[Movie] Surrogates : คนอึดฝ่านรกโคลนนิ่ง

Surrogates : คนอึดฝ่านรกโคลนนิ่ง หนังแอกชั่น-ไซไฟ ที่นำเราไปสู่โลกแห่งอนาคตที่เหมือนจะอยู่ไกล ในการเชื่อมต่อทุกสิ่งทุกอย่างและใช้หุ่นยนต์ในการดำเนินชีวิตแทน โดยคนควบคุมเพียงนอนอยู่กับบ้าน ดูเหมือนจะห่างไกลจากความเป็นจริงไปมาก แต่ไม่แน่เทคโนโลยีเหล่านั้นจะมามีบทบาทสำคัญต่อชีวิตประจำวันเราก็ได้ อนาคตเราจะใช้ชีวิตยังไง แล้วมันจะ”ดี” จริงๆหรือไม่ต้องลองไปดูเองค่า

บทนำก่อนเข้าเรื่อง

ถ้าเป็นคอหนัง (ชอบดูภาพยนตร์) ก็คงรู้จักชายหนุ่มที่ชื่อ “บรูซ วิลลิส” เป็นอย่างดี ด้วยเค้าฝากผลงานที่โดนใจผู้ชมทั่วโลกผ่านภาพยนตร์มามากมายมานับไม่ถ้วนอาทิเช่น Die Hard, The Sixth Sense หรือ Armageddon ซึ่งออฟก็บอกได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่าเค้าเป็นหนึ่งในนักแสดงนำฝ่ายชายที่เป็นแม่เหล็กดูดคนเข้าโรงได้ดีจริงๆ แบบว่าแค่เค้าร่วมแสดงด้วย หนังเรื่องนั้นก็จะมาอยู่ในลิสต์ “น่าดู” ของออฟเลยทีเีดียว

เรื่อง Surrogates : คนอึดฝ่านรกโคลนนิ่ง นี่ก็เหมือนกัน พอเห็นโปสเตอร์กับตัวอย่างหนังเท่านั่นแหละ ก็คิดว่าจะต้องไม่พลาดหนังเรื่องนี้แ่่น่นอน และก็เป็นไปตามนั้นเพราะว่าไปเสียตังดูมาเรียบร้อยแล้วค่า

เรื่องย่อของ Surrogates คนอึดฝ่านรกโคลนนิ่ง

ในอนาคตอันใกล้นี้ เมื่อมีการพัฒนาเทคโนโลยีถึงขีดสุด มนุษย์ทุกคนก็สามารถจะใช้ชีวิต ความนึกคิด และการกระทำโดยผ่านทางหุ่นยนต์ได้ โดยจะทำให้ลดความเสี่ยงในการใช้ชีวิต เพราะไม่ว่าคุณจะเกิดอุบัติเหตุ รถชน หรือว่าถูกยิง ก็ไม่ทำให้คุณ “ตาย” ไปจากโลกแห่งความจริงได้ ผู้คนมากมายนอนควบคุมหุ่นยนต์หรือ Surrogates อยู่ที่บ้าน และสามารถที่จะเลือกซื้อหุ่นให้มีรูปร่าง หน้าตา สีผม เป็นอย่างไรก็ได้ ปัญหาต่างๆลดลงจนแทบเป็นศูนย์ การฆาตกรรมลดลง ความเสี่ยงในการใช้ชีวิตลดลง

จุดเริ่มต้นของปัญหาเกิดขึ้นเมื่อมีอาวุธที่มีอนุภาพในการทำลายคนที่ควบคุม Surrogates ให้เสียชีิวิตในขณะเชื่อมต่อกับ Surrogates ได้ทำให้ FBI “เกียร์ ” (บรูซ วิลลิส) และคู่หูสาวสวยเข้ามาตรวจสอบการฆาตกรรมซึ่งจะส่งผลให้สมมติฐานการใช้ Surrogates ที่ว่า “คุณจะปลอดภัยเมื่อใช้ Surrogates ” ถูกลบล้างไปได้เลย

เบื้องหลังของการฆาตกรรมและอาวุธจะเป็นอย่างไร ผู้คนจะต้องถูกทำลายโดยอาวุธนั้นหรือไม่ แล้วมนุษยชาติจะดำรงอยู่อย่างไร ต้องไปลองติดตามเองนะคะ

ความรู้สึกครึ่งๆ กลางๆ หลังจากดูหนังSurrogates คนอึดฝ่านรกโคลนนิ่ง

ที่บอกว่ารู้สึกครึ่งๆ กลางๆ จากการดูหนังเรื่องนี้ละก็คงเป็นเพราะว่าความรู้สึกหลังจากดูหนังมันไม่แน่ชัดเท่าไหร่ ถ้าบอกว่านี่เป็นหนังแอคชั่น ก็ไม่ได้มีฉากต่อสู้ที่เร้าใจและสร้างความตื่นเต้น, ถ้าบอกว่าเป็นหนังดราม่า ที่ชี้ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของมนุษย์ที่ลดลงและสามารถทำตามใจตัวเองได้มากขึ้นผ่าน Surrogates ก็ยังไม่ถึงกับจะเรียกได้ว่า “ใช่” เพราะงั้นออฟเลยไม่แน่ใจว่าจะแนะนำให้คนอื่นไปดูดีรึเปล่า

ความยาวของหนังเรื่องนี้ประมาณชั่วโมงกว่าทำให้รู้สึกว่ายังไม่ค่อยเต็มอิ่มเท่าไหร่ ถึงแม้จะมีบางฉากที่หักมุมไปจากที่คิด แต่ก็ยังรู้สึกขัดๆ ยังไงก็แนะนำให้ไปดูตอนกลางวันของวันพุธละกันนะคะ (SF=40 บาืท, Major = 6o บาืท) จะได้ไม่รู้สึกเสียดายเงินมากนักถ้าออกมาแล้วไม่ประทับใจ