เลิกติดเกมส์กับลดความอ้วนอันไหนยากกว่ากัน
เนื่องด้วยจริงๆแล้ววันนี้เป็นวันที่เครียดถึงขีดสุดและมีความเซ็งเกินพิกัดก็เลยอยากจะมาเล่าเรื่องที่่น่าจะสบายๆ กันบ้าง
สาเหตุที่เครียดถึงขีดสุดและมีความเซ็งเกินพิกัด
– ทำงานไม่ทันตามที่ตั้งเป้าไว้
– นอนไม่พอ -> ทำให้พูดไม่รู้เรื่อง -> พรีเซนต์เน่าๆ
– หิวข้าว
– เครียด
– อ้วน
– ไม่มีเหตุผล
ทางแก้หลักในการลดความเครียดและจำกัดความเซ็ง
– กิน (ทุกอย่างที่ขวางหน้า แล้วคิดว่ากินให้หายเครียด ทั้งๆที่ก็ไม่ช่วยอะไร) การได้กินอะไรเย็นจะทำให้รู้สึกดีขึ้น เหมือนจะมีอะไรมาเติมพลังชีวิตของเราให้มากขึ้น
– ดูหนัง เพราะว่าทำให้เราไม่ต้องไปคิดเรื่องที่มาทำให้รู้สึกเซ็ง (ใช้ได้ในกรณีที่มีคนรู้ใจไปด้วยเท่านั้น ไม่แนะนำให้ไปคนเดียว เพราะว่าจะทำให้ยิ่งแย่ไปกว่าเดิม และอาจจะทำให้อาการที่เป็นแย่ลง)
– ชอปปิ้ง ใครบอกว่าเงินไหลออกกระเป๋าแล้วมีแต่เรื่องแย่ๆ อย่างน้อยก็ทำให้ลดความเครียดลง เวลาต่อราคากับแม่ค้า จะทำให้เรารู้สึกว่า โอ้ ช่างสนุกสนานซะจริง ถึงแม้ว่ากระเป๋าจะลีบแค่ไหน ไม่ต้องพูดถึงเงินในธนาคาร เพราะว่าไม่ค่อยมีอยู่แล้ว การที่เรามีโอกาสเดินไปตามร้านค้ามากมาย ก็ช่างเป็นความสุขซะจริง (เรื่องนี้ผู้ชายหลายๆคน คงส่ายหน้าและไม่เห็นด้วยอย่างรุนแรง ขอให้เข้าใจว่า “ผู้หญิงเป็นสิ่งมีชีวิตที่เข้าใจยากที่สุดในโลก”)
– เล่นเกมส์ ปกติแล้วออฟไม่ค่อยเล่นเกมส์เท่าไหร่ แต่พอเล่นทราเวียน (ที่แอบให้เหตุผลกับตัวเองว่าที่เล่นเพราะว่าจะได้คุยกับเพื่อนในภาครู้เรื่อง) ก็รู้สึกว่าจะเริ่มติด เหมือนมีนาฬิกาอีกตัวมากำหนดชีวิต (วันนี้ถึงกับต้องเปิดเครื่องกลางรถไฟฟ้าเพื่อมากด = =”)
กลับมาที่ “เลิกติดเกมส์กับลดความอ้วนอันไหนยากกว่ากัน”
ถ้าถามความเห็นออฟละก็คงต้องบอกว่า “ลดความอ้วน” แบบไม่ต้องคิด เพราะว่าไม่ใช่คนเล่นเกมส์อะไรจริงจังอยู่แล้ว (แต่ตอนนี้ก็เริ่มจะติดทราเวียน) ทำไมลดความอ้วนมันยากกว่า เพราะว่าลองคิดถึงตอนที่เปิดเวบไซต์แล้วมีการแนะนำร้านอาหารใหม่ๆ แถมมีรูปประกอบสวยงาม น่ากินสุดๆ แค่นี้ก็น้ำลายไหล ไม่ต้องพูดถึงว่ายิ่งมีช่วงโปรโมชั่นลดราคา (ตอนนี้พิซซ่า ซื้อ 1 แถม 1 ออฟกินมาแล้ว 2 ครั้ง) ทำให้รู้สึกว่าอยากจะกินเข้าไปอีก
วิธีลดความอ้วนหน่ะ จริงๆ แล้วผู้หญิงส่วนใหญ่ก็รู้กันอยู่แล้วนั่นแหละ แต่จะทำรึเปล่านั่นอีกเรื่องนึง แต่สำหรับออฟที่เคยคิดว่าถ้ากินแล้วมีความสุขก็ไม่ต้องไปลดมันหรอก เวลาอยากกินแล้วไม่ได้กินมันทรมาณชีวิต แต่พอเสื้อผ้าเริ่มจะคับ ก็ถึงเวลาที่จะต้องตัดสินใจว่าจะซื้อเสื้อใหม่แล้วกินต่อไป หรือว่าใส่ตัวเดิมแล้วลดน้ำหนักลง ….
ตอนนี้คงจะต้องเริ่มออกกำลังกายบ้าง (โดยอ้างว่าเพื่อสุขภาพที่ดี แต่จริงๆแล้วตอนนี้อ้วนไม่ไหวแล้วต่างหาก) แต่ก็ยังมีข้ออ้างต่างๆ นานาว่าอยู่ในช่วงสอบบ้างหล่ะ ไม่ค่อยมีเวลาบ้างหล่ะ และอีกมากมาย ทีทำให้ไม่ได้เริ่มออกกำลังกายซักที ตอนนี้แค่เดินขึ้นบันได 2 ชั้นก็หอบแล้วล่ะค่ะ
หลักการลดความอ้วน
– หยุดกินอาหารฟาสต์ฟู้ด หรือ Junk food รวมไปถึงพวกแป้งต่าง
– ออกกำลังกายบ้าง แต่ว่าอย่าใช้หลักการที่ว่า “แค่ขยับก็เท่ากับออกกำลังกาย ถ้าคุณนิยามการขยับหมายถึงการหายใจ”
– กินน้ำเยอะๆ แล้วเลิกกินน้ำหวานซะ รวมไปถึงน้ำอัดลมด้วย
– อย่าไปห้างเลยดีกว่า จงนอนอยู่บ้านซะ เพราะว่าจะเกิดความอยากอะไร ของที่กินมักจะอ้วนน้อยกว่าอยู่ห้าง รวมไปถึงเสียตังน้อยกว่า
– หากิจกรรมอื่นเพื่ออยู่ด้วยกัน หยุดเอาการกินไอติมมาเป็นข้ออ้าง
– นอนเยอะๆ เพราะว่าจะช่วยให้หมดเวลาไปกับการนอน เวลากินจะลดลง
หมายเหตุ
– หลักการลดความอ้วนที่เขียนไปยังทำไม่ได้ซักข้อเลย = =” เพราะงั้นถ้าไม่เชื่อกันก็ไม่ว่าอะไร
– อย่าเสียตังไปซื้อครีมที่เค้าบอกว่าทาแล้วจะลดความอ้วนมานะ (ถึงแม้ว่ามันจะลดราคาเท่าไหร่ก็ตาม) ไม่ช่วยอะไรเลย
– การฉีดคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปก็ไม่ช่วยอะไร อย่าไปหลงคารมคน ไม่คุ้มหรอก มันเจ็บด้วยนะ เสียตังก็แพง
– การผ่าฟันคุตช่วยได้นะ ไปทำฟันบ้างก็ได้ จะทำให้อยากอาหารลดลง
– อย่าบอกให้ใครมาห้ามเวลาอยากกินอะไร เพราะว่าถ้าเค้าห้ามแล้วเราไม่ฟัง เค้าจะเสียความรู้สึกมาก
– วันนี้กิน MK และดูหนังเรื่อง Bolt ฉลองจบโครงการและบรรเทาความเครียด
– ควรใช้วิจารณญาญในการเชื่อคำพูดของคน และอย่าโทษคนอื่น เพราะว่าการกระทำใดๆนั้น เราเป็นคนลงมือและตัดสินใจทำเอง
Leave a comment