นมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ

หลังจากที่เริ่มออกเดินทางไปนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏในวันเสาร์ที่ 21 เวลาประมาณสามทุ่ม โดยขึ้ันรถที่ซอยศาลาแดง ทริปนี้มีผู้ร่วมทริปทั้งหมด 19 คน ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนซอยศาลาแดงนี่แหละ พอขึ้นรถได้ออฟนอนเลยต้องออมแรงเอาไว้เดิน หลังจากที่มีคนขู่เอาไว้ว่าเดินไกลนักหนา แต่บรรดาแม่ๆ และเพื่อนๆของแม่ก็ยังคุยกันไม่เลิกรา มาตื่นอีกทีก็ตอนที่พักรถที่มอเตอร์เวย์ตอนนั้นก็เกือบประมาณสีุ่ทุ่มกว่าได้ เค้าบอกว่าให้พักหาอะไรทานเพราะว่าเดี๋ยวจะหิวเอา ออฟก็เลยกินข้าวแกงไป ถือว่าเป็นมื้อเย็นไปเลย พอขึ้นรถอีกก็หลับไปจนถึงเขาคิชฌกูฏ ซึ่งคนเยอะมากๆ รถตู้เต็มไปหมดเลย ออฟเริ่มจะเศร้าๆยังไงไม่รู้ ไม่ค่อยชอบไปเบียดคนอ่ะคะ

wat_2.jpg

การเดินทางจะไปนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏนั้น หลังจากที่เดินทางไปถึงปลายเขาแล้วก็มีให้เลือก 2 อย่างคือจะเดินขึ้นเขาไปเองหรือว่าจะนั่งรถขึ้นไป ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่ากลุ่มของออฟที่รวมอายุกันได้เป็นพันปีจะต้องนั่งรถอย่างแน่นอน ซึ่งออฟยังคิดอยู่เลยว่าถ้าให้เดินตอนที่ไปถึงหรือว่าประมาณตีหนึ่งกว่าๆ ก็คงไม่เอาเหมือนกัน ถึงแม้ว่าจะชอบเดินป่าก็ตาม เพราะว่าทางมันมืดมากๆ แล้วก็ยังมีรถสวนไปอยู่ตลอดเวลา

รถที่นั่งขึ้นไปจะต้องเสียเงินคนละ50 บาทซึ่งเป็นแค่ขาขึ้นเฉยๆ ขาลงก็ต้องเสียอีกที รถกระบะสามารถรับได้ประมาณ 10 คน เค้าไม่ให้เบียดกันมากกว่านั้นเพราะว่ารถต้องขึ้นเขา ถ้าหนักมากจะไม่ไหว เส้นทางก็เจ๋งมากๆ รู้สึกว่าอยากจะเป็นคนขับจัง คนขับที่นี่เก่งมากๆ รถใช้ความเร็วสูงพอสมควรซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าถ้าไม่เร่งเครื่องแล้วจะขึ้นเขาไม่ไหว หรือว่าเป็นเพราะว่าคนขับเค้าซิ่งก็ไม่รู้

พอขึ้นมาได้จุดหนึ่งก็ต้องมาต่อรถ ซึ่งมีความวุ่นวายพอสมควร แล้วคุณแม่สุดที่รักก็ทิ้งลูกสาวไปนั่งในรถเรียบร้อยเนื่องจากเค้าเมารถ ซึ่งก็ต้องยอมไปตามระเบียบแล้วนั่งข้างหลังก็สนุกดีด้วย ตอนที่นั่งรถมืดมากจนไม่ได้มองทางอะไรเลยเห็นแต่ไฟของรถ และคนทีกำลังเดินขึ้นตามทาง เวลาที่นั่งรถทั้งหมดราวๆ 20 นาทีได้ พอถึงจุดจอดของรถซึ่งรถไปต่อไม่ได้แล้วก็ลง พักเข้าห้องน้ำกัน

เมื่อทุกคนพร้อมก็เริ่มเดินขึ้นเขากัน ตอนแรกก็เกาะกลุ่มกันดีอยู่แต่ว่าเนื่องจากคนเยอะมากๆ แล้วสปีดการเดินของแต่ละคนก็ต่างกัน ออฟมีหน้าที่อันยิ่งใหญ่คือคุณผู้หญิงที่ต้องดูแล ตอนแรก็เดินตัวปลิว แต่พอเริ่มจะขึ้นสูงขึ้นก็เริ่มช้าลงจนออฟต้องเข้าไปหนีบคุณแม่ไว้และพัดไปตลอดทาง เมื่อถึงจุดกินน้ำชา ตอนนี้แม่ออฟเริ่มจะไม่ค่อยไหวแล้ว ตอนนี้เหลืออีกประมาณ 100 เมตรก็จะถึงรอยพระพุืืทธบาท แต่ว่าก็หยุดพักกันซักพักเหมือนกัน

wat_1.jpg

เมื่อขึ้นมาถึงจุดที่สามารถนมัสการรอยพระพุทธบาทได้ก็พบว่าคนเยอะมากๆกว่าที่ผ่านมาอีกเนื่องจากว่าเป็นที่แคบและทุกคนก็ขึ้นมาเพื่อสิ่งนี้ก็เลยอยากอยู่นานๆ ซึ่งสังเกตได้ว่ามีคนปูเสื่อนอนเยอะเหมือนกัน เมื่อเข้าไปใกล้ๆก็มีพระนำสวดและให้อธิษฐาน ซึ่งออฟก็หลุดๆ บ้างเพราะว่าเป็นห่วงว่าแม่ที่นั่งอยู่ข้างๆจะลื่นลงไป เพราะว่าตรงที่นั่งเป็นเนินลื่นๆ เค้าว่ากันว่าถ้าใครอธิษฐานขออะไรที่นี่แล้วจะสมหวัง  หลังจากที่ได้นมัสการไปเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มจะเดินลง จริงๆ สามารถเดินต่อขึ้นไปถึงผ้าแดง หรือว่าขอบเขตของอุทยานได้ แต่แม่ออฟเห็นว่าไม่มีอะไรแล้ว และอีกอย่างสังขารก็เริ่มจะไม่ไหวแล้วจึงเริ่มเดินลง

ขาลงที่น่าห่วงกว่าขาขึ้น เพราะว่าเส้นทางลื่นและมันพุ่งลงไปได้ง่ายๆ แล้วคุณแม่ก็เริ่มขาสั่นแล้วก็เลยต้องคอยบอกให้เดินช้าๆ และจับเชือกเอาไว้ตลอดทางกว่าจะลงมาได้ก็เกือบตีห้าแล้ว ทั้งการเดินทางขึ้นลงออฟแทบจะไม่ค่อยเห็นอะไรเลยนอกจากคน!!! ที่ยังขึ้นมาไม่หยุดหย่อน ขนาดลงมาถึงข้างล่างแล้วยังมีคนที่คอยขึ้นรถขึ้นไปอีกเป็นหมื่นๆคน นั่งๆ นอนๆ รอกันอยู่เต็มไปหมดเลย

ตอนนี้สิ่งเดียวที่แม่ออฟจะต้องการคือนั่งพัก ก็เลยต้องเดินหารถตู้ที่มา ซึ่งก็หายากมากๆ ออฟเลยให้แม่นั่งรอแล้วไปเดินหา ซึ่งก็ใช้เวลาร่วมชั่วโมงเนื่องจากว่าตอนแรกติดต่อคนขับไม่ได้ก็เลยต้องเดินสุ่ม แล้วเมื่อติดต่อได้ออฟก็ไม่รู้จักที่เค้านัด เมื่อเจอรถแล้วก็ต้องเดินกลับไปรับแม่อีก พอขึ้นรถได้เท่านั้นออฟก็หลับเลยง่วงจริงๆ

เมื่อตื่นขึ้นมาอีกทีและรอกลุ่มคนที่ไปด้วยจนมาครบก็ไปกินข้าวเที่ยงกันที่บ้านเพ จ.ชลบุรี ออฟก็สั่งผัดไทยกุ้งสด แบบว่าตอนนี้อะไรก็ได้หมดแล้วและก็ได้เดินซื้อของฝากนิดหน่อย และก็เดินทางกลับ แน่นอนเมื่อขึ้นรถออฟก็หลับตามเคย ตอนนี้ไม่ได้ง่วงเท่าไหร่แล้ว แต่ว่าเพลงลูกทุ่งที่เค้าเปิดมันกล่อมๆ แล้วก็เพลียๆไว้จะเอารูปมาให้ดูกันน้าค้า

banpae.jpg

เพิ่มเติม

http://www.moohin.com/108tripsboon/108trips061c006.shtml

http://travel.sanook.com/east/chanthaburi/chanthaburi_03296.php

Leave a comment