รีวิวโดนใจ >> The Garret Secret Bistro Bar บรรยากาศแสนหวานและอาหารอร่อยในซอยเอกมัย
The Garret Secret Bistro Bar (เดอะการ์เร็ตซีเคร็ทบิสโทรบาร์) เป็นร้านอาหารสไตล์อเมริกัน ที่พกพาบรรยากาศแสนโรแมนติกมาคู่กันค่ะ ครั้งนี้ออฟได้รับเชิญจากทางร้านให้ไปรีวิวอาหารของทางร้านค่ะ ร้านนี้เป็นร้านที่ถ้าไม่ได้ตั้งใจมาจริงๆ อาจจะหากันยากนิดนึง เพราะว่าร้านอยู่บนชั้น 6 ของโชว์รูมมินิ ในซอยเอกมัยค่ะ เดินทางไม่ยากเท่าไหร่ ใครกำลังมองหาร้านอาหารเอาไว้นัดสังสรรค์กับเพื่อนหรือจะพาแฟนมาเดต ร้านนี้เป็นอีกร้านนึงที่อยากแนะนำค่ะ
บรรยากาศของร้านThe Garret Secret Bistro Bar
เมื่อเดินทางมาถึงที่โชว์รูมมินิแล้วก็ขึ้นลิฟต์มาชั้น 6 เลยค่ะ เดินออกจากลิฟต์ ก็จะเจอตัวร้านเลย ด้านหน้าร้านมีมุมเก๋ๆ ให้ถ่ายรูป พร้อมชื่อร้านและจักรยาน งานนี้ก็เลยต้องขอเก็บภาพแบบสวีตๆ กันไว้บ้างค่ะ
มองผ่านกระจกใสๆของร้านเข้าไป จะเห็นบาร์เครื่องดื่มเป็นศูนย์กลางเลยค่ะ ล้อมรอบด้วยโต๊ะอาหารหลายสไตล์ โดยมีหลายมุมให้เลือกนั่งได้ตามใจชอบค่ะ
โซนที่นั่ง็มีทั้งเก้าอี้ไม้ และโซฟาค่ะ ใครอยากจะนั่งติดริมกระจกมองเห็นวิวข้างนอกก็เลือกนั่งได้เลยค่ะ
ด้านในของร้านจะมีส่วนที่ต่อเติมออกไปและข้างบนเป็นกระจกใสให้เรามองเห็นฟ้ายามค่ำคืน สำหรับคนอยากทานอาหารท่ามกลางแสงจันทร์ แต่ก็ยังไม่ไว้ในฝนว่าจะตกเมื่อไหร่ นั่งมุมนี้ก็ดีค่ะ
ส่วนคอนักดริงค์ทั้งหลายคงจะปลาบปลื้มกับเคาเตอร์เครื่องดื่มที่มีให้เลือกเต็มไปหมดเลยค่ะ งานนี้ออฟขอผ่านเพราะไม่ค่อยถนัดค่า
ส่วนใหญ่คนที่มาทานอาหารของทางร้านจะมุ่งตรงออกไปโซนด้านนอกของร้านที่ให้เรารับลม (ร้อนๆ หรือเย็นๆ นี่ตามสถานการณ์นะคะ) และสูดบรรยากาศด้านนอกซะมากกว่าค่ะ แต่ด้านนอกนี่ก็แล้วแต่วัน และฤดูเหมือนกัน อย่างช่วงนี้ฝนตกบ่อยๆ นั่งข้างนอกอาจจะไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ เดี่ยวฝนตกลงมาตอนกำลังทานอาหาร จะพาเซ็งในอารมณ์กันไปซะเปล่าๆ
เมนูของร้านThe Garret Secret Bistro Bar
เมนูอาหารของทางร้าน มีให้เลือกเป็นเล่มใหญ่เลยค่ะ และข้างในก็อัดแน่นไปด้วยอาหารหลายอย่างเลยทีเดียว แต่ถ้ามาครั้งแรกแนะนำให้ลองสั่งอาหารที่ทางร้านเขียนว่าเป็น Signature ของร้านนะคะ เราจะได้ลิ้มลองอาหารต้นตำรับของทางร้านจริงๆกันค่า
เมนูของหวานจะแยกออกเป็นอีกเล่ม แต่ก็มีให้เลือกหลายอย่างเหมือนกันค่ะ คนที่อยากมีของหวานปิดท้ายให้มื้ออาหารจบแบบสมบูรณ์แบบรับรองไม่ผิดหวังแน่ๆ ค่ะ
เครื่องดื่มที่ทานที่ร้านThe Garret Secret Bistro Bar
GR Vanilla Vojito 290
เมนูเครื่องดื่มสำหรับคนที่อยากทางค็อกเทลแรงกำลังดี ด้วยส่วนผสมของจอห์นนี่ โกลด์ เลเบิล และชิมนามอน รสชาติเปรี้ยวๆ จิบเดียวเท่านั้นที่ออฟลอง ก็เล่นเอาร้อนไปทั้งหน้าเลยค่ะ เห็นสีสวยๆ อ่อนๆ แบบนี้แรงไม่ใช่เล่นเหมือนกันค่ะ
Cranberry Refresher 250
ส่วนเมนูเครื่องดื่มของออฟที่ทางร้านจัดให้เป็นแบบไม่มีแอลกอฮอล์ค่ะ เพราะว่าแจ้งไปแต่แรกแล้วว่าถ้าให้จัดแอลกอฮอล์ตั้งแต่เริ่ม คงทานอาหารไม่จบมื้อแน่ๆ ก็เลยได้แก้วนี้มาทานค่ะ น้ำหวานๆ ทานง่ายๆดีค่ะ
รายการอาหารที่ทานที่ร้านThe Garret Secret Bistro Bar
Potato Skins Nachos 250 บาท
ถึงเมนูอาหารกันบ้างค่ะ เมนูเล่มหน้าอาจจะทำให้ตกใจกันไปบ้าง และสั่งอะไรไม่ถูก แต่ครั้งนี้ที่ออฟมารีวิว ทางร้านเลือกแต่เมนูเด็ดที่น่าทานมาให้ทั้งนั้นเลยค่ะ เริ่มกันด้วย Potato Skins Nachos เมนูนี้หลายคนอาจจะไม่คุ้นเคย (รวมถึงออฟด้วยค่า) ดังนั้นขอเพิ่มเกร็ดความรู้สำหรับเมนูนี้ซักนิดนะคะ เมนูนาโชว์นี่เป็นอาหาร Mexican ที่ปกติจะใช้แป้งกรอบค่ะ โดย อาหารจานนี้คิดค้นขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1943 โดย นายอิกนาซิโอ นาโช อนายา ชายชาวเม็กซิกัน ผู้เบื่อหน่ายกับวิธีการกินแผ่นทอทิลล่าอบกรอบแบบเก่า เขาจึงทดลองนำชีสวิสคอนซินรสเลิศ มาราดลงบนแผ่นทอทิลล่า จนเป็นที่ถูกปากผู้ได้ลิ้มลอง และมีการปรับปรุงสูตรอาหารเรื่อยมา จนปัจจุบันมีนาโชหลากชนิด และได้กลายมาเป็นอาหารประจำ ชาติยอดนิยมทั้งในและนอกประเทศ (ที่มาของประวัตินาโช่)
นาโชส์ของทางร้านใช้มันฝรั่งแบบไม่ลอกเปลือก ผสมกับซัลซ่า ชีส มะเขือเทศหั่นลูกเต๋า ผงเครื่องเทศแม็กซิกัน ทำให้ได้รสชาติจัดจ้านสไตล์แม็กซิกัน ทานแล้วอร่อยดีค่ะ มันฝรั่งเนื้อนุ่มๆ ดี ทานเล่นเป็นของหวาน กินได้เพลินๆ เลยค่ะ
Jumbo Secret Chef Salad 390
เมนูสลัดของสาวๆ ที่เสริฟชามใหญ่มากๆ จนคิดว่าถ้าคนตั้งใจจะมาไดเอต เจอชามแบบนี้เข้าไป คงรับแคลอรี่กันไปเต็มๆค่ะ(ถ้ากินหมดคนเดียว) เมนูนี้เป็นเมนูที่นำผักและผลไม้หลายๆ อย่างมารวมกันค่ะ แต่เมนูนี้ไม่ธรรมดาก้วยการที่มีปลาแซลมอนรมควันมาทานคู่กันด้วยค่ะ
นอกจากนี้ในชามสลัดก็ยังเต็มไปด้วย Mix Berry สดๆ หลายอย่างเลยทีเดียวค่ะ เรียกได้ว่าของสดได้คุณภาพจริงๆ แต่น้ำสลัดแบบน้ำส้มสายชู ถึงแม้ว่าแคลอรี่จะน้อย และรสชาติโดดแรงเอาเรื่องอยู่เหมือนกันค่ะ โดยรวมแล้วเมนูนี้ออฟคิดว่าชามใหญ่เกินไปค่ะ ถ้าไงทางร้านมีให้เลือกแบบไซต์มินิกว่าหน่อยน่าจะดีกว่าค่ะ
Seafood Quesadillas-Pico de Dallo, Avocado Salad 270
เมนูขอเรียกง่ายๆว่าพิซซ่าสไตล์เม็กซิกันนะคะ เป็นอีกเมนูนี่น่าจะโดนใจหลายๆ คน เพราะว่ารสชาติจัดจ้านนิดๆ ทำให้ทานได้ง่ายค่ะ
แผ่นแป้งกรอบกำลังดี ตรงกลางมีชีสอยู่ด้วยค่ะ เวลาทานจะทานแบบไม่ใส่ซอสเพิ่มเลยก็อร่อยดีค่ะ หรือจะทานคู่กับซอสอโวคาโดที่ทางร้านเสิร์ฟมาให้ด้วยก็เข้ากันดีค่ะ
GR Pork Ribs 420
มาถึงเมนูเนื้อกันบ้างค่ะ จานนี้เป็นเนื้อกระดูกซี่โครงหมูค่ะ โดยเมนูนี้เนื้อติดกระดูกนุ่ม หวาน ละลายในปากเลยค่ะ
เห็นชิ้นใหญ่ๆ แบบนี้ไม่ต้องตกใจไปนะคะ เพราะว่ากระดูกตรงกลางก็ใหญ่เหมือนกันค่ะ เวลาทานเนื่องจากเมนูนี้จะมีรสหวานนำ ก็เลยแนะนำให้ทานคู่กับมันฝรั่งที่ทางร้านเสิร์ฟมาให้ด้วยนะคะ จะทำให้ไม่เลียนมากค่ะ
Wagyu Beef Burger 550
เมนูอาหารสไตล์อเมริกันที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือเมนูเบอร์เกอร์ค่ะ ซึ่งทางร้านก็เอาใจคอเนื้อทั้งหลายด้วยการนำเนื้อวากิวมาใส่ในเมนูนี้ให้ด้วยค่ะ เป็นเบอร์เกอร์ที่อลังการพอสมควรเลย เมือลองดูแนวตั้งของเบอร์เกอร์ชิ้นนี้แล้วจะเห็นว่าสูงเอาเรื่องเลยค่ะ
มีทั้งผัก ทั้งชีส เนื้อวากิวชิ้นใหญ่ และขนมปังประกบหนาเหมือนกัน ยังดีที่ทางร้านหั่นมาให้ค่ะ เวลาทานเบอร์เกอร์ให้อร่อย ให้บีบทั้งหมดแล้วกัดให้โดนทั้งหมดนะคะ จะได้รับรสชาติของเมนูนี้ได้อย่างเต็มที่ งานนี้ปากกว้างเลยค่ะ เนื้อวากิวของทางร้านไม่ทำให้ผิดหวังค่ะ เหนียวนุ่ม ชุ่มมันดีทีเดียว นอกจากนี้เฟรนช์ฟรายของทางร้านก็ทานอร่อยดีค่ะ
Angel Hair 290
เมนูพาสต้าของทางร้าน แนะนำให้สั่ง Angel Hair ค่ะ จริงๆ เส้นแบบ Angel Hair เป็นที่โปรดปรานของออฟและไผ่อยู่แล้ว ด้วยความที่เส้นเล็กจะเข้ากับเครื่องปรุงได้ง่าย และมีรสชาติกลมกล่อม ซึ่งเมนูของทางร้านก็ลงตัวมากๆค่ะ
เมนูนี้ไม่เลี่ยนด้วยการนำเส้นไปผัดกับกระเทียม พริก เห็ด แล้วโรยหน้าด้วยไข่กุ้ง พร้อมตกแต่งด้วยไมครอน เจ้าผักน้อยๆ ที่ดูเก๋มากๆค่ะ ทานแล้วรสชาติโอเคเลยค่ะ
Dessert Plateau 570
ปิดท้ายกันด้วยเมนูของหวานจานใหญ่ เหมาะสำหรับกลุ่มเพื่อนที่มาตั้งแต่ 4 คนขึ้นไปนะคะ เพราะว่าเยอะเหมือนกัน ในจานประกอบด้วย ช็อกโกแลตลาวา พานาค็อตต้า และทีรามิสุค่ะ
เมนูMolten Chocolate Cake หรือช็อกโกแลตลาวา เข้มข้นโดนใจคนชอบทานช็อกโกแลตมากๆค่ะ เมื่อตัดแล้ว ลาวาด้านในก็ไหลทะลักออกมาเลยค่ะ ทานคู่กับขนมปังกรอบก็เข้ากันดีค่ะ
เมนู Wild Beery Panna Cotta เป็นเมนูของหวานที่ออฟชอบมากที่สุดค่ะ และคิดว่าสาวๆ ก็น่าจะโดนใจกันไม่น้อยเหมือนกัน ปกติแล้วเมนูพานาค็อตต้าจะออกนมๆ เกินไปหน่อย แต่สำหรับของทางร้านนี้จะมีชั้นเบอร์รี่แทรกอยู่ตรงกลาง และเสริฟพร้อมกับเบอร์รี่สด และไอศกรีมเบอร์รี่ชอร์เบท ที่เปรี้ยวกำลังดีค่ะ ทานคู่กันแล้วลงตัวมากๆ
เมนูของหวานสุดท้ายเป็นทีรามิสุค่ะ ทานร้านมีการตกแต่งแบบเก๋ๆ ด้วยการนำเลดี้ฟิงเกอร์ ก็เจ้าขนมปังแท่งๆ ที่อยู่รอบๆ แหละค่ะ มาประดับรอบๆ ปกติแล้วเวลาทำเค้าจะให้เลดี้ฟิงเกอร์เป็นฐานกันไม่ค่อยเอามาประดับแบบนี้ก็ดูเก๋ดีค่ะ รสชาติกลมกล่อมดี มีกาแฟนิดๆ รัมหน่อยๆ เพิ่มความหวานด้วยครีม ทานแล้วจะไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ
บทสรุปจากการทานที่ร้านThe Garret Secret Bistro Bar (เดอะการ์เร็ตซีเคร็ทบิสโทรบาร์)
- สรุปแล้วร้านนี้ถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่อยากจะหาร้านมานั่งฟังเพลง ทานอาหารอร่อยๆ และบรรยากาศดีค่ะ
- อาหารมีให้เลือกหลายอย่างมากๆ
- ราคาอาหารค่อนข้างแพงเหมือนกัน แต่ก็อยู่ในระดับเดียวกับร้านประเภทเดียวกันอยู่
- การเดินทางไม่ค่อยยากเท่าไหร่ ถ้าขับรถมาทางร้านมีที่จอดนะคะ
- ถ้ามาช่วงหน้าหนาวน่าจะโอเค เพราะว่ามีส่วนที่เปิดโล่งให้รับลมหนาว ด้านนอกด้วยค่ะ
Gallery จากร้านThe Garret Secret Bistro Bar
ข้อมูลทั่วไปของร้านThe Garret Secret Bistro Bar
ที่อยู่ : 99/99 ซอยสุขุมวิท 63 (เอกมัย 7) อาคาร ชั้น 6 โชว์รูมมินิ ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110
เบอร์โทรศัพท์ : 027116999
เว็บไซต์ : www.thegarretbistrobar.com
facebook : https://www.facebook.com/thegarret.secretbistrobar
วันและเวลาเปิดปิดทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 11.30 - 14.30 น. และ เวลา 18.00 - 24.00 น.
การเดินทาง :จากถนนสุขุมวิท ตรงไปทางซอยสุขุมวิท 63 (เอกมัย) จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอย และตรงไปจนเจอซอยเอกมัย 5 เลยไปจะเห็นอาคารโชว์รูมมินิ ร้าน The Garret Secret Bistro Bar อยู่ที่ชั้นดาดฟ้า อาคารโชว์รูมมินิระหว่างซอยเอกมัย 5 -เอกมัย 7
ที่จอดรถ : สามารถจอดรถได้ที่อาคารโชว์รูมมินิ
Leave a comment