รีวิวโดนใจ >> เลี้ยงน้องสายรหัสที่ร้านโอยั้วะ

กว่าจะได้ฤกษ์พาสายรหัสไปกินเลี้ยง หรืออีกอย่างก็เรียกได้ว่าเป็นการเห็นหน้าค่าตากันเป็นๆ ครบสายซักที ก็เกือบจะสอบปลายภาคซะแล้ว ซึ่งการจัดเลี้ยงครั้งนี้ให้น้องปีสามเป็นคนจัดทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นหาร้านหรือว่านัดน้องๆ งานนี้เลยได้เจอน้องปีหนึ่งที่เป็นน้องรหัสของตัวเองซักทีแล้วค่า

การเลี้ยงน้องสายรหัส

สายรหัสของภาคคอมนี่ไม่รู้ว่าเค้าจะเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่นะคะ แต่ออฟมีพี่รหัสคนเดียวคือพี่ต้น แต่น้องที่มีเพิ่มมาทุกปีนี่ก็มี น้องติ๊ด (CPE21), น้องติว (CPE22) และน้องเฟรชชี่ปีหนึ่งอย่างน้องน้อยหน่า (CPE23) ซึ่งเพิ่งจะได้รู้จักหน้ากับน้องเค้าวันนี้ก็วันแรกเลยทีเดียว บรรยากาศก่อนเริ่มทานอาหารนี่แหละที่ได้คุยกัน ถามไถ่ประวัติความเป็นมา และคุยกันเรื่องการเรียนนิดหน่อย ซึ่งก็เป็นการดีทีเดียว

เรื่องสายรหัสนี่ต้องบอกว่ามีประโยชน์สำหรับคนที่ทำให้มันมีประโยชน์ เพราะอย่างสายของออฟ น้องติ๊ดก็จะมีเรื่องมาปรึกษาบ้าง และได้คุยกับน้องติวบ้างเวลาออนเอ็ม แต่ข้อดีสุดน่าจะเป็นเรื่องหนังสือและชีทต่างๆ ที่พี่ๆจะส่งต่อให้น้อง ตัวออฟเองจะมีชีทและหนังสือเก็บไว้ให้น้องเยอะมากๆ แบบว่าแบกไปให้ที่มหาลัยไม่ไหวเลยทีเดียว น้องจะมาเอาชีทที่ร้านแม่ปีละครั้ง แล้วจะมานั่งแยกด้วยกันว่าชีทไหนวิชาไหน เรียนตอนไหน

ส่วนเรื่องการเลี้ยงสาย ก็มีข้อดีในส่วนของการเริ่มต้นคุยกันนั่นแหละ เพราะถ้าไม่จัดก็คงจะไม่ได้เจอหน้าน้องปีหนึ่งซักที การเลือกร้านก็สำคัญ เพราะว่าถ้าร้านที่มันเสียงดังจนไม่อยากจะคุยกันก็จะไม่ค่อยได้ประโยชน์อะไรเท่าไหร่ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเลือกร้านแพงมากๆ เพราะว่าเราก็ยังไม่ได้ทำงานมีเงินเดือนใช้เหมือนกัน

การจ่ายตังของการเลี้ยงสาย นี่แล้วแ่ต่ตกลงกันในสา่ย เพราะบางสายจะให้ปีสี่จ่ายทั้งหมด บางสายจะจ่ายของตัวเองและหารกันให้น้องใหม่ ซึ่งก็แล้วแต่ละสายจะคุยกัน แต่เรื่องเงินที่ออกจากกระเป๋า ออฟคิดว่าไม่ว่าท่าไหนก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ ถ้าเป็นแบบปีสี่จ่ายคนเีดียวก็เสียเงินก้อน แต่ไม่ต้องจ่ายยิบย่อยซึ่งบางครั้งก็มากกว่าการจ่ายครั้งเดียวอีกต่างหาก

บรรยากาศของร้านโอยั้วะ

การตกแต่งของร้านมีการผสมผสานหลายอย่างเข้าด้วยกัน อย่างโต๊ะที่ต่อยาววันนี้ ลองเปิดผ้าปูโต๊ะดูก็พบว่าเป็นจักรเย็บผ้ามาต่อกันนั่นเอง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นโต๊ะไม้ ทางเข้ามีบรรยากาศร่มรื่นดี แต่วันนี้ฝนตกก็เลยไม่ค่อยได้ชมบรรยากาศข้างนอกอะไรเท่าไหร่ แถมยังมีห้องคาราโอเกะแยกเป็นสัดส่วนอีกด้วย

อาหารของร้านโอยั๊วะ

มากินครั้งนี้ไม่ได้เป็นคนสั่งอาหารเลยไม่ค่อยรู้ว่าที่ร้านเค้าขายอะไรบ้าง แต่ภาพลักษณ์ตอนแรกคิดว่าเป็นร้านเหล้าอย่างเีดียวซะอีก แต่เข้ามาก็เป็นร้านอาหารทั่วไปนั่นแหละ อาหารที่กินวันนี้มี 6 อย่างคือ ต้มจืด, ผัดผัก, ไก่ืทอด, ต้มยำกุ้ง, ยำหมูแตงกวา, ปลานึ่งมะนาว ตอนแรกก็ถ่ายรูปมาทั้งหมดนั่นแหละ แต่ด้วยความที่แสงมันน้อยก็เลยคัดแต่ีูรูปที่เห็นชัดๆมาเป็นตัวอย่างแทน ส่วนเรื่องราคา วันนี้ไปกินกันทั้งหมดประมาณ 40 คนก็จ่ายคนละ 215 บาท ก็ถือว่าแพงเหมือนกันสำหรับจำนวนอาหาร แต่คงแพงค่าน้ำนั่นแหละ เห็นบอกว่าขวดละ 20 บาทเลยทีเีดียว

ตัวอย่างอาหาร

ไ่ก่ทอด
ผัดผัก
แกงจืด
ยำอะไรซักอย่าง

การบริการของทางร้านโอยั้วะ

พนักงานที่นี่ดูขยันขันแข็งกันดี โดยเฉพาะเรื่องการเติมน้ำ แล้ววันนี้ออฟคงเรื่องมากไปหน่อยก็เลยโดนพนักงานเค้าประชดใส่ซะชุดใหญ่ เรื่องมันมีอยู่ว่า ไอ้แกงจืดหม้อไฟที่รนหน้าอยู่นี่ ทำเอาเหงื่อไหล ก็กลัวน้องจะร้อน ไอ้เราหน่ะร้อนไปนานแล้วก็เลยบอกพี่เค้าช่วยปรับพัดลมให้หน่อย งานนี้ก็เลยได้นั่งกินข้าวหัวฟู จะอ้าปากทีต้องรอพัดลมสายไปทางอื่นไม่งั้นของปลิวกระจาย ก็ไม่ได้เป็นคนถือคติ “ลูกค้าคือพระเจ้า” อะไรเท่าไหร่ แต่ทำแบบนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน เพราะพัดลมมันไม่ใช่พัดลงตั้งโต๊ะธรรมดาที่เห็นทั่วไป แต่มันคือพัดลมขนาดใหญ่ สูงท่วมหัว แบบที่เห็นกันในโรงอาหารหรืออาคารใหญ่ๆนั่นแล แล้วระยะห่างถึงหัวก็ไม่ถึงเมตร เวลาลมพัดมาทีผมกระเซิงจนเข้าปากเลย แอบเซงนิดหน่อย แต่ก็ไม่รู้จะไปอารมณ์เสียทำไม ก็เราบอกเค้าเองว่าช่วยปรับพัดลมให้หน่อย มันร้อน ก็เลยได้พัดลมมาก็เท่านั้น