รีวิวโดนใจ >> Jousen Yakiniku & Bar : โจเซ็น บุฟเฟ่ต์เนื้อย่างแบบพรีเมี่ยมในราคาสุดคุ้ม

Jousen_077

Jousen (โจเซ็น) เป็นร้านบุฟเฟ่ต์เนื้อย่างแบบยากินิคุน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน แต่เปิดตัวแรงแซงทางโค้งด้วยการเพิ่มระดับความพรีเมี่ยมเข้ามาในราคาสุดคุ้มมากขึ้น โดยครั้งนี้ออฟได้รับเชิญให้มารีวิวโจเซนที่ สาขา Mercurry Ville ติดกับ BTS ชิดลม ครั้งนี้จะโดนใจแค่ไหนตามกันไปเลยค่า

บรรยากาศของร้านJousen (โจเซ็น)

Jousen_030หลังจากเลิกงานเหนื่อยๆ การได้ทานเนื้อย่างแบบบุฟเฟ่ต์นั้น เป็นกิจกรรมที่เดี่ยวนี้หลายๆ คนโปรดปรานเป็นอย่างมาก บางครั้งบางช่วงออฟถึงขนาดเสพติดการไปกินเนื้อย่าง แบบลืมแคลอรี่ และน้ำหนักที่ได้ตามมาเลยค่ะ ครั้งนี้เมื่อเดินทางมาถึงรถไฟฟ้าชิดลมแล้วก็ให้เดินมาออกที่ทางออกที่ 4 จะมีทางเชื่อมเข้าไปยัง ตึก  Mercurry Ville แล้วก็ขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้น 2 ก็จะเจอร้านโจเซ็นแล้วค่า
Jousen_003โลโก้ของร้านนี้ให้ความขึงขังและดูมีพลังมากเลยค่ะ
Jousen_092เข้ามาในร้านก็จะเจอกับบรรยากาศที่ดูคลาสสิคและขรึมๆ หน่อย โดยเน้นไปใช้โทนสีดำเป็นหลัก และมีการใช้สีเขียวตกแต่งเพื่อเพิ่มความสดชื่น
Jousen_091ร้านมีหลายสไตล์เลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นห้องส่วนตัวที่ถ้ามากับกลุ่มเพื่อนๆ นี่คิดว่าได้ห้องส่วนตัวก็จะได้ไม่รบกวนคนอื่นๆ มีทั้งและโต๊ะที่ถ้าไมได้มาเยอะมากก็นั่งกันสะดวกดี
Jousen_082

หรือคนที่มาเดี่ยวหรือเป็นคู่จะเลือกนั่งแบบเคาเตอร์ก็เก๋กันไปอีกแบบค่ะ ตัวร้านค่อนข้างใหญ่ มีโต๊ะเยอะ แต่ด้วยการจัดร้านทำให้ดูไม่แน่นเกินไป ไม่ต้องคอยดูว่าเก้าอี้จะชนใครรึเปล่าค่ะ แถมยังมีทางเดินให้พนักงานเข้ามาเสิร์ฟอาหารแบบสบายๆ ด้วย

เมนูของร้านJousen (โจเซ็น)

Jousen_033

เมนูของร้านนี้โดนใจออฟมากทีเดียวค่ะ เริ่มต้นจากเค้ามีบุฟเฟ่ต์สุดคุ้มให้เลือก 2 ราคา ทั้งบุฟเฟ่ต์ แบบธรรมดา ราคา 489 บาท และบุฟเฟ่ต์แบบพรีเมี่ยม ราคา 689 บาท แถมยังมีอาหารแบบ A La Carte ให้เราสั่งเพิ่มได้อีกด้วย นอกจากนี้ในเมนูจะมีสัญลักษ์บอกว่าเมนูไหนอยู่ในกลุ่มใด แถมเอาใจสาวๆ ด้วยการบอกระดับพลังงานให้ด้วยค่ะ งานนี้ถ้าตอนเช็คบิลแล้วเค้าบอกค่าพลังงานเฉลี่ยของแต่ละคนที่ได้รับเข้าด้วยนี่จะเจ๋งสุดๆ
Jousen_006เมนูของทางร้านก็หรูหราด้วยการมีภาพชัดเจนของอาหารแต่ละอย่าง มีสามภาษาให้เลือกอ่านไม่ว่าจะเป็นไทย อังกฤษ หรือจีน
Jousen_007เมนูที่มีให้เลือกก็มีหลายอย่างมากเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเมนูเนื้อนี่ก็กินไปหลายหน้าแล้ว เมนูอาหารทะเลก็แปลกใหม่และมีของน่าทานหลายอย่างที่ร้านอื่นๆ ไม่มี
Jousen_008

เมนูของผัก และเครื่องเคียง รวมไปถึงเครื่องดื่มก็มีให้เลือกเยอะทีเดียวค่ะ

รายการเนื้อ A La Carteที่ทานที่ร้านJousen (โจเซ็น)

สำหรับเนื้อพรีเมี่ยมนี่ถ้าต้องการสั่งสามารถสอบถามราคากับพนักงานได้ก่อนเลยค่ะ โดยหลักๆ แล้วเค้าจะมีชิ้นเนื้อที่ตัดไว้แล้ว เราก็เลือกก่อนว่าอยากจะกินเนื้ออะไร แล้วเค้าก็จะเอาชิ้นเนื้อมาให้เลือกค่ะ ว่าเราต้องการขนาดประมาณไหน โดยราคาก็จะขึ้นอยู่กับน้ำหนักของเนื้อที่เลือกเลยค่ะ

เนื้อโอมิ 1,056 บาท

Jousen_065

เนื้อโอมินี่จะเป็นเนื้อที่ได้จากวัวที่ถูกเลี้ยงในเมืองโอมิค่ะ โดยจุดเด่นของเนื้อโอมิก็คือ ความฉ่ำนุ่ม และลวดลายของเนื้อเป็นลายหินอ่อนที่มีเนื้อและไขมันแทรกกันได้อย่างลงตัว หลังจากการทานพบว่าเนื้อโอมิโดดเด่นในเรื่องของความนุ่มค่ะ แต่ว่ายังขาดรสชาติของความเป็นเนื้อไปหน่อย คงเพราะรสชาติมันนุ่มละมุนนั่นเองค่ะ

Jousen_068

ก่อนทานก็ใช้แปรงจุ่มกับน้ำซอสที่เสิร์ฟมาคู่กัน แล้วบรรจงทาลงบนเนื้อด้วยความละเมียดลไมให้สมกับที่เนื้อนี้ขึ้นชื่อว่าจะเสิร์ฟให้เฉพาะขุนนางชั้นสูงเท่านั้นค่ะ หลังจากนั้นก็เคลียร์เตาให้หมด แล้วค่อยวางเนื้อทีละชิ้นตรงกลางเตา ค่อยดูแลเป็นอย่างดี พอด้านนึงเริ่มสุกให้กลับด้านเนื้อเลยค่ะ อย่ากลับหลายครั้ง และไม่ต้องรอให้เนื้อสุกจนแห้งมากด้วยนะคะ เดี่ยวจะเหนียว และเสียรสชาติของเนื้อไป

Jousen_078d

เนื้อโกเบ 1,120 บาท

Jousen_073

ต่อกันด้วย“เนื้อโกเบ” หรือ Kobe Beef  ซึ่งเป็นเนื้อที่คอเนื้อทั้งหลายคุ้นหู และอยากลิ้มลองความอร่อยกันทั้งนั้นค่ะ เนื้อที่ส่งตรงมาจากเมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่นนี้นั้นอร่อยจนได้ชื่อว่าเป็น Queen of Beef กันเลยทีเดียว ซึ่งในการทานครั้งนี้ออฟก็ชอบเนื้อโกเบมากสุดค่ะ คงเพราะว่ามีไข่มันกำลังดี เวลาทานได้รสชาติของเนื้อเต็มๆคำ งานนี้อร่อยแบบไม่ต้องจิ้มอะไรเพิ่มเลยค่ะ

Jousen_076

เนื้อมัตซึซากะ 2,160 บาท

Jousen_060ปิดท้ายกันด้วยราชาแห่งเนื้อกันกับ เนื้อมัทสึซากะ (Mutsuzaka beef) ค่ะ สังเกตได้ชัดเลยค่ะว่าเป็นเนื้อที่มีไขมันแทรกอยู่เยอะมาก ดังนั้นเวลาย่างก็จะมีไขมันหยดลงไปบนเตา ส่งผลให้ไฟลุกฮือขึ้นมาอย่างแรงเลยค่ะ เป็นการย่างที่สร้างความตื่นตาตื่นใจมาก
Jousen_079งานนี้ห้ามตกใจนะคะ เพราะเนื้อแพงต้องดูแลเป็นอย่างดี ดังนั้นต้องระวังไม่ให้สุกเกินไป จนไหม้ค่ะ สำหรับออฟแล้วราชาแห่งเนื้อ “มัตสึซากะ Matsusaka Beef”  ดูจะมันมากไปหน่อยค่ะ แต่ถ้าใครชอบรสสัมผัสที่มีไขมันทุกอณูก็น่าจะโดนใจกับเนื้อนี้มากเลยค่ะ

รายการเนื้อบุฟเฟ่ต์ที่ทานที่ร้านJousen (โจเซ็น)

Jousen_093

มาดูเมนูเนื้อที่ทานในครั้งนี้กันบ้างค่ะ สั่งกันไปแบบรัวๆ ไม่ว่าจะเป็น บริสเกต, คารูบิ,ลิ้นวัว, เนื้อมหักซอสโจเซน, เนื้อแกะ, เนื้อ US shoulder, เบคอนพรีเมี่ยม ซึ่งเนื้อแต่ละอันของที่นี่ก็ถือว่าทำได้ดีเลยค่ะ สไลด์มาหนากำลังดี ในถาดนึงก็ให้ปริมาณเหมาะสม ไม่น้อยเกินไป รสชาติเนื้อก็นุ่ม และไม่เหนียวมากดีค่ะ

รายการอาหารทะเลที่ทานที่ร้านJousen (โจเซ็น)

Jousen_037สำหรับอาหารทะเลของที่นี่นั้นที่เด็ดๆ ออฟว่าเป็นปูนิ่มค่ะ เพิ่งเคยกินปูนิ่มย่างในร้านบุฟเฟ่ต์แบบนี้เป็นครั้งแรก แถมรายการนี้ยังอยู่ในเมนูบุฟเฟ่ต์อีกด้วยค่ะ ไม่ต้องจ่ายราคาพรีเมี่ยม แต่ได้เมนูแบบนี้เด็ดมากเลยค่ะ
Jousen_080นอกจากนี้ก็ได้สั่งกุ้งแม่น้ำมาทานด้วยค่ะ นี่ก็เป็นหนึ่งในเมนูบุฟเฟ่ต์เหมือนกัน ในจานนึงมี 5 ตัวค่ะ ไม่รู้เค้านับตัวตามคนมาให้รึเปล่า แต่เนื้อกุ้งก็สดดีค่ะ สำหรับคนที่สั่งเมนูบุฟเฟ่ต์นั้น สามารถสั่งหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์, ปลาแซลมอนนอร์เวย์, ปลาหมึกจากฮอกไกโดและปลากระพง ได้ด้วยนะคะ
Jousen_038ต่อกันด้วยหอยเชลล์ไทยซึ่งเป็นหนึ่งในรายการเมนูพรีเมี่ยมกันบ้างค่ะ อันนี้ก็แปลกใหม่ดี เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำแข็ง  ตัวใหญ่ใช้ได้เลยค่ะ จิ้มกับซีฟู๊ดก็อร่อยไปเลยค่ะ
Jousen_047

สำหรับเมนูพรีเมียมครั้งนี้ก็ได้ลองสั่ง  ปูซุไว Hokkaido Zuwai Crab มาทานค่ะ ซึ่งตอนแรกที่เห็นก็เอาลงเตาไปเลย ทำให้รู้ว่าอันนี้กินได้เลยนะคะ ไม่ต้องเอาไปย่างแล้ว เพราะว่ามันสุกอยู่แล้วค่ะ ถ้าเอาไปย่างอีกมันจะแห้งมากไปค่ะ แต่โดยรวมแล้วออฟว่าปูซุไวนี่เนื้อน้อยไปหน่อยค่ะ

รายการอาหารญี่ปุ่นที่ทานที่ร้านJousen (โจเซ็น)

Jousen_043เมนูอาหารญี่ปุ่นของที่นี่นั้น นึกว่ามาทานในร้านซูชิญี่ปุ่นแท้ๆ กันเลยทีเดียวค่ะ ใครจะคิดว่าในร้านเนื้อย่างแบบนี้จะมีการเสิร์ฟเมนูอาหารญี่ปุ่นที่เยอะและน่ากินขนาดนี้ อย่างจานด้านบนเป็นเมนูซาชิมิรวม (Premium) ซึ่งจัดเรียงซาชิมิมาให้หลายอย่างไม่ว่าจะเป็น ปลาแซลมอน ปลาซาบะ  ปลาทูน่า กุ้ง ปูอัดอลาสก้า ไข่หวาน เต็มจานมากๆค่ะ
Jousen_016หรือใครอยากจะสั่งซาชิมิแซลมอน (Premium) มากินให้เต็มที่ก็สั่งแยกได้นะคะ
Jousen_044

คอข้าวปั้นทั้งหลายไม่ต้องเสียใจนะคะ เพราะทางร้านมีข้าวปั้นเป็นเซตให้เลือกทานด้วยค่ะ แต่ถ้ากินแบบบุฟเฟ่ต์ก็สามารถสั่งข้าวปั้นหน้าปลาแซลมอน, หน้าไข่หวาน, ปูอัดอลาสก้า, ปลาซายะ, หน้าสาหร่าย ได้ด้วยนะคะ

รายการของทานเล่นที่ทานที่ร้านJousen (โจเซ็น)

Jousen_096

เมนูของทานเล่นที่นี่ก็แตกต่างทั้งปริมาณและคุณภาพ รวมไปถึงความหลากหลายกับร้านอื่นๆ พอสมควรเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเกี๊ยวซ่าที่หมูอัดแน่น เรียงมาเต็มจาน, เมนูไข่หวานที่อร่อยกว่าร้านซูชิหลายๆร้าน , เมนูเทมปุระที่กรอบกำลังดี และที่ต้องลองเป็นเมนู ไข่แดงเทมปุระ Yolk Tempura (Buffet) เสิร์ฟมาบนหมี่ทอดกรอบ ซึ่งงานนี้กินแล้วจะฟินไปเลยทีเดียวค่ะ

รายการของหวานที่ทานที่ร้านJousen (โจเซ็น)

Jousen_095

รายการของหวานก็ยกระดับความพรีเมี่ยมกันเข้าไปอีก อย่างผลไม้ก็เป็นแอปเปิ้ล, แตงโม, แคตาลูป, สัปปะรดค่ะ แต่เมนูของหวานที่อยากให้ลองมากๆ เป็นเมนู โมจิค่ะ เป็นความแตกต่างที่ทำได้ดีทีเดียว มีหลายรสชาติให้เลือกทานไม่ว่าจะเป็น คัสตาร์ด สตอร์เบอรี่ งาดำ และชาเขียวค่ะ นอกจากนี้ยังห้ามพลาดกับไอศกรีมชาเขียว ที่รสชาติเข้มข้นมากจริงๆ ไม่ใช่ไอศกรีมนมใส่รสชาเขียวแบบที่อื่น และสาวๆ ที่อยากจะปิดท้ายแบบเบาๆ ก็สั่งฟรุ๊ตสลัดมาทานก็ได้ค่ะ เป็นการปิดท้ายรายการที่ฟินได้อีกค่ะ

รายการเครื่องดื่มที่ทานที่ร้านJousen (โจเซ็น)

Jousen_097

เครื่องดื่มของทางร้านมีให้เลือกเยอะมากค่ะ ไม่ว่าจะเป็นกาแฟเย็น, ชานมเย็น, ชามะนาว, ชาเขียวเย็น, ชาเขียวร้อน, น้ำพันช์, น้ำกีวี, น้ำอัดลมต่างๆ รวมไปถึงถ้าสั่งแบบ A la carte ก็สามารถสั่งน้ำปั่นต่างๆ ทานได้ด้วยค่ะ

การทานอาหารที่ร้านJousen (โจเซ็น)

Jousen_032การทานอาหารที่ร้านโจเซ็นในครั้งนี้นั้นขอบอกว่าขนาดเตรียมท้องมาเป็นอย่างดีแล้ว ก็ยังไม่พอที่จะอัดความอร่อยของอาหารที่นี่เข้าไปได้หมดค่ะ มีหลายเมนูที่อยากจะสั่งมาทานแต่ว่ากินไม่ไหวแล้วเยอะมากๆ เพราะที่นี่มีเมนูอาหารให้เลือกเยอะมากจริงๆ และก็แตกต่างจากที่อื่นทำให้อยากลองไปหมดเลยค่ะ
Jousen_040เตาย่างก็ต้องชมว่ามีขนาดใหญ่กำลังดี เพราะโต๊ะสำหรับนั่ง 6 คนนั้นถ้าเตาเล็กไปจะทำให้แย่งกันทานค่ะ แต่ที่นี่ไม่ต้องห่วงเพราะว่าเตาใหญ่ใช้ได้เลย แล้วถ่านก็ไฟแรงดีไม่มีตกด้วย แถมยังมีพนักงานคอยเปลี่ยนตะแกรงและเติมถ่านให้อีกด้วยค่ะ
Jousen_056

ใบเสร็จจากร้านJousen (โจเซ็น)

Jousen_029

ครั้งนี้ไปรีวิวกัน 5 คนค่ะ เลือกทานแบบพรีเมี่ยมและสั่งเมนู A la carte มาทานด้วย ถ้านับเฉพาะบุฟเฟ่ต์พรีเมี่ยมอย่างเดียวก็ตกคนละ 689 บาทต่อคนค่ะ

บทสรุปจากการทานที่ร้านJousen (โจเซ็น)

  • เป็นร้านบุฟเฟ่ต์ที่น่ามาลองด้วยค่ะ ยกนิ้วให้กับคุณภาพของเนื้อ ความหลากหลายของเมนู และการให้บริการ
  • มีอาการตกหล่น และรายการขาดไปบ้าง อันนี้อาจจะต้องปรับกันต่อไปค่ะ
  • ราคาถือว่าโอเคอยู่ บุฟเฟ่ต์ แบบธรรมดา ราคา 489 บาท และบุฟเฟ่ต์แบบพรีเมี่ยม ราคา 689 บาท แถมยังมีอาหารแบบ A La Carte ด้วย
  • การเดินทางสะดวกเพราะติดกับรถไฟฟ้า BTS ชิดลมค่ะ
  • บรรยากาศของร้านก็ดูดี สะอาดและมีห้องส่วนตัวด้วยค่ะ
  • พิเศษสุดๆ สำหรับเดือนพฤศจิกายน 2556 นี้โจเซนใจดีแจกโปรโมชั่นสุดคุ้มลด 25% (ไม่รวมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์) เพียงถ่ายภาพอาหารหรือภาพบรรยากาศในร้าน แชร์ลงใน Fanpage Facebook https://www.facebook.com/JousenYakiniku หรือ IG ใส่ Hashtag #Jousen แล้วแสดงแก่พนักงาน รับไปเลยส่วนลด 25% (1 แชร์/ส่วนลด 1 ท่าน)

Gallery จากร้านJousen (โจเซ็น)

ข้อมูลทั่วไปของร้านJousen (โจเซ็น)

ที่ตั้ง : ตึก MERCURY VILLE, ถนนเพลินจิต ปทุมวัน ลุมพินี กรุงเทพมหานคร 10330
การเดินทาง : ลงรถไฟฟ้าชิดลม ออกทางออกที่ 4 เข้าทางเชื่อมกับตึก  Mercurry Ville แล้วขึ้นบันไปเลื่อนไปชั้น 2 ค่ะ
Facebook : https://www.facebook.com/JousenYakiniku
เบอร์ติดต่อ: 02-252-5504-5

Leave a comment