รีวิวโดนใจ >> Shori Sushi House (โชริซูชิเฮ้าส์) ร้านซูชิ หลากเมนูอร่อย เนื้อแน่นเต็มคำ ย่านอโศก
Shori Sushi House (โชริซูชิเฮ้าส์) เป็นร้านซูชิย่านสุขุมวิท ที่อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินเพชรบุรีเท่าไหร่ ร้านนี้ไผ่ตามรีวิวคนอื่นมาทานแล้วติดใจมากค่ะ ก็เลยพาออฟมาลองทานบ้างค่ะ
บรรยากาศของร้านShori Sushi House (โชริซูชิเฮ้าส์)
ร้านอยู่ชั้นล่างของอาคาร Sukhumvit Living Town ค่ะ เป็นร้านซูชิสไตล์โมเดิร์นหน่อยค่ะ ในร้านมีส่วนที่เป็นเคาเตอร์บาร์ และโต๊ะ มีก๊อซซิลล่า 7 สี 7 ตัวด้วยค่ะ ชอบการแต่งร้านที่เอาขวดเหล้ามาทำเป็นโคมไฟด้านบนค่ะ
คนที่อยากนั่งทานหน้าเคาเตอร์ เพื่อดูเชฟปั้นซูชิกันแบบติดขอบกันเลยค่ะ
เมนูของร้านShori Sushi House (โชริซูชิเฮ้าส์)
เมนูของร้านเป็นแบบกระดาษแข็งมีรูปแต่ละเมนูให้ดูด้วยค่ะ มีข้าวปั้นให้เลือกหลายอย่างไล่ไปตั้งแต่ปลาธรรมดา จนหน้าแบบพิเศษต่างๆ นอกจากนี้ก็ยังมีแบบมากิ, แบบโรล และ Don-Buri ด้วยค่ะ
รายการอาหารที่สั่งที่ร้านShori Sushi House (โชริซูชิเฮ้าส์)
Tamago Sashimi 160
เมนูหลักของออฟที่จะสั่งทุกครั้งที่มาทานร้านซูชิคือ ไข่หวานค่ะ และครั้งนี้ไผ่ก็รู้ใจสั่งมาให้เลยค่ะ ทางร้านเสริฟมาในจาน 8 ชิ้นด้วยกันค่ะ ไข่หวานของร้านนี้หวานกำลังดีค่ะ และไม่เย็นมากด้วย โดนใจเอาเรื่องอยู่เหมือนกันค่ะ
Saba 40
ข้าวปั้นหน้าปลาซาบะของทางร้านไม่แห้งๆ เหมือนร้านอื่นๆค่ะ เนื้อปลาชุ่มฉ่ำทานคู่กับข้าว จิ้มโชยุนิดๆ เข้ากันดีมากค่ะ
Salmon 50
เมนูข้าวปั้นที่ขาดไม่ได้เลยในการมาทานร้านซูชิก็คือข้าวปั้นหน้าปลาแซลมอนค่ะ ลวดลายไขมันบนเนื้อปลาแซลมอนสวยดีค่ะ ปลาชิ้นใหญ่บนข้าวญี่ปุ่น เต็มปากเต็มคำมากๆค่ะ
Enkawa 100
Enkawa Sushi หรือครีบหลังของปลาตาเดียว เมนูนี้ทางร้านเสริฟแบบกริลนิดๆค่ะ คำนี้ไผ่ชอบสั่งมาลองแทบทุกร้านซูชิเลยค่ะ ไผ่บอกว่ากินแล้ว หวาน ชุ่มฉ่ำและอร่อยมากค่า
Anago 100
ข้าวปั้นหน้าปลาไหลของทางร้านถูกใจออฟมากๆค่ะ เมนูนี้จะเป็นเมนูแนะนำจากออฟสำหรับคนที่อยากทานซูชิ แต่ไม่ทานปลดิบค่ะ เนื้อปลาไหลญี่ปุ่นเข้มข้นและเค็มกำลังดีค่ะ
Akami 120
Akami คือส่วนเนื้อแดง หรือส่วนที่แทบไม่มีไขมันเลย ของปลา Maguro หรือ Bluefin Tuna ข้าวปั้นคำนี้ชิ้นปลาเนื้อหนาดีทีเดียว แถมเนื้อปลาชิ้นใหญ่กลบข้าวแทบหมดเลยค่ะ
Kinmedai 220
ปลาคินเมได (Kinmedai) หรือ ปลากะพงแดง เมนูนี้เป็นข้าวปั้นที่ออฟว่าทานแล้วแปลกๆ หน่อยค่ะ คงเพราะหนังปลากระพงมันกรุบๆ แปลกๆละมั้งคะ
Cyu-Toro 250
Chu-toro คือส่วนทีถัดจาก O-toro ส่วนนี้จะมีมันน้อยกว่า O-toro แต่ก็ยังถือว่ามีมันแทรกมากพอสมควร ทานแล้วจะรู้สึกเหมือนเนื้อละลายในปากเลยค่ะ
O-Toro 400
O-toro คือส่วนท้องของปลา สว่นนี้เป็นส่วนที่มีมันมากและมีราคาสูงที่สุด ซึ่งงานนี้ขอบอกว่าด้วยความอยากลองซักครั้งในชีวิตจริงๆค่ะ ทำให้ยอมควักกระเป๋าตังจ่ายซููชิคำละ 400 บาทได้
โดยเมื่อทานแล้วพบว่ามันเยอะจริงๆค่ะ เนื้อนุ่มละลายในปากเลย แต่ออฟว่ามันมากไปหน่อยค่ะ ชอบแบบชูโทโร่ก็พออะค่ะ
การทานอาหารที่ร้านShori Sushi House (โชริซูชิเฮ้าส์)
พอเริ่มสั่งอาหารพนักงานก็จะเอาจาน โชยุ ตะเกียบ ถ้วยน้ำจิ้ม และซุปใสใส่ด้วยมาให้ทานด้วยค่ะ
จากนั้นก็เริ่มสั่งซูชิที่อยากทานกันได้เลยค่ะ ครั้งนี้มาทานกับไผ่แค่สองคน ก็เลยไม่ได้สั่งเยอะมากค่ะ
ใบเสร็จจากร้านShori Sushi House (โชริซูชิเฮ้าส์)
บทสรุปจากการทานที่ร้านShori Sushi House (โชริซูชิเฮ้าส์)
- เป็นร้านซูชิที่จะแนะนำให้คนที่อยากทานซูชิ และพร้อมจ่ายให้กับปลาคุณภาพดี และสดมาลองกันค่ะ
- มีเมนูให้เลือกเยอะดี มีรูปให้ดูด้วย
- การเดินทางไม่ลำบากเท่าไหร่ เพราะใกล้กับรถไฟฟ้าใต้ดิน
- พนักงานดูแลดีทีเดียวค่ะ และมาตรฐานความหล่อของพนักงานที่นี่สูงทีเดียว
- ราคา และคุณภาพพอๆ กับร้านซูชิมาสะเลยค่ะ
Gallery จากร้านShori Sushi House (โชริซูชิเฮ้าส์)
ข้อมูลทั่วไปของร้านShori Sushi House (โชริซูชิเฮ้าส์)
ที่อยู่ : 299/5 ซอยสุขุมวิท 21 อาคาร Sukhumvit Living Town ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110
เบอร์โทรศัพท์ :021691532
อีเมล์ : shorisushihouse@gmail.com
เว็บไซต์ :www.facebook.com/shorisushi
วันและเวลาเปิดปิดทำการ :เปิดทุกวัน เวลา 11.00 - 23.00 น.
การเดินทางจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีเพชรบุรี Phetchaburi Station ใช้ทางออกที่ 2 ถนนอโศกมนตรี ตรงไปที่ Sukhumvit Living Town จะเห็นร้าน Shori Sushi House
ที่จอดรถ : ลานจอดรถของ Sukhumvit Living Town
Enkawa Sushi หรือครีบหลังของปลาตาเดียว
Leave a comment