การแบ่งปันเล็กๆน้อยๆ

การแบ่งปัน

ในช่วงหน้าฝนอย่างเดือนนี้เป็นที่แน่นอนว่าจะต้องมีฝนฟ้าคะนองบ่อยๆจนหลายๆคนเริ่มจะรำคาญ เพราะเมื่อฝนตก รถจะติด เดินลำบาก ตัวเปียกปอน และอาจจะตามมาด้วยอาการเป็นหวัด คัดจมูกซะ ด้วยซ้ำ วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่ฝนตกอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง ในช่วงเวลาประมาณเกือบสามทุ่ม อย่างนี้ยังมีคนอีกมากมายที่ยืนเข้าแถวรอขึ้นรถแท็กซี่อย่างเป็นระเบียบ ถึงแม้จะมีบางคนที่ไปยืน คอยตัดหน้า แต่ก็เป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น เป็นที่น่ายินดี ว่าคนกรุงเทพก็ยังมีระเบียบวินัยอยู่บ้าง กว่าออฟเองจะตัดสินใจมาเข้าแถวนี้ ก็มีคนต่อคิวข้างหน้าร่วม 30 คนได้แล้ว

บางคนมีร่ม บางคนไม่มี แต่ส่วนใหญ่จากที่สังเกตแถวที่ยาวแสนยาวนี้ แต่ละคนจะเรียกรถคนละ 1 คันเท่านั้น อย่างมากก็ไม่เกิน 2 คน ทั้งที่ความจริงรถแท็กซี่ทั่วไปรองรับคนได้อย่างสบายๆก็ 4-5 คน เลยทีเดียว แต่ก็เอาเถอะก็คนที่ต่อคิวอยู่ไม่ได้เป็นญาติกัน หรือว่าอยู่ใกล้กันนี่นา เพียงแต่เสียดาย น้ำมันที่แต่ละคันซดไปในแต่ละเส้นทางเท่านั้นเอง

ชายแก่ที่อายุน่าจะราวอากงของออฟ ดูท่าทางใจดี มีผ้าเช็ดหน้าผืนไม่ใหญ่นักเดินมาต่อข้างหลังออฟ อาจจะเป็นเพราะถูกชะตาหรืออย่างไรไม่ทราบ ออฟไม่เอื้อเฟื้อพื้นที่ร่มที่ไม่เล็กไม่ใหญ่นั้น ให้กับ ชายชราผู้นั้นอย่างเต็มใจ ลุงเค้าเกรงใจมากมายต่อน้ำใจที่ออฟยื่นให้ แต่ออฟก็ยัดเยียดมันอย่างเต็มใจ เช่นกัน เพราะถ้าจะให้มายืนดูลุงยืนตากฝนที่ตกเรื่อยๆ และดูจะยิ่งหนักขึ้นทุกทีๆ โดยที่มีผ้าผืน เล็กๆนั่นบังฝน ออฟก็ทนไม่ได้จริงๆ เราถามไถ่กันนิดหน่อย เพราะช่วงเวลารอรถนานทีเดียว ได้ ความว่าลุงเค้าไปเช็คร่างกายที่โรงพยาบาลศิริราชมา แกบอกว่าไปเช็คทุกๆ 3 เดือน แต่ดูท่าทางลุง เค้าก็ยังแข็งแรงอยู่มากเมื่อเทียบกับอากงของออฟ แต่เค้าบอกว่าเค้ามีหลานเรียนวิศวะเหมือนกัน แต่ ว่าจบทำงานได้นานแล้ว ก็เลยรู้สึกว่าที่คาดว่าลุงน่าจะอายุประมาณอากงนั้นท่าจะไม่ผิดแน่ๆ

หลังจากรอท่ามกลางฝนที่แสนจะไม่โรแมนติก ร่มที่ใช้บังฝน เริ่มมีน้ำหยดลงมา มันไม่ถึงกับรั่วหรอก ก็แค่ซึมเรื่อยๆ พอจะทำให้หัวเปียกทั้งหัว แล้วไหล่ของคุณลุงก็ชุ่มไปด้วยน้ำ ทั้งๆที่อยู่ใต้ร่ม แต่แกก็ ไม่ได้บ่นอะไร ก็มันน่าอายอยู่น้อยที่ไหน แบ่งร่มรั่วๆให้คนอื่นใช้หนะ เมื่อใกล้ถึงคิวของเรา แก ถามถึงปลายทางที่จะไป สรุปได้ว่าแกต้องลงก่อนออฟ เพราะบ้านออฟไกลกว่า แต่แกยังอุตส่าห์มี น้ำใจบอกออฟว่าถ้ารถมาให้ออฟไปก่อนเลย อ้าว แล้วแกก็ต้องยืนเปียกฝนนะซิ แล้วไอ้ที่แบ่งร่มกัน มาก็คงไม่มีประโยชน์อะไร ออฟคิดว่าถ้าจะทำอะไรแล้วก็ทำให้ถึงที่สุดเลยจะดีกว่า ก็เลยบอกให้ลุง ไปก่อน เมื่อรถมายังเปิดประตูให้แก แล้วย้ำให้แกกินยาแก้หวัดเมื่อถึงบ้านอีกด้วย

เวลาที่ให้รอรถทั้งหมดก็ร่วมครึ่งชั่วโมงได้ โชคดีที่วันนี้เอาเสื้อชอปไป ไม่งั้นเสื้อนิสิตสีขาวบางๆ อย่างนี้คงเห็นไปไหนต่อไหนกันแล้ว แถมรองเท้าคู่ใหม่ที่กัดซะจนเดินไม่ได้ ก็ทำให้ออฟดอย รองเท้าแตะสีเขียวของใครไม่รู้จากห้องชุมนุมกลับบ้านมาด้วย ไม่งั้นคงเสียใจเหมือนกันที่ต้องใส่ รองเท้าคู่ใหม่ลุยน้ำขนาดนี้ หลังจากที่ได้ขึ้นรถด้วยตัวเปียกปอนก็โทรรายงานพี่สาว แล้วโทรหากล้า ก็จะให้นั่งอยู่บนรถแท็กซี่คนเดียว ถ้ามีคนคุยด้วยก็น่าจะดีกว่าจริงไหมอ่ะ ออฟเล่าเรื่องคุณลุงคนนั้น ให้ฟัง กล้ายังปรบมือใหญ่เลย บางทีการที่เรารู้จักแบ่งปันในสิ่งที่เราไม่เดือดร้อนมากนัก และเป็น สิ่งที่เค้าต้องการ มันก็ทำให้ทั้งเราและเค้ามีความสุขได้ ถึงแม้มันจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆที่ เราจะได้พูด คุยกับคนแปลกหน้าคนนึง แต่ความทรงจำดีๆ อาจจะถูกถ่ายทอดต่อไปอีกยาวนาน

เพื่อนๆถ้ามีโอกาสได้แบ่งปันอะไรก็อย่าลังเลเลยนะที่จะทำ

Leave a comment