รีวิวโดนใจ >> 103+ Factory (วันโอทรีพลัส แฟคตอรี่) ร้านเค้กบรรยากาศสุดน่ารักและของหวานแสนอร่อย
103+ Factory (วันโอทรีพลัส แฟคตอรี่) เป็นร้านของหวานที่ออฟเล็งเอาไว้นานแล้วค่ะ ว่าจะต้องไปลองทานให้ได้แน่นอน เพราะทุกครั้งที่นั่งรถผ่านจะต้องชอบใจกับการตกแต่งร้านด้วยสไล์น่ารักน่านั่ง และคราวนี้ก็ถึงเวลาแล้วค่ะที่จะได้มาลิ้มลองรสชาติของร้านเค้กที่เฝ้ารอซักที
บรรยากาศของร้าน103+ Factory
การเดินทางมาร้าน 103+ Factory (วันโอทรีพลัส แฟคตอรี่) ไม่ลำบากเท่าไหร่ค่ะ สำหรับคนสายรถไฟฟ้าก็นั่งมาลงที่อารีย์แล้วต่อมอไซต์เข้ามาอีกหน่อย ส่วนคนที่เอารถมาก็จอดที่หน้าร้านได้เลยค่ะ
ด้านหน้าร้านเป็นกระจกใสมองเข้าไปเห็นการแต่งร้านสบายๆ น่านั่ง ส่วนด้านข้างร้านก็มีการจัดโต๊ะในสวนสำหรับวันที่อากาศดีๆ ด้วยค่ะ
เข้ามาในร้านแล้วก็จะเจอกับโต๊ะเก๋ๆ หรือชุดโซฟาน่านั่งจัดเรียงกันค่อนข้างแน่น แต่ก็ดูอบอุ่นเอาเรื่องอยู่เหมือนกันค่ะ
จุดเด่นของร้านก็คงจะอยู่ตรงโซนตู้เค้กค่ะ ส่วนนี้ของบอกว่าอยากจะเอาหน้าไปแนบจริงๆ มีเค้กเรียงรายกันเยอะมากๆ โดยเฉพาะสีสันของมาการองที่ดึงดูดสายตาเอามากๆ ค่ะ
เมนูของร้าน103+ Factory
เมนูของร้านก็เป็นการรวบรวมเค้กหลายๆ อย่างเอาไว้ด้วยกันค่ะ
เค้กที่คิดว่าครั้งหน้าถ้ามาแล้วจะลองก็คงจะเป็นบราวนี่กับแครมบูเล่ค่ะ
สำหรับคนที่อยากจะทานอาหารอย่างอื่นนอกจากของหวานแล้วก็ยังมีของทานเล่นอีกหลายอย่างด้วยกันค่า
รายการอาหารที่ทานที่ร้าน103+ Factory
เปาะเปี๊ยะห่อชีสราดซอสไข่กุ้ง 120 บาท
ของทานเล่นก่อนที่จะเริ่มทานเค้กขอเริ่มกันด้วย เปาะเปี๊ยะห่อชีสราดซอสไข่กุ้งค่า งานนี้เป็นของทานเล่นที่กินได้สบายๆ และทานได้เรื่อยๆจริงค่ะ รสชาติของซอสไข่กุ้งก็มาเพิ่มความอร่อยให้กับปอเปี๊ยได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ
สปาเก็ตตี้เบคอนผัดแห้ง+ไข่กุ้ง 180 บาท
ต่อกันด้วยเมนูที่หนักท้องหน่อยเป็นเมนูสปาเก็ตตี้ที่ทานแล้วรสชาติจัดจ้านกำลังดีค่ะ คลุกเคล้าไข่กุ้งให้เข้ากับเส้นเพิ่มรสสัมผสตอนที่ทานมากขึ้นทีเดียวค่ะ
รายการของหวานที่ทานที่ร้าน103+ Factory
Red Velvet cheesecake 130 บาท
ขอเปิดตัวของหวานอย่างแรกกันด้วยสีสันสดใสของ Red Velvet Cheesecake กันก่อนค่ะ
ปกติแล้วจะเห็นแต่เป็นเค้กนะคะ แต่ครั้งนี้มาแบบชีเค้กค่ะ ทานคู่กับวิปครีมนุ่มๆ รสชาติไม่เลี่ยนมากดีค่ะ เนื้อชีสเค้กเนียนดีทีเดียว
Macaron ชิ้นละ 45 บาท
มาถึงตัวเด่นของครั้งนี้กันบ้างค่ะ ออฟชอบการจัดเรียงจาน และมีแผ่นการ์ดน่ารักๆ เขียนคำพูดเก๋ๆ ด้วยค่ะ มาการองครั้งนี้จัดเรียงเก๋ๆ บนถาดไม้ค่ะ
สีขาวชมพู = สตอเบอร์รี่วานิลา ชิ้นนี้เวลาทานแล้วจะได้กลิ่นหอมกุหลาบออกมาเลยค่ะ
สีส้ม = ส้ม งานนี้คนชอบทานรสส้มน่าจะโดนใจไม่น้อยค่ะ
สีขาวจุดๆ = ชาเอริล์เกรย์ ไส้ตรงกลางก็เป็นสีเขียวดูตัดกับเนื้อมาการองดูสวยดีค่ะ
สีชมพูเข้ม = ราสเบอร์รี่ สีสดมากๆเลยทีเดียวค่ะ รสชาติไม่เปรี้ยวมากนัก หนุ่มๆ ก็ทานได้ง่ายๆค่ะ
สีน้ำตาล = กาแฟ ชิ้นนี่น่าจะเหมาะกับการซื้อไปฝากหนุ่มๆมากๆค่ะ (ออฟซื้อกลับไปฝากให้ไผ่ด้วยเหมือนกัน)
สีชมพูอ่อน = สตอเบอร์รี่ รสชาติของสตอเบอร์รี่อ่อนๆ มีส่วนผสมของนมด้วยค่ะ ทานแล้วเหมือนนมสตอเบอร์รี่เลยค่า
สีฟ้า = ลิ้นจี่ค่ะ จริงๆ ก็แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมลิ้นจี่ถึงสีฟ้า แต่ก็ได้คำตอบว่าเนื่องจากสีขาวหรือสีชมพูก็มีแล้ว ดังนั้นลิ้นจี่็เลยทำสีให้แตกต่างออกไป แต่เวลาทานแล้วก็ได้รสชาติของลิ้นจี่อยู่ค่ะ
สีม่วง = Mix berry สีม่วงสดมากๆเลยทีเดียวค่ะ
สีเหลืองดำ = กล้วย พอถ่ายรูปรวมกันแล้วน่ารักมากๆค่ะ
Choc Lava Set 130 บาท
เมนูช็อกโกแลตลาวา เสิร์ฟมาเป็นเซตค่ะ โดยเริ่มต้นด้วยช็อกโกแลตลาวาที่มาในถ้วยอบร้อนตกแต่งหน้าด้วยมาร์ชเมลโลเล็กๆ สีขาวตัดกันดีค่ะ
มาพร้อมกับวิปครีมและไอศกรีมวานิลาของร้านเอเต้ค่ะ
เวลาทานแล้วจะได้รสชาติเข้มข้นของช็อกโกแลตทีเดียวค่า
เครปเค้กชาไทย 120 บาท
มาถึงเมนูไทยๆ กันบ้งาค่ะ การประยุกต์เมนูเครปเค้กที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน กับชาไทยสีส้มเข้ากันดีทีเดียวค่ะ
เนื้อเครปเค้กเนียนและมีชั้นเรียงรายกันมากๆ แต่ละชั้นก็มีครีมคั่นอยู่ทำให้ทานแล้วนุ่มลิ้นมากๆค่ะ
เวลาทานก็ให้ราสซอสชาไทยสูตรประจำร้านลงบนเค้กตามใจชอบ แล้วก็ตัดเค้กเริ่มทานได้เลยค่ะ
เวลตัดเค้กจะพบว่ามันนุ่มมากๆค่ะ รสชาติหลังจากราดซอสแล้วไม่หวานเข้มเกินไป
Scone Set 120 บาท
เจ้าขนมชิ้นกลมๆ ที่เสริฟมาพร้อมกับซอสสตอเบอร์รี่ และวิปครีม และอุปกรณ์การทานที่แสนจะน่ารักอย่างช้อน มีด และส้อมที่เป็นไม้ มีขนาดเล็กๆ
สโคนเป็นขนมอบที่มีรูปร่างกลมแบน ทำจากแป้งสาลีซึ่งการทำจะค่อนข้างคล้ายกับการทำขนมปัง จะกรอบภายนอกแค่ข้างในยังนุ่มอยู่ค่ะ ทานคู่กับสตอเบอร์รี่และวิปครีมในคำเดียวจะทำให้อร่อยมากขึ้นค่ะ
รายการเครื่องดื่มที่ทานที่ร้าน103+ Factory
น้ำอิตาเลียนโซดา 65 บาท
น้ำสีฟ้าสดใสแก้วนี้มีความซาบซ่านของโซดาค่ะ ความหวานของมันทำให้ทานแล้วสดชื่นดีทีเดียวค่ะ
ใบเสร็จจากร้าน103+ Factory
ค่าใช้จ่ายในใบเสร็จเป็นสว่นของมาการอง เครปเค้กชาไทย และสโคนที่สั่งกันมาทานเพิ่มนะคะ
บทสรุปจากการทานที่ร้าน103+ Factory
- ครั้งนี้มาทานกับพีทเจ้าของ Facebook แฟนเพจ “กินกับพีท” ( https://www.facebook.com/eatwithpete) พร้อมแพคมือกล้องสุดโปร และพี่พิชหรือ Dunbine (https://www.facebook.com/Dunbine.H.E.A.T) และพี่ม่อนค่ะ โดยครั้งนี้ออฟพาเพื่อนสาวสุดเลิฟมาช่วยเป็นนางแบบให้ด้วยค่า
- ชอบบรรยากาศของร้านนี้มากๆ มีการใช้ถ้วยใส่กุ้งตัวน้อยๆมาตั้งตามโต๊ะด้วยค่ะ ดูมีสีสันดี
- เค้กมีให้เลือกทานเยอะมากๆ และที่ลองมาในวันนี้อร่อยใช้ได้เลยค่ะ
- การเดินทางอาจจะซับซ้อนนิดหน่อย แต่ก็หาไม่ยากมากค่ะ
Gallery จากร้าน103+ Factory
ข้อมูลทั่วไปของร้าน103+ Factory
ที่อยู่ : 24/4 ซอยพหลโยธิน 7 (อารีย์ 4 ฝั่งเหนือ) ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400
เบอร์โทรศัพท์ : 0814951555
เว็บไซต์ : www.facebook.com/103plusFactory
วันและเวลาเปิดปิดทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 11.00 - 23.00 น.
การเดินทาง :จากถนนพหลโยธิน เลี้ยวเข้าซอยพหลโยธิน 7 ตรงเข้าไปเรื่อยๆ สังเกตด้านขวามือหน้าปากซอยมีร้านก๋วยเตี๋ยวหมูหมู จะมีป้ายซอยอารีย์ 4 (ฝั่งเหนือ) ให้เลี้ยวขวาตรงเข้ามาในซอยประมาณ 50 เมตร จะเจอร้านอาหาร 103+ Factory
ที่จอดรถ : ที่จอกรถของร้านอาหาร 103+ Factory
Leave a comment