รีวิวโดนใจ >> Giorgio’s ห้องอาหารอิตาเลี่ยนแสนอร่อยสุดคุ้มที่โรงแรม Royal Orchid Sheraton

Giorgio_041

ห้องอาหารอิตาเลี่ยน Giorgio’s ถือเป็นห้องอาหารสำหรับมื้อ Dinner ที่เอาใจคนรักอาหารอิตาเลี่ยนมากๆค่ะ โดยห้องอาหารนี้อยู่ที่โรงแรม Royal Orchid Sheraton ซึ่งออฟได้รับเชิญให้มารีวิวในครั้งนี้ค่ะ ใครกำลังมองหาห้องอาหารอิตาเลี่ยนในราคาสุดคุ้มและเติมเต็มมื้อค่ำได้อย่างลงตัว ต้องไปดูกันเลยว่าห้องอาหารนี้เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ

บรรยากาศของGiorgio’s@ Royal Orchid Sheraton

Giorgio_001
ครั้งนี้เดินทางมาโดยเรือเช่นเคยค่ะ ก็นั่งรถไฟฟ้า BTS มาลงสถานีสะพานตากสิน แล้วขึ้นเรือของทางโรงแรมมาเลยค่ะ มีเรือทุกครึ่งชั่วโมงนะคะ ห้องอาหารอยู่ชั้น 2 ค่ะเดินขึ้นบันไดด้านหน้าโรงแรมมาเลย (ด้านหน้าของออฟคือฝั่งที่ติดกับแม่น้ำนะคะ)

Giorgio_087ห้องอาหารจะมีการใช้รูปภาพขนาดใหญ่แสดงความเป็นอิตาเลี่ยนได้อย่างลงตัวดีค่ะ

Giorgio_040ห้องอาหารนี้เป็นห้องอาหารขนาดใหญ่กำลังดี ที่มีโต๊ะเรียงกันอยู่ห่างๆ ไม่อึดอัดเกินไปค่ะ มีการแบ่งโซนที่นั่งและโซนไลน์อาหารอย่างชัดเจน แต่ก็อยู่ติดกันทำให้เดินไปสะดวกค่ะ
Giorgio_079

เมนูของGiorgio’s@ Royal Orchid Sheraton

Giorgio_013

เนื่องด้วยห้องอาหารนี้เป็นห้องอาหารที่เปิดเฉพาะช่วงเย็นของทุกวันเท่านั้น โดยราคารวมอยู่ที่ 650 บาท โดยจะมี Main Course ให้เลือก 1 รายการจากรายการข้างบน และสามารถตักอาหารจากไลน์บุฟเฟ่ต์ได้ แต่ก็สามารถสั่งอาหารและเครื่องดื่มอื่นๆ เพิ่มเติมได้ด้วยนะคะ (ราคา 650 ไม่รวมน้ำเปล่านะคะ)

Line Buffet ที่Giorgio’s@ Royal Orchid Sheraton

Giorgio_006

ใจกลางของไลน์บุฟเฟ่ต์จะเป็นศูนย์รวมของอาหารทานเล่นค่ะ โดยจะมีถ้วยเล็กใส่ของทานเล่นให้เลือกเรียงรายอยู่หลายอย่างเลยค่ะ

Giorgio_055

โดยแต่ละเมนูก็จะมาในถ้วยเล็กๆ แบบนี้ค่ะ

Giorgio_042ส่วนโซน cold cut & Cheese นี่ก็มีให้เลือกหลายอย่างเหมือนกัน
Giorgio_008ต่อกันด้วยเมนูอาหารที่น่าทานอีกหลายอย่างเช่น สลัดอกเป็ดรมควัน
Giorgio_050ยำกุ้งกับผักรวม

Giorgio_052

คั่นกลางด้วยโซนซีฟู๊ดค่ะ ก็จะมีกุ้งทั้งไทย และของนอก หอยแมลงภู่ หอยตลับค่ะ

Giorgio_061ข้างๆ กันเป็นโซนสลัด ซึ่งสามารถเลือกตักผักต่างๆ และน้ำสลัดได้เอง หรือว่าจะให้พนักงานผสมให้ก็ได้ค่ะ
Giorgio_017

Line ของหวานที่Giorgio’s@ Royal Orchid Sheraton

Giorgio_047โซนนี้ออฟแวะมาดูก่อนเป็นอันดับแรกเลยค่ะ ของหวานหน้าตาหน้าทานเรียงรายกันอยู่เต็มไปหมดเลย
Giorgio_002ใครชอบกินชีสก็ห้ามพลาดเค้กบลูเบอร์รี่ชีสนะคะ ชั้นชีสหนามากๆ
Giorgio_048เมนูพานาค็อตต้าที่เริ่มจะเป็นที่คุ้นหูก็มีค่ะ
Giorgio_004เมนูที่พลาดไม่ได้อย่างทีรามิสุก็ต้องลองให้ได้นะคะ
Giorgio_086นอกจากของหวานต่างๆ แล้วก็ยังมีไอศกรีมให้ทานด้วยค่ะ
Giorgio_037

เมนู Main Course ที่ทานที่Giorgio’s@ Royal Orchid Sheraton

Pan fried snow fish with eggplant caponata

Giorgio_071เมนูปลา snow fish ชิ้นโต ขอบอกว่าชิ้นโตมากๆ โดยมีชื่อเต็มๆ ว่า Tocchetti di Pesce neve con caponata di melanzane (Pan fried snow fish with eggplant caponata) จานนี้สาวๆ โปรดแน่นอนค่ะ เพราะมีตัวเลือกที่แคลอรี่ดูจะน้อยกว่าเมนูอื่นๆให้เลือกด้วย เมนูนี้ถือว่าทำได้ดีทีเดียวค่ะ จริงๆ แค่เห็นชิ้นปลาก็รู้สึกคุ้มแล้ว แต่เมื่อได้ลิ้มลองรสชาติก็ต้องบอกว่าปลาสด เนื้อนุ่มไม่แห้งเกินไป และไม่คาวเลยค่ะ ทานคู่กับ Caponata เป็นของทานคู่กันที่มาช่วยเพิ่มรสชาติความเข้มข้นให้กับเมนูจานนี้ค่ะ แต่ก็ไม่กลบความเป็นปลาหิมะไปซะหมดนะคะ
Giorgio_072

Chicken Breast Milanese style

Giorgio_073เมนูสำหรับเด็กๆ และวัยรุ่นที่น่าจะสั่งมาลองทาน เพราะทานได้ง่ายนั้นก็คือเมนู Chicken Breast Milanese style with rocket salad balsamico dressing จานนี้สรุปง่ายๆ ว่าไก่ทอดพร้อมสลัดผักร็อกเกตค่ะ โดยตัวไก่ทอดก็ชิ้นใหญ่โตเต็มจานมากๆ ทานคู่กับสลัดผักแก้เลี่ยน ตัวน้ำสลัดบาลซัลมิคก็เข้ากันดีกับทั้งสลัดและไก่ทอดค่ะ เมนูนี้ออฟชอบที่ความกรอบของไก่ที่ทอดได้กรอบทีเดียว และสลัดผักร็อกเกตที่เดิมทานแล้วไม่ค่อยปลื้มกับรสชาติกับกลิ่นของร็อกเก็ต ก็ดูจะทานได้ง่ายขึ้นเมื่อมีน้ำสลัดมาเชื่อมโยงค่ะ
Giorgio_025

Grilled beef tenderioin

Giorgio_021สำหรับคนทานเนื้องานนี้ยิ้มแก้มปริแน่เลยค่ะ เพราะเมนู Grilled beef tenderioin with black truffle scruce and grilled vegetables ที่มีเนื้อสันในสุดนุ่มชิ้นใหญ่อยู่กลางจาน ราดซอสสูตรเด็ดของทางห้องอาหาร ล้อมรอบด้วยผักย่างเพิ่มสีสันและช่วยตัดความเลี่ยน เมื่อตัดเนื้อทานจะสัมผัสความนุ่มเมื่อลงมีด เนื้อแดงหน่อยๆ ย่างมาสุกกำลังดี เมื่อทานแล้วไม่คาว และไม่เหนียวเลยค่ะ ซอสก็ช่วยเพิ่มความอร่อยมากยิ่งขึ้น แต่ก็ไม่กลบความเป็นเนื้อไปซะหมด
Giorgio_069

Grilled barramundi with saffron sauce

Giorgio_027เมนูปลาอีกจานสำหรับค่ำคืนนี้ก็คือเมนุ Grilled barramundi with saffron sauce ซึ่งจานนี้ก็เป็นปลากระพงขาวย่าง วางชิ้นปลาชิ้นใหญ่บนมันฝรั่งหั่นเป็นแว่นกลม ตกแต่งด้านบนเพิ่มสีสันด้วยผักสีเขียว และราดซอสสีเหลืองตัดกันเพิ่มความโดดเด่น จากนั้นประดับด้วยผักสีแดงเล็กน้อย ตัดกันลงตัวดีค่ะ จานนี้ก็อร่อยไม่แพ้กับจานปลาจานแรกเลยทีเดียวค่ะ ทานคู่กับซอสก็เพิ่มรสชาติเข้ากันได้ดีเลยค่ะ
Giorgio_076

เมนู a la carte ที่ทานที่Giorgio’s@ Royal Orchid Sheraton

Ristto with prawn and nduja spicy salami 430

Giorgio_066เมนูที่ได้รับการแนะนำเป็นพิเศษเป็นเมนู Risotto with Prawn and N’Duja Spicy Salami โดย Risotto (รีซอตโต้) ก็คือข้าวผัดสไตล์อิตาเลี่ยนนั่นเองค่ะ โดยเมนูนี้จะแตกต่างจากรีซอตโต้ทั่วไปที่จะมีความมันและรสชาติไม่จัดจ้านมากค่ะ ซึ่งเมนูนี้เชฟเค้าประยุกต์เพิ่มความ spicy ให้มากขึ้นเพื่อให้ทานได้ง่าย โดยยังคงรูปแบบการทำอย่างรีซอตโต้เอาไว้ เห็นเหมือนเหลวๆ แบบนี้ เวลาตักนี่เรียกได้ว่าข้นและหนืดทีเดียวค่ะ ส่วนรสชาติก็ต้องยอมรับว่าความจัดจ้านของจานนี้ทำให้ทานได้ง่ายมากขึ้นจริงๆค่ะ
Giorgio_020

รายการอาหารที่ทานที่Giorgio’s@ Royal Orchid Sheraton

Giorgio_064ดูเมนูอาหารจานหลักกันอย่างเต็มอิ่มไปแล้วมาดูกันบ้างค่ะ ว่าอาหารจากไลน์บุฟเฟ่ต์นั้นจะเป็นอย่างไรบ้าง ขอเปิดตัวกันด้วยอาหารซีฟู๊ดที่ออฟตักมาทานอย่างละหน่อยพอให้ได้ลิ้มลองรสชาติค่ะ ถือว่าอาหารทะเลสดดี และน้ำจิ้มซีฟู๊ดก็แซ่บมากๆค่ะ
Giorgio_018สลัดที่ลองทานก็เป็นแบบซีซาร์สลัดที่เลือกผักเอง แต่ให้เค้าช่วยปรุงให้ค่ะ อันนี้ก็ทานเพลินๆ ชีสๆ กำลังดีเลยค่ะ
Giorgio_058เมนูจากไลน์อาหารอื่นๆ ที่ลองทานแล้วก็อร่อยดีค่ะ อย่าง ไลน์ Cold Cut ที่ออฟตักมาหลายชิ้นก็อร่อยแบบเค็มๆ ดี
Giorgio_060

ส่วนเมนูของกินเล่นนี่ก็ใช่ย่อยค่ะ

รายการของหวานที่ทานที่Giorgio’s@ Royal Orchid Sheraton

Giorgio_080ของหวานแสนอร่อยของที่นี่มีให้เลือกเรียงรายจนท้องแน่นๆ แทนจะอดใจไม่ไหว กวาดมาลองทานหลายอย่างเลยค่ะ อย่างมาการองนี่ก็อร่อยมากๆ
Giorgio_032เมนูพานาค็อตต้าก็เนื้อเนียนนุ่มไม่เลี่ยน และเข้ากันดีกับซอสและเบอร์รี่ค่ะ
Giorgio_081เมนูของทอดราดซอสวานิลานี่ก็ใช้ได้ค่ะ แต่ต้องใช้พื้นที่ในท้องเยอะหน่อย
Giorgio_033ทีรามิสุที่แสนจะโดดเด่น ได้รสชาติกาแฟกำลังดีทีเดียวค่ะ

Giorgio_034

เมนูมูสก็เนื้อเนียนใช้ได้เลยค่ะ มีคั่นชั้นกันด้วยช็อกโกแลตสลับกับผลไม้ก็เข้ากันดีค่ะ

Giorgio_083

ปิดท้ายกันด้วยเมนูที่ไม่อยู่ในบุฟเฟ่ต์นะคะ และเห็นว่าเชฟเหมือนจะเอาออกจากเมนูไปแล้วด้วย แต่ขอบอกว่าถ้าคนรักช็อกโกแลตนี่ห้ามพลาดค่ะ สั่งกับทางร้านได้เลย ถึงแม้จะไม่มีอยู่ในเมนูก็ตาม และเมนูของหวานแสนอร่อยนี้ก็คือ…ช็อกโกแลตฮาเซลนัทเสิร์ฟคู่กับไอศกรีมค่ะ ตัวช็อกโกแลตเนื้อแน่นและเข้มข้นมากๆ

รายการเครื่องดื่มที่ทานที่Giorgio’s@ Royal Orchid Sheraton

Giorgio_014เริ่มต้นเครื่องดื่มกันด้วยเมนูมะม่วงปั่นของออฟค่ะ งานนี้น้ำมะม่วงปั่นเนื้อละเอียด และเข้มข้นมากๆค่ะ โดนใจออฟไปเต็มๆ
Giorgio_029

สำหรับของมิวเป็นเมนู Frozen ค่ะ โดยเป็นน้ำลิ้นจี่ปั่น ทานเย็นๆ ชื่นใจดีค่ะ

การทานอาหารที่Giorgio’s@ Royal Orchid Sheraton

Giorgio_077

การทานอาหารที่ห้องอาหาร Giorgio’s นั้นถือว่าครบเครื่องทั้งคาวหวานเลยค่ะ โดยเมื่อเรามานั่งแล้วสั่งเมนูอาหารจานหลักเรียบร้อย ก็ไปเดินตักอาหารที่ไลน์บุฟเฟ่ต์ไปพลางๆ รองท้องไปเรื่อยๆ แต่อย่าเพิ่งเพลินนะคะ เพราะว่าเมนูจานหลักจานใหญ่จริงๆ ไม่งั้นอาจจะทานไม่หมดได้ค่ะ แล้วอย่าลืมเผื่อท้องไว้สำหรับของหวานสไตล์อิตาเลี่ยนแสนอร่อยที่มีให้เลือกหลายอย่างด้วยนะคะ
Giorgio_030

บทสรุปจากการทานที่Giorgio’s@ Royal Orchid Sheraton

  • ถือเป็นห้องอาหารที่อร่อยและคุ้มค่า ราคาไม่แพงเลยค่ะ เพราะราคา 650 บาทเน็ตนั้น ทั้งอาหารจานหลัก เมนูอาหารในไลน์บุฟเฟ่ต์ และของหวานหลายอย่างทั้งอร่อยและมีให้เลือกหลายอย่างดีค่ะ (650 บาทไม่รวมค่าน้ำเปล่านะคะ)
  • การเดินทางถึงโรงแรมจะไม่ติดรถไฟฟ้าแต่ก็สามารถมาลงรถไฟฟ้า BTS สถานีสะพานตากสินแล้วทางโรงแรมมี Shuttle Boat ไปรับทุกครึ่งชั่วโมงเลยค่ะ
  • บรรยากาศของห้องอาหารเป็นส่วนตัวไม่พลุกพล่าน โต๊ะห่างกันพอสมควรดีค่ะ
  • ห้องอาหารนี้มีแต่ Dinner เท่านั้นนะคะ

Gallery จากGiorgio’s@ Royal Orchid Sheraton

ข้อมูลทั่วไปของGiorgio’s@ Royal Orchid Sheraton

ที่อยู่ :2 ซอยเจริญกรุง 30 อาคาร ชั้น 1 โรงแรม รอยัล ออคิด เชอราตัน ถนนเจริญกรุง แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
เบอร์โทรศัพท์ :0 2266 9214
เว็บไซต์ : www.royalorchidsheraton.com , SPG restaurants & bars, Giorgio's
วันและเวลาเปิดปิดทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 18.00-22.30 น.
การเดินทาง : ห้องอาหารจิออร์จิโอส์ตั้งอยู่ที่ชั้น 1 ติดกับแม่น้ำและสระน้ำของโรงแรม รอยัล ออคิด เชอราตัน ถ.เจริญกรุง
ที่จอดรถ : ลานจอดรถของโรงแรม รอยัล ออคิด เชอราตัน

ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น

Leave a comment