โดนใจไปญี่ปุ่น >> Day 7 ปราสาทโอซาก้า-เอนโดซูชิ-Hokkyokusei-ไคยูคัง-เสต็กร้านbudo-tei-Pablo
วันนี้เป็นวันเดินเที่ยงเมืองโอซาก้ากันบ้างค่ะ หลักๆก็จะเน้นไปที่ปราสาทโอซาก้า และไคยูคังเป็นหลัก นอกจากนั้นก็เป็นร้านอาหารระหว่างทางกัน จริงๆ ต้องบอกว่าวันนี้เป็นวันที่กินเยอะมากๆจริงๆ เรียกได้ว่ากินมื้อต่อมื้อกันเลยทีเดียวค่ะ ใครพร้อมแล้วไปเที่ยวเมืองโอซาก้าด้วยกันเลยค่า
ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle)
ที่แรกที่ไปเป็นปราสาทโอซาก้าก่อนเลยค่ะ อันนี้มาตั้งแต่เช้าเพราะกลัวเรื่องแดดร้อน แต่วันทีไปฟ้าดันไม่ค่อยใสเท่าไหร่ อากาศเย็นกำลังดี การเดินทางจากรถไฟใต้ดินสถานี Morinomiya ประมาณ 15 นาทีจะถึงตัวปราสาทนะคะ
โดยก่อนถึงตัวปราสาทจะมีสวนสาธารณะให้เราถ่ายรูปกับบรรยากาศต้นไม้ที่กำลังเริ่มเปลี่ยนสีกันด้วยค่ะ
เมื่อมาถึงปราสาทแล้วไปซื้อตั๋วเข้ากันก่อนเลยค่ะ ค่าเข้าผู้ใหญ่ 600 เยน และเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีฟรี
ภายในจะมีการนำประวัติศาสตร์มาจำลองเอาไว้อยากน่าสนใจเลยค่ะ มีการนำเทคโนโลยีมาเพิ่มความตื่นตาตื่นใจขึ้นด้วย แบบจำลองต่างๆ ก็ทำได้สมจริงดีทีเดียวค่ะ สำหรับคนที่อยากจะแต่งตัวเป็นชาวญี่ปุ่นโบราณก็สามารถเช่าชุดได้ด้วยนะคะ มีหมวกแสนอลังการให้เราถ่ายกับฉากหลังของปราสาทโอซาก้าด้วยค่ะ
ภายในจะมีบันไดและลิฟต์นะคะ หลักที่คนขึนไปเยอะดูจะเป็นชั้นบนสุดที่ทำให้เรามองเห็นวิวมุมสูงของเมืองโอซาก้าค่ะ
ลงมาแล้วก็หาของว่างกันด้วยการเข้าร้านไอศกรีมกันหน่อยค่ะ จริงๆเล็งไว้ตั้งแต่ตอนขาขึ้นแล้ว แต่ถ้ากินจะเสียเวลาเพราะว่าต้องกินให้หมดก่อนถึงจะขึ้นได้เลยตัดสินใจมากินตอนท้ายค่ะ
ที่ร้านเค้าก็มีหลายรสชาติให้เลือกเหมือนกัน ดูเอาจากรูปเลยได้ค่ะ ถึงจะไม่มีภาษาญี่ปุ่น แต่ของกินนี่สามารถเอาตัวรอดได้จากรูปภาพนะคะ ออฟลองกินรสเบอร์รี่ก็อร่อยดี ชอบของร้านนี้ตรงที่โคนมันเป็นวาฟเฟิลกรอบๆดีค่ะ
- ชื่อ : ปราสาทโอซาก้า
- ที่อยู่ 1-1 OsakaJo,Chuo-ku,Osaka City
- เวลาทำการ :9.00-17.00 น. (เปิดให้เข้าได้จนถึง 16.30 น. ในบางฤดูกาลจะเปิดให้เข้านานกว่าปกติ) ใช้เวลาในการชมตัวปราสาททั้งหมดราว 60 นาที
- วันหยุด :ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ (ราววันที่ 28 ธันวาคมถึงวันที่ 1 มกราคม)
- การเดินทาง: เดินเท้าจาก JR Morinomiya Sta. หรือ Osakajokoen Sta.(exit No.1 and 3) ราว 15-20 นาที
- ค่าผ่านประตู: ผู้ใหญ่ 600 เยน เด็กนักเรียนต่ำกว่าชั้นมัธยมต้น ฟรี
- มีที่จอดรถ (9.00-18.00น.) ค่าที่จอด ชั่วโมงละ 350 เยน
- สอบถาม TEL : 06-6941-3044 FAX : 06-6941-2197
กินซูชิที่ร้านเอนโดซูชิ
การเดินจากปราสาทโอซาก้ามากินซูชิที่ร้านเอนโดซูชิร้านนี้ เหนื่อยจริงๆค่ะ เดินไกลประมาณเกือบ20 นาที ยังดีที่อากาศไม่ร้อน แต่กว่าจะมาถึงร้านก็ทำเอาหงุดหงิดนิดหน่อย จริงๆ ไม่แนะนำให้เดินมานะคะ นั่งรถมาลงรถไฟ keihan : kyobashi จะใกล้กว่ามากเลยค่ะ
เห็นเค้าว่าร้านนี้เป็นร้านซูชิเจ้าดังที่เปิดมาตั้งแต่ปี 1907 และคงสูตรซูชิรูปแบบดั้งเดิมเอาไว้ โดยจะใช้ข้าวที่ค่อนข้างอุ่น ปั้นเป็นก้อนเล็กๆ โปะหน้าด้วยปลาดิบสดๆชิ้นหนา ซึ่งทางร้านก็มีเมนูสำหรับชาวต่างชาติเป็นภาษาอังกฤษพร้อมรูปตัวอย่างให้เลือกกันนะคะ ราคาเซตละ 1,080 เยน ครั้งนี้ไปกัน 4 คนเลยสั่งมาทั้ง 4 แบบเลยค่ะ
Set 1: Anago, Uni, Tai , Toro, Hamachi
Set 2: Matsutake, Akagai, Hotate, Toro
Set 3: Tamago, Ebi, Awabi, Tekka, Tako
Set4 : Sake, Ikura, Ika, Toro, Sayori
พอทานแล้วรวมๆออฟไม่ค่อยโดนใจค่ะ คงเพราะคำมันเล็กต่างจากที่เคยกิน เลยไม่ค่อยเต็มปากเท่าไหร่ เนื้อปลาก็ไม่ได้โดดเด่นนักดีที่ราคาไม่แพงมาก เวลาจะจิ้มโชยุเพิ่มเค้ามีเป็นแปรงมาให้มาด้านบนนะคะ
- ชื่อ : ร้านเอนโดซูชิ
- ที่อยู่ : 5F Keihan Mall 2-1-38 Higashinodacho Toshima-ku Osaka City
- เวลาเปิด : 11:00-PM10:00 (Last order PM 9:30)
- เว็บไซต์ : http://www.endo-sushi.com/english.html
- บทสรุป : ร้านสาขานี้หายาก, รสชาติเฉยๆ, ราคาไม่แพงมาก
ขึ้นรถไปอ่าวโอซาก้า
อิ่มกันแล้วก็มุ่งหน้ามาที่อ่าวโอซาก้าเพื่อมาไคยูกันกันค่ะ โดยลงรถไฟสาย Chuo Line มาลงสถานี Osakako แล้วเดินมาเรื่อยๆค่ะ แหล่งท่องเที่ยวของอ่าวโอซาก้ากันแล้ว โดยหลักๆ ก็จะมี Tempozan Ferris Wheel ซึ่งเป็นชิงช้าสวรรค์สูงถึง 112.5 เมตร ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในโอซาก้า, เรือซาต้ามาเรีย (Osaka Bay Cruise Santa Maria) สำหรับคนที่อยากจะนั่งเรือท่องอ่าวโอซาก้า, Tempozan Market Place ศูนย์รวมร้านอาหารชื่อดังในบรรยากาศโอซาก้าแบบย้อนยุค พร้อมร้านเสื้อผ้าแฟชั่นและขนมต่างๆ รวมไปถึง พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง (Osaka Aquarium Kaiyukan) ด้วยนะคะ
กินข้าวห่อไข่ที่ร้าน Hokkyokusei
ก่อนที่จะไปไคยูคังก็ขอมากินข้าวห่อไข่ต้นตำรับของโอซาก้ากันก่อนค่ะ โดยร้านจะอยู่ชั้น 2 ของ Tempozan Market Place นะคะ ร้านแอบลึกลับนิดหน่อยค่ะ ด้านหน้าร้านจะมีตัวอย่างอาหารให้เราเลือกชมเพื่อช่วยในการตัดสินใจนะ ถ้าคิดอะไรไม่ออกแบบออฟก็ไปจิ้มที่ตู้โชว์หน้าร้านเอาเลยค่ะ เป็นการสั่งที่ง่ายดี เพราะเมนูเค้ามีแต่ภาษาญี่ปุ่นทั้งนั้นเลยค่ะ
ข้าวห่อไข่พร้อมด้วยหมูทอด 830 บาท
ข้าวห่อไข่ 990 บาท อันนี้จานใหญ่อัดแน่นมากเลยค่ะ
ข้าวห่อไข่และเนื้อ 1,670 บาท
- ชื่อ : ร้าน Hokkyokusei
- ที่ตั้ง : ตั้งอยู่บนชั้น 2 ภายในส่วน Naniwa Kuishinbo Yakocho
- การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Chuo Line มาลงที่สถานี Osakako ออกทางออก 1
- website : http://www.hokkyokusei.jp/
- เปิด : ทุกวัน 11:00-22:00
- บทสรุป : อาหารที่นี่รสชาติโอเคเลยค่ะ ราคาไม่แพงมาก ได้ปริมาณเยอะดี
OSAKA AQUARIUM KAIYUKAN (JAPAN)
อิ่มท้องกันแล้วมาเที่ยวพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง (Osaka Aquarium Kaiyukan) กันต่อเลยค่ะ ตึกเค้าสีสันสดใสมากๆ โดดเด่นและเห็นง่ายดีค่ะ ก่อนเข้าก็ไปซื้อตั๋วกันก่อน คนละ 2,300 เยนค่า
ตั๋วเค้าก็น่ารักๆ ด้วยการมีรูปสัตว์ต่างๆ ที่อยู่ในไคยูคังเป็นรูปสีด้วยค่ะ เอาไว้สำหรับคนที่อยากจะเก็บไว้เป็นที่ระลึก
ไคยูคังเป็นหนึ่งในอควอเรียมที่ใหญ่ที่สุดของโลกที่นึง โดยด้านในจะมีแท็งค์น้ำขนาดใหญ่ถึง 15 แท็งค์ บรรจุสัตว์น้ำกว่า 580 สายพันธ์ จำนวนกว่า 30,000 ตัวเลยทีเดียวนะคะ
จุดเด่นที่ออฟชอบก็มี แพนกวิน, แมวน้ำ , ปลาโลมาค่ะ โดยเค้าจะมีรอบการแสดงของสัตว์น้ำด้วย น่ารักมากๆ เลย
แมงกระพรุนเรืองแสงก็ทำให้ว้าวได้เหมือนกันนะคะ
ความเจ๋งของที่นี่คือแท็งค์น้ำขนาดใหญ่ที่เราสามารถเดินวนลึกลงไปด้านล่างไปเรื่อยๆ ทำให้เห็นสัตว์น้ำในหลากหลายมุม และไม่ต้องแย่งกันค่ะ แถมยังมีโซนที่ให้เราจับหลังปลากระเบนและปลาฉลามด้วยนะคะ ครั้งนี้ก็ตื่นเต้นเหมือนกัน ผิวหนังมันสากๆ มือใช้ได้เลยค่า
- ชื่อ : พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง Kaiyukan Aquarium
- ที่ตั้ง :1-1-10 Kaigan-dori, Minato-ku, Osaka-shi, Osaka, Japan Postal code 552-0022
- โทร :+81-6-6576-5501
- การเดินทาง : ให้ใช้ JR LINE มาลงที่สถานที Bentencho จากนั้นเปลี่ยนสายมาขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Chuo Subway line มาลงที่สถานี Osakako (C11)ก็ได้ ใช้เวลาเดินประมาณ 5 นาที
- เวลาเปิดให้เข้าชม:10am – 8pm,เข้าชมรอบสุดท้ายได้ก่อนเวลาปิด 1 ชั่วโมง เวลาปิดให้เข้าชมจะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล
- ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ (อายุ 16 ปีขึ้นไปหรือตั้งแต่มัธยมปลายขึ้นไป) :2,300 เยน
นักเรียนชั้นประถม・มัธยมต้น (อายุ7~15 ปี) 1,200 เยน
เด็กเล็ก (อายุ4~6 ปี) 600 เยน
กินสเต็กและของทอดที่ร้าน budo-tei ย่านอุเมดะ
หลังจากเที่ยวกันไปแล้วก็มากินกันต่อค่ะ โดยวันนี้ตั้งใจอยากจะกินแนวของทอดและสเต็ก จนตามมาจนเจอร้าน budo-tei (บุโด-เท) ค่ะ เนื่องด้วยท้องยังไม่หิวมากเท่าไหร่ การตามหาร้านจึงไม่ค่อยหงุดหงิดมากนักค่ะ
โชคดีที่ตอนไปถึงมีที่นั่งหน้าเคาเตอร์พอดีเลยค่ะ ทำให้ไม่ต้องรอคิวนาน เมนูของเค้าไม่มีภาษาอังกฤษนะคะ จิ้มเลือกตามรูปได้เลยค่ะ
เมนูของไผ่เป็นเมนูของทอดค่ะ 970 เยน โดยเค้าจะเสิร์ฟมาพร้อมข้าวให้ด้วยนะคะ ให้ข้าวมาเยอะมากจริงๆ ตัวของทอดทำได้ดีค่ะ กรอบนอกนุ่มในดีจริงๆ จะทานคู่กับเลมอน หรือว่าจิ้มซอสก็ได้นะคะ
ส่วนสเต็กของออฟ 1,030 เยนค่ะ ตัวสเต็กนี่ย่างกำลังดีไม่เหนียว ชิ้นกำลังทาน นุ่มดีเลยค่ะ มาพร้อมกับของทอด และถั่วงอกและกะหล่ำปลีด้วยนะคะ
- ชื่อ : budo-tei (บุโด-เท)
- ย่านอุเมดะ
- การเดินทาง : ตั้งอยู่ชั้น B2 ห้องหมายเลข 37-1 ของตึก Osaka Ekimae Dai-San
- บทสรุป : เป็นร้านสเต็กเฮาส์ ราคาไม่แพง รสชาติดี แต่หาร้านยากเหมือนกันค่ะ
ทานเครปส้มของร้าน Chandeleur
กินของคาวไปแล้วมาต่อกันด้วยของหวานกันบ้างค่ะ ร้านนี้ตามมาจากหนังสือที่เค้าว่าเป็นร้านเครปที่สาวๆ หลงเลยนะคะ แต่กว่าจะหาร้านเจอทำเอาหมดอารมณ์ไปเหมือนกัน เพราะว่าฝนที่ตกปรอยๆ และร้านที่เดินหายากเพราะไกลจากรถไฟด้วยคะ
ร้านณองเดอร์เลอร์ (Chandeleur) เป็นร้านเครปที่มีแต่สาวๆ จริงๆ เลยค่ะ เมนูเค้าก็มีทั้งเครปแบบคาวและแบบของหวานให้เราเลือก ราคาแพงใช้ได้อยู่เหมือนกัน
ด้วยความที่ไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ออฟเลยสั่งเค้กซอสส้มมาทานค่ะ Suzette Crepe พร้อมเครื่องดื่มเซตนึง 920 บาทตัวเครปเฉยๆนะคะ ไอศกรีมอร่อยดี กินแล้วให้ความรู้สึกเป็นส้มปลอมมากไปหน่อย
ไผ่สั่งกาแฟที่นี่กินก็เฉยๆค่ะ แก้วนึง 480 ก็แพงเหมือนกัน
- ชื่อ : Chandeleur (ณองเดอเลอร์)
- เปิดทุกวัน 11:00 – 23:00
- การเดินทาง : ลงสถานี Kitashinchi, Umeda, Higashi-Umeda และ Nishi-Umeda ใช้ทางเดินใต้ดินไปจนถึงทางออก H-2
- website : http://www.chandeleur-crepe.jp/
- บทสรุป : เป็นร้านเครปฝรั่งเศสที่มีทั้งแบบของคาวและของหวาน ราคาแพงเหมือนกัน หาร้านยาก ไกลจากรถใต้ดินมากเลย รสชาติเฉยๆ ไม่แย่แต่ยังไม่โดนใจมากนัก
ชีสทาร์ตแสนอร่อย ชิ้นใหญ่ในราคา 800 เยนที่ร้าน pablo
ระหว่างขากลับผ่านร้านชีสทาร์ตชื่อดังอย่างร้าน Pablo ค่ะ ร้านนี้มีเมนูชีสทาร์ตที่ถ้ามาถึงถิ่นแล้วต้องลองชิมให้ได้นะคะ ไผ่เห็นคนน้อยเลยเข้าไปซื้อเลยค่ะ ทั้งๆ ที่ในท้องไม่มีที่จะยัดอะไรไว้อีกแล้วด้วยซ้ำ แต่ด้วยความอยากลอง เลยหวังว่าระหว่างการเดินทางกลับโรงแรมจะทำให้อาหารย่อยและมีที่ว่างสำหรับชีสทาร์ตค่ะ
เมนูของเค้าทั้งชิ้น 800 เยน โดยสามารถเลือกระดับความสุดชอบชีสได้ว่าอยากจะเยิ้มแค่ไหนค่ะ
เมื่อมาถึงโรงแรมก็แกะมาพบกับชีสทาร์ตสีเหลืองอร่าม กลิ่นหอมไปทั้งห้องเลยค่ะ
ลองชิมแล้วอร่อยมาก จนอยากจะซื้อกลับมากินที่เมืองไทยเลยค่ะ แต่ว่ามันต้องถือแบบถนอมเลยอด สุดท้ายก็ค่อยๆ กินกันไปเรื่อยๆ โชคดีที่ในห้องพักมีตู้เย็นเลยค่อยๆ ตอดเช้า ตอดเย็นจนหมดเกลี้ยงเลยค่า
- ชื่อ : Pablo (ปาโบล)
- ชิ้นละ 800 เยน
- เปิดทุกวัน 10:00 – 23:00
- website : http://www.pablo3.com/
Leave a comment