสนุกสนานมากๆ
- ได้ถ่ายรูปร่วมกับเชฟที่มาอธิบายแต่ละเมนูให้ฟังด้วย ^ ^
Gallery จากห้องอาหาร Jasmine Station
ข้อมูลทั่วไปของห้องอาหาร Jasmine Station
ที่อยู่ : 1511 ซอยสุขุมวิท 67 - 69 ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110
เบอร์โทรศัพท์ : 023355000
อีเมล์ : mkt@jasminecity.com
เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/jasminegrouphotel
วันและเวลาเปิดปิดทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 11.00 - 14.00 น.
การเดินทาง : จากถนนสุขุมวิทตรงมา จะเจอจัสมินรีสอร์ท โฮเต็ลจะอยู่ระหว่างซอยสุขุมวิท 67-69 ถ้ามารถไฟฟ้าให้ลงรถไฟฟ้าสถานีพระโขนงแล้วออกทางออกที่ 1เดินลงบันไดทางฝั่งซ้าย จะเจอโรงแรมเลยค่ะ เข้ามาข้างในแล้วห้องอาหารอยู่ทางขวามือ
ที่จอดรถ : จอดได้ภายในลานจอดรถของจัสมินรีสอร์ท โฮเต็ล
Leave a comment