Freshy Camp#5 for CPE23 and SKE07
Freshy Camp#5 for CPE23 and SKE07
-
ค่ายเฟรชชี่ หรือค่ายรับน้องของภาคคอม ม.เกษตร
เพิ่งกลับมาจากงาน Freshy Camp ซึ่งปีนี้ต้องบอกว่าเป็นผู้สังเกตการอยู่ห่างๆ งาน Freshy Camp เป็นค่ายที่จัดขึ้นเพื่อเป็นการต้อนรับน้องๆที่เพิ่งจะเข้าภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ (Computer Engineering : CPE) และวิศวกรรมซอฟต์แวร์และความรู้ (Software and Knowledge Engineering : SKE) ซึ่งผู้เตรียมงานและวางแผนส่วนใหญ่จะเป็นฝีมือเจ้าพวกปีสามทั้งนั้น โดยจะมีน้องปี 2 เข้ามาช่วยเป็นพี่เลี้ยงมาคอยดูแลน้องเฟรชชี่ที่เพิ่งจะเข้ามาใหม่
สามปีที่ผ่านมาออฟก็ได้มีโอกาสเป็นทั้งน้องเฟรชชี่ เป็นพี่เลี้ยง รวมถึงเป็นสต๊าฟร่วมจัดงาน และในวันนี้ออฟก็ได้มายืนอยู่ในค่ายนี้อีกครั้ง ในฐานะพี่ปีสี่ (ที่น้องหลายคนมันเรียกว่า “พี่แก่”) ได้เห็นอะไรในอีกมุมมอง และเข้าใจอะไรมากขึ้น ว่าทำไมมันถึงต้องมีค่ายนี้
และที่ออฟรู้สึกค่ายเฟรชชี่ หรือค่ายรับน้องของภาคคอม มีวัตถุประสงค์หลักเีพียงอย่างเดียวคือ “รวมใจให้เป็นหนึ่ง” ไม่ว่าจะเป็นน้องๆปีหนึ่งที่พึ่งจะเข้าภาคมา ยังไม่รู้เรื่องอะไร ยังไม่รู้จักใคร ก็ได้รู้จักกันมากขึ้น ซึ่งทางพี่ๆก็จะมีการแบ่งน้องออกเป็นกลุ่ม เรียกว่า “มุ้ง” มีหลายสีทีเดียว เช่น มุ้งเหลือง มุ้งน้ำตาล มุ้งแดง มุ้งเขียว มุ้งแสด ที่ต้องแบ่งน้องเพื่อที่จะให้น้องรู้จักกันเป็นกลุ่มก่อน สนิทกันก่อน ซึ่งการที่ได้ทำอะไรเป็นกลุ่มที่มีขนาดพอดีจะทำให้เรารู้จักกันมากขึ้น
ส่วนน้องปีสองที่ได้มาเป็นพี่เลี้ยงที่ต้องคอยดูแลน้องที่เข้ามาใหม่ก็ต้องมีการปรับตัวเข้าหาน้อง ต้องกล้าแสดงออกมาขึ้น ทั้งเรื่องสันทนาการ (เต้นแร้งเต้นกา ^ ^) และเรื่องของการเข้าถึงน้อง เพราะส่วนใหญ่่แล้วน้องที่เพิ่งเข้ามาใหม่จะยังไม่ค่อยกล้าทักทายหรือทำความรู้จักกันเท่าไหร่ พี่เลี้ยงถือว่าเป็นแรงผลักดันอย่างสูงที่จะทำให้น้องๆคุยกัน และทำความรู้จักกัน ซึ่งภาระที่พี่เลี้ยงได้รับไม่ใช่เพียงแต่ดูแลน้อง แต่รวมถึงการช่วยประสานงานและทำให้การดำเนินงานที่พี่ปีสามวางไว้เป็นไปตามแผน และพี่ปีสองนี้ก็จะเป็นพี่ที่สนิทกับน้องมากสุด เพราะว่าอยู่กับน้องตลอด เวลาน้องไปฐาน ไปกินข้าว ไปที่พัก เรียกได้ว่าประกบอยู่ทุกสถานการณ์เลยทีเดียว พูดถึงแต่สิ่งที่พี่เลี้ยงทำไปแล้ว ก็มาลองดูสิ่งที่พี่เลี้ยงได้บ้าง ถ้าถามว่าพี่เลี้ยงเหนื่อยไหม ก็คงต้องตอบว่่าเหนื่อยมาก นอนก็น้อย ไหนจะมีประชุมวางแผน ต้องคอยตามดูแลน้องอีกด้วย แต่การที่มาเป็นพี่เลี้ยงนั้นทำให้เราโตขึ้น เพราะว่าต้องดูแลคนอื่นด้วย มีภาระมากขึ้น รวมไปถึงต้องรู้จักรับผิดชอบมากขึ้น พี่เลี้ยงบางคนก็ได้แสดงออกมากขึ้น เพราะเนื่องจากเวลามีสันทนาการ ถ้าพี่เลี้ยงไม่เต้น แล้วจะหวังให้น้องเต้นได้ยังไง
ส่วนพี่ปีสาม ที่ต้องวางแผนงาน แบ่งฝ่ายตามความรับผิดชอบ ให้ค่ายดำเนินการไปอย่างไม่ติดขัด ต้องคอยแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า รวมไปถึงเตรียมการอะไรต่างๆมากมาย ทำให้ต้องรู้จักการทำงานเป็นทีม ต้องมีการแบ่งหน้าที่กัน ต้องรับผิดชอบงานที่ตัวเองได้รับ ต้องบอกได้ว่าพี่ปีสามเป็นทุกอย่างเลยก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นคนเก็บของ คนเก็บขยะ คนสั่งน้ำสั่งอาหาร ยาม พี่ปีสามเป็นทุกอย่างที่จะทำให้ค่ายสำเร็จด้วยดี
ส่วนปีสี่อย่างออฟ ตอนนี้ก็ได้แค่ดูน้องอยู่ห่างๆ เข้าไปทักทาย ไปกินขนมน้อง ซื้อของไปใ้ห้ และให้คำปรึกษา ซึ่งออฟรู้สึกได้ว่าการจัดค่ายเฟรชชี่นั้นดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะว่ามีการมาวิเคราะห์ถึงปัญหาของค่ายปีก่อน และทำการป้องกันไม่ให้เิกิดปัญหาซ้ำ รวมไปถึงความคิดและจิตนาการณ์ที่เปิดกว้างและสร้างสรรค์ในการคิดกิจกรรมใหม่ๆขึ้นมา รวมไปถึงปรับปรุงกิจกรรมเก่าให้ดีขึ้น ทำให้ค่ายได้พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง
-
ทำไมต้องมาเหนื่อย ทำไมต้องมาทำค่าย ทำไมต้องมาเสียเวลา
คำตอบนี้ออฟคงตอบแทนใครไม่ได้ ลองมาดูเหตุผลที่หลายๆคนอาจจะตอบ
– ทำเพื่อน้อง
ANGLE ANGEL: น้องของเราเข้ามาใหม่เราก็ต้องดูแล
DEMON : เค้าก็เป็นแค่คนที่เข้ามาเรียนภาควิชาเดียวกับเราจะไปทำอะไรให้เค้าทำไม
– พี่เค้าเคยทำให้เรา
ANGLE ANGEL : พีเ่ราเค้าก็ดูแลเรามานี่นา
DEMON : เราไม่ได้บังคับให้เค้าทำให้ซักหน่อยนี่นา แล้วมันจะเป็นบุญคุณที่เราต้องตอบแทนหรอ
– เค้าทำกันมาก็ทำต่อไป
ANGLE ANGEL :เค้าก็ทำกันมาตั้งหลายรุ่น แสดงว่ามันต้องมีอะไรดีแหละ
DEMON : ทำไมเราต้องทำด้วย เค้าทำต่อกันมาแล้วยังไงหล่ะ
และคำตอบอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งต่างคนก็ต่างความคิดกันไป แต่ที่ออฟสัมผัสได้ที่ยังมีค่ายอยู่ ค่ายที่ทุกคนทุ่มเทเวลา แรงกาย แรงใจให้กับมัน ช่วงวันเวลาที่อยู่ในค่ายจะให้คำตอบได้อย่างดี ว่าทำไมถึงต้องมีค่ายขึ้นมา รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ความผูกพันที่เกิดขึ้นอย่างไม่รู้ตัว ความสามัคคี การร่วมกันเผชิญหน้ากับปัญหา หลายสิ่งหลายอย่างที่เราต้องสัมผัสเองเท่านั้นถึงจะเข้าใจ
-
ความรู้สึกกับค่าย Freshy Camp ในปีนี้
หลังจากที่ได้มองภาพต่างๆในงานตอนปิดค่าย แล้วก็ต้องยิ้มให้กับความสำเร็จอีกครั้งของค่ายเฟรชชี่ เพราะว่าถ้าถามออฟแล้ว น้องปีสองและปีสามเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากขึ้น รู้จักกันมากขึ้น งานราบรื่นดี อาจจะมีปัญหาบ้างแต่ก็ช่วยกันแ้ก้ไข ส่วนน้องปีหนึ่งก็มีน่ารักๆ เข้ามาหลายคนให้พี่ๆใจหวั่นไหวเล่น และก็เข้ากันได้ดี กล้าแสดงออก ถึงแม้ว่าออฟอาจจะยังไม่ค่อยรู้จักน้องมากเท่าไหร่ แต่ก็รู้สึกว่าน้องเค้าเข้ากันได้ดี สรุปภาพรวมก็ถือว่าดีมากๆ ร่วมยินดีกับการเปลี่ยนแปลงการจัดงานของค่ายในบางส่วน โดยเฉพาะส่วนของงานเลี้ยงตอนเย็น(Do Ba Shy) ซึ่งปรกติจะปล่อยน้องเฟรชชี่กลับประมาณสี่โมง แต่ครั้งนี้กว่าจะเลิกงานก็สามทุ่มกว่าแล้ว รวมไปถึงการลงทุนทางด้านสถานที่ ค่าอาหาร อุปกรณ์ต่างๆมากมาย ที่ต้องถือว่าเป็นการเสี่ยง แต่ก็นับได้ว่าเป็นการเสี่ยงที่ได้ผลคุ้มค่า
Leave a comment