โดนใจไปญี่ปุ่น >> Day 5 Hakone Area – แวะชิมไข่ดำในตำนาน – Odawara – นั่งชินคันเซ็นไป Osaka
มาถึงวันที่ 5 ของการเดินทางแล้วค่ะ วันนี้เป็นการดื่มด่ำกับบรรยากาศของภูเขาไฟฟูจิอีกครั้ง ก่อนจะจากลาเพื่อมุ่งหน้าสู่เมืองโอซาก้าค่ะ โดยวันนี้การเที่ยวหลักๆ จะเป็นส่วนของ Hakone (ฮาโกเน่) ค่า
ทานอาหารเช้าของโรงแรม Sunnide Resort
มื้อนี้เป็นมื้อเดียวที่เป็นอาหารเช้าของโรงแรมค่ะ เพราะว่าที่พักที่โตเกียว และโอซาก้าจะไม่มีอาหารเช้ารวมอยู่ด้วย แต่ที่นี่มีค่ะ แถมอาหารเช้าเค้ายังมีแบบเป็นไลน์อาหารให้เลือกตักได้อีกด้วยนะคะ มีอาหารหลายอย่างให้เลือกทานเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นสไตล์อเมริกันก็มีพวก ไส้กรอก, แฮม, ซีเรียลต่างๆ
- ที่พัก : Sunnide Resort
- Retro Bus สถานี 19 Sunnidemae
- ค่าห้องJapanese-style Room 51,840 เยน สำหรับผู้ใหญ่ 4 คน 1 ห้อง รวมอาหารเช้าและอาหารเย็น
- Phone number (from overseas): 81-3-3865-5718
- Phone number (within Japan): 03-3865-5718
- Email: support_japanican@gmt.jtb.jp
- Hours: 7:00 – 22:00, daily
- Regular Check-in time: 15:00-18:00
- Check-out time: 10:00
- Languages Supported: English, Korean, Chinese, Japanese
- Website : http://www.sunnide.com/englishl.html
นั่ง Retro Bus ไปที่สถานี Kawaguchiko
หลังจากอิ่มกันแล้วก็ไป Check Out ออกจากโรงแรมกันค่ะ ใช้เวลาไม่นานเลย ก็ออกมายืนรอรถไปที่สถานี Kawaguchiko กันได้เลย ที่ยืนรอรถด้านหน้าโรงแรมนั้นแคบไปหน่อย อาจเสี่ยงต่อการถูกรถเฉี่ยวได้ ดังนั้นมายืนตรงหน้าทางเข้าโรงแรมเค้าก็จอดรถนะคะ
ระหว่างที่ยืนรอจะไปถ่ายรูปฟูจิอีกครั้งก็ได้นะคะ แต่ต้องเผื่อเวลาข้ามถนนกลับมาขึ้นรถด้วยนะคะ
นั่งรถไปที่ Gotemba Outlet
เนื่องด้วยไม่มีรถไปที่ Gora Station โดยตรง เราเลยต้องนั่งมาลงที่ Gotemba Outlet ค่ะ ที่นี่รวมสินค้าแบรนด์ต่างๆ เอาไว้เยอะเหมือนกัน แต่ว่าเท่าที่ดูคนน้อยนะคะ ไม่ค่อยมีคนมาเดินชอปกันเท่าไหร่
ครั้งนี้ที่ไปไม่ได้มีเป้าหมายในการชอปแบรนด์เลยด้วย ออฟเลยไม่ค่อยได้สนใจเท่าไหร่ค่ะ ใช้ที่นี่เป็นจุดเปลี่ยนรถอย่างเดียวเลย
ในรถแคบนิดหน่อยค่ะ ยิ่งมีกระเป๋าเดินทางด้วยแล้ว แอบทำให้คนอื่นลำบากไปเหมือนกันค่ะ พอขึ้นรถก็หลับยาวไปเลยค่ะ
- ชื่อ : Gotemba Premium Outlet
- การเดินทาง : http://www.premiumoutlets.co.jp/en/gotemba/access/train/
- สรุป : เป็นศูนย์รวมสินค้าแบรนด์เนมจากทั่วโลก เป็น Outlet ที่กว้างและใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นเลยค่า
ต่อรถไปที่สถานี Gora Station
มาถึง Gora Station แล้วเป้าหมายแรกคือหาที่ฝากของก่อนเลยค่ะ ขอบอกว่าเค้ามี Locker ให้เช่า แต่ส่วนใหญ่เป็นแบบขนาดเล็กนะคะ แต่สามารถฝากกับที่เคาเตอร์ได้ โดยเค้าจะคิดราคาต่อชิ้นตามขนาด ซึ่งมาถึงขนาดนี้แล้วเท่าไหร่ก็คงต้องจ่าย เพราะไม่สามารถแบกกระเป๋ามากมายขึ้นไปกินไข่ดำกันได้อย่างแน่นอนเลยค่ะ
แล้วอีกเรื่องที่เร่งด่วนแล้วต้องทำที่สถานีนี้ก็คือ หาข้าวเที่ยงค่ะ ดูจากเวลาขึ้นกระเช้าแล้วพบว่ามีเวลาไม่มากนัก เลยต้องหาอะไรทานง่ายๆ และสุดท้ายก็ไม่พ้นแซนวิชตรงสถานีนั่นแหละค่ะ
แต่สำหรับใครที่มาถึงแล้วหิวข้าว แนะนำให้หิ้วท้องไปกินด้านบนดีกว่านะคะ เพราะว่ามีร้านของกินเพียบเลย ครั้งนี้ไม่รู้ เลยเสียทีซัดแซนวิชไปเต็มท้อง พอขึ้นไปข้างบนมีของให้กินหลายอย่างก็ไม่มีที่ว่างในท้องเหลือแล้วค่ะ
ขึ้นHakone Tozen Cable car -> ไป Sounzan Station (20 นาที)
หลังจากที่ทานอาหารเสร็จแนะนำให้เข้าไปรอขึ้น Hakone Tozen Cable car ตรงด้านในของGora Station ก่อนเลยนะคะ เพราะว่าคนเข้าไปรอเยอะมากๆ คนที่อยากนั่งแนะนำให้เดินเข้าไปด้านในๆ เลย คนขึ้นเยอะมาก เพราะระหว่างทางก็มีรีสอร์ทและที่ท่องเที่ยวตามทางด้วยค่ะ ครั้งนี้ออฟสามารถใช้บัตร Fuji Hakone Pass ได้เลยค่ะ ไม่ต้องเสียตังเพิ่ม
- ชื่อ : Hakone Tozen Cable car
- เป็นรถรางเพื่อขึ้นเขาที่เป็นทางลาดชัด ระยะทาง 1.2 กม. ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
- ค่าเช้า : จากสถานี Gora ไปสถานี Sounzan ถ้าไม่มี Free Pass (Fuji Hakone Pass สามารถขึ้นได้ฟรี) ราคาผู้ใหญ่ 420 เยน, เด็ก 210 เยน
- Website : http://www.hakone-tozan.co.jp/en/
ต่อด้วยขึ้นHakone Ropeway (8 นาที)ไปชิมไข่ดำ
เมื่อมาถึง Sounzan Station ก็โชว์บัตรอีกครั้งเพื่อออกจากสถานีแล้วเดินขึ้นไปขึ้น Hakone Ropeway กันต่อเลยค่ะ ตอนขึ้นนี่คนไม่ค่อยเยอะมากเท่าไหร่แล้ว กระเช้าที่โปร่งๆ ดูมั่นคงแข็งแรงดี ไม่เสียวมากค่ะ กระจกรอบด้านทำให้มองดูวิวจากมุมสูงได้ด้วยเห็นเหมืองกำมะถันด้านล่างด้วย ส่วนของ Ropeway นี่ก็ขึ้นมาด้วยบัตร Fuji Hakone Pass เหมือนกันค่ะ
- ชื้่อ : Hakone Ropeway
- ค่าเข้า : ถ้าไม่มี Free Pass (Fuji Hakone Pass สามารถขึ้นได้ฟรี) ตลอดสายเที่ยวเดียวราคา 1,370 เยน, ไปกลับ 2,410 เยน
- การเดินทาง : ขึ้นรถรางจากสถานี Gora-Souzan หรือนั่งเรือจาก Hakone Machi หรือ Moto hakone มาลงที่ Togendai
- website: http://www.hakoneropeway.co.jp/foreign/en/
เที่ยวหุบเขาโอวาคุดานิ (Owakudani)
ขึ้นมาแล้วสามารถเดินไปดูยังแหล่งที่มาของไข่ดำได้ด้วยนะคะ โดยมีความเชื่อกันว่าหากกินไข่ดำ 1 ใบ จะมีอายุยืนขึ้นอีก 7 ปี มาถึงทั้งทีก็กินกันคนละฟองไปเลยค่ะ
แต่ออฟไม่ได้เดินไปถึงแหล่งต้มเค้านะคะ แค่มาตรงที่ร้านขายของเค้าก็มีขายแล้วค่ะ ไข่ดำ 5 ฟอง 500 เยน ใครหิวน้ำก็เดินไปกดตู้กดได้เลยนะคะ สำหรับตำนานอายุยืนนั้นมาจากความเชื่อนั้นในสมัยญี่ปุ่นโบราณ มีชายชราคนหนึ่งป่วยหนัก หมอบอกว่าไม่สามารถจะรักษาให้หายได้แล้ว จะตายในไม่ช้า ชายชราคนนี้มีลูกคนหนึ่ง ด้วยความที่เป็นลูกกตัญญู ก็พยายามหาทางช่วยพ่อให้ได้ มีคนบอกว่าที่หุบเขาโอวาคุดานิ มียาวิเศษน่าจะสามารถรักษาพ่อให้หายได้ เมื่อได้ยินดังนั้นลูกชายคนนี้ก็ดังด้นเดินทางไปยัง หุบเขาโอวาคุกานิทันที และเมื่อไปถึงก็ได้เจอกับชายชราคนหนึ่ง กำลังนั่งอยู่ที่บ่อกำมะถัน ลูกกตัญญูเลยเข้าไปทัก ด้วยความตกใจทำให้ชายชราทำของบางอย่างตกลงไปในบ่อกำมะถันนั้น (เดาว่าต้องเป็นไข่แน่ๆ) และได้ถามว่า “ที่นี่มียาวิเศษไปช่วยพ่อได้หรือไม่” ชายชราก็ชี้ไปที่บ่อกำมะถันนั่นเอง เมื่อได้ยินดังนั้น ลูกกตัญญูก็กระโดดลงไปงมของในบ่อดังกล่าว และได้ ไข่มา 1 ใบ ซึ่งเปลือกไข่เป็นสีดำ จึงคิดว่าเป็นไข่วิเศษ และได้นำกลับไปให้พ่อได้กิน หลังจากที่พ่อได้กินไข่ดำแล้ว ทำให้พ่อที่ป่วยหนักกำลังจะตาย มีอายุยืนยาวมาได้อีก 7 ปี และนั่นเองทำให้เป็นความเชื่อที่สืบต่อกัน ต่อๆ กันมา
หรือจะแวะทานของทอดแบบออฟก็ได้ รสชาติแปลกๆดี เป็นเหมือนลูกชิ้นเอาไปย่างค่ะ นั่งรับลมเย็นซักพักก็ตัดสินใจกลับค่ะ เพราะไม่อยากถึงโอซาก้าดึกมากนัก
แต่เกิดความเศร้าขึ้นมาคือไผ่หาตั๋วไม่เจอ งานเข้าทันทีเลยค่ะ ออฟและเพื่อนๆ รีบออกกระจายหากัน โดยใจคิดว่าคนเยอะแบบนี้ กระดาษใบน้อยๆ นั่นน่าจะปลิวไปตามลมแรงๆ แล้วแต่ก็เหมือนยังไม่ซวยจัดขนาดนั้นค่ะ เพราะว่าเพื่อนไปเก็บมาจากพื้นตรงส่วนฝั่งวิวหน้าผาได้ เรียกได้ว่าเป็นปาฏิหาริย์กันเลยทีเดียวค่ะ พอได้ตั๋วคืนมาแล้วก็กลับมาอารมณ์ดีกันอีกครั้งค่า
- ชื่อ : หุบเขาโอวาคุดานิ (Owakudani)
- การเดินทาง : รถกระเช้าระหว่างสถานี Togendai ริมทะเลสาบอะชิ ถึงสถานี Sounzan แวะลงที่ Owakudani ได้ทั้งขาไปและขากลับ
เดินทางไปสถานี Odawara
ที่สถานี Gora จะมีรถไฟไปที่สถานี Odawara ค่ะ โดยทางไปจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับตอนที่ไป Cable car เวลาเข้าไปแล้วให้ไปรอด้านในลึกๆ เลยนะคะ จะได้มีที่นั่งบ้าง รถไฟนี่วิ่งเอื่อยๆ ใช้ได้เลยค่ะ ใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่าจะถึงสถานี Odawara นั่งหลับกันยาวๆ ไปเลยค่ะ
- ชื่อ : รถไฟสาย Hokone Tozan Line
- ค่าเข้า : ถ้าไม่มี Free Pass (Fuji Hakone Pass สามารถขึ้นได้ฟรี) จาก Odawara-Gora ผู้ใหญ่ 670 เยน เด็ก 340 เยน
กินข้าวเย็นที่ร้าน Hakosoba ที่สถานี Odawara
เมื่ออกจากสถานี Odawara ได้ก็หาอะไรกินก่อนเลยค่ะ ที่สถานีนี้ใหญ่มากๆ ใครอยากจะลองหาเบนโตะไปกินบนรถไฟก็เดินหาได้ที่นี่เลยนะคะ แต่พอดีออฟมีเวลากว่าจะถึงรอบของรถชินคันเซ็นที่จองเอาไว้ (อันนี้แนะนำให้จองเวลานะคะ เค้าบอกว่ามันอาจจะไม่มีที่นั่งได้) ก็เลยหาร้านนั่งทานกันค่ะ
ร้านนี้เป็นร้านแบบบริการตัวเองนะคะ โดยให้เลือกเมนูแล้วก็ไปที่เครื่องกดพร้อมใส่เงินได้เลยค่ะ
จากนั้นก็เดินไปรับรายการอาหารที่เราสั่ง แล้วไปหาโต๊ะนั่ง เมื่อทานเสร็จแล้วก็ให้เก็บถาดอาหารในที่ๆ เค้าเตรียมไว้ด้วยนะคะ
อุด้งของที่นี่อร่อยใช้ได้เลยค่ะ เส้นนุ่มๆ เข้ากันดีกับน้ำซุปเข้มข้นค่ะ
- ชื่อ : Hakosoba
- สถานี Odawara
นั่งชินคันเซ็นไป Osaka
เมื่อกินอิ่มกันแล้วก็ไปนั่งรอรถชินคันเซ็นได้เลยค่ะ แนะนำให้ไปนั่งรอก่อนเลยนะคะ เพราะรถเค้ามาตรงเวลามากๆ ในตั่วที่ซื้อไว้จะมีระบุที่นั่งและขบวนของรถค่ะ ในสถานีหาห้องน้ำยากหน่อยนะคะ เข้ามาให้เรียบร้อยก่อนก็ได้ค่ะ ถ้าใครไม่ได้ซื้ออะไรเข้ามากินสามารถมาซื้อเบนโตะในสถานีได้ด้วยนะคะ
เดินหาที่พักHearton Hotel Minami Senba
เมื่อนั่งมาถึงโอซาก้าก็มืดแล้วค่ะ การเดินหาโรงแรมไม่ยากมากเท่าไหร่ โดยเมื่อลงชินคันเซน แล้วก็ต่อรถไปที่ สถานี Shinsaibashi เพื่อเข้าที่พักคืนนี้เลยค่า
ห้องเล็กกว่าที่โตเกียวอยู่หน่อย และมีความเศร้าตรงที่มีกลิ่นบุหรี่ติดห้องด้วยค่ะ แต่อุปกรณ์ต่างๆ มีให้ครบดี ตู้เย็นเล็ก, กาต้มน้ำ, ทีวี และโต๊ะทำงานค่ะ
ส่วนของเตียงก็มีปุ่มควบคุมระบบไฟอยู่ที่หัวเตียง ที่นอนนุ่มดี มีชุดนอนให้ด้วยค่ะ
ห้องน้ำแคบเหมือนกัน แต่ชอบตรงที่อุปกรณ์อาบน้ำมาขวดใหญ่ใช้ง่ายดีค่ะ
ปิดท้ายค่ำคืนด้วยเครื่องดื่มเพิ่มความสดชื่นก่อนนอนค่า อันนี้สามารถเดินไปกดได้จากตู้กดด้านหน้าลิฟต์ได้เลยค่ะ
- ชื่อ: โรงแรม ฮาร์ทตัน โฮเต็ล มินามิ เซ็นบะ (Hearton Hotel Minami Senba)
- ย่าน Shinsaibashi
- การเดินทาง : ห่างจากสนามบินคันไซ 45 นาทีด้วยการนั่งรถไฟและเพียงหนึ่งนาทีจากทางออกทิศเหนือหมายเลข 5 ของสถานีรถไฟใต้ดินชินไซบาชิด้วยการเดิน
- บทสรุป : เดินทางสะดวก, ใกล้ใต้ดิน และแหล่งของกิน ห้องพักสองคนก็โอเคอยู่ พนักงานพูดภาษาอังกฤษได้ดีค่ะ
Leave a comment