โดนใจไปญี่ปุ่น >> Day 3 Tokyo Disneyland กับ Special Event “Disney’s Halloween”
ออฟเลือกมาเที่ยว โตเกียวดีสนีย์แลนด์ ( Tokyo Disneyland ) เนื่องด้วยว่ายังไม่เคยไป Disneyland ที่ไหนเลยค่ะ
ช่วงที่ไปเป็นช่วงฮาโลวีน ที่นี่เค้าแต่งตัวตามตัวละครของ Disney กันแบบจัดเต็มมากๆ เสื้อผ้า หน้าผม ชุดมาครบมากจริงๆ
แค่เห็นคนที่มาสวนสนุกก็รู้สึกอินไปด้วยแล้วค่ะ บางคนมากันเป็นแก็งค์ บางคนก็มาเป็นครอบครัว ที่นี่เค้าจริงจังกันมากๆ เลยค่ะ เรียกได้ว่าคนส่วนใหญ่ที่มาสวนสนุกนี่เค้าแต่งตัวแบบจัดเต็มกันมากๆ เลยทีเดียว
การซื้อตั๋วไปโตเกียวดีสนีย์แลนด์ ( Tokyo Disneyland )
ออฟซื้อตั๋วล่วงหน้ากับทาง H.I.S. สาขารถไฟฟ้าศาลาแดงค่ะ ( สาขาทั้งหมดของ H.I.S.) โดยราคา 6,400 เยน เท่ากับซื้อที่หน้าสวนสนุก แต่ว่าไม่ต้องเสียเวลาไปต่อคิว ซึ่งช่วยลดเวลาเข้าสวนสนุกได้เยอะมากๆ เพราะว่าตอนที่ไปแล้วเจอกับแถวต่อคิวซื้อตั๋วนี่เสียเวลาอีกเป็นครึ่งชั่วโมงแน่ค่ะ
การเดินทางไปโตเกียวดีสนีย์แลนด์ ( Tokyo Disneyland )
1) ชินจูกุ – โตเกียว (14นาทีโดย JR Chuo Line Rapid) – ไมฮามะ (15นาทีโดย JR Keiyo Line / JR Musashino Line)
2) สนามบินนาริตะ – โตเกียว (60นาทีโดย JR Narita Express) – ไมฮามะ (15นาทีโดย JR Keiyo Line / JR Musashino Line)
3) โยโกฮาม่า – โตเกียว (26นาทีโดย JR Tokaido Line / 36นาทีโดย JR Keihin-Tohoku Line) – ไมฮามะ (15นาทีโดย JR Keiyo Line / JR Musashino Line)
รู้จักการใช้ Fast Pass และวางแผนการเล่นกันก่อน
ตัวช่วยในการที่ทำให้เราสามารถเล่นเครื่องเล่นได้เยอะขึ้นคือ “Fast Pass” ค่ะ โดยมีกฏของ Fastpass ดังนี้ค่ะ
- ไปที่เครื่องเล่นแรกแล้วต้องรอประมาณ 2 ชั่วโมงจึงจะสามารถไปจิ้มเครื่องต่อไปได้(ดูเวลาที่เราจะสามารถจิ้มเครื่องเล่นถัดไปได้ที่ด้านล่างสุดของตั๋วจะระบุไว้)
- ถ้าไปจิ้มก่อนถึงเวลาจะไม่สามารถใช้ได้ แต่บางครั้งก็ไม่ต้องรอถึงสองชั่วโมงถ้าเครื่องที่เราจิ้มให้เรามาเล่นได้ก่อนสองชั่วโมง
- มีข้อจำกัดของเวลา คือถ้า Fast Pass ถูกกดไปจนถึงเวลาปิดของสวนสนุกแล้ว จะไม่สามารถกดได้อีกต่อไป
สิ่งที่สำคัญคือเราต้องวางแผนไว้ก่อนเลยค่ะว่าอยากเล่นอะไรบ้าง ต้องยอมรับว่าครั้งนี้ออฟไม่ได้วางแผนอย่างจริงจังว่าอะไรน่าเล่น และอะไรฮอตจนต้องรอคิวยาวๆบ้าง ดังนั้นใครจะไปแนะนำให้ไปลองอ่านข้อมูลของแต่ละเครื่องเล่นก่อนเลยนะคะว่าอยากจะเล่นอันไหนบ้าง อย่างวันที่ไปเครื่องเล่นสุด Hot อย่าง Pooh’s Hunny Hunt, Splash Mountain, Haunted Mansion พวกนี้ขนาดไปถึงแล้วกดคิวเลย ก็อาจจะได้คิวตอนหกโมงเย็นได้นะคะ (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมของวิธีใช้ Fast Pass)
ไปเที่ยวโตเกียวดีสนีย์แลนด์แบบทั้งวันทั้งคืนกันเลยค่า
Buzz Lightyear’s Astro Blasters
เริ่มต้นกันเที่ยวจากโซน Tomorrowland: ทูมอร์โรวแลนด์ กันก่อน โดยโซนนี้จะเป็นลักษณะของเทคโนโลยีในอนาคต ประกอบด้วย Space Mountain และ Star Tours: The Adventures Continueเนื่องด้วยไม่ได้วางแผนอะไรไป ก็เลยวิ่งไปกดคิว Fast Pass ของ Space Mountain ก่อนเลยค่ะ แล้วก็มาต่อคิว Buzz Lightyear ซึ่งเครื่องเล่นนี้เหมาะสำหรับมาเป็นครอบครัวมากกว่า เพิ่งคิดได้ว่าไม่น่าแปลกใจที่คิวมีแต่เด็ก และครอบครัว เพราะเครื่องเล่นมันกุ๊กกิ๊กมากค่ะ ขึ้นไปนั่งแล้วจะมีปืนให้เรายิงๆ แค่นั้นเลย ไม่ได้มีความตื่นเต้นอะไร แต่ถ้าเป็นเด็กๆ อาจจะว้าวๆ อยู่ อันนี้แอบเสียดายเวลาต่อคิวไปเหมือนกันค่ะ
Plaza Restaurant
เนื่องด้วยวันนี้กะเวลาช้าไปหน่อยทำให้มาถึงสวนสนุกตอนที่เค้าเปิดแล้ว ดังนั้นเลยยังไม่ทันจะหาอะไรกินกันค่ะ โดยใช้เวลาระหว่างการต่อคิวของ Buzz Lightyear’s Astro Blasters วิ่งออกไปซื้อเซตเบอร์เกอร์มิกกี้เมาส
Space Mountain
เมื่อออกมาแล้วก็เกือบถึงเวลาใช้ Fast Pass ที่ Space Mountain พอดี แต่วิ่งไปกดบัตร Fast Pass ที่ Haunted Mansion ก่อนเลยค่ะ จริงๆ อยากจะกดที่ Splash Mountain ก่อนแต่ว่า Fast Pass หมดไปแล้วค่ะ หลังจากที่กดแล้วก็กลับเข้ามาเดินสวยๆ แบบ VIP ไปเล่น Space Mountain ซึ่งต้องบอกว่าเป็นเครื่องเล่นที่ตื่นเต้นดีค่ะ การนั่งไปในความมืดมิด และมีความเร็วและแรงเหวี่ยงควบคู่ไปด้วย ทำให้เสียวท้องน้อยๆ เวลาเล่น แต่อันนี้ไม่เวียนหัวมากนะคะ เป็นระดับความตื่นเต้นกำลังดีเลยค่ะ เล่นแล้วมันส์ใช้ได้
Splash Mountain
เมื่อออกมาจาก Space Mountain แล้วมาเข้าคิว Splash Mountain กันต่อเลยค่ะ อันนี้อยู่ในโซน Critter Country: คริทเตอร์ คันทรี่ โดยพนักงานถามย้ำก่อนเลยว่าต้องเข้าคิวอย่างน้อย 190 นาทีนะ แต่เราก็ยืนยันที่จะเข้าไปค่ะ
แค่คิวแถวด้านนอกก็คดเคี้ยวเลี้ยวลดมากแล้ว แต่เมื่อได้เข้าไปด้านในแล้วนึกว่าจะได้เล่นเลยพบว่ายังมีคิวด้านในอีกค่ะ แถมยาวมากอีกด้วย ขนาดคนใช้ Fast Pass ยังต้องต่อคิวกันนานเหมือนกันเลย ช่วงเวลาที่ต่อคิวอยู่ข้างนอกจะเห็นคนนั่งบนเครื่องเล่นแล้วตกลงมาจากหน้าผาลงสู่แอ่งน้ำมีน้ำกระจายเต็มไปหมดค่ะ งานนี้มีเปียกแน่ๆ แต่ระดับความเปียกนี่ขึ้นกับตำแหน่งที่นั่งด้วย กว่าจะได้คิวเล่นก็ต่อคิวไปสามชั่วโมงกว่าแล้วค่ะ ตอนนั้นระดับความเมื่อยถึงขีดสุด อยากจะปารองเท้าทิ่้งแล้ว แต่เมื่อได้ลงไปนั่งในเครื่องเล่นก็พบว่าคุ้มอยู่นะทีได้เล่น
เวลาที่ใช้ในการเล่นประมาณ 3 นาทีค่ะ ก็ถือว่าไม่น้อยเกินไป มีเปียกนิดๆ มีให้ลุ้นหน่อยๆ ก่อนที่จะเปียกของจริงๆ ก็สนุกสนานดีค่ะ แต่ถ้ามาอีก จะต้องมากด Fast Pass ให้ได้ต่อคิวแบบนี้ทำให้อดไปเล่นอย่างอื่นเยอะเลย
Captain Hook’s Galley
หลังจากที่่่ต่อคิวมานาน ท้องก็เริ่มประท้วงบ้าง เลยต้องหยุดหาอะไรทานกันก่อนค่ะ
มื้อนี้เป็นพิซซ่าค่ะ รสชาติอร่อยใช้ได้เลย คิวไม่เยอะมาก ไม่ต้องรอนาน แต่ความเศร้าคือมันใกล้ช่วงพาเรดออกมา เลยหาที่นั่งได้ยากมากค่ะ ต้องเดินออกมาถึงโซน ToonTown เลยเจอที่ว่างบ้าง นั่งลงกับพื้นอีกแล้วค่ะ นั่งปุ๊ปถอดรองเท้าออกมาก่อนเลย เพราะเมื่อยมากๆ จากนั้นก็ค่อยเริ่มกินพิซซ่าเติมพลังกัน
Out of Bounds Ice Cream
กินของคาวไปแล้วก็มาต่อด้วยของหวานกันบ้างค่ะ ไผ่ซื้อทีรามิสุไอศกรีมมาให้ก็เย็นๆ อร่อยดีเหมือนกัน
Chuck Wagon
ตอนที่ต่อคิว Splash Mountain นั้นจะเห็นคนถือไก่งวงเดินกินกันค่ะ ดังนั้นก็เลยส่งไผ่ไปต่อคิวซื้อมาให้ด้วย ขอบอกว่าเดินไม่ไหวแล้วจริงๆ กลับมานั่งรอไผ่ที่ Captain Hook ค่ะ ไผ่ไปซื้อเกือบครึ่งชั่วโมงได้ แถวยาวมากเหมือนกัน เพราะเป็นเมนูฮิตของวัยรุ่นที่นี่ด้วย กินแล้วก็อร่อยเข้มข้นดีค่ะ ไม่ต้องจิ้มอะไรเพิ่มเติม ชิ้นใหญ่มาก แต่ก็กินกันคนละชิ้นเลยนะคะ แนะนำว่าให้ซื้อแล้วไปกินตอนรอคิวเล่นเครื่องเล่นค่า ประหยัดเวลาดีมากๆ
Pirates of the Caribbean
กินอิ่มแล้วก็มาต่อคิวเครื่องเล่นกันต่อบ้างค่ะ ครั้งนี้ย้ายมาโซน Adventureland: แอดเวนเจอร์แลนด์ โซนนี้จะประกอบด้วยสองส่วนคือ นิวออลีนส์ และ ป่า (Jungle themed area) ซึ่งมีลักษณะเลียนแบบมาจากดิสนีย์แลนด์ในอเมริกา
ออฟกับไผ่มุ่งมาเล่นเครื่องเล่น Pirates of the Caribbean ก่อนเลยค่ะ อันนี้มีที่ต่อคิวด้านนอกและด้านในเช่นเดียวกัน เครื่องเล่นนี้เป็นการล่องเรือตามท้องเรื่อง Pirates of the Caribbean เลย แต่ส่วนใหญ่เป็นภาษาญี่ปุ่นค่ะ โดยรวมก็เพลินๆ ดี นั่งเรือล่องไปตามน้ำ ล่องลอยไปกับเสียงเพลง เป็นการพักขาที่สนุกใช้ได้ค่ะ
Happiness On High
ยามค่ำคืนนี่เค้ามีจุดพลุด้วยนะคะ ถ้าได้ไปยืนด้านหน้าปราสาทแล้วจะเก๋มากๆ แต่ออฟดันได้มาดูพลุด้านหลังปราสาทแต่ก็สวยไปอีกแบบค่า จุดได้อลังการใช้ได้เลย
Haunted Mansion
หลังจากนั้นก็กลับมายังโซนFantasyland: แฟนตาซีแลนด์ กันบ้างค่ะ ช่วงที่วิ่งไปมาเพื่อกดบัตร Fast Pass ก็เดินผ่านโซนนี้อยู่บ่อยเหมือนกัน โดยเป็นโซนใสๆ น่ารักๆ เลยไม่ค่อยได้เล่นอะไรที่นีเท่าไหร่ มาเลือก Haunted Mansion ที่เป็นบ้านผีสิงแบบน่ารักๆปิดท้ายการเล่นเครื่องเล่นกันค่ะ ตอนที่ไปนี่มืดแล้วด้วยค่ะ เนื่องจากอันนี้กด Fast Pass เอาไว้ ก็เลยได้มีโอกาสเดินสวยๆ เข้าไปแบบ VIP อีกรอบ
การเล่นครั้งนี้จะเริ่มต้นด้วยการเดินเข้าไปเป็นกลุ่มก่อนนะคะ แล้วก็ผ่านไปแต่ละห้องไปเรื่อยๆ อันนี้ก็น่ารักดี ถ้าจะมี Sub Eng ด้วยจะดีมาก ฟังไม่รู้เรื่องเลย ได้แต่ดูวิวรอบๆไป จากนั้นก็เป็นการขึ้นรถสองที่นั่งแล้วพาล่องล่อยไปกับบ้านผีสิ่งสุดน่ารักแห่งนี้กันค่ะ รวมแล้วก็โอเคดี แต่ถ้าต่อคิวนานอาจจะไม่ค่อยคุ้มเวลาเท่าไหร่ค่ะ
Nighttime Parade “Tokyo Disneyland Electrical ParadeDreamlights“
พาเรดตัวละครยามค่ำคืนนี่ออฟว่าเจ๋งใช้ได้เลยค่ะ แสงไฟเค้ามาเต็มตา ตัวละครมากันครบ อันนี้แนะนำให้หาที่นั่งรอดูกันนะคะ จะได้ไม่เมื่อย การมานั่งชมพาเรดครั้งนี้ทำให้ออฟกับไผ่สุดหนาวเลยค่ะ คือไม่ได้เตรียมตัวมาหนาวอะไรเลย เสื้อหนาวที่ติดมาก็บางมากๆ แถมมีตัวเดียวอีกด้วย ยังดีที่ได้คุณแม่ใจดีให้ถุงอุ่นมา ไม่งั้นแข็งแน่ๆ คนที่นี่เค้านั่งเป็นระเบียบมากๆ ไม่มีคนมายืนบังกัน นั่งกับพื้นแล้วชื่นชมพาเรดไปพร้อมๆกันแบบไม่ต้องชะเง้อคอกันดีค่ะ
Once Upon a Time
หลังจากที่นั่งหนาวกันไปแล้วมายืนหนาวกันบ้าง อันนี้เป็นการโชว์ แสง สี เสียง บนตัวปราสาท เล่าเรื่องราวของตัวละครค่ะ แน่นอนว่าฟังไม่รู้เรื่องอีกตามเคย อากาศก็หนาวมาก ลมพัดแรงตลอดเวลา แต่ก็ดูจนจบ การแสดงอันนี้ถือว่าโอเคนะคะ การฉายไฟลงบนตัวปราสาทก็ทำได้ดีทีเดียว รายละเอียดของตัวละครก็มีครบ แต่การต้องยืนนี่ทำออฟเสียเปรียบมากค่ะ เพราะความสูงของคนที่นี่น่าจะอยู่ที่ 165-170 ทำเอาคนสูงไม่ถึง 160 แบบออฟต้องชะเง้อยืดคอเอาเลยค่ะ
Leave a comment